ความคิดเห็นที่ 1 อยากให้ช่วยเช็คเรื่องการใช้คำ/ภาษา ด้วยค่ะ จะทำให้งานเขียนน่าอ่านมากขึ้นนะคะ เช่น สามเจ็ด  ป่ะ  และอื่นๆอีกหลายคำ คำพูด น่าจะใส่ใน " .... "  จะทำให้อ่านง่ายค่ะ ดูเรื่องย่อหน้าด้วยนะคะ ต้องยอมรับว่าอ่านไม่จบค่ะ เพราะรูปแบบการเขียน แต่เท่าที่อ่านคร่าวๆ เรื่องราวน่าสนใจค่ะ  เป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : teansri - [ 2 ธ.ค. 51 04:37:43 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณ  คุณ teansri ค่ะ เผอิญเข้ามาจัดหน้าใหม่ ทราบค่ะว่ามันอ่านยาก เราเป็นมือใหม่ ยังจัดหน้าจอไม่ถูก  งงๆเหมือนกัน คำพูด น่าจะใส่ใน " .... "  จะทำให้อ่านง่ายค่ะ ใส่แล้วแต่พิมพ์โปรแกรมอื่นมาก๊อปใส่ เลยได้ภาษาต่างด้าว คำติชมจะไปแก้ไขค่ะ  ขอบคุณค่ะ จากคุณ : p-annipe - [ 2 ธ.ค. 51 05:01:58 ]

ความคิดเห็นที่ 3 น่าสนใจนะนี่!! จัดรูปแบบการเขียนอีกหน่อยก็จะดีเยี่ยมเลยหละจ้าป้าไผ่ที่รัก กำลังคิดว่าถ้าอ่านจบครบแล้วจะขอเอาไปรวบรวมทำหนังสือ ชื่อหนังสืออะไรดีน๊า.. "หญิงไทย(ชรา)..ในผับที่เยอรมันนี" ล้อเล่นนะจ๊ะ..แต่น่าสนใจจริงๆ รีบๆ มาเขียนต่อเลย รออยู่ จากคุณ : หมื่นพันแสนล้าน - [ 2 ธ.ค. 51 05:09:09 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ต่อจากข้างบนค่ัะ   เข้ามาเพิ่มเติมว่า  ตามไปอ่านที่ คห 6 ค่ะ ที่เข้ามาช่วยจัดหน้าให้ใหม่ อ่านแล้วไม่ลายตาดีค่ะ         ครอบครัวเราโชคดีที่ไม่มีใครติดหรือเล่นการพนัน  เพราะตอนเราเล็กๆ พ่อจะบอกพวกลูกๆเสมอ ตอนกินข้าวเย็นในทุกวันหวยออกว่า   "คอยดูไอ้อู๊ดนะ (ลูกพี่ลูกน้องเราและอยู่บ้านข้างๆกัน ) ตอนนี้มันเล่นหวย เดี๋ยวพอมันโตกว่านี้ มันจะเล่นการพนันทุกอย่าง  นี้ขนาดเพิ่ง 15 ปี ยังเล่น ครั้งละเป็นพัน "   " แต่เมื่อเดือนที่แล้ว พี่แกถูกหวยได้มาเกือบหมื่นนะพ่อ "   เราแย้งพ่อเสมอเผื่อแกลืมว่าพี่อู๊ด  แกก็เคยถูกหวย   " ป๊าดโธ่  แล้วรู้กันมั่งรึเปล่าว่า กว่ามันจะถูก  มันโดนกินมากี่งวดต่อกี่งวด หมดไปเท่าไร  มันเคยมาบอกไหม และถ้ามันเอาเงินที่มันเล่นหวยทุกงวด มาเก็บไว้น่ะ ไม่เกินปีมันก็ได้เงินหมื่น เหมือนที่มันถูกน่ะแหละ   ดูซิพอมัน ถูกหวยที   โน่นไปเที่ยวกินเหล้า เลี้ยงเพื่อน  ไอ้ ???? (ภาษาพ่อขุนของ พ่อไม่สามรถเขียนออกอากาศได้)  แทนที่จะเก็บตังค์ หรือมาเลี้ยงแม่มัน "  เรื่องนี้เป็นเรื่องฮิตที่ครอบครัวเราจะหยิบมาถกกันประจำ พ่อเราไม่เพียงแต่ บอกเตือนพวกลูกๆ  แต่พ่อยังเป็นตัวอย่างให้ลูกเห็น โดยไม่เล่นการพนัน ทุกชนิด  ยกเว้นซื้อล๊อตเตอรี่ ซึ่งก็นานๆครั้ง (เผื่อฟลุ้ก แกบอกยังงั้น) ครอบครัวเราเชื่อพ่อหมดทุกคน เพราะเห็นตัวอย่างจากข้างๆบ้าน  ยกเว้น คนเดียวที่ไม่เชื่อ คือ แม่ เพราะแกแอบไปเล่นหวยใต้ดินเนืองๆ โดยให้ เหตุผลว่า  "ฉันเล่นไม่เยอะ ครั้งละ ยี่สิบ สามสิบ"   พอพ่อบ่นมากๆ แม่ ก็จะพูดว่า  " ถ้าฉันถูกน่ะ จะไม่แบ่งให้เลยสักบาท " แล้วพ่อจะเงียบ แม่ก็ คิดว่าแกมีไม้เด็ดมาขู่ พ่อให้เงียบได้ แต่พ่อแอบพูดลับหลังกับพวกลูกๆ เสมอว่า  "ยังงี้แหล่ะ  ไม้แก่ดัดยาก ปล่อยแกไป ชาตินี้จะถูกสักงวดรึเปล่า ก็ไม่รู้ "  พวกเราขำก๊าก       แต่มันคือความจริงที่ว่า การพนันติดแล้ว เลิกยากจริงๆ   เรามีประสบการณ์เกี่ยวกับเล่นการพนันคือ สมัยเรียนรามอย่างที่บอกว่า