เชียงใหม่
สิ้นคำบอกกล่าวของหัวหน้า ทำเอาความดีใจที่ซุกซ่อนอยู่ภายในแทบจะพาเนย์ญากระโดดตัวลอย เผลอโผเข้ากอดชายตรงหน้าแล้วหอมแก้มสักฟอดสองฟอด แต่ก็ทำได้แค่นึกคิดไว้เท่านั้น
ขืนทำมีหวังหล่อนได้อดไปเชียงใหม่แน่ นาน ๆ ครั้งหัวหน้าถึงจะปล่อยลูกน้องสาวสวยสุดแถมอายุน้อยกว่าใครในแผนกอย่างหล่อนไปเผ่นพล่านต่างจังหวัด งานนี้เรียกได้ว่า ส้มหล่น ทีเดียว
นึกแล้วต้องขอบคุณเพื่อนร่วมงานอีกคนที่ป่วยได้จังหวะพอดี
แต่ที่หล่อนดีอกดีใจ ไม่ใช่ว่าเพราะได้ไปต่างจังหวัดหรอกนะ
หากแต่เป็นเพราะหล่อนกำลังคิดถึงใครบางคนที่ซุกตัวซ่อนอยู่ในจังหวัดนี้ต่างหากเล่า
เมื่อไหร่ค่ะ
พรุ่งนี้
พรุ่งนี้ เนย์ญาทวนคำพูดเมื่อครู่อย่างไม่เชื่อหูนัก
มีปัญหาอะไรหรือเปล่า
เปล่า ๆ ค่ะ
เนย์ญาตอบทั้งรอยยิ้มอาบแก้ม
ในที่สุดหล่อนก็ได้ไปเชียงใหม่เสียที หลังจากตั้งใจไว้นาน ว่าจะลาพักร้อนไปหาเขาตามคำเชิญชวนของเขา
ถ้ามาเชียงใหม่เมื่อไหร่ โทรหาผมนะ
หวังว่าตอนนี้เขายังคงจำคำพูดในวันนั้นได้และยินดีต้อนรับขับสู่หล่อนนะ
ป่านนี้ผู้ชายสูงยาวเข่าดีคนที่กำลังคิดถึงอยู่กำลังทำอะไรอยู่หนอ
วันนี้วันเสาร์ วันหยุดของเขานี่
ถ้าไม่ขลุกอยู่กับต้นไม้ดอกไม้ ก็คงนั่งจมอยู่กับกองหนังสือ จนลืมเวลากินข้าวกินปลาแล้วหล่ะ
โอ้โฮ้
พัส ขนซื้อหนังสืออะไรเยอะแยะค่ะเนี่ย
หล่อนถามในวันที่เขาชวนหล่อนไปไปร้านหนังสือเมื่อสามเดือนที่แล้ว ก่อนจะพาตัวเองไปหลบอยู่ท่ามกลางหมอกขาว
หนังสือที่เขาขนซื้อเป็นพวกหนังสือเกี่ยวกับต้นไม้ดอกไม้ทั้งนั้น
นาน ๆ ทีจะได้เข้ากรุงเทพฯ ก็อย่างนี้ล่ะครับ ดูสิพูดอย่างกับว่าเชียงใหม่นั้นบ้านนอกกันดารอย่างนั้นหล่ะ
ทำอย่างกะที่นู้นไม่มีร้านหนังสืออย่างงั้นล่ะ เนย์ญาว่า
มีคร้าบ เขาตอบลากเสียงเป็นเด็ก ๆ พลอยทำให้หล่อนนึกหมั่นไส้ นี่ถ้าหากชายตรงหน้าอายุอานามแค่สามสี่ขวบล่ะก้อ หล่อนคงจับตีก้นเด็กคนนี้แล้วล่ะ แต่ไม่เยอะเท่าที่นี้
เนย์ญาพยักหน้ารับทราบ พลางคิดในใจว่า
ถ้าหากเขาได้มางานสัปดาห์หนังสือ มีหวังขนซื้อกลับบ้านเพียบแน่
ญาก็อยากปลูกต้นไม้เหมือนกัน แต่ไม่ค่อยมีเวลา เนย์ญาบอกขณะที่เขาจ่ายค่าหนังสือ
ปลูกต้นไม้น่ะใช้เวลาไม่มากหรอกครับ ขอแค่เพียงมีเวลาพอดูแล รดน้ำ ใส่ปุ๋ยพรวดดินมันบ้าง เขาว่าพลางรับถุงหนังสือจากพนักงาน ไม่ใช่ปลูกลงกระถางเสร็จ ก็แล้วกันไป ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ล้วนต้องการความรัก การดูแล เอาใจใส่ทั้งนั้นล่ะครับ
นี่ล่ะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เนย์ญามีความรู้สึกดีให้กับชายตรงหน้า
เพราะเขาเป็นคนละเอียดอ่อน เอาใจใส่ต่อสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ใครต่อใครมักมองข้ามเสมอ
แหม
ถ้าญาจะปลูกสงสัยต้องขอให้พัสเป็นที่ปรึกษาแล้วล่ะ
ยินดีครับ ว่าแต่ญาอยากจะปลูกต้นอะไรล่ะ หญิงสาวทำท่าครุ่นคิด นิ่งเงียบชั่วครู่
ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ค่ะ ชายหนุ่มตรงหน้าเลิกคิ้วสงสัย กำลังจะขยับปากถาม แต่หล่อนพูดขึ้นก่อน เอาไว้ถ้าถึงเวลา แล้วญาจะบอกค่ะ ว่าแต่พัสอย่าลืมแล้วกัน ว่าจะเป็นที่ปรึกษาให้ญา
ครับผม เขารับคำอย่างเต็มใจ ก่อนจะพากันเดินออกจากร้านหนังสือ
เนย์ญากลับมาถึงห้องพักหลังตะวันลับขอบฟ้าสีคราม พร้อมกับไฟถนนสาดแสงสลัว ๆ แทรกความมืดที่โรยตัวเข้ามาทำหน้าที่ทีละน้อย เนย์ญาหยิบหนังสือที่เพิ่งแวะซื้อจากร้านหนังสือเมื่อครู่ออกมา
. หล่อนตั้งใจจะซื้อไปฝากเขาแต่ไม่แน่ใจว่าเขาจะอ่านหรือเปล่า
แต่ช่างเถอะในเมื่อหล่อนตั้งใจอย่างนั้นแล้วนี่
ขณะที่หญิงสาวพลิกหนังสือในมือทีละหน้านั้น สายตาของหล่อนกลับไม่ได้จับจ้องอยู่กับตัวหนังสือตรงหน้าแม้แต่น้อย หากแต่กำลังเหม่อลอยไปพร้อมกับจิตใจที่ล่องลอยไปหาเขาคนนั้นอีกแล้ว
ป่านนี้เขากำลังทำอะไรอยู่นะ จะคิดถึงกันบ้างหรือเปล่า
ความคิดถึงเขาคนไกลน่าจะจบลงแล้วในวันที่เขาไปเชียงใหม่ในวันนั้น
หากแต่ยังตามเกาะกุมหุ้มห่อหัวใจเหมือนสายใยบาง ๆ ที่เพิ่มพอกพูนขึ้นทีละน้อย
คราวหน้ามากรุงเทพฯ โทรบอกญาด้วยนะค่ะ เนย์ญาบอกขณะในใจร่ำร้องไห้ไม่อยากให้เขาจากหล่อนไป
ถ้าเลือกได้หล่อนอยากจะขอร้องเขาตั้งแต่วันที่เขาตัดสินใจย้ายไปทำงานที่เชียงใหม่แล้ว
แต่ก็ไม่ เพราะหล่อนรู้ดีว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหล่อนคงไม่ถึงขั้นฉุดรั้งอีกฝ่ายได้หรอก
เขากับหล่อนอย่างมากคงเป็นได้แค่เพื่อนเท่านั้น และคงไม่มีทางจะแปรเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้แน่สำหรับเขา
ฮะ เขารับคำ พร้อมกับยื่นเศษกระดาษชิ้นเล็กให้หล่อน ลายมือหวัดตัวโตในนั้นเขียนเบอร์โทรศัพท์และที่อยู่ของเขาไว้เสร็จสรรพ
มีอะไรโทรหาผมได้นะครับ
จะมีอะไรนอกไปกว่าความคิดถึงอีกล่ะ เนย์ญาอยากจะบอกชายตรงหน้าอย่างนี้จริง ๆ แต่มั่นใจได้ว่าไม่ได้พูดสักคำอย่างที่นึกคิด
นับจากวันนั้นร่วมสามเดือน เขาก็หายลับเข้ากลีบเมฆเหมือนจันทร์เจ้า ไม่มีแม้เสียงโทรศัพท์ที่หล่อนอยากให้รบกวนเวลานอนหลับใหล ไม่มีแม้จดหมายที่หล่อนอยากแกะอ่านลายมือตัวโต ๆ นั้น ทำไมเขาไม่ส่งข่าวคราวมาบ้างหนอ
ช่างไม่คิดถึงกันบ้างเลย
แม้กระทั่งความผูกพัน ความเป็นเพื่อนก็ไม่มีหลงเหลือให้จดจำบ้างหรือ
เนย์ญาหยิบเศษกระดาษชิ้นนั้นในลิ้นชัก
มองดูตัวเลขเก้าตัวที่เรียงรายอย่างหวัด ๆ พลางคิดในใจว่าจะโทรบอกเขาดีไหม
ว่าหล่อนกำลังจะขึ้นไปหาด้วยความคิดถึงเต็มหัวใจ
แต่พอนึกถึงอาการหายลับของเขาแล้ว พาให้หล่อนคิดว่าอย่าบอกเขาเลย ปล่อยให้เขาแสดงความรู้สึก ยามที่พบหล่อนยืนอยู่ตรงหน้าออกมาดีกว่า หล่อนอยากเห็นเหลือเกินว่า เขาจะทำสีหน้าอย่างไร จะดีใจจนเนื้อเต้นเหมือนกับหล่อนไหม หรือจะทำเป็นหมางเมินเหมือนคนไม่รู้จักกัน
คิดไปคิดมาความหวาดระแวงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเริ่มคลืบคลานเข้าปกคลุมหล่อนทีละน้อย
แต่เอาเถอะ ในเมื่อหัวใจก้าวเดินมาถึงตรงนี้แล้ว เนย์ญาคงไม่สามารถถอยหลังได้อีก
คงมีแต่เดินหน้าต่อไปอย่างเดียว
ใครจะรู้ว่าเช้าวันใหม่ท้องฟ้าอาจจะเป็นสีฟ้าสดสวย ไม่ขมุกขมัวอย่างวันก่อน ๆ ก็ได้
*
จากคุณ :
ญะ-รินดา
- [
17 พ.ย. 51 16:56:31
]