Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    .......พระจันทร์ติดใยแมงมุม......

    NOTE :  เรื่องนี้ได้ไอเดียมาจากน้องสาวผมครับ  ขอให้เครดิตไว้ ณ ที่นี้ด้วยขอรับ    CREDIT :  ผักผลไม้รวม

    ==============================
    โลกของเธอ โลกของฉัน กับ พระจันทร์ติดใยแมงมุม
    ==============================

    บทนำ

    สี่ทุ่มเศษๆ....

    พิยดาเดินออกจากออฟฟิศเพียงลำพัง  ... ดูเหมือนว่า เธอจะออกมาเป็นคนสุดท้ายของวันนี้

    ถึงแม้นี่มันจะดึกมากแล้วก็ตามที   ....ทว่ามหานครแห่งนี้ยังคง คลาคล่ำไปด้วยผู้คน   สองข้างทางยังสว่างไสวไปด้วยแสงไฟนีออนระยิบระยับดูตื่นตาตื่นใจ    ....สะท้อนชีวิตยามราตรีของคนเมืองที่ยังคงรื่นเริงไปกับแสงสีแห่งศิวิไลต์

    สำหรับเธอ....ผู้ปรารถนาจะซ่อนน้ำตาไว้กับความมืดของยามราตรี    สิ่งเหล่านี้ล้วนไร้ค่า...และไม่อาจทำให้เธอรื่นเริงไปกับมันได้สักน้อยนิด  

    เธอแหงนหน้ามองดูท้องฟ้า   ...หวังจะได้เห็นพระจันทร์
     แต่เธอกลับเห็นสายไฟระโยงระยางไขว้กันไปมาจนดูราวกับใยแมงมุมขนาดใหญ่ขึงอยู่บนนั้น
    ....ทว่าท่ามกลางโยงใยซับซ้อน  ....ยังคงมีแสงสีขาวซีดๆจางๆของพระจันทร์ลอดออกมาให้เห็น

    ......พระจันทร์ติดใยแมงมุม......


    ในห้วงคำนึงของเธอในตอนนั้น.....มันคงจะเหมือนกับชีวิตของเธอ ที่เข้าไปพันพัวไปด้วยไปด้วยปัญหามากมาย  ไม่มีทางออก ยิ่งดิ้นรนหลีกหนี  ก็เหมือนกับจะยิ่งติดแน่นเข้าไปทุกที..ทุกที  
    ……………………

    (1)

    <ธิรา>

    ธิราเป็นผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่ง  ชอบความเรียบง่าย ไม่ชอบแต่งหน้า แต่งตัว (ซึ่งถ้าเธอจะหันมาแต่งหน้าซักหน่อยก็คงจะสวยทีเดียวแหละ )        ….. แม้ว่าความธรรมดาของเธออาจทำให้เธอดูจืดชืด ไร้สีสันไปบ้าง   ….ทว่าหากมองดีๆ ให้ลึกซึ้ง  จะเห็นว่าเธอเป็นคนที่มีอัธยาศัยดี และมองโลกในแง่ดีอย่างหาตัวจับยากเลยทีเดียว  

    วันนี้ก็..เป็นวันธรรมดาของเธอ    แต่อาจจะไม่ธรรมดาไปบ้างก็ตรงที่ว่า .............

    “มาทำไมให้อายบ้านนา นวลน้องไม่ต้องกลับคืนมา...................”   เสียงลุงเหมายามประจำหมู่บ้าน  เดินร้องเพลงมาแต่ไกล   ท่าทางแกดูร่าเริงผิดปกติ  สงสัยคงจะถูกหวยแน่ๆเลย
    “ว่าไงจ๊ะลุงเหมา อารมณ์ดีแต่เช้าเชียว”  ฉันร้องทักลุงเหมา
    “ ฮ่า ๆๆๆ    ลุงถูกหวยพันนึงน่ะหนู ” (นั่น  ..เดาไม่ผิดเลยแฮะ)  ลุงเหมาหัวเราะร่าเผยฟันขาวที่มีให้เห็นอยู่หรอมแหรม   ก่อนจะทำท่าเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้
    “  อ้อ  เพื่อนบ้านที่อยู่ข้างๆบ้านหนู  เค้าจะย้ายเข้ามาอยู่เร็วๆนี้แล้วนะ     ”   ...ลุงเหมานี่รู้ไปหมดทุกเรื่องจริงๆแฮะ   สำหรับลุงเหมาแล้ว  ...หน้าที่แกไม่ได้มีเพียงดูแลความสงบของหมู่บ้านเท่านั้น   แกยังดูแลชีวิตความเป็นอยู่คนในหมู่บ้านอีกด้วย    .....ไม่ว่าใครเป็นอะไร  จะย้ายเข้าย้ายออกแกรู้หมด    ( .ฉันเลยแอบตั้งชื่อให้แกว่า ทะเบียนราษฎร์เคลื่อนที่)


