Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    Time x love

    อากาศดำทะมึนภายนอก เสียงสายฝนเทกระหน่ำติดต่อกันมามากกว่าสามชั่วโมงแล้ว ผมยังนอนซุกอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนหนาคู่ใจภายในห้องเช่าเล็กๆใจกลางเมือง กลิ่นฝนและความเย็นจากหยาดน้ำหยดเล็กๆหลายพันล้านหยดปะทะเข้ามาทางหน้าต่างที่เปิดทิ้งไว้ แม้ฝนยังตกอย่างไม่ลืมหูลืมตาและผมก็รู้สึกตัวดีทุกอย่าง แต่ด้วยความเกลียดคร้านหรือจะเป็นด้วยสถานะภาพที่ไม่ต้องกระตือรือร้นที่จะทำอะไรในตอนนี้ จึงทำให้ผมนอนลืมตาท่ามกลางความสลัวอยู่อย่างนั้น

    นับตั้งแต่อุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อสามเดือนก่อน ผมถูกเชิญออกจากงานด้วยสาเหตุที่ว่าใช้เวลาลาป่วยเกินกว่าสามเท่าที่จะขอลาหยุดได้ในปีนี้ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผู้ชายปอนๆที่ไม่มีอะไรจะยาไส้ยิ่งต้องเก็บต้องเขียมกันขึ้นไปอีก นอนคิดอยู่นานก็คร้านจะนอนต่อจึงลุกขึ้น ผ้านวมผืนหนาหลุดลงไปกองที่พื้นแต่ก็หาจะใส่ใจเก็บมันขึ้นมา

    ผมพาตัวเองเดินตรงไปที่มุมห้องมุมหนึ่งที่จัดเป็นครัวเล็กๆไว้มีอุปกรณ์ดำรงชีวิตขั้นพื้นฐานครบครัน แม้ว่าอาคารแห่งนี้จะถือได้ว่าเป็นอาคารโลว์เทคหลงยุคที่สุดในเมืองหลวง แต่ยังไงเครื่องมือเครื่องใช้ไฟฟ้าอุปกรณ์ต่างๆก็ต้องได้รับมาตรฐานตามที่กระทรวงพัฒนาชีวิตแห่งประเทศไทยกำหนดไว้ภายใต้กฎหมายบัญญัติแห่งชาติปี2652อยู่ดี เพราะเหตุผลที่ว่าสุขภาพและความปลอดภัยขั้นพื้นฐานของประชากรต้องมีวิวัฒนาการตามความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยี

    ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะพบประตูตรวจสอบผู้ผ่านห้องอัตโนมัติด้วยลายนิ้วมือพร้อมสแกนกระจกตาภายในกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆเทียบเท่ากับห้องพักผู้ป่วยของโรงพยาบาลรัฐบาลเมื่อหนึ่งร้อยปีก่อนแห่งนี้ และยิ่งไม่ต้องสงสัยว่าทำไมห้องหนุ่มโสดอย่างผมต้องมีกระทะไฟฟ้ากึ่งอัตโนมัติผลิตกระแสไฟฟ้าจากอากาศไม่บริสุทธิ์ภายในห้อง และเครื่องกรองน้ำดุจน้ำแร่บริสุทธิ์จากชั้นใต้ดิน เพราะของที่ว่ามานั้นล้วนอยู่ในกฎหมายบัญญัติแห่งชาตินั่นเป็นแน่นอน

    จากนโยบายของรัฐบาลแห่งการประกาศอิสรภาพและการดำรงด้วยคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด ที่พร้อมจะหาทุกวิถีทางที่จะทำให้มลพิษของประเทศไทยลดลง ประชากรมีความปลอดภัยและมีสุขภาพขั้นพื้นฐานแม้ตอนอยู่ในบ้านของตัวเอง แต่ผมว่าแนวความคิดนี้คงไม่สำเร็จ แม้จะมีกระทะอย่างว่าผมก็ยังต้องพึ่งบะหมี่ซองที่ยืนยงคงกระพันคู่ชนชั้นอย่างเรามาตั้งร้อยกว่าปี แถมยังน้ำสีสดใสที่ผุดขึ้นมายิ่งกว่ากาฬโรคกลายพันธุ์ มากกว่ายี่สิบยี่ห้อมากกว่าสิบกว่ารสที่ให้เลือกดื่มเพื่อชีวิตซาบซ่านั่นอีก