ลำบากเพราะทางบ้าน ให้งบสนับสนุนน้อย เพื่อนเลยชวนหารายได้พิเศษ มีพี่ที่มานั่งกลุ่มเรียนด้วยกัน แกชอบเล่นไพ่  เล่นครั้งก็สามสี่วันถึงจะหยุด ทีนี้พอเล่นนานๆก็ต้องมีเด็กส่งข้าวส่งน้ำ เพื่อนมันบอกว่า "งานดีนะ ถ้าพี่จู๋ (แกชื่อนี้จริงๆ) มือขึ้นนะ แกให้ทิปเยอะเลย " เราก็ไปทำ ขอบอกว่าไปทำได้ แค่ครั้งเดียวก็มีเรื่อง หลังจากเราทำไปหนึ่งวันเต็ม เพื่อนมาเปลี่ยนกะได้ สองชั่วโมง ตำรวจมาคะ (ห้องข้างๆรำคาญเลยเรียตำรวจ)  ถูกจับยกห้อง เพื่อนด้วย สมัยนั้นการสื่อสารไม่ดีเท่าสมัยนี้ ทำให้ทุกคนได้นอนคุกหนึ่งคืน แต่พี่แกยังอารมณ์ดีพูดว่า "ดีที่ตำรวจมาจับ  อดนอนมาหลายคืนแล้ว ได้นอนเต็มตื่นเสียที   " ตอนนี้อยากเล่าเรื่องการพนัน พรุ่งนี้มาต่อเรื่องของสาวๆ เยอรมันค่ะ ขอบคุณสำหรับติคำชมค่ะ แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 51 19:18:50 จากคุณ : p-annipe - [ 2 ธ.ค. 51 06:19:53 ]

ความคิดเห็นที่ 5 พี่ไผ่ เขียนดีนะคะพี่ เนื้อหาน่าติดตามเชียวคะ อ่านแล้วเหมือนไปนั่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย 555+ แต่อย่างที่ท่านอื่นบอก จัดหน้าใหม่อีกสักหน่อย จะเริ่ดมากมายเลยคะ หนูป๊อปจะตามอ่านนะคะพี่ หนุกๆๆๆๆ จากคุณ : แม่ขนตางอน - [ 2 ธ.ค. 51 09:34:57 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ทดสอบๆ  ด้วยว่ากระผม ตาลาย อะครับ ลองเคาะให้แล้วน่าจะอ่านง่ายขึ้น (หน้าในกระทู้ ระหว่างย่อหน้าเคาะเว้นสองบรรทัดจะอ่านง่ายครับ) ครอบครัวเราโชคดีที่ไม่มีใครติดหรือเล่นการพนัน  เพราะตอนเราเล็กๆ พ่อจะบอกพวกลูกๆ เสมอ ตอนกินข้าวเย็นในทุกวันหวยออกว่า   "คอยดูไอ้อู๊ดนะ (ลูกพี่ลูกน้องเราและอยู่บ้านข้างๆกัน ) ตอนนี้มันเล่นหวย เดี๋ยวพอมันโตกว่านี้ มันจะเล่นการพนันทุกอย่าง  นี้ขนาดเพิ่ง 15 ปี ยังเล่น ครั้งละเป็นพัน"   "แต่เมื่อเดือนที่แล้ว พี่แกถูกหวยได้มาเกือบหมื่นนะพ่อ"   เราแย้งพ่อเสมอเผื่อแกลืมว่าพี่อู๊ด  แกก็เคยถูกหวย   "ป๊าดโธ่  แล้วรู้กันมั่งรึเปล่าว่า กว่ามันจะถูก  มันโดนกินมากี่งวดต่อกี่งวด หมดไปเท่าไร  มันเคยมาบอกไหม และถ้ามันเอาเงินที่มันเล่นหวยทุกงวด มาเก็บไว้น่ะ ไม่เกินปีมันก็ได้เงินหมื่น เหมือนที่มันถูกน่ะแหละ   ดูซิพอมัน ถูกหวยที   โน่นไปเที่ยวกินเหล้า เลี้ยงเพื่อน  ไอ้ ???? (ภาษาพ่อขุนของ พ่อไม่สามรถเขียนออกอากาศได้)  แทนที่จะเก็บตังค์ หรือมาเลี้ยงแม่มัน" เรื่องนี้เป็นเรื่องฮิตที่ครอบครัวเราจะหยิบมาถกกันประจำ พ่อเราไม่เพียงแต่ บอกเตือนพวกลูกๆ  แต่พ่อยังเป็นตัวอย่างให้ลูกเห็น โดยไม่เล่นการพนัน ทุกชนิด  ยกเว้นซื้อล๊อตเตอรี่ ซึ่งก็นานๆ ครั้ง (เผื่อฟลุ้ก แกบอกยังงั้น) ครอบครัวเราเชื่อพ่อหมดทุกคน เพราะเห็นตัวอย่างจากข้างๆ บ้าน  ยกเว้น คนเดียวที่ไม่เชื่อ คือ แม่ เพราะแกแอบไปเล่นหวยใต้ดินเนืองๆ โดยให้ เหตุผลว่า "ฉันเล่นไม่เยอะ ครั้งละ ยี่สิบ สามสิบ"   พอพ่อบ่นมากๆ แม่ก็จะพูดว่า   "ถ้าฉันถูกน่ะ จะไม่แบ่งให้เลยสักบาท " แล้วพ่อจะเงียบ แม่ก็คิดว่าแกมีไม้เด็ดมาขู่ พ่อให้เงียบได้ แต่พ่อแอบพูดลับหลังกับพวกลูกๆ เสมอว่า   "ยังงี้แหละ  ไม้แก่ดัดยาก ปล่อยแกไป ชาตินี้จะถูกสักงวดรึเปล่าก็ไม่รู้ "   พวกเราขำก๊าก  แต่มันคือความจริงที่ว่า การพนันติดแล้ว เลิกยากจริงๆ เรามีประสบการณ์เกี่ยวกับเล่นการพนันคือ สมัยเรียนรามอย่างที่บอกว่า ลำบากเพราะทางบ้านให้งบสนับสนุนน้อย เพื่อนเลยชวนหารายได้พิเศษ มีพี่ที่มานั่งกลุ่มเรียนด้วยกัน แกชอบเล่นไพ่  เล่นครั้งก็สามสี่วันถึงจะหยุด ทีนี้พอเล่นนานๆก็ต้องมีเด็กส่งข้าวส่งน้ำ เพื่อนมันบอกว่า "งานดีนะ ถ้าพี่จู๋ (แกชื่อนี้จริงๆ) มือขึ้นนะ แกให้ทิปเยอะเลย " เราก็ไปทำ ขอบอกว่าไปทำได้แค่ครั้งเดียวก็มีเรื่อง หลังจากเราทำไปหนึ่งวันเต็ม เพื่อนมาเปลี่ยนกะได้สองชั่วโมง ตำรวจมาค่ะ (ห้องข้างๆรำคาญเลยเรียกตำรวจ)   ถูกจับยกห้อง เพื่อนด้วย สมัยนั้นการสื่อสารไม่ดีเท่าสมัยนี้ ทำให้ทุกคนได้นอนคุกหนึ่งคืน แต่พี่แกยังอารมณ์ดีพูดว่า "ดีที่ตำรวจมาจับ  อดนอนมาหลายคืนแล้ว ได้นอนเต็มตื่นเสียที" ------------------------------------------------------------ เล่าเรื่องได้สนุกดีครับ ยินดีที่ได้อ่านครับพ้ม แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 51 19:34:19 จากคุณ : SONG982 - [ 2 ธ.ค. 51 14:50:09 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณ คุณSONG982 ที่เข้ามาจัดหน้าในกระทู้ใหใ่หม่ ขอบคุณมากกมายเลยค่ะ จากคุณ : p-annipe - [ 2 ธ.ค. 51 19:21:15 ]

ความคิดเห็นที่ 8 มาอ่านค่ะ :) จากคุณ : scottie - [ 2 ธ.ค. 51 22:03:32 ]

ความคิดเห็นที่ 9 thanks for the messages , it is better ka I will read it when I have a bit more time naka จากคุณ : teansri - [ 3 ธ.ค. 51 01:36:53 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สาวเยอรมันต่อค่ะ พี่เล็กยังร้องเพลงบนเวทีอยู่ บรรยากาศเริ่มสนุก  มีคนออกไปเต้นมากขึ้น  ทั้งคนไทยและฝรั่ง   "พี่ไผ่ เซ็งรึเปล่า " บัวมาทักเมื่อเห็นเรานั่งมองโน่นนี่   " ไม่หรอก ทุกอย่างมันแปลกตาสำหรับคนบ้านนอกอย่างพี่ "   แล้วบัวก็อธิบายให้เราฟัง "ร้านนี้ เจ้าของใจดี โดยเฉพาะกับคนคนไทย แกจะดูแลดีมาก   อย่างการออกไปเต้นนี่ ถ้ามีฝรั่งมาทำชีกอกับผู้หญิงไทยที่เขาตั้งใจ มาเที่ยวอย่างเดียว พี่ติ๋ม(เจ้าของร้าน) แกจะเดินไปบอกว่า   คนนี้เขามาเที่ยวเฉยๆไม่ได้มาขายตัว  " "มีด้วยเหรอที่มาขายตัวน่ะ " (ทำเฉิ่มอีกแล้ว) "มีซิพี่ แล้วพี่ติ๋มก็รู้ด้วยว่าใคร เพราะมากันเป็นประจำทั้งคนซื้อและคนขาย " "ไผ่ ไม่ออกมาเต้นบ้างเหรอ "   กบตะโกนข้ามโต๊ะมาถาม " รอแป๊บ กบ  รอเพลงที่ชอบ  รอเครื่องร้อนก่อน " "ซาหวัดดีค้า"    "ซาหวัดดีคับ" เสียงหนุ่มสาวเยอรมันแท้ๆ สองคน ทักทายทุกคนในร้านเป็นภาษาไทย พร้อมยกมือไหว้อย่างไทยๆด้วย เราแทบรับไหว้และ  สวัสดีค่ะ  ตอบกลับแทบไม่ทัน   ก็เรามัวแต่งงน่ะซิ   แล้วฝรั่งคู่นี้ก็ทำเราทึ่งเข้าไปอีก  เพราะผู้ชายเขาร้องเพลงไทยได้ แกกำลังร้องเพลง หลวงพ่อคูณ ค่ะ และอีกสามเพลงจำชื่อเพลงไม่ได้ ถึงไม่ชัดแจ๋ว แต่เข้าใจได้ แล้วผู้หญิงก็เดินไปซื้อพวงมาลัยที่เคาเตอร์ มาคล้องให้ น่ารักดีค่ะ สามีภรรยาคู่นี้ สามีร้องเพลง ภรรยาซื้อพวงมาลัย  ดูเข้ากันสุดๆเลยค่ะ " พี่ไผ่  ฝรั่งผัวเมียคู่นี้ เป็นแขกประจำร้านนี้มาทุกอาทิตย์  รักเมืองไทยมาก ชอบกินอาหารไทย  ไปเที่ยวเมืองไทยทุกปีเลย เดี๋ยวสักพักจะมีผู้ชายมาอีกคน คนนี้ก็มาที่นี้ประจำเหมือนกัน   รักเมืองไทย  ชอบอาหารไทยเหมือนกัน" บัวบอกกับเรา พอได้ยินคำว่า รักเมืองไทย แล้วเออ  (ข้ามความคิดนี้ไปดีกว่า) บรรยากาศเริ่มมัว เมื่อมีผู้ชายฝรั่งกลุ่มใหม่ (ดูแล้วไม่ใช่คนเยอรมัน) เดินยิ้มหน้าบานเข้ามาในร้าน สักพัก ชายฝรั่ง(มีอายุ) คนหนึ่ง แกแต่งแบบคาบอยมาเลย เต้นโยกไปโยกมา แล้วเขยิบไปในวงสาวไทยที่ำกำลังเต้นกันสุดเหวี่ยง แล้วแกก็เริ่มเต้นเสียดสี และชี้มือมาทางสาวไทยคนโน่นทีคนนี้ที พี่ติ๋มมองดูอยู่สักพัก จึงเดินไปคุยกับฝรั่ง 3-4 คนที่ยืนดื่มเบียร์ที่โต๊ะกลม แล้วมาดึงมือคนที่กำลังเต้นเสียดสีกับสาวไทยที่หน้าเวที  มาคุย เห็นท่าทางขึ้งขังของพี่ติ๋มแล้วนึกถึงนักเลงคุมผับ แกห้าวกว่าพวกนั้นอีก เข้าใจค่ะเปิดร้านแบบนี้ ต้องกล้าชี้แจง จะได้ไม่ต้องเสียลูกค้าทั้งสองฝ่าย บรรยากาศค่อยดีขึ้น   การร้องเต้นสนุกตามประสาคนดื่มแอลกอฮอล์ "สวัสดีครับ"  (พูดชัดเจนดีมาก) เสียงหนุ่มเยอรมันแท้ๆ ทักทายพร้อมยกมือไหว้แบบไทยๆมาอีกหนึ่งคน หนุ่มนี้ก็ร้องเพลงไทยได้เหมือนหนุ่มคนแรก ที่แตกต่างคือ ชอบมาเต้น(อย่างสุภาพ)หน้าเวทีมาก บรรยากาศเริ่มมัวอีกครั้ง เมื่อผู้ชายฝรั่งคนเดิมมาอีกแล้ว แกคงเห็นผู้ชายคนอื่นมาเต้นหน้าเวทีได้  แกก็เต้นแถไปมาแบบเดิมอีก เด็กเสริฟ์เข้าไปห้าม 2-3 ครั้ง ก็ยังเหมือนเดิม มาแล้วค่ะ เจ๊ติ๋มของเรา   หญิงไทยตัวเล็กอวบท้วม แต่เสียงดัง พี่ติ๋มไล่ลูกค้า 4 คน ออกจากร้านค่ะ   "ไอ้พวก????(ไม่ขอเอ่ยเชื้อชาติค่ะ เดี๋ยวกระทบความสัมพันธ์ระหว่างเชื้อชาติ) พูดไม่รู้เรื่อง " เสียงพี่ติ๋มให้พรพวกนั้นแว่วๆ เมื่อแกเดินผ่านเข้าไปในครัว เป็นไงล่ะ ผู้หญิงไทยในเยอรมัน บรรยากาศดีกลับมาอีกครั้ง "ไผ่ โบว์รักสีดำ  ที่เธอขอไว้มาแล้ว  ออกมาเลยอย่านั่ง" กบถึงขั้นลงไม้ลงมือแซะเราออกจากเก้าอี้ ต้องออกไปเต้นแล้วค่ะ เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังต่อนะ  ไปเต้นก่อนน่ะ แก้ไขเมื่อ 03 ธ.ค. 51 06:15:01 แก้ไขเมื่อ 03 ธ.ค. 51 03:33:53 จากคุณ : p-annipe - [ 3 ธ.ค. 51 03:07:33 ]

ความคิดเห็นที่ 11 สนุกดีครับ อ่านแล้วครับ จากคุณ : garnet19th - [ 3 ธ.ค. 51 18:10:20 ]

ความคิดเห็นที่ 12 มาต่อน่ะคะ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านค่ะ "ไม่หนาวเหรอ กบ" ตอนนี้เราและกบ  ออกมายืนหน้าร้าน กบ ออกมาสูบบุหรี่     เราออกมาดูบรรยากาศข้างนอก ที่ถามเพราะ กบ นุ่งกระโปรงสั้น เสื้อแขนเกือบกุด "หนาวซิ แต่ขี้เกียจใส่แจ๊กเก็ต  " บรรยากาศรอบนอกเงียบสงัด เพราะดึกแล้ว ถนนโล่ง ทั้งๆที่เป็นคืนวันเสาร์ และอยู่ในตัวเมือง อาคารที่พักไฟปิดหมด มีร้านบาร์เหล้าเล็กๆ ที่อยู่ติดกันเท่านั้นที่ยังเปิดไฟอยู่ มองไปข้างนอกจึงไม่เห็นอะไรที่น่าสนใจ แต่ถ้ามองเข้ามาในร้านนี้ จะมองเห็นสาวๆเต้นโยกย้ายไปมา ท่ามกลางแสงไฟสลัว กับอีกหนึ่งสาวที่เต้นกระโดดไปมาที่หน้าร้าน "เต้นแล้วค่อยยังชั่ว" กบเธอหันมาบอกกับเรา เราได้แต่ยิ้มๆ    ก็น่ะ  อายุเท่ากันนี่นา เขายังมีไฟอยู่เลย   กบมาอยู่นี้ตั้งแต่อายุ 20 ปี เธอต้องทำงานหนักมาตลอด เพราะมีภาระให้รับผิดชอบเยอะ ทั้งพ่อแม่ พี่น้อง ที่เมืองไทย และลูกอีก 2 คน ที่นี่ คนหนึ่งป่วย มาตั้งแต่เล็กๆ ตอนนี้อายุ 13 ปี ก็ยังไม่แข็งแรง เธอกับพวก เพิ่งรวมตัวเที่ยวกันได้ไม่นาน แล้วเธอก็ติดใจ "มันก็ดีน่ะ ได้มาผ่อนคลายบ้าง ไม่ต้องคิดมากดี" เธอบอกเราอย่างนี้ เมื่อพูดถึงลูกสาว  เราไม่รู้รายละเอียดทั้งหมด