Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    [นิยายแปล] จอมนางคู่บัลลังก์ บทที่ 13 เขียนโดย...เฟิงน่ง

    บทที่ 1 - 12  http://my.dek-d.com//story/view.php?id=423352


    บทที่ 13


    ดูเหมือนทุ่งหญ้าเขียวขจีจะไม่อาจกลายเป็นแดนถิ่นดอกท้อนอกโลกีย์(๑)สำหรับพิงถิงได้เช่นกัน

    สี่ยาม(๒) เงาร่างซึ่งยืนนิ่งเงียบงันตรงหน้าต่างแฝงความอ่อนล้าอย่างสุดจะเอ่ย

    สกุณาขับขานพฤกษชาติหอมรวยรินใต้แสงอาทิตย์ได้สาบสูญร่องรอยสิ้นในความมืดหม่นแห่งราตรีกาล เมื่อมองด้วยแสงสว่างจากเปลวเทียนที่วูบไหวไม่อยู่นิ่ง ดอกไม้ลำต้นที่สั่นไหววูบวาบยิ่งเหมือนกรงเล็บอันแหลมคมน่าสะพรึงกลัวกำลังออกเสาะหาเหยื่อ

    สามีของหยางเฟิ่งได้ออกเดินทัพไปแล้ว พิงถิงอยู่ในส่วนลึกของจวนขุนทัพ ก็ยังได้ยินเหล่าบ่าวทาสรับใช้พากันกระซิบกระซาบถึงท่าทางอันองอาจห้าวหาญของท่านขุนทัพยามจากไป ในเสียงกระซิบอันแสดงถึงความเคารพเทิดทูนและคาดหวังนี้ แฝงเร้นการคาดคะเนถึงผลลัพธ์ของการรบอย่างกระวนกระวายอยู่กี่ส่วนกันหนอ ?

    ...อย่าไปคิด !...

    หญิงสาวสั่นศีรษะ สายตาผละจากดอกไม้ลำต้นซึ่งมองเห็นรูปร่างไม่ชัดเจนด้วยความมืดเบนไปยังจันทร์กระจ่างกลางนภา แล้วพลันเหม่อลอยในทันที

    “เรามาสาบานต่อจันทรา...จะไม่ทรยศกันชั่วนิรันดร์”

    น้ำเสียงทุ้มต่ำ...คนผู้นั้น...ต่อจันทรา...ไม่ทรยศ...

    หัวใจเต้นกระหน่ำรัวแรงจนต้องรีบเอามือกุมอก กัดริมฝีปาก

    อย่าไปคิด...ใจกลับนึกเคืองแค้นอย่างอ่อนแอ...ตอนที่สาบานต่อจันทรานั้น...แท้จริงท่านลวงหลอกข้า...ข้าทรยศท่าน

    ขณะที่ลอบปวดแปลบอยู่ในใจ ที่ไกลตาได้ปรากฏแสงสว่างจุดหนึ่งไหววูบวาบ พิงถิงเพ่งตามองไป โคมแดงขนาดเล็กใบหนึ่งได้ตรงใกล้เข้ามา จวบจนอยู่ห่างจากนางเพียงไม่กี่สิบก้าวจึงค่อยเห็นชัดตาว่าผู้ที่มาคือใคร

    “ทำไมถึงยังไม่นอนอีกเล่า ?”

    หยางเฟิ่งนึกไม่ถึงว่าตรงหน้าต่างจะมีคนอยู่ จึงชะงักเท้าลงอย่างประหลาดใจ พูดยิ้มๆ

    “ข้าสิควรจะเป็นฝ่ายถาม ทำไมถึงยังไม่นอนอีกเล่า ? หรือเจ้าบ้านอย่างข้าต้อนรับขับสู้ไม่ดีพอ มีตรงไหนไม่ถูกใจเจ้าหรือเปล่า ?”

    พิงถิงเดินออกจากประตูห้อง ชำเลืองมองสาวใช้ที่ด้านหลังสหายรักซึ่งถือโคมเดินมาเป็นเพื่อนผู้เป็นนายสาว แล้วคลี่ยิ้มบางพลางจูงมือหยางเฟิ่งเข้ามาในห้อง

    “ไม่ได้คุยกันให้เต็มอิ่มมานานแล้ว คืนนี้แขกอย่างข้าจะขอรั้งเจ้าบ้านไว้ล่ะนะ”


    <>::<>::<>


    สองสาวนอนเบียดกันอยู่บนเตียงอย่างสนิทสนมเหมือนเช่นสมัยก่อน พิงถิงถามเบาๆ

    “ดึกป่านนี้แล้วยังจะจุดธูปบนบานอีกหรือ ?”