    ในยุคนี้ใครๆก็รู้ว่าการดำรงชีวิตให้ยืนยาวนั้นง่ายกว่าการเลือกใช้ชีวิตให้ดีที่สุดเสียอีก แล้วทำไมต้องปิดกั้นตัวเองด้วยข้อจำกัดต่างๆทุกคนต่างขวนขวายทดลองชีวิตวัยมันส์กันทั้งนั้น ชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์ที่สุดได้ทดลองหลายๆสิ่งในโลกนี้สิถึงจะแน่จริง


    หลังจากหาอาหารที่เหลือจากการฉลองหายดีกับเพื่อนสนิทไปเมื่อคืนมารองท้องแล้ว ผมก็เดินเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัวพลางนึกถึงเรื่องที่คุยกันเมื่อคืน เรื่องที่ทำให้ผมต้องนอนคิดถึงหลายๆเรื่องที่ผ่านมาตลอดคืนจนกระทั่งเช้าตรู่

    “นี่แกรู้มั้ยเมื่อเดือนก่อน กระทรวงพัฒนาการแพทย์สายขนานเทคโนโลยีผลิตเครื่องยิงอนุภาคพลังงานสูงเพื่อกำจัดเชื้อไวรัสหวัดตัวใหม่ได้แล้วนะ”

    “ฮื้อ ! จริงเหรอ แล้วนักแพทยวิทย์คนไหนอีกล่ะที่ทำผลงานได้ หวังว่าคงจะไม่ใช่นางฟ้าของเอ็งอีกนะเว้ย”ผมถามเพื่อนออกไป เราคุยเรื่องของผู้หญิงคนนี้กันมาตั้งแต่ผมได้เข้าร่วมทำงานในกระทรวงสื่อสารและตรวจสอบความผิดด้านจริยธรรมด้านการสื่อสารตั้งแต่หนึ่งปีก่อนนั่นแล้ว

    เพื่อนของผมคนนี้มันบ้าผู้หญิงที่ไม่เคยเห็นหน้าอยู่หนึ่งคน แพทยวิทย์อนาคตไกลผู้ค้นคิดสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆได้ภายในสามเดือนหลังจากเกิดปัญหาด้านสุขภาพขึ้น ผู้หญิงที่ไม่เคยเปิดเผยหน้าตากับสื่อ ผู้ที่มีปณิธานอันแน่วแน่ที่จะทำให้มนุษยชาติหายจากโรคภัยไข้เจ็บ เพราะเธอเชื่อว่าถ้ามนุษย์เราไม่มีโรคภัย ก็จะทำให้ศักยภาพในการพัฒนาตนเองทุกๆด้านนั้นสูงขึ้นกว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์

    ผู้หญิงที่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำให้เพื่อนของผมถึงเป็นเอามากจนขนาดมายืนเล่า นั่งเล่า นอนเล่า ทุกครั้งที่พบกันกระทั่งผมก็พลอยจำชื่อและผลงานของเธอได้ไปด้วย

    “ใช่นะสิ นายรู้มั้ย ข่าววงในเขาลือกันด้วยนะ ที่เธอต้องเร่งทำผลงานเนี่ยไม่ใช่แค่ทำตามปณิธานของตัวเองที่เคยบอกหรอกนะ แต่เธอสร้างผลงานเพื่อชดเชยความผิดน่ะ” เสียงเล่าแกมกระซิบติดไม่เห็นด้วยกับคำลือที่ว่าทำเอาผมเกิดความสนใจขึ้นมาทันที รีบถามออกไปโดยไม่รู้สึกตัวว่าเกิดอาการตื่นเต้นจนเพื่อนสังเกตเห็นได้

    “ความผิดอะไร”เสียงสั่นเหมือนเมื่อคราวที่เพิ่งออกจากตู้แช่เพื่อเซลล์ที่คงทนของโรงพยาบาลอย่างไงอย่างนั้น ทำไมจู่ๆภาพที่เหมือนกับเลือนหายไปแล้วกลับแวบไปแวบมาในหัว

    “เธอปกปิดเรื่องไทม์แมชชีน”คำตอบส่งผลให้ใจเต้นรัวเร็วเสียยิ่งกว่ากองของวงดนตรีร็อคชื่อดังแห่งยุค

    จริงหรือ เธอคนนี้สามารถประดิษฐ์ไทม์แมชชีนได้ ถ้าอย่างนั้นเธอต้องรู้จัก....