    “…จริงเหรอจ๊ะลุง  ”  ฉันถามอย่างสงสัยระคนตื่นเต้นที่จะได้มีเพื่อนบ้านกับเค้าแล้ว  “ แล้วลุงพอจะรู้มั้ยว่าเมื่อไหร่ ”

    “คงจะภายในอาทิตย์นี้มั้งหนูเอ้ย  ได้ข่าวว่าเซ็นสัญญงสัญญากันไปเรียบร้อยแล้ว ”   ลุงเหมาตอบอย่างผู้รู้จริง   ….ฉันแอบขำท่าทางจริงจัง แบบ ‘นักวิเคราะห์’ ของแก  ….หมู่บ้านเล็กๆ ก็อย่างนี้แหละ  พอมีคนย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ก็กลายเป็นข่าวใหญ่ไปพักนึง  แล้วเดี๋ยวก็จะเงียบหายไปเอง    …ราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน


    หมู่บ้านที่ธิราอยู่ชื่อ หมู่บ้าน’กลางเมือง’   ……ทว่ากลับไม่ได้อยู่กลางเมืองดังชื่อ    ไม่รู้ว่าคนตั้งชื่อต้องการประชดประชันรึไงไม่ทราบ   รถเมล์ก็หาผ่านยากเหลือเกิน (แถมมีอยู่สายเดียวอีกตะหาก)   แท็กซี่ก็ไม่ค่อยจะอยากจะมาส่งอีกต่างหาก
    แต่เธอก็พอใจนะกับที่เป็นอยู่นี่นะ   ก็ทำไงได้ล่ะ   ….เธอไม่ได้ร่ำรวยพอที่จะไปหาเช่าบ้านในเมืองนี่นา
    จะว่าไปที่นี่ก็เงียบสงบดีซะอีก ห่างไกลจากแสงสีในเมือง …กลับจากทำงานทั้งวันมาเหนื่อยๆ จะได้พักผ่อนให้เต็มที่

     
    เอ ว่าแต่ตกลงคนที่จะมาซื้อบ้านที่นี่เค้าจะเป็นคนยังไงนะ ธิราคิดแล้วก็นึกถึงเจ้าของบ้านหลังอื่นๆในละแวกนี้ ก็หมู่บ้านนี้อย่างที่ว่ามันห่างไกล๊ห่างไกลความเจริญ ส่วนใหญ่เห็นมีแต่ประกาศขายบ้านเต็มไปหมด คนส่วนมากมาซื้อบ้านที่นี่เพราะคิดว่าห้างสรรพสินค้าชั้นนำจะมาเปิดใกล้ๆนั่นหมายถึงหมู่บ้านกลางเมืองจะกลางเมืองจริงๆ แต่เพราะพิษเศรษฐกิจทำให้ต้องล้มเลิกโครงการไป ผู้คนที่แห่มาซื้อบ้านที่นี่ส่วนมากก็เป็นคนรวยๆทั้งนั้นเลยพากันขายบ้านแล้วไปอยู่ที่อื่นกัน เธอถือได้ว่าโชคดีได้ซื้อบ้านหลังนี้มาในราคาถูกมากเพราะสนิทกับคุณป้าเจ้าของเก่าซึ่งแกจะย้ายตามสามีไปต่างประเทศ หมู่บ้านกลางเมืองมีคนหลากหลายผ่านเข้ามามากมาย คนส่วนหนึ่งที่เลือกจะมาอยู่ที่นี่ก็มาอยู่เพราะราคาที่แสนถูกหรือไมก็มีอะไรต้องปิดบัง ไม่นานมานี้หมู่บ้านของเธอพึ่งเป็นข่าวดังไปเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งแล้วพบว่าเป็นสถานที่เก็บยาเสพติดล็อตใหญ่ ไม่อยากจะเชื่อก็ต้องเชื่อ ถ้าเป็นที่บ้านนอกนะเรื่องนี้ต้องเป็น talk of the town แน่นอน แต่ว่าหลังจากนั้นนอกจากลุงเหมากับป้าตาแล้วก็ไม่เห็นมีใครพูดเรื่องนี้กันอีกเลย ราวกับว่าไม่เคยเกิดอะไรขึ้นงั้นแหละ
    …แล้วบ้านข้าง ๆของเธอที่จะมีคนมาอยู่ใหม่ล่ะ     เอ๋ … อยากรู้จัง เค้าจะเป็นคนแบบไหนน๊า  