แต่เราเข้าใจ คนเรายามทุกข์ ย่อมหาที่พึ่ง  หาทางออกเพื่อให้พ้นทุกข์   และการหาทางออกของแต่ละคนก็แตกต่างกันไป เราไม่เคยกินเหล้าเพราะทุกข์ใจ เพราะยามทุกข์เราขาดสติอยู่แล้ว พอไปกินเหล้า มันทำให้เราขาดสติมากขึ้น เพราะมันมีตัวอย่างให้เห็นค่ะ สมัยเรียนรามปีหนึ่ง  เราเห็นรุ่นพี่ผู้หญิงคนหนึ่งที่พักอยู่หอพักเดียวกับเรา แกอกหัก แกก็ชวนพี่ๆในหอไปเที่ยวเทค เห็นพี่ที่หอบอก แกดื่มและเต้นไม่หยุด แล้วทุกคนก็หิ้วปีกแกกลับมาหอ พอมาถึงห้องทุกคนยังไม่ทันจะได้ออกจากห้อง ก็ได้ยินเสียง โอ๊กกกก แกอ้วกค่ะ  เลอะเสื้อผ้าและพื้นห้องไปหมด แล้วเราก็เห็นพี่ๆ ช่วยกันจับแก แก้ผ้า (ไม่ได้ทำอนาจารน่ะ) ลากเข้าห้องน้ำ ขนาดเอาน้ำราดหัว  แกยังไม่ตื่นเลย  เมาหนักจริงๆ แล้วก็ลากแกมาโยนใส่เตียง จับใส่ชุดนอน แกก็ยังโวยวาย ขัดขืน เป็นบางครั้ง ถ้าเป็นสมัยนี้คงมีเพื่อนแกล้งถ่ายคลิป แล้วคงได้ดังทางอินเตอร์เน็ตแน่ๆ เราเห็นสภาพแบบนั้น  แล้วรู้สึกหดหู่และปลง  อย่างบอกไม่ถูก รู้แต่ว่า ขอบคุณพี่คนนั้น  ที่แกทำตัวอย่างให้เราเห็น เพราะเราบอกกับตัวเองทันทีเลยว่า ถ้าริจะดื่มเหล้า  ฉันจะไม่ดื่มให้เมาจนหมด สภาพแบบนั้น ยังมีต่อค่ะ จากคุณ : p-annipe - [ 3 ธ.ค. 51 21:08:13 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อ่านง่ายขึ้นเยอะเลยเนอะ (ชักจะเริ่มไม่ง่าย.......  เพราะกระทู้เริ่มยาว) สู้ๆ  ครับ จากคุณ : SONG982 - [ 4 ธ.ค. 51 00:32:34 ]

ความคิดเห็นที่ 14 มาแปะไว้ก่อนนะจ๊ะ ป้าไผ่ จากคุณ : ลูกไหม - [ 4 ธ.ค. 51 09:27:57 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อาจจะเข้ามาอ่านช้าหน่อยนะจ๊ะ มาช้า..แต่มาแน่ๆ จ้า ปล. จากคุณ : หมื่นพันแสนล้าน - [ วันพ่อแห่งชาติ 07:21:27 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ต่อค่ะ   เริ่มดึกเริ่มคึกคัก มีฝรั่งวัยรุ่นๆกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาในร้าน "ไผ่ไปไหน" "ไปห้องน้ำ " กบต้องเขยิบเก้าอี้ให้เรา เลยไปด้วยกัน "ไปด้วย"   ที่หน้าห้องน้ำเราเห็น บัวและสุภา ยืนรออยู่ก่อนแล้ว ขณะรอทั้งสามสาว ก็ทาลิป ตบแป้งเพิ่ม "พี่ไผ่ไม่แต่งหน้าเหรอ" บัวหันมาถามเรา "แต่งซิ "  เราบอกเสียงสูง  "ก่อนออกจากบ้านแต่งมาแล้ว" "แต่งยังไง ไม่เห็นติดหน้าเลย" "ก็เวลาผ่านไปตั้งกี่ชม  แล้วปากก็กินอะไรต่ออะไรไปตั้งหลายอย่าง จะให้มันคงสภาพเดิมคงไม่ได้ " สุภาหันมามองหน้าเรา   "พี่ ดูแล้วไม่น่าเชื่อว่า สี่สิบแล้ว  " "ขอบใจจ๊ะ เรื่องหน้านี่ มันเจ้าปัญหาจริงๆ หน้าแบบนี้ ตอนอยู่เมืองไทย ใครเห็นแทบจะเรียกป้า พี่จะเล่าอะไรให้ฟัง  จำได้ว่า ตอนมาอยู่นี่ใหม่ๆ ไปเรียนภาษา แล้วมีสระว่ายน้ำใกล้กับที่เรียน เพื่อนๆที่เรียนบอกว่า สวยและตอนกลางวันคนไม่เยอะ น่าว่ายน้ำมาก พอเลิกเรียนก็เลยอยากไปบ้าง  นัดกับเพื่อนที่เรียนอย่างดี พอถึงวัน เธอไม่มาเรียน  พี่ก็เอาชุดว่ายน้ำมาแล้ว เอ้า ไปคนเดียวก็ได้ ไม่อยากให้ตัวเองผิดหวัง พอไปถึงก็อย่างที่เพื่อนบอกเลย  มีสระเล็ก ใหญ่  3 สระ ขณะที่เริงร่าอยู่คนเดียว ก็สังเกตุว่า มีคนคอยจ้องมอง เราย้ายสระ  สักพักย้ายตามมา   คิดมากน่า เขาคงอยากเปลี่ยนที่ว่ายเหมือนเราล่ะมั่ง  พี่บอกตัวเอง แต่มันไม่เป็นอย่างนั้น เขายังตามมา  ส่งยิ้มให้  ชายหนุ่มนัยต์ตาสีฟ้า ผมหยิก ร่างสูงใหญ่  ยังดูวัยรุ่นอยู่เลย หน้าตาเหมือนดารา แอนโทนี่โอ  สเป็กพี่เลย" ถึงตอนนี้ เรียกเสียงกรี๊ดกราด  จากสาวๆ เราเลยหยุด "เล่าต่อพี่ไผ่  แล้วไงเล่าต่อเร็วๆ  " เสียงสาวๆ รีบเร่ง "เดี๋ยว ไปเข้าห้องน้ำก่อน  " เดี๋ยวมาน่ะ จากคุณ : p-annipe - [ 6 ธ.ค. 51 06:21:08 ]

