อากาศยามนี้หนาวเหน็บมากแล้ว ถึงแม้จะยังไม่มีหิมะโปรยปรายลงมา แต่อุณหภูมิก็เข้าใกล้ศูนย์องศา
เศษซากใบไม้สีทองเกลื่อนกระจายตามพื้นดิน บนต้นนั้นเหลือเพียงกิ่งแห้งโกร๋นแลดูเศร้าสร้อย
น้อยนักที่จะมีคนออกมาเดินทอดน่องอยู่ตามท้องถนน โดยเฉพาะในเวลาเช่นนี้ ยามที่ดวงตะวันกำลังจะลับขอบฟ้า
อีกเพียงไม่นานความมืดก็จะเข้าปกคลุมไปทุกแห่งหน บรรยากาศภายนอกช่างเงียบเหงาวังเวง ดั่งมิใช่โลกเดียวกับเมื่อตอนกลางวัน
ผู้คนต่างเก็บตัวอยู่ในบ้านพักอันแสนอบอุ่น เป็นเวลาที่ครอบครัวจะได้อยู่พร้อมหน้า ร่วมรับประทานอาหารและพักผ่อน หลังจากเหนื่อยล้าจากการทำงานมาทั้งวัน
ร่างเล็กก้าวออกมาจากอาคารที่พักขนาดสามชั้นตั้งอยู่ที่หัวมุมถนน ผมสั้นระต้นคอสีดำขลับปลิวระเรื่อยตามสายลมหนาว
หล่อนเดินช้าๆไปตามบาทวิถี ดวงตากลมโตสีเดียวกับผมคู่นั้นฉายแววเศร้า บ่อยครั้งที่เจ้าตัวแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้า
ราวกับต้องการให้แรงโน้มถ่วงของโลกช่วยดึงรั้งบางอย่างให้ไหลกลับสู่ภายใน ร่างนั้นสั่นสะท้านเล็กน้อยทุกคราวที่ลมหนาวโชยชาย
ถนนเล็กๆสายที่หล่อนเดินอยู่ยามนี้ว่างเปล่าไร้ผู้คน เสมือนดั่งเป็นเมืองร้างที่มีเพียงหล่อนอยู่เพียงผู้เดียวเท่านั้น
ห้าปีมาแล้วสินะ ที่หล่อนต้องมาอยู่ที่นี่ สถานที่ที่ห่างไกลจาก บ้าน กว่าครึ่งโลก
หญิงสาวจากครอบครัวใหญ่ มีพ่อแม่พี่น้องอุ่นหนาฝาคั่ง กลับต้องมาใช้ชีวิตลำพังในเมืองเล็กๆอันเงียบเหงา
.....เพียงเพื่อโอกาสพิเศษทางด้านการศึกษา
ในช่วงปีแรกที่ทุกอย่างยังใหม่ แม้จะมีอาการคิดถึงบ้าน แต่หล่อนก็ยังคงสนุกกับการพบเจอผู้คนใหม่ๆ
แต่ไม่นานเพื่อนใหม่ก็กลายเป็นเพื่อนเก่า เมื่อพวกเขาสำเร็จการศึกษาทะยอยกันกลับบ้านเกิด
ปีแล้วปีเล่าที่หล่อนต้องประสบกับวงจรแบบนี้
.....ได้พบได้รู้จัก สนิทสนมไว้ใจ.... แล้วก็ต้องจากลา
แรกๆหล่อนเศร้า นานเข้าจนเกิดเป็นความชาชิน ระยะหลังหญิงสาวเก็บตัวไม่ยอมพบปะผู้คนใหม่ๆ ด้วยรู้สึกไม่อยากพบเพื่อจากอีกต่อไป
จากคุณ :
ใจจุลินทรีย์
- [
วันลอยกระทง 04:40:18
]