ร้อยเหตุผล...
โถ แม่! ไม่ได้ตั้งใจจะเสียงดังจริงๆนะ แต่คำถามของแม่ทำเอาจี๊ด ปวดใจ
สมัยนี้เขาไม่ถามกันแล้วว่าเมื่อไหร่จะแต่งงาน เชยอ่ะ เทรนด์ใหม่สมัยนี้ มั่นค่ะ สาวมั่น ผู้หญิงสมัยนี้เขานิยมชีวิตโสดค่ะ บางคนแต่งแล้วยังอยากโสดเลย เปลี่ยนมาใช้นางสาวกันให้พรึบ
ทั้งที่สาวจริง สาวไม่จริงนั่นเชียว
ถ้าแก่ตัวไปใครจะดูแล ลูกผัวก็ไม่มี พ่อแม่ก็แก่เฒ่าอยู่กับเจ้าตลอดไปไม่ได้หรอกนะ แม่ว่าพ่อโตลูกชายคุณพงษ์เขาก็ดีนะ พ่อแม่เขาก็เป็นเพื่อนกับแม่ ยังไงซะถ้าแกเป็นสะใภ้เขา ถึงแกจะไม่ค่อยเอาไหนเรื่องการบ้านการเรือนแต่เขาก็เอ็นดูแกอยู่ คงไม่ถือสาอะไร แต่งๆกับพ่อโตเถอะนะแม่จะได้หมดห่วง คุณนายยังมีความพยายาม
เฮ้อ..ฉันถอนหายใจยาว ทำหน้าเซ็งเป็ด
ไม่ต้องยกเหตุผลเรื่องสุขภาพมาหรอกแม่ หลานสามสี่คนที่ลงทุนเลี้ยงมันอยู่ คงจะมีสักคนที่ชำเลืองตามามองป้ามันมั่งหรอก ถ้ามันไม่ดูก็พอจะมีเงินเก็บไว้จ้างคนดูแลอยู่หรอก แล้วเรื่องมีลูกมีสามีดูแลน่ะ คุณนายแม่ลองมองดูรอบๆตัวตอนนี้สิ ลูกสาวลูกชายของคุณนายสองคนนั่นมาดูแลคุณนายซะที่ไหน เขาก็ดูแลครอบครัวเขา มีแต่หนูนี่สาวโสดแสนสวยที่คอยดูแล ถ้าหนูบ้าจี้แต่งงานไป ถามจริงใครจะอยู่ดูแลคุณนายกับคุณพ่อ ใครจะขับรถพาไปนั่นไปนี่ แล้วอีกอย่างอีตาคุณโตเนี่ย เกย์รึเปล่าแม่อยู่มาป่านนี้ยังไม่แต่ง
อันที่จริงฉันก็รู้อยู่เต็มอกนั่นแหละว่าอีตาพ่อโตเนี่ยออกจะแมนเกินร้อย
ไม่ใช่ไม่เคยเจอกัน ปีใหม่ปีที่แล้วก็เจอ ประมาณฉันเข้าบ้านอีตาพี่โตเดินออกบ้านทันได้รับไหว้จากฉันพอดี ตอนที่ฉันพาแม่ไปหาเพื่อน และอีกครั้งตอนที่พ่อโตขับรถพาแม่มาที่บ้านของฉัน สวนทางกันฉิวเฉียดเขามา ฉันออกทันได้ยกมือไหว้และรับไหว้
จบประโยคยาวเหยียดก็กัดแอปเปิ้ลดังกร๊วบ คุณนายแม่คงหมั่นไส้เลยฟาดเข้าให้หนึ่งเพี๊ยะ
ดูไปว่าเขา ยังกะตัวเองไม่แปลกอยู่เป็นโสดมาจนป่านนี้ ฉันหาคู่ให้ดีๆไม่ชอบ สงสารหรอกนะเห็นขึ้นคานมานาน อุตส่าห์เป็นห่วงกลัวว่าพอฉันตายแล้วแกจะไม่มีคนดูแล ไม่มีใครเป็นเพื่อนกลัวแกเหงา ว่าแล้วคุณนายก็สะบัดค้อนให้หนึ่งยก แปลว่า งอน
ฉันเข้าไปนั่งใกล้ๆกอดแม่ไว้เอียงหน้าไปซบไหล่ ก่อนเอียงหน้ามองแกล้งทำคิ้วย่นและพูดว่า
แม่อ้วนขึ้นหรือเปล่านี่ กอดไม่หุ้มอ่ะ