    <พิยดา>

    พิยดาเป็นสาวหน้าตาดี  สวย น่ารัก …ขนาดที่ว่าใครเห็นเป็นต้องเหลียวกลับมามองทุกราย   วันนี้เธอได้ตอบรับจะไปดูบ้านกลางเมือง ซึ่งเป็นบ้านที่คุณป้าของปูเป้เพื่อนเธอ ซึ่งได้ยกให้เจ้าหล่อนมานานแล้วแต่ไม่มีใครไปอยู่   …... ยัยปูเป้ว่าบ้านหลังนั้นห่างไกล๊ห่างไกลความเจริญเอามากๆ    แต่กระนั้น..เธอก็เคยได้ยินมาเหมือนกันว่าหมู่บ้านนั้นในอดีตราคาแพงสูงปรี๊ดเลยทีเดียว  

    หลังจากที่เจออะไรมาซะจนบอบช้ำขนาดนี้  เธอควรจะหาที่หลบไปพักกายพักใจซักระยะ พอดีกับที่ยัยปูเป้เพื่อนเก่าส่งเมล์มาถามว่าสนใจบ้านหลังนึงไหม ว่ากันว่าแฟนยัยนี่ติดหนี้โต๊ะบอลอยู่ต้องรีบหาเงินไปใช้  ยัยปูเป้ก็คงพอจะได้ยินเรื่องที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเธอแล้วสินะ ถึงได้มาเสนอแบบนี้

    …เฮ้อ พอคิดถึงเรื่องนั้นขึ้นมา  มันก็รู้สึก เหนื่อยแล้วก็ท้อจัง แต่ก็นะ เปลี่ยนบรรยากาศเปลี่ยนสถานที่  อะไรๆคงจะดีมากยิ่งขึ้น ......อ๊ะ.....เสียงโทรศัพท์ดังนี่นา..........................เธอรีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นรับ

    “ค่ะสวัสดีค่ะ ….อ๋อปูเป้หรอ จ้ะๆ กำลังไป รอเดี๋ยวนะ”   พิยดาพูดเสร็จ ก็รีบใส่รองเท้าแล้วเดินออกจากบ้านทันที
    ‘เฮ้อ….สายอีกแล้วชั้น’


    …………………….

    ร้านอาหารที่ยัยปูเป้นัดเธอออกมาพบนั้นเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นตกแต่งอย่างเรียบง่าย แต่คงไว้ซึ่งความหรูหราและมีสไตล์ตามสมัยนิยม  ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากบ้านเธอมากนัก นั่งแท็กซี่ไปซัก 15 นาทีก็ถึง

    “หวัดดีจ้ะยัยพิไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”   ปู้เป้เอ่ยทักทายเพื่อน
    “จ้ะ สวัสดี    ขอโทษนะพอดีหลงทางนิดหน่อย”  พิยดากล่าวจบก็ตัดบทเข้าเรื่องบ้านหลังนั้นทันที   ปูเป้บอกว่าใจจริงเธอไม่ได้อยากจะขายเลยเป็นทรัพย์สมบัติคุณป้าเธอ แล้วก็อะไรอีกมากมายที่ส่วนใหญ่ก็มีแต่น้ำ  …..

