ทันทีที่เครื่องบินพุ่งทะยานเหนือเมฆพาเนย์ญามาถึงเชียงใหม่ สายลมเย็นเยียบก็พัดมาปะทะผิวหน้าหญิงสาวอย่างแผ่วเบาราวกับทักทายแขกผู้มาเยือนถิ่น
รถของโรงแรมพาเนย์ญาออกจากสนามบินมุ่งสู่ถนนเบื้องหน้าที่สองข้างทางเต็มไปด้วยไอหมอกขาว ขณะที่แสงแรกของดวงอาทิตย์พยายามฉายแสงผ่านกลุ่มหมอกอย่างยากลำบาก
จังหวัดเชียงใหม่ถึงจะอยู่ห่างไกลจากกรุงเทพฯ แต่ก็ได้รับเชื้อความวุ่นวาย จอแจ มาไม่น้อย เนย์ญานั่งมองสองข้างทาง อ่านป้ายชื่อถนนซ้ายทีขวาที แต่ก็ไม่เจอถนนคนที่หล่อนคิดถึงพำนักอาศัยอยู่
ทันทีที่เนย์ญามาถึงห้องพักที่จองไว้
หล่อนจัดแจงจัดข้าวของเครื่องใช้ใส่ตู้เสื้อผ้า ก่อนจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดลำลอง
เนย์ญายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหล่อนจะต้องอยู่เชียงใหม่กี่วันกี่คืนกว่างานจะเสร็จเรียบร้อย แต่ที่แน่ ๆ วันนี้ทั้งวันหล่อนว่าง พอจะมีเวลาออกไปเดินเล่นชมเมืองได้ หรือว่าหล่อนจะไปหาเขาคนที่คิดถึงที่บ้านดีนะ
แต่พอคิดถึงถนนหนทาง หล่อนก็ไม่รู้จริง ๆ ว่าบ้านเขาอยู่บนถนนซอกซอยไหนของที่นี้
เนย์ญาทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างครุ่นคิด ก่อนตัดสินใจพลิกตัวเอื้อมไปหยิบเศษกระดาษในกระเป๋าเงินสีแดง
สายตาทั้งคู่ของหล่อนจ้องมองเบอร์โทรศัพท์และที่อยู่ของเขา
เอาละ
มาเยือนถึงถิ่นแล้ว ยังไงก็ต้องโทรหาเขา
หญิงสาวตัดสินใจกดเบอร์โทรศัพท์หกตัวทันที แต่ยังไม่ทันจะมีคนมารับสายพูด ฮัลโหล หล่อนก็รีบวางสายเสียก่อน
เนย์ญามองโทรศัพท์อย่างลังเล
นี่หล่อนเป็นบ้าอะไรเนี่ย
อยากพูดอยากเจอกับเขาไม่ใช่เหรอ แล้วรีบวางสายทำไมกัน
เนย์ญากลั้นใจกดโทรศัพท์ไปที่บ้านของเขาอีกครั้ง
เสียงสัญญาณร้องเรียกอยู่นาน แต่ไม่มีใครรับสาย
หรือว่าเขาไม่อยู่
หล่อนนับหนึ่ง สอง สาม ในใจ ก่อนตัดสินใจวางสาย เขาไม่อยู่บ้าน เขาไปไหนของเขานะ ทั้ง ๆ ที่วันนี้เป็นวันหยุดของเขา
ความจริงแล้วมาถึงเชียงใหม่ทั้งที เนย์ญาอยากไปสักการะ พระธาตุดอยสุเทพ เหมือนกัน แต่ติดตรงไม่รู้จะไปอย่างไรในเมื่อไม่มีคนนำทาง ก็เลยต้องเปลี่ยนโปรแกรม เปลี่ยนมาเดินเล่นนั่งรถชมเมืองดีกว่า
ก่อนออกจากโรงแรมเนย์ญาแวะเอากุญแจห้องให้พนักงานที่เคาน์เตอร์ แต่สิ่งที่หล่อนได้รับกลับมาจากพนักงาน เป็นดอกกุหลาบสีชมพูสดสวยหนึ่งดอกใหญ่
มีผู้ชายคนหนึ่งฝากให้ค่ะ พนักงานสาวหน้าจิ้มลิ้มบอกพร้อมรอยยิ้ม
ใครค่ะ
บอกชื่อไว้หรือเปล่าค่ะ
หนักงานสาวคนเดิมส่ายหน้าเล็กน้อย ไม่ได้บอกค่ะ
เนย์ญารับดอกกุหลาบดอกนั้นจากพนักงานอย่างงง ๆ
เอ๊ะ ใครกันนะ รู้ได้ไงว่าหล่อนอยู่ที่นี่
.