    “หลายวันที่เขาจากไป ข้านอนไม่หลับเลยสักคืน”

    หยางเฟิ่งดูเหนื่อยล้าไม่ใช่น้อย ถอนหายใจเบาๆ  เอนกายพิงหมอนนุ่ม ถูไถใบหน้าครึ่งดวงกับผ้าต่วนเนื้อลื่นของหมอน แล้วหันมามองพิงถิงอย่างขัดเขินน่าเอ็นดูราวกับเด็กหญิงตัวน้อย

    “เจ้าห้ามยิ้มเยาะข้านะ”

    พิงถิงอดใจไม่ไหวต้องอมยิ้มออกมาจริงๆ  เหลือบตามองเพื่อนรักโดยไม่เอ่ยอะไร

    หยางเฟิ่งเห็นนางอมยิ้ม ก็ยันตัวท่อนบนขึ้นมาหยิกเบาๆ

    “บอกแล้วไงว่าห้ามยิ้ม !”

    “การคิดถึงสามีไม่ใช่เรื่องที่ไม่อาจพบหน้าผู้คนสักหน่อย ข้ายิ้มนิดยิ้มหน่อยจะเป็นไรไป ? ได้ยินว่าก่อนจะออกเดินทัพ ท่านขุนทัพถูกฟูเหรินออดอ้อนหนักจนต้องสัญญาว่าจะเขียนจดหมายกลับมาหาที่บ้านทุกวันเลยเชียว มีเรื่องแบบนี้จริงหรือเปล่า ?”

    ใบหน้าขาวนวลของหยางเฟิ่งแดงก่ำในพริบตา

    “เจ้ายังจะยิ้มอีก ? ถ้ายังยิ้มอีก ข้าจะกลับห้องไปละ !”

    พิงถิงยังคงอมยิ้มอยู่ดังเดิม หยางเฟิ่งจนปัญญาจะจัดการ จึงได้แต่มองเพื่อนรักตาเขียว แล้วทิ้งตัวลงนอนอีกครั้ง

    เสียงหัวเราะสดใสระรื่นไหลแผ่วเบาอยู่ในห้อง เสนาะโสตดั่งพุน้ำไหลซอกซอนกลางคีรี

    ทั้งสองเหมือนหวนกลับไปสู่อดีต พากันหัวเราะออกมาอย่างเต็มที่ แต่แล้วหยางเฟิ่งกลับถอนหายใจ

    “ตั้งแต่เป็นฟูเหรินท่านขุนทัพ ข้าไม่เคยได้หัวเราะแบบนี้อีกเลย”

    ประโยคเดียวนี้ได้เก็บช่วงเวลาในอดีตอันปราศจากความทุกข์กังวลกลับเข้าสู่ถุงแห่งความทรงจำจนหมดสิ้น พิงถิงสลายรอยยิ้มโดยไม่รู้ตัว ก้มหน้าลงหุบปากนิ่ง

    หยางเฟิ่งลังเลอยู่ครู่ใหญ่ ค่อยเอ่ยถามออกมาเบาๆ

    “ออกรบครั้งนี้...เขาสองคนจะปะทะกันในสนามรบหรือไม่ ?”

    และแล้วประเด็นที่ไม่อยากเอ่ยถึงมากที่สุดก็มาเยือนจนได้...

    อากาศภายในห้องหนักอึ้งในบัดดล

    หยางเฟิ่งไม่ยอมเผชิญหน้าเพื่อนรัก พลิกกายหันหน้าเข้าหาผนัง ถามต่อว่า

    “หากเขาสองคนปะทะกัน ใครจะชนะ ?”

    “การศึกไม่แน่นอน แพ้ชนะต้องดูกาละฟ้า ชัยภูมิ มนุษย์ประสาน ข้า...ข้าไม่รู้”

    หยางเฟิ่งนิ่งเงียบงันไปชั่วครู่ ค่อยถามเสียงเข้มอีกครั้ง

    “หากไม่เอ่ยถึงกาละฟ้า ชัยภูมิ มนุษย์ประสาน มองกันแต่ความสามารถของจอมทัพ เจ๋ออิ่นกับฉูเป่ยเจี๋ย...ผู้ใดชนะ ?”