    “เธอประดิษฐ์ได้แล้วเหรอ”

    “ไม่รู้สิ ไม่มีใครรู้ความจริงหรอก อันที่จริงเธอไม่ได้ยอมรับเองหรอกนะ แต่พนักงานที่โรงพยาบาลของพ่อเธอนะสิ ได้ยินพ่อของเธอเพ้อเรียกชื่อของคนเมื่อร้อยปีก่อน”

    “รู้ได้ยังไง”

    “โธ่ 2622mrlo นายก็รู้เดี๋ยวนี้เขาไม่มีชื่อเรียกอย่างนั้นอีกแล้ว บาร์โค้ดต่างหากล่ะที่ใช้ระบุตัวตน แล้วนี่พ่อของเธอมาเพ้ออย่างนี้ออกมาก็เลยทำให้สงสัยกัน”

    “แต่นายเคยบอกไม่ใช่หรือว่าพ่อของเธอเป็นโรคเสียสติมากว่าสิบห้าปีแล้ว”

    “ก็จริง แต่นายรู้มั้ยก่อนที่พ่อของเธอจะเข้าโรงพยาบาลควบคุมและบำบัดผู้ป่วยแบบนั้น เขาเคยเป็นวิทยกรที่หาผู้มีฝีมือเทียบยากมากทีเดียว”

    วิทยกรที่เพื่อนพูดถึงคือนักวิทยศาสตร์สาขาประยุกต์พิเศษด้านกลไกรวดเร็ว และการดัดแปลงเพื่อประโยชน์ของประเทศชาตินั่นเอง

    “ก็เลยมีคนเดานะ ว่าก่อนที่พ่อของเธอจะเสียสติได้ทดลองลับๆเรื่องไทม์แมชชีนเพื่อใช้ข้ามเวลากลับไปหาแม่ของเธอในอดีต แต่อย่างว่าละนะไม่มีใครรู้ว่ามันสำเร็จหรือเปล่า”.........

    เพราะคำบอกเล่าของเพื่อนเหมือนจุดประกายไฟในดวงใจเท่ากำปั้นของผม วันนี้เป็นวันสำคัญของผมวันเดียวเท่านั้น มันเหมือนสิ่งนี้เกิดขึ้นมาเพื่อจงใจให้ผมรู้ คล้ายๆกับคำๆหนึ่งแต่มันคืออะไรนะผมนึกไม่ออกจริงๆ

    พอออกจากห้องน้ำก็ไม่รอช้ารีบแต่งตัวลวกๆด้วยชุดนาโนป้องกันฝนอัตโนมัติ แล้วเดินออกไปสู่ถนนใหญ่ ตามทางที่ชื้นแฉะไปด้วยน้ำฝนเอ่อขัง...ยังไงๆก็ยังมีกลิ่นอายเมื่อหนึ่งร้อยปีก่อนหลงเหลืออยู่ดี แม้ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานสักแค่ไหนมนุษยชาติคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ขึ้นมาหลายร้อยพันอย่าง แต่สุดท้ายก็แค่พยากรณ์ธรรมชาติได้เท่านั้น...ไม่เคยจะมีสักครั้งที่จะห้ามมันได้

    หลังจากที่เดินออกจากอาคารที่พำนักไม่กี่ก้าว จากท้องฟ้าแจ่มใสก็แปรเปลี่ยนเป็นครึ้มฝนแม้จะรู้ว่าพยากรณ์อากาศวันนี้เขาว่าไว้อย่างไร แต่ยังไงซะผมก็ยังต้องหาคำตอบที่รอมานานถึงหนึ่งปีให้ได้อยู่ดี

    ใช่แล้ว...ผมเพิ่งพบช่องทางเพียงน้อยนิดสำหรับการแก้ปัญหาใหญ่ที่เฝ้าตามหามานาน ปัญหาของผมมันเป็นปัญหาโลกแตก แต่เพียงแค่มีเจ้าเครื่องย้อนเวลานั่นผมก็จะได้สะสางปัญหาสักที...ในวันนี้วันเดียวเท่านั้น!