    ‘ นี่เธอกำลังจะพยายามโก่งราคาค่าบ้านใช่ไหมเนี่ย  ยัยปูเป้ ’


    ยัยปูเป้บังเอิญรู้เรื่องของฉันจากเว็บบอร์ดสาธารณะเว็บนึงที่ฉันลืมไปว่าเคยให้เธอยืมชื่อล็อคอิน ทันทีที่รู้เธอก็คงส่งเมลล์มาเลยมั้ง แต่ฉันก็พึ่งมาเห็นเมลล์เธอเมื่อไม่นานมานี้ ปูเป้เป็นเพื่อนเก่าคนนึง    ….ที่บอกว่าเพื่อนเก่าก็เพราะว่าฉันเองไม่อยากจะนับเธอเป็นเพื่อนน่ะสิ ทุกครั้งที่มีผลประโยชน์เธอจะมาทำสนิทสนมกับฉันทันที แต่พอหมดประโยชน์ก็ไม่เคยโผล่มาเลย   ……แต่ถึงแม้ยัยนี่จะเห็นแก่ตัวไปหน่อยในมุมมองฉัน ก็ยังพอมีส่วนดีนะ ตรงที่เธอไม่ค่อยสนใจเรื่องของคนอื่น    คืออะไรที่ยัยนี่รู้จะเป็นประมาณความลับของโลกเลยทีเดียว ถ้าไม่ได้เกี่ยวกับผลประโยชน์เธอ เธอก็จะไม่สนใจ เพราะฉะนั้นเรื่องของฉันที่ปูเป้รู้ก็คงไม่ต้องห่วง ฉันตกลงจะไปดูบ้านกับเธอ


    อันที่จริงปกติฉันต้องเฝ้าหน้าจอรอดูซีรีย์โปรดนะเนี่ย แต่เฮ้อ  …..ไม่เป็นไรไปดูในเว็บเอาก็ได้   จะได้รีบไปดูบ้าน
    ได้บ้านใหม่เร็วๆก็ดี   ฉันกำชับยัยปูเป้ว่าเรื่องของฉันเรื่องบ้านของฉันขอให้เธอทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นละกันนะ ยัยปูเป้รับปาก   …ค่อยโล่งใจหน่อย เรื่องของฉัน ฉันอยากให้มันเป็นความลับตลอดไป ไม่อยากเล่าให้ใครฟัง  
    ฉันมีเพื่อนไม่มากนักและส่วนใหญ่ก็คงไม่มีเวลามาสนใจเรื่องของฉันหรอก แต่ล่ะคนก็วุ่นวายในส่วนของตัวเอง อีกอย่างฉันไม่อยากจะไว้ใจใครด้วยสินะ ก็เลยตัดสินใจไปตั้งกระทู้ที่เว็บบอร์ดสาธารณะแห่งหนึ่ง มันน่าน้อยใจไหมล่ะที่แม้แต่กระทู้ฉันยังไม่มีใครมาตอบเลย

    อ่ะนะอ้าว  คิดอะไรเพลินๆ  ยัยปูเป้ก็ขับรถพามาถึงที่ซะแล้ว   เธอเลี้ยวรถเข้าจอดอย่างชำนาญ   ก่อนจะลงไปไขประตูรั้วหน้าบ้าน  

     
    “อ้าวอะไรกันนี่มันบ้านแฝดนี่นา”   ฉันพูดขึ้นขณะกำลังลงจากรถ  
    “บ้านแฝดก็ไม่เห็นเป็นไรเลย รั้วก็แยกกันแค่ตัวบ้านมีผนังติดกันแค่นั้นประตูอะไรคุณป้าฉันก็ให้คนมากั้นไว้แล้ว   …ก็เหมือนบ้านเดี่ยวทั่วไปแหละ แค่ผนังด้านนึงติดกันเอง”   นั่นๆ ยัยปูเป้หาเหตุผลมาอ้างสารพัด          

    ……ว่าแต่อีกซีกนึงจะมีคนอยู่มั้ยนะ??