    พิงถิงส่ายหน้าเช่นเคย สายตาทอดมองไปยังกิ่งใบที่ส่ายไหวไปมานอกหน้าต่าง

    “เจ้านี่นะ......จะให้ข้าตอบอย่างไรเล่า ? ฉูเป่ยเจี๋ยเป็นยอดขุนพลของตงหลิน มีกลยุทธ์ในการรบทัพจับศึกเฉพาะตัวอยู่ ส่วนสามีเจ้าก็เป็นถึงยอดขุนพลของเป่ยม่อ แต่ข้ายังไม่เคยได้เห็นฝีมือของเขา แล้วจะให้คำตอบเจ้าได้อย่างไร ?”

    นางอยากจะโค้งริมฝีปากเป็นรอยยิ้มที่จะช่วยทำให้เพื่อนรักค่อยสบายใจขึ้น แต่พยายามจนสุดความสามารถแล้วก็ยังไม่อาจเค้นรอยยิ้มนั้นออกมาได้แม้แต่น้อย

    จันทราที่นอกหน้าต่าง ท่านไม่ควรจะใจดำเช่นนี้เลย ท่านเป็นพยานแก่คำหวานของคู่รัก และทอดมองหยาดโลหิตกระเซ็นซ่านในสนามรบอย่างเฉยเมย

    ไส้เทียนส่งเสียงดังเปรี๊ยะปร๊ะ พิงถิงหันศีรษะไปมองเทียน ทันใดนั้นสายลมได้โชยพัดเข้ามาทางหน้าต่างดั่งอาคันตุกะไม่ได้รับเชิญ

    เปลวเทียนสั่นไหวเบาบาง พลันสว่างวูบกว่าเดิมมาก ไหววาบอีกครั้ง แล้วดับลง

    ในความเงียบสงัดชั่วอึดใจ ราตรีกาลอันมืดมิดได้กดทับลงใส่หญิงสาวทั้งสองประหนึ่งผืนม่านอันหนักอึ้ง

    “พิงถิง......” หยางเฟิ่งกล่าวอย่างหม่นเศร้า “เจ้าไม่ยอมบอกมาตามความเป็นจริงสินะ ?”

    พิงถิงตกตะลึง เอามือยันขอบหมอนลุกขึ้นนั่ง ถามอย่างร้อนใจ

    “หยางเฟิ่ง ไยจึงพูดเช่นนี้เล่า ?”

    หยางเฟิ่งนอนหันหน้าเข้าด้านใน เอาแต่นิ่งเงียบงัน พิงถิงเห็นไหล่บอบบางของเพื่อนรักสั่นสะท้านราวกับกำลังฝืนข่มกลั้นเสียงสะอื้น ก็รีบพูดว่า

    “เจ้าอย่าร้องไห้สิ การศึกเป็นเรื่องใหญ่ สุดวิสัยที่พวกเราจะไปบังคับอะไรได้ สวรรค์ต้องคุ้มครองสามีของเจ้าให้กลับมาอย่างปลอดภัยแน่นอน หยางเฟิ่ง เจ้า......เจ้าบอกเองว่าพวกเรายุ่งอะไรไม่ได้ไม่ใช่หรือ ?”

    สองไหล่ของหยางเฟิ่งยิ่งสั่นสะท้านอย่างรุนแรง นางหนักแน่นเยือกเย็นเสมอมา ไม่เคยเลยที่จะเสียกิริยาเช่นนี้ พิงถิงอดร้อนใจไม่ได้ พยายามเอ่ยปลอบอย่างอ่อนโยน คุกเข่าลงที่ข้างกายเพื่อนรักหมายจะพลิกตัวนางให้หันมาเผชิญหน้ากับตน

    ฉับพลันนั้นหยางเฟิ่งได้ลุกพรวดขึ้นนั่งอย่างปุบปับ หันหน้ามามองพิงถิง สองแก้มเต็มไปด้วยคราบน้ำตา

    พิงถิงยังไม่ทันหายตกใจ เอ่ยเรียกเบาๆ

    “หยางเฟิ่ง ?”

    หยางเฟิ่งไม่ตอบ นางลงจากเตียงอย่างรวดเร็ว จากนั้นสองเข่าอ่อนยวบ คุกเข่าลงกราบเพื่อนรัก

    พิงถิงยิ่งตกตะลึงหนักกว่าเดิม กระโดดลงจากเตียงรั้งร่างเพื่อนสาวขึ้นมา ถามอย่างร้อนใจ

    “เจ้าทำแบบนี้หมายความว่าอย่างไร ?”