    เมื่อรู้ตัวว่ามายืนอยู่หน้ากระทรวงฯ หัวใจที่พองฟูมาตลอดวันก็แฟบลงทันที ลืมนึกไปว่าตัวเองอยู่ในฐานะใด “คนตกงาน” จะไม่ได้รับสิทธิ์เพื่อติดต่อกระทำการกับรัฐบาลแต่อย่างใด เว้นเสียแต่ว่ามีหลักฐานยืนยันสัมมาอาชีพหรือหางานใหม่ได้เสียก่อน แล้วผมเองก็เป็นหนึ่งใน “คนตกงาน” ที่ไม่มีทั้งสัมมาอาชีพหรืองานใหม่มารองรับ...แต่เอาวะยังไงผมก็ยังเหลืออีกหนึ่งสิทธิ์ อดนึกขอบคุณคณะลูกขุนเพื่อประโยชน์ของตัวบุคคลขึ้นมาตงิดๆ

    “สวัสดีค่ะ กรุณาระบุตัวตนด้วยบาร์โค้ดประจำตัว”

    “2622mrlo”ผมเอ่ยกับประชาสัมพันธ์สาวแสนสวยหน้าหวานที่รอรับการบริการติดต่อจากบุคคลภายนอก

    “การระบุตัวตนถูกต้อง ชายไทยเดี่ยวอายุ 30 ปี...ตอนนี้ว่างงาน”

    “ครับ”ผมยิ้มแห้งๆออกไป

    “ไม่ทราบว่ามีหลักฐานระบุสัมมาอาชีพหรือเปล่าคะ”

    “ไม่มีครับ”พนักงานสาวเงยหน้าขึ้นมามองผมด้วยสายตาตั้งคำถาม

    “ที่นี่ให้ใช้สิทธิ์เพื่อประโยชน์ของตัวบุคคลหรือเปล่าครับ”ไม่ได้ตอบคำถามจากสายตาแต่ผมกลับเอ่ยถามเธอกลับไป

    “ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะใช้สิทธิ์นั้นลึกหรือตื้นค่ะ”เธอตอบพร้อมกับฉีกยิ้มที่ดูจะเหมือนยิ้มยะเยือกให้ผมเสียมากกว่า

    “ผมจะขอที่อยู่ของนักแพทยวิทย์ที่ทำงานอยู่ในกระทรวงแห่งนี้”

    “สิทธิ์ตื้นเบื้องลึกที่สุด คุณจะได้สิทธิ์ในการรับรู้ แต่สิทธิ์ในการเข้าถึงตัวบุคคลคุณต้องทำเรื่องถึงนักแพทยวิทย์ผู้นั้นเองนะคะ”เธอกล่าวสิทธิที่ผมพึงจะมี ในใจที่ห่อเหี่ยวคล้ายๆกับมีลมค่อยๆมาเติมอีกครั้งผมไม่รอช้า

    “ครับต่อจากนั้นผมจะดำเนินการเอง”

    “ถ้าอย่างนั้นกรุณาระบุบาร์โค้ดนักแพทยวิทย์ที่คุณต้องการด้วยค่ะ”

    “2611folrครับ” ผมเอื้อนเอ่ยบาร์โค้ดที่ท่องมาอย่างขึ้นใจ พลางนึกหัวเราะเยาะตัวเอง

    อยู่มาตั้งสามสิบปี เพิ่งจะมาจำบาร์โค้ดคนอื่นได้ด้วยสมองของตัวเองก็วันนี้แหละ

    “2611folrหญิงไทยเดี่ยว อายุ 19ปี นักแพทยวิทย์ระดับAตำแหน่ง9ประจำกระทรวงกระทรวงพัฒนาการแพทย์สายขนานเทคโนโลยีค่ะ รอสักครู่ข้อมูลกำลังปรากฏและอัพโหลดเข้าสู่เครื่องอ่านสารพัดไฟล์ของคุณค่ะ”

    ผมจ้องมองนาฬิกาข้อมือที่ติดตัวมาตั้งแต่จำความได้ รอหญิงสาวบันทึกข้อมูลลงเครื่องอ่านสารพัดไฟล์ที่ซ่อนฟังก์ชันการใช้งานอยู่ในนาฬิกานั้น อีกห้านาทีเธอยื่นมันกลับมาให้ผมก่อนที่จะเอ่ยถึงสิทธิอีกครั้ง

    “คุณได้รับแค่สิทธิ์ในการรับรู้นะคะ อย่าละเมิดสิทธิ์ในการเข้าถึงตัวบุคคลของผู้อื่นนะคะ กระทรวงแพทย์ขนานTech ยินดีรับใช้ค่ะ”เธอเอ่ยลาพร้อมมอบรอยยิ้มพิมพ์ใจให้อีกครั้งก่อนที่ผมจะจากมาพร้อมความหวังอันเรืองรอง...