เนย์ญาใช้เวลาหมดไปเกือบวันกับการนั่งรถเล่นชมเมือง ก่อนจะกลับมายังโรงแรมอีกครั้งตอนฟ้าเปลี่ยนสีขมุกขมัว แสงสว่างจากเสาไฟฟ้าเริ่มสาดแสง
เนย์ญากลับมาตัวเปล่า ไม่ได้แวะซื้ออะไรสักอย่าง นอกจากแวะหาอะไรกินใส่ท้องพออิ่มเท่านั้น
หล่อนรับกุญแจห้องจากพนักงาน พลางคิดว่าจะรีบขึ้นไปเตรียมเอกสารที่ต้องนำเสนอในวันพรุ่งนี้เสร็จแล้วก็รีบเข้านอน
แต่ยังไม่ทันที่หล่อนจะก้าวเข้าลิฟต์ เสียงเรียกเหมือนคุ้นหูจากใครบางคนก็ดังขึ้น
พัส เนย์ญาร้องเรียกเขาด้วยความตกใจระคนดีใจ ไม่คิดว่าจะได้เจอกับเขาที่นี้
ญาได้กุหลาบหรือยัง เขาเอ่ยถามเมื่อหล่อนขยับตัวหลบให้คนอื่นเข้าไปในลิฟต์
ที่แท้
เจ้าของกุหลาบดอกนั้น ก็เป็นเขา
. เนย์ญาไม่ได้ตอบเขา เพียงแค่ส่งยิ้มให้แทน
บังเอิญวันนี้ผมมีนัดกับลูกค้าที่นี่ และบังเอิญเห็นหลังญาไว ๆ ทีแรกไม่คิดว่าจะใช่ ก็เลยไปถามพนักงาน ถึงรู้ว่าญามาพักที่นี่ เขาบอกระหว่างพาหล่อนมานั่งที่ล็อบบี้ของโรงแรม
อ้อ
ค่ะ
ดูเหมือนเนย์ญาจะพึมพำบอกเขาไปอย่างนั้น
ญามาเชียงใหม่เรื่องงานเหรอฮะ
ทำไม
นอกจากเรื่องงานแล้ว ญาจะมาที่นี่ไม่ได้เหรอ หล่อนอยากถามอย่างนี้จริง ๆ แต่ไม่ได้ถาม ค่ะ
เป็นไงฮะเชียงใหม่ ได้ไปไหนมาบ้างหรือยังครับ เขาถามขณะที่หล่อนมองชายหนุ่มตรงหน้า
ญา เขาเรียกหล่อนเบา ๆ เมื่อเห็นหล่อนนิ่งนาน
คะ เนย์ญากะพริบตาถี่ ๆ สะดุ้งตื่นจากภวังค์ อะไรค่ะ
ผมถามว่าไปไหนบ้างหรือยัง
เนย์ญาบอกเขาว่า หล่อนไปไหนมาบ้าง ไปกิน ไปเดินเล่นไหนมา
เขานั่งฟังอย่างสนใจ
คืนนี้ญาว่างไหม
เนย์ญาเลิกคิ้วถาม ทำไมค่ะ
ผมอยากจะพาญาไปดูอะไรหน่อย
อะไรค่ะ เขาส่ายหน้า ไม่บอก มีลับลมคมในด้วย เอาไว้พรุ่งนี้ได้ไหมคะ เดี๋ยวญาจะต้องขึ้นไปเตรียมเอกสาร
เขารับคำ ฮะ
เนย์ญายกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลา
ยังไม่สองทุ่มดี ยังพอมีเวลานั่งคุยกับเขาไปเรื่อย ๆ
ก็ดีเหมือนกัน หล่อนไม่ได้คุยกับเขานาน ๆ มาหลายเดือนแล้ว
แต่เอ๊ะ
พรุ่งนี้เขาจะพาหล่อนไปดูอะไรหนอ
คงจะหนีไม่พ้นพวกต้นไม้ดอกไม้ล่ะมั้ง
บอกไม่ได้หรือค่ะ ว่าจะพาญาไปดูอะไร หล่อนอดถามไม่ได้
เขาส่ายหน้ายืนยันคำตอบเดิม ไว้พรุ่งนี้ก่อน ผมถึงจะบอก
ความใคร่อยากรู้พลุ่งพล่านขึ้นในใจ
จนอยากให้ถึงวันพรุ่งนี้ไว ๆ เสียแล้ว เนย์ญาก็อยากรู้เหมือนกันว่าเขาจะพาหล่อนไปดูอะไรกัน ถึงบอกตอนนี้ไม่ได้
แล้วตกลงญาคิดได้หรือยังครับ ว่าจะปลูกต้นอะไร
แน่ะ
. เขายังจำสัญญาเก่า ๆ ได้
เนย์ญานึกว่าเขาจะลืมเลือนไปแล้วเสียอีก
ไว้พรุ่งนี้ก่อน ญาถึงจะบอก
เนย์ญาแกล้งบอกหน้าตาเฉย พลางให้เขาหัวเราะขึ้นเมื่อรู้ว่าเสียรู้หล่อนเสียแล้ว
*
จากคุณ :
ญะ-รินดา
- [
19 พ.ย. 51 23:02:30
]