    หยางเฟิ่งกลับตั้งใจเด็ดขาดไม่ยอมลุกขึ้น นางขยุ้มแขนเสื้อเพื่อนรักทั้งคุกเข่า เงยหน้าขึ้นอย่างเด็ดเดี่ยว ถามเสียงเศร้าสร้อย

    “พิงถิง เจ้าไม่เข้าใจจริงๆ น่ะหรือ ?”

    พิงถิงยืนนิ่งงัน นัยน์ตาดำขลับจ้องมองเพื่อนรักแน่วนิ่ง

    “หากกระทั่งเสี่ยวจิ้งอานหวางยังไม่อาจต่อกรได้ละก็ เจ๋ออิ่นมีหรือจะรับมือฉูเป่ยเจี๋ยที่บุกมารุกรานทั้งเพลิงโทสะได้ ?”

    หยางเฟิ่งร่ำไห้อ้อนวอนทีละคำๆ  คว้ามือพิงถิงเอาไว้พูดทั้งน้ำตา

    “เจ้าสามารถทำให้ฉูเป่ยเจี๋ยสาบานว่าจะไม่รุกรานกุยเล่อเป็นเวลาห้าปีได้ แล้วมีหรือจะไม่สามารถทำให้ฉูเป่ยเจี๋ยถอนทัพออกไปจากเป่ยม่อ ?”

    “หยางเฟิ่ง ข้า......” พิงถิงก้าวถอยหลัง ทรุดนั่งลงบนเตียงอย่างหดหู่ เมินหน้าหนีไปอีกทาง “ข้าทำไม่ได้”

    นางไม่อาจเผชิญหน้าฉูเป่ยเจี๋ยได้ หยางเฟิ่งมีหรือจะเข้าใจความรู้สึกของนาง

    ผู้ชายคนนั้น...แม้จะไม่ได้อยู่ตรงหน้า...ก็ยังตามมาพัวพันนางในความฝันไม่ได้หยุดยั้ง...พรากหัวใจไปจากนางอยู่ทุกเวลานาที...ทำให้นางต้องหลั่งน้ำตาอย่างไม่ขาดสาย

    “พิงถิง ข้าขอร้องล่ะ !”

    แววตาขอร้องของเพื่อนรักทำให้พิงถิงหนาวเยือกไปทั้งตัว นางไม่อาจทนเห็นดวงตาซึ่งมักทอประกายอ่อนโยนฉลาดเฉลียวเป็นเนืองนิตย์คู่นี้ปรากฏประกายสิ้นหวังได้

    แต่พิงถิงยังคงส่ายศีรษะอยู่ดี

    “ไม่ได้ !”

    นัยน์ตาดำขลับสั่นระริกสองคู่เพ่งมองกันแน่วนิ่ง ลมหายใจชะงักงันโดยพลัน

    หยางเฟิ่งเหม่อมองสหายรักอยู่พักใหญ่ ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างหม่นเศร้า

    “ไม่โทษเจ้าหรอก พวกผู้ชาย......การศึกกิจแคว้นเป็นเรื่องใหญ่......ยังไงข้าก็ทำใจในเรื่องนี้สู้เจ้าไม่ได้” นางหัวเราะออกมาเบาๆ น้ำตาไหลพรากลงเป็นทาง สองมือกุมลงบนท้องน้อยอย่างอ่อนโยน

    พิงถิงเห็นสีหน้าของเพื่อนรักผิดปกติ หัวใจก็สะดุดวูบทันที เอ่ยถามอย่างตระหนก

    “หยางเฟิ่ง หรือว่าเจ้า......” สายตาตกลงมองท้องน้อยที่ยังไม่ปรากฏร่องรอยของเพื่อนรัก

    หยางเฟิ่งกัดฟันแน่น พยักหน้าเล็กน้อย

    พิงถิงถอนหายใจยาว เอนกายลงพิงพนักหัวเตียง

    สุดท้ายแล้วพวกนาง...นาง...กับหยางเฟิ่ง...ก็ไม่อาจวางตัวอยู่วงนอกจนได้


    <>::<>::<>

    จากคุณ : Linmou - [ 23 พ.ย. 51 08:05:34 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com