    “ตกลงว่าไงจ๊ะยัยพิ   สนใจมั้ยเอ่ย …….อ้อ แล้วที่นี่นะไม่มีใครรู้จักเธอแล้วก็ไม่มีใครสนใจเรื่องของใครหรอก สงบดีออก ผู้คนก็ไม่พลุ่กพล่านฉันก็ขายในราคาแสนถูก ซื้อทิ้งไว้เฉยๆยังได้ นี่เข้าไปดูข้างในก่อนสิ”     ยัยปูเป้เริ่มชักแม่น้ำทั้งห้ามาหว่านล้อม  ก่อนจะเดินนำเข้าไปในบ้าน

    ฉันตามยัยปูเป้เข้าไปอย่างว่าง่าย    แต่……..จริงๆแล้ว ฉันไม่อยากอยู่บ้านแฝดเลยนะ     ก็แหม ฉันอยากให้มันเป็นส่วนตัวนี่ถึงจะหนีมาอยู่บ้านเดี่ยวแบบนี้ ข้างในบ้านก็สวยดีหรอกนะ แต่ฝุ่นเยอะไปหน่อย …ก็ดูส่งๆไปเนี่ยแหละ
    ….พอยัยปูเป้ถาม  ฉันก็ตอบไปว่าขอคิดอีกทีละกัน       ...เธอจึงขอตัวโทรไปรายงานป้าก่อน

    ฉันยกนาฬิกาขึ้นมาดู  นี่มันทุ่มกว่าแล้วนี่นา คงกลับไปดูซีรี่ส์เรื่องโปรดไม่ทันแล้วล่ะมั้ง…….ช่างเหอะ  เดี๋ยวไปหาอะไรกินก่อนเข้าบ้านดีกว่า  

    “ มีอะไรให้ผมช่วยมั้ยครับคุณ  ”  ....ตาลุงคนหนึ่งขี่จักรมายานมาจอดข้างๆ  ดูจากเครื่องแบบแล้วน่าจะเป็นยาม
    “ อ๋อ  ไม่เป็นไรค่ะ  ” ฉันปฏิเสธไป ...แล้ว.มองแกด้วยสายตาไม่ค่อยไว้ใจ
    “ อ้อ...คุณผู้หญิงที่จะย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ใช่ไหมครับ  ผมชื่อเหมานะครับ   คนแถวนี้เรียกลุงเหมากันทั้งนั้นแหละ  ”
    “ ค่ะ  ….ก็ดูๆอยู่น่ะค่ะ ”
    “ คุณผู้หญิง ...เ.อ้อ  ขออนุญาตเรียกหนูเฉยๆ ได้มั้ยครับ  เรียกคุณผู้หญิงมันขัดๆเขินๆยังไงไม่รู้  ”  
    “ค่ะ”
    “แล้วเป็นไงครับ   ดูแล้วชอบมั้ยครับ   บ้านที่นี่ลุงว่าเค้าออกแบบสวยดีนะ พื้นที่ใช้สอยก็เยอะ ลุงยังชอบเลย .. ...นี่ถ้าไม่ติดว่าจนนะ  ลุงซื้อให้เมียลุงอยู่ไปนานแล้ว  ”   แกพูดจบแล้วก็หัวเราะร่าอยู่คนเดียว
    “ค่ะ ”  ฉันชักเริ่มจะหมดความอดทน  คนอะไรพูดจาเซ้าซี้อยู่ได้   .. พอดียัยปูเป่โทรศัพท์เสร็จพอดี  ฉันจึงหาเรื่องปลีกตัวขึ้นรถยัยปูเป้ไป

    ......................

    < ธิรา >

    “ว๊า......จบซะแล้วเหรอเนี่ย    อยากดูต่อจังเลย  ...ต้องรอไปถึงพรุ่งนี้แน่ะกว่าจะได้ดู”
    ฉันพึมพำกับตัวเองเมื่อซีรี่ส์เรื่องโปรดจบลง  
     ...ออกไปเทขยะหน่อยดีกว่า

    เอ๋ … มีรถจอดอยู่หน้าบ้าน   รถใครกันน๊า สงสัยเค้ามาดูบ้านมั้ง    
    ผู้หญิงคนนี้สวยจัง  ว่าที่เจ้าของบ้านใหม่รึเปล่าน๊า หันมามองฉันด้วย

    อ้าวว    ยิ้มให้ก็ไม่ยิ้มตอบ   ……….สงสัยคงจะเขินล่ะมั้ง
    ……………………………………………………………….
    .

    แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 51 19:54:24

    จากคุณ : ซงย้ง - [ 16 พ.ย. 51 16:11:02 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com