ความคิดเห็นที่ 17 โห.. พี่ไผ่ทิ้งน้องอารมณ์ค้างอะคะ มาต่อเร็วๆเลยคะ ไม่งั้นหนูป๊อปงอลลลลล สนุกดีคะพี่ อ่านง่ายขึ้นแล้ว แต่ขอแบบนี้ได้มั๊ยคะ -------------------------------------------------- เราได้แต่ยิ้มๆ    ก็น่ะ... อายุเท่ากันนี่นา แต่เขายังมีไฟอยู่เลย   กบมาอยู่นี้ตั้งแต่อายุ 20 ปี เธอต้องทำงานหนักมาตลอดเพราะมีภาระให้รับผิดชอบเยอะ ทั้งพ่อแม่ พี่น้อง ที่เมืองไทยและลูกอีก 2 คน ที่นี่ รออ่านต่อคะพี่ไผ่  จุ๊บๆๆ จากคุณ : แม่ขนตางอน - [ 7 ธ.ค. 51 21:15:32 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อารมณ์ค้างตามยัยพี่ป๊อป จากคุณ : หมื่นพันแสนล้าน - [ 7 ธ.ค. 51 23:27:35 ]

ความคิดเห็นที่ 19 สองสาวรอแป๊ป กำลังพิมพ์อยู่ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ จากคุณ : p-annipe - [ 8 ธ.ค. 51 03:15:20 ]

ความคิดเห็นที่ 20 http://www.pantip.com/cafe/siam/topic/F7297538/F7297538.html#4 เอามาแปะห้องนี้ได้ไหมนะ จากคุณ : หมื่นพันแสนล้าน - [ 8 ธ.ค. 51 04:03:39 ]

ความคิดเห็นที่ 21 มาต่อน่ะ แล้วชายในสเปก  เดินมาหาพี่ ทักทาย  แล้วบอกชื่อของเขา พี่ต้องบอกชื่อเรากลับตามมรรยาท   แล้วเขาก็ขอเบอร์โทรศัพท์ สันชาตญาน แม่ปลาช่อนอย่างพี่รู้เลยว่าต้องทำอย่างไร พี่ยิ้มหวานที่สุดเท่าที่ทำได้     แล้วรีบถามกลับทันที "คุณอายุเท่าไร" "ฉันอายุ  25  ปี   "   แล้วยิ้มอย่างเท่ห์  โอ้ ช่างมีเสน่ห์จริงๆ "ฉันจำเบอร์โทรไม่ได้ ครั้งหน้าเจอกัน ฉันจะเขียนให้น่ะ ตอนนี้หมดเวลาว่ายน้ำแล้ว  ฉันรีบ เดี๋ยวโดนปรับ  ไปนะ" แล้วพี่ก็เดินจากมา ทิ้งให้ชายในฝันพี่ยืนงงๆ ตรงนั้น" "ทำไมพี่ไผ่ไม่ให้เบอร์เขาไปล่ะ" สุภาถามเรา "สุภาเอ๋ย เขาอายุ  25 ปี แต่พี่น่ะ  36 ปีแล้ว ถึงพี่ไม่ได้แต่งงานพี่ก็ไม่ให้  ไม่อยาก ได้เด็กมาคล้องคอ   ไม่ไหว  ถ้าคิดจะจริงจังน่ะ คบกันไม่เกิน สิบปี ไปไหนด้วยกัน คนอื่นคงคิดว่า  พี่พาลูกมาด้วยน่ะซิ" สาวๆหัวเราะ "ถ้าเป็นหนูๆจะเก็บไว้เป็นกิ๊ก" สุภาพูด   และเป็นความจริงที่ว่า เธอเก็บกิ๊ก สุภา อายุ 39 ปี มีสถานะเป็นยายคนแล้ว เพราะลูกสาวแต่งงานมีลูกแล้ว ชีวิตที่นี่  ไม่มีลูกและสามีสุภาอายุมากแล้ว  และสุขภาพไม่แข็งแรง มีคนแนะนำให้สุภา หาคนใหม่ไว้ เผื่อชีวิตมีอะไรผิดพลาด จะได้ไม่เคว้ง และคืนนี้เธอพากิ๊กมาด้วย  ทุกคนในกลุ่มรู้จักกิ๊กของสุภาดี ตอนนี้ เรามานั่งกับพี่เล็กที่หยุดร้องเพลงแล้ว  พี่เล็กชอบร้องเพลง และร้องได้ไพเราะด้วย   เพราะเคยเป็นนักร้องเก่ามาก่อน ตอนนี้แกนั่งดื่มโค้กอย่างเดียวอยู่  แกเป็นคนเดียวในนี้ ที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ แต่พี่เล็กมาทุกครั้ง ที่มีการรวมกลุ่มเที่ยว  ชีวิตพี่เล็กแกผ่านอะไรมาเยอะทั้งที่เมืองไทย และเยอรมัน  พี่เล็กมีลูก สาม คน สองคน  กับสามีคนไทย หนึ่งคนกับสามีเยอรมัน ตอนนี้พี่เล็กมีปัญหากับสามี  แต่แกบอกว่า  เดี๋ยวมันก็ผ่านไปอีกวันแล้ว อย่าคิดมาก