เลยโดนอีกหนึ่งเพี๊ยะ เจ็บเหมือนกันนะนี่
แม่... หนูรู้ว่าแม่รักแม่ห่วง นั่นมันอนาคตอันไกล อย่ากังวลกับสิ่งที่ยังไม่เกิด แล้วแม่คิดจริงๆอ่ะเรื่องหนูจะเหงาน่ะ ดูลูกลิงสี่ตัวหลานๆของแม่สิ มันคงไม่ปล่อยให้ป้ามันเหงาหรอกมั้ง
แม่เผลอพยักหน้าเห็นด้วยและยิ้ม ฉันเลยพูดต่อว่า
แม่ไม่ต้องอายหรอกนะที่ลูกสาวอีกคนยังไม่แต่งานหรืออาจไม่ได้แต่งงาน ลูกแม่ไม่ใช่คนขี้ริ้วขี้เหร่อะไรและไม่ได้ดูแลตัวเองไม่ได้ ที่อยู่มาทุกวันนี้ไม่ใช่ลูกของแม่ไม่ดีแต่เป็นเพราะผู้ชายที่เหมาะสมยังไม่มีมาเกิด และหนูก็ไม่ได้ผิดปกติทางเพศด้วย ขอบอก ถ้าใครมันถามนักก็ตอบเขาไปเถอะว่ายัยลูกคนนี้มันรักอิสระอย่างแรง นะแม่นะ
เหตุผลของคนไม่มีแฟน แถจนสีข้างแดงเถือกเลยฉัน
ฉันคลายอ้อมกอดแม่ออก และหอมแก้มคุณนายหนึ่งฟอดใหญ่
รักนะจุ๊บๆ ไปก่อนนะแม่นัดเพื่อนเก่าไว้ ไปนะคะ
...
ร้านอุ่นอิ่ม
นัดเจอกันที่นี่
เพื่อนเก่าที่แสนจะสนิท เขาว่ามาประชุมก่อนกลับเลยอยากเจอ
ตอนที่ฉันมาถึงเขาบอกมารอที่ร้านแล้ว
หวัดดี หายเงียบไปนานนะเธอ เจ้าของร้านแสนสวยยิ้มให้ตั้งแต่เปิดประตูเข้าไป
ฮื่อ สละชีพเพื่อครอบครัวเลยไม่ได้แวะมา นัดเพื่อนที่นี่ เจอแระ ว่าพลางเดินไปโต๊ะไม้มุมร้านที่เขานั่งอยู่ ผู้ชายตาหยีหลังแว่นสายตา คนที่คุ้นหน้าคุ้นใจ ระยะเวลาที่ห่างไกลไม่สามารถทำลายความรู้สึก คุ้นเคย ของฉันได้เลย
แนะนำให้สองคนรู้จักกัน พูดคุยกันอีกหลายประโยคก่อนสั่งกาแฟและเค้กคนละชิ้น
คิดถึงจัง คนตรงหน้าพูดขึ้นหลังเจ้าของร้านสาวเดินไป ฉันยิ้มขณะมองหน้าเขา
ขอบคุณที่คิดถึงกัน นี่ถ้าทำเสียงซึ้ง ทำตาเชื่อมอีกนิด ฉันจะขอให้เธอไปหย่ากับยัยนิดแล้วมาแต่งกับฉันแทน
เสียงหัวเราะเบาๆจากคนตาหยี
เพื่อนเก่าคนนี้ คบกันมานาน ตั้งแต่เมื่อไหร่นะ มหาวิทยาลัย แม้กระทั่งจบก็ยังติดต่อไปมาหาสู่ ก็คนบ้านเดียวกันจะหนีไปไหนพ้น ความสนิทสนม ความผูกพัน ความสัมพันธ์ของฉันกับเขามันแสนจะอบอุ่น ใกล้ชิด ทำงานคนละที่ แต่เที่ยงถึงเย็นถึง แล้วอยู่มาวันหนึ่ง พ่อคนดีก็มาบอกว่าแอบปิ๊งเพื่อนที่ทำงานเดียวกับฉันและขอให้ฉันช่วยจีบที เจ็บจนจุก และจากการช่วยเหลือของฉันทำให้คนทั้งคู่ลงเอยกันด้วยดี และหอบผ้าหอบผ่อนพากันย้ายหนีไกลจากฉัน