    “เธอไม่อยู่หรอกค่ะ”แม่บ้านวัยชราเอ่ยผ่านเครื่อง “tel-scan” ออกมาจากบ้านหลังใหญ่ที่ซ่อนตัวลึกอยู่ด้านหลังสวนธารณะขนาดยักษ์กลางใจเมืองหลวง

    พูดไปแล้วก็เหลือเชื่อด้วยนักบริหารสูงสุดของประเทศต้องการให้ประชากรไม่เพียงมีแต่ความศิวิไลเขายังต้องการอากาศบริสุทธิ์เพื่อชีวิตที่ยืนยาวของพวกคนเหล่านั้น จึงจัดทำโครงการสวนสวยเพื่อชีวิตในปี2652ขึ้นมาในปี2642เพื่อตอบสนองบุคคลทุกเพศทุกวัยที่เข้ามาจับจ่ายซื้อของจากห้างสรรพสินค้าใกล้ๆกัน

    จนเดี๋ยวนี้ทุกบริษัทสรรพสินค้าต่างแย่งจับจองพื้นที่รอบๆสวนเพื่อสร้างศูนย์การค้าใหม่ๆ เพราะคนรักสุภาพที่มาพักผ่อนที่นี้เยอะเสียยิ่งกว่าการรวมตัวประท้วงรัฐบาลที่จารึกไว้เมื่อร้อยกว่าปีก่อนเสียอีก

    “ไม่ทราบว่าเธอไปไหนครับ”ผมพยายามถามออกไปด้วยเสียงที่สุภาพที่สุด ทว่ายังได้รับคำตอบเหมือนเดิม

    “จากบันทึกข้อมูลของเธอที่คุณได้มา คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงบุคคล สิ่งที่คุณได้สิทธิ์รับรู้มีเท่านี้ค่ะ”

    “ผมขอร้องเถอะครับ ผมมีเวลาแค่วันนี้วันเดียว ช่วยติดต่อเธอให้ผมเถอะ ผมขอแค่ครั้งเดียว”ผมสบตากับนางอย่างวิงวอน หญิงชราเพียงแต่ส่ายหน้าเบาๆผ่านเจ้าเครื่องสื่อสารที่เห็นหน้ากัน

    “ไม่ได้ค่ะ กลับไปเสียเถอะค่ะ ไม่เช่นนั้นคุณจะได้รับข้อหาละเมิดสิทธิส่วนบุคคลนะคะ”นางขู่ผมด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน จากสายตาของนางผมรู้ดีว่าเธอคงเห็นใจผมไม่น้อย แต่ด้วยหน้าที่นางยังต้องทำเช่นนั้น ผมจำยอมรับอย่างจำใจพร้อมหันหลังเตรียมจากมาแต่ว่า...

    “เดี๋ยวค่ะคุณ”

    แม่บ้านเปิดประตูเดินออกมาให้เห็นตัวจริง ภายในขอบรั้วเหล็กดัดสีดำทะมึน...ในตอนนั้นผมรู้สึกเหมือนพื้นโลกไหวเอนแต่ยังพอยืนได้ ในขณะที่ภาพของแม่บ้านดูเหมือนจะลางเลือนขึ้น ผมได้ยินเสียงนุ่มของนางที่ถามขึ้นว่า

    “คุณเชื่อเรื่องพรหมลิขิตหรือเปล่าคะ”

    “อย่างแน่นอนครับ”ผมตอบออกไปขณะที่รู้สึกเหนื่อยหอบคล้ายๆกับกำลังวิ่งแข่งด้วยความเร็วสูงขึ้นมาทันทีทันใด ผมพยายามมองหน้าและรอว่าหญิงชราคนนั้นจะพูดอะไรต่อ

    “ถ้าเช่นนั้นก็จงกลับไปในที่ที่คุณมา”เธอตะโกนออกมาสุดเสียง เหมือนรู้ว่ารอบๆตัวของผมตอนนี้กำลังมีพายุหมุน

    บัดนี้ผมรู้แล้วว่าผมจะไปหาเธอได้ที่ไหน……….

    จากคุณ : nattanaree - [ 16 พ.ย. 51 03:10:37 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com