แกเป็นคนเดียวที่ไม่เห็นด้วย ที่สุภามีกิ๊ก   พี่เล็กมีความคิดแบบโบราณอยู่บ้าง แต่ไม่ถึงกับรับไม่ได้ในเรื่องของสุภา "พี่ชอบที่นี้ ถ้าไป สตุ๊ดการ์ด คนเยอะเรื่องเยะ  คนไทยที่มาเที่ยวร้านนี้ นิสัยดีทุกคน เจอกันยกมือไห้วทักทายตลอด ถ้าที่โน้น  ไม่ทักพอว่า  เชิดหน้าทำหยิ่งอีกต่างหาก นี่ ดูคนนี้ซิ ท้องสามเดือนน่ะ " เรามองตามไปที่พี่เล็กชี้  เห็นสาวไทยคนนั้นบนเวที "ดีน่ะ ท้องก็ออกมาเที่ยวได้ " เราบอก รู้สึกทึ่ง "เขาเที่ยวตั้งแต่ลูกคนแรกแล้ว  ท้องนี้เป็นท้องที่สาม   " เรายิ่งทึ่งไปใหญ่    สงสัยอนาคตเด็กๆ  เป็นนักร้องแน่นอน "ไม่รู้จะตามมาทำไม " เสียงพี่เล็กบ่น  เมื่อเห็นน้อยเริ่มเมาแล้วไปกับทักฝรั่ง "เป็นยังนี้ทุกครั้ง  เมาแล้วชอบมั่ว  ชอบทำตัวแปลกๆ" น้อย เป็นคนเดียวที่พี่เล็กนั่งตำหนิตั้งแต่เดินเข้ามาในร้าน  แล้วน้อยก็มี พฤติกรรมแปลกๆจริงด้วย แค่นี้ก่อนน่ะค่ะ แก้ไขเมื่อ 08 ธ.ค. 51 06:49:37 จากคุณ : p-annipe - [ 8 ธ.ค. 51 06:46:16 ]

ความคิดเห็นที่ 22 มาต่อน่ะค่ะ   ตอนจบแล้ว ขอบคุณที่มาอ่าน ตอนนี้น้อย เดินทักทายไปทั่ว  เด็กเสริฟ์ ชายหญิงจำเธอได้ เพราะครั้งที่ผ่านมา เธออาละวาดกว้างจานแตก   วันนี้พี่ติ๋มเดินมากำชับเองก่อนที่จะพี่ติ๋มจะกลับบ้าน "น้อย  วันนี้ทำตัวให้น่ารักน่ะ  ไม่งั้นพี่จะให้ ยักษ์  ส่งน้อยกลับบ้าน" "วันนี้น้อย กินไม่เยอะพี่  รับรอง" พี่ติ๋มกลับไปแล้ว  น้อยไม่ดื่มเพิ่ม  แต่เดินไปคุยกับคนโน้นที คนนี้ที ด้วยอาการที่ควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้  น้อยไม่ชอบร้องเพลง  แต่ชอบดื่มและสังสรรค์   น้อยมาเที่ยวที่นี้ทุกสัปดาห์และชีวิตคู่ของน้อย  แทบไม่มีเวลาให้ซึ่งกันและกันเลย   ลูกค้าในร้านเหลือแค่โต๊ะของพวกเรา  และเด็กวัยรุ่นกลุ่มนั้นเท่านั้น การร้องเพลงเริ่มไปเรื่อยๆ  แต่อาการควบคุมตัวเองไม่ได้ของแต่ละคนมากขึ้น ดาและไสว สองสาวขาเต้น  เริ่มนั่ง เพราะเต้นมาราธอนมาหลายชั่วโมง ดาทำงานที่เดียวกับไสว  แต่ไสวได้ลาป่วยหยุดงานมาสองสัปดาห์แล้ว เพราะเธอเพิ่งแท้งลูก  ตอนที่เรารู้ เราบอก "ไสว พี่เสียใจด้วยน่ะ  ที่เสียลูกไป" "ไม่เป็นไรหรอก  หนูว่าเด็กเขาไม่อยากอยู่กับเรา  เขาก็เลยไป" "เขาไปอย่างไร" "อยู่ๆหนูปวดท้อง หนูก็นึกว่า ปวดฉี่  เลยเข้าห้องน้ำ เขาก็หลุดมาเลย" "ทำไมง่ายจัง  ไม่มีอาการอะไรมาก่อนเหรอ "   "ไม่มีพี่ หนูรีบไปโรงพยาบาล หมอบอกว่า มดลูกไม่แข็งแรง เด็กเลยหลุด" "ไสวอายุเท่าไรจ๊ะ" "34 ปี  ทำไมเหรอ" "อายุยังไม่เยอะเดี๋ยวก็มีได้อีก  แต่ควรเว้นสักหกเดือนจะดีกว่า" "หนูยังไม่อยากมีหรอก  เพราะอยู่แบบนี้ก้อสบายดี  ที่จริงหนูมีลูกแล้วคนหนึ่ง อายุ 12 ปีแล้ว ตอนนี้อยู่เมืองไทยกับยายน่ะ  " เราไม่ได้ถามว่าไสวทุกข์ใจหรือไม่  แต่การมาเที่ยวแบบนี้ก็บอกได้ว่า ไสวไม่ได้เศร้านัก หรือ อาจเป็นคนรู้จักปลง กับการพลัดพลาก ดาเป็นคุณแม่ลูกสาม เธอเป็นต้นแบบเรื่องกิ๊กให้สุภาเห็น  แต่ทุกอย่างมันมีสาเหตุ ถ้าเลือกได้ ดาคงไม่อยากทำเช่นนั้น ลูกสองคนที่เมืองไทยกับค่าใช้อีกสารพัด ที่ต้องรับผิดชอบ ลำพังเงินเดือนสามี แค่พอใช้ในบ้าน  งานที่ดาทำก็เงินเดือนน้อย การที่มีใครมาช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายจึงเป็นเรื่องไม่เสียหายสำหรับนิดและสุภา เวลาผ่านไปเกือบตีสามแล้ว "แหมเวลาสนุกๆมันผ่านไปเร็วน่ะพี่   ไม่เห็นพี่ออกไปเต้นเลยสนุกเปล่า" นี เดินวนมาถามเราหลายรอบ คงเห็นเรานั่งอย่างเดียว "นี พี่ก็สนุกในแบบของพี่ไง  ให้ไปร้องเพลงก็ไม่ไหว เต้นมากก็เหนื่อย นี่แฟนบัวมารอรับพวกเราแล้วนี้" เราเห็นแฟนบัวเดินเข้าออกสองรอบแล้ว "อือ  คนนั้นเขายังนี้แหละ  มารับมาส่ง เคยมาด้วยกันครั้งหนึ่ง ก็มานั่งหน้างอ  คิดว่าคงเบื่อๆนะ" นีมานั่งบอกสรรพคุณสามีบัวให้เราฟัง แล้วพวกเราก็ทยอยกลับบ้าน  พี่เล็กขับรถให้กับสี่สาวนั่งคือ กบ ดา สุภาและไสว เรากลับกับบัวและนี   น้อยไม่กลับ ทุกคนเป็นห่วง แต่เธออยากอยู่ต่อสักพัก พี่เล็กเป็นคนบอกพวกเราว่า   "ถ้าเขาจะอยู่ต่อนั้นหมายความว่า เขาดูแลตัวเองได้" พวกเราจึงนั่งรถกลับบ้าน จากคุณ : p-annipe - [ 13 ธ.ค. 51 04:02:37 ]

ความคิดเห็นที่ 23 นีนั่งหลับไปแล้ว  เข้าใจว่าคงเหนื่อย  บัวนั่งคุยกับสามีด้านหน้า เรานั่งคิดถึงเวลาที่เพิ่งผ่านมา ทุกคนแสวงหาความสุข บางคนทุกข์น้อย ทุกข์มากต่างกันไป  ภายนอกทุกคนดูดีในสายตา ของญาติพี่น้องและใครอีกหลายคนในเมืองไทย  และหลายคนถึงกับใฝ่ฝัน อยากมาบ้าง แต่ในความจริงแล้ว มีสักกี่คนที่จะสุขอย่างแท้จริง เมื่อหลายคนมาเพราะมีภาระต้องรับผิดชอบที่เมืองไทย หลายคนจำต้องอยู่ต่อ เพราะถ้ากลับไปจะถูกเยาะเย้ย เราเคยบอกคนไทยที่เราเคยรู้จักเมื่อเขาถามเราว่า ชีวิตเมืองนอกเป็นอย่างไร  เห็นบอกว่า หางานง่าย ได้เงินเยอะ เราตอบว่า หางานไม่ง่ายถ้าภาษาไม่ดี  เงินไม่เยอะแต่ดูเยอะเพราะค่าเงินต่างกัน ลำบากหรือไม่  ลองนึกว่า เมื่อเราต้องเข้ามาทำงานครั้งที่กรุงเทพ เมืองหลวง คนเยอะแยะ  พูดภาษาเดียวกัน  แล้วเราสามารถงานได้ง่ายไหม มองภาพสองภาพไม่ต่างกันคือ คนต่างจังหวัดเห็นลูกหลานมาเรียนหรือทำงานเมืองกรุง   นั่นคือสิ่งดูดีในสายตา หลายคนกระเสือกระสนเข้ามาทำงานในเมืองกรุง  ทำงานสาระพัด เพราะที่ต่างจังหวัดไม่มีงานให้ทำ  หาเงินได้ยาก   พอกลับบ้านแต่ละครั้ง ก็ต้องมีของไปฝากพ่อแม่ลูกหลานที่บ้าน  เพราะภาพที่ทำงานเมืองหลวงต้องดูดี บางคนมาอยู่เมืองกรุง ก็หลงแสงสี  ลืมความตั้งใจที่จะมาทำงานเลี้ยงชีพ ชีวิตจึงเหมือน เดินมาเท่าไรก็ไม่เคยเริ่มต้น อีกภาพ  ชีวิตในต่างประเทศ เรามองไม่ต่างจากคนต่างจังหวัดที่เข้ามาทำงานเมืองหลวง แต่มีที่ต่างคือ  เมื่ออยู่กรุงเทพ  ลำบากายป่วยไข้  ยังคุยกับคนที่ไม่รู้จักได้ อยากกลับต่างจังหวัดแต่ไม่มีเงิน  ก็ยังพูดขอยืมได้ แต่ถ้าเมืองนอก  จะมีใครมาช่วยคุณได้บ้าง แต่เราเข้าใจน่ะ  ถ้าชีวิตยังไม่สิ้น  ทุกคนก็ต้องดิ้นกันต่อไป อาจจะเชยน่ะ  แต่ยังใช้ได้เสมอ แก้ไขเมื่อ 13 ธ.ค. 51 04:54:37 จากคุณ : p-annipe - [ 13 ธ.ค. 51 04:52:29 ]

ความคิดเห็นที่ 24 โอวววววววววววววววววววว พี่ไผ่ เจ๋งคะพี่ เรื่องราวมีที่มาที่ไป มีบทสรุปตอนจบด้วย อ่านแล้วได้อะไรมากกว่าที่คิดคะ ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ ที่มีทั้งสาระ ความบันเทิงและแง่คิดคะพี่ หากเขียนอีก รับรองว่าจะตามอ่านอีกคะ สำหรับป๊อปชอบคะ ให้ 8 เต็ม 10 คะ สำหรับนักเขียนหน้าใหม่ จากคุณ : แม่ขนตางอน - [ 13 ธ.ค. 51 13:51:31 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณหน้าม้า เอ้ย  น้องป๊อปคนสวย สำหรับกำลังใจน่ะจ๊ะ ไม่แน่ใจว่าจะเขียนได้อีกเปล่า แต