เขามองหน้า เอนตัวพิงพนักข้างหลัง ฉันแปลความหมายที่อยู่หลังกรอบแว่นตานั้นไม่ออก
ทำไมยังไม่แต่งงานไปซะที
หลังการสนทนาด้วยเรื่องสัพเพเหระ จู่ๆก็มีเรื่องวกมาหาตัว
ฉันถอนหายใจรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวัน
ทำไมวันนี้ถึงมีคนห่วงใยสภานะภาพฉันนัก เขาทำหน้าสงสัยฉันเลยพูดต่อ
เมื่อเช้าก่อนออกมาคุณนายก็พูดเรื่องนี้ แล้วนี่อะไรเธอมาพูดอีก
ฉันเป็นห่วง อยู่คนเดียวมันเหงานะ ทำไมไม่มองหาใครสักคนที่เหมาะสม
แค่เหมาะสมเท่านั้นเหรอที่ต้องอยู่ร่วมกัน ไม่เอาล่ะ ฉันเป็นคนเห็นแก่ตัว ไร้น้ำใจ ขี้งก ไม่อยากแบ่งความรักให้ใคร ยังรักตัวเองมากอยู่ และฉันก็เป็นคนขี้เกียจมากๆด้วย
ยังไง
ก็ฉันขี้เกียจซักผ้าเพิ่มเป็นสองชุด ล้างถ้วยกาแฟเพิ่มเป็นสองใบ ล้างชามเพิ่มเป็นสองเท่า ทุกอย่างคูณสอง ไม่เอาหรอก
แค่นี้เหรอที่เธอกังวล
ผู้ชายบางคนยินดีจะทำสิ่งเล่านั้นที่เธอว่ามาได้นะ ฉันยังไม่เคยใช้คุณนิดทำอะไรให้เลย เคยดูแลตัวเองยังไงก็ยังงั้นแถมยังดูแลคุณนิดเพิ่มอีก
ก็..ผู้ชายอย่างนั้นแต่งงานไปแล้วนี่
ฉันว่าและมองสบตาหลังกรอบแว่นนั้น ก่อนเมินมองออกนอกร้าน
และถอนหายใจ ไม่ควรหลุดประโยคนั้นออกไปเลย ไม่ควรเลยจริงๆ
มือของฉันที่วางเคาะนิ้วบนโต๊ะเบาๆถูกเขากุมไว้ทั้งสองมือ
ขอโทษนะ คำพูดเบาๆนั้น กระแทกใจฉันอย่างหนัก
ฉันก้มหน้าซ่อนแววตาไว้ กลัวเหลือเกินว่าเขาจะมองเห็นสิ่งที่ซ่อนไว้
เป็นครู่ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาและยิ้มให้เขา
ขอโทษทำไม ไม่เป็นอะไรแล้ว จริงๆนะ เชื่อสิ
เพราะฉันหรือเปล่าที่ทำให้เธอไม่ยอมแต่งงาน
ไม่หรอกอย่าหลงตัวเองไปเลยย่ะ แล้วใครว่าไม่ยอมแต่ง ยังไม่เจอคนที่เหมาะสมต่างหาก
ฉันฝืนหัวเราะและดึงมือออก
แล้ว เธอเป็นไงบ้าง
ก็ดีนะ
แค่เนี่ย !
ก็
ชีวิตคู่ก็ต้องมีบ้างที่มีปัญหา แต่ส่วนใหญ่เราก็แก้ไขได้ด้วยการหันหน้าเข้าหากัน ถอยกันคนละก้าว ยึดหลักสมานฉันท์ เป็นไงทันสมัยมั้ย คุณนิดอาจจะขี้หึงนิดนึง ใจน้อยไปหน่อย และขี้งอนเล็กๆ แต่นั่นก็น่ารักดี
น้ำเสียงธรรมดาแต่แววตาที่ทอประกายเมื่อพูดถึงภรรยา ทำให้ฉันรู้สึกปวดแปลบในใจนิดๆ
คิดถึงแล้วใช่มั้ย งั้นก็กลับได้แล้วล่ะ กว่าจะเดินทางไปถึง เดี๋ยวจะมืดค่ำซะก่อน ฉันยิ้มล้อเขานิดๆ
...
เขากลับไปแล้ว แต่ฉันยังนั่งอยู่ที่เดิม
เคยอ่านเจอในเน็ต มีคนเขียนเกี่ยวกับความรักกับหนังสือ
เขาว่ากันว่า...อย่ารู้สึกเสียดายเวลา กับการอ่านหนังสือบางเล่มจนจบ แล้วพบว่าเป็นหนังสือที่ไม่ชอบ
เช่นเดียวกัน จงรู้สึกดี กับการใช้เวลากับใครสักคนหนึ่งอย่างเต็มที่ แม้ว่าวันหนึ่งจะรู้ว่า เขาคนนั้นไม่ใช่เลยสักนิด เพราะอย่างน้อย ต่อจากนี้ไป เราจะได้เลือกทางที่ถูกและคนที่ใช่สักที
เฮ้อ!ต้องอ่านหนังสืออีกกี่เล่ม และต้องเป็นหนังสือเล่มที่เท่าไหร่ให้เขาอ่าน
แล้ว เขา ที่ว่าน่ะใครนะ
ขอให้เธอเจอใครสักคนที่เข้าใจเธอ ฉันอยากให้เธอมีใครสักคนดูแล
เขาว่าก่อนจากไป
แล้วเธอจะมาเป็นเพื่อนเจ้าสาวมั้ยล่ะ ฉันว่ายิ้มๆ
ได้เลยจะแต่งสูทมายืนข้างเจ้าสาวทีเดียวเชียว เหมือนที่เธอแต่งสวยมายืนเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวคราวงานแต่งของฉันนั่นแหละ
ตอนนั้นไม่เจ็บเพียงแต่รู้สึกหนัก ตื้อๆ ความสัมพันธ์ของฉันกับเขามันแสนจะอบอุ่น ใกล้ชิด เพื่อนที่แสนดีเสมอต้นเสมอปลาย
เฮ้อ!เป็นฉันคนเดียวที่เผลอคิด เผลอรู้สึกอะไรๆที่มากกว่าเพื่อน
การที่ต้องเก็บอาการ ต้องทำตัวเหมือนเดิม เหมือนไม่มีอะไร มันเจ็บกว่าหลายเท่านัก
วันนี้ไม่กล้าบอกว่าไม่เจ็บ
บางทีบางครั้ง
เราก็ได้แต่นั่งมองความรักเดินจากไป
โดยที่ไม่อาจทำอะไรได้เลย
..
..
เสียงมือถือดังและสั่นเบาๆในกระเป๋า ไม่ต้องดูก็รู้ว่าใคร
คุณป้าขา คุณย่าถามว่าเมื่อไหร่จะกลับจะให้พาไปซื้อของ
กลับเดี๋ยวนี้ค่ะลูก ในบัดเดี๋ยวนี้เลย
ฉันยิ้มกับโทรศัพท์ เดินไปบอกลาเจ้าของร้านสาว ก่อนหมุนตัวกลับ และ
อุ๊ย!
โอ๊ะ! ขอโทษค่ะ
กลับหลังหันเร็วไปและไม่ทันระวังจึงชนเข้ากับหญิงสาวที่เดินเข้ามาเพื่อดูขนมเค้ก ทำให้เธอเซถอยหลังเล็กน้อยและชายหนุ่มที่เดินตามมาข้างหลังได้ยื่นมือมาจับที่ไหล่ประคองเธอไว้ได้ทัน ฉันส่งยิ้มแหยๆให้เธอก่อนมองเลยไปยังหนุ่มนั่น และยิ้มกว้างขึ้นเมื่อมองหน้าหนุ่มนั่นชัดๆ พ่อโต ของคุณนาย
ขอโทษจริงๆค่ะ ฉันเอ่ยขอโทษอีกครั้งพร้อมรอยยิ้มให้เธอและยกมือขึ้นไหว้ พ่อโต ไม่มีคำทักทาย ระหว่างฉันกับ"พ่อโต"มักจะมีความเงียบอยู่ตรงกลางเสมอ ไม่ได้อุปทานหรอก สายตาของพ่อโต บอกฉันว่าจำฉันได้แน่ แต่ไม่ยักมีรอยยิ้มตอบ พิลึก!
มีข่าว แล้วคุณนาย ฉันเดินยิ้มๆออกจากร้าน
ไม่รู้เป็นไงสิ อารมณ์ดีขึ้นมาทีเดียวเชียว
..
..
ปล. 1.เขียนจากใจเลยเรื่องนี้น่ะ
2.นับแล้วไม่ครบร้อยเหตุผลง่ะ รบกวนช่วยหาให้ครบทีค่ะ
แก้ไขเมื่อ 20 พ.ย. 51 15:33:31
จากคุณ :
สิงห์อมบ๊วย
- [
20 พ.ย. 51 12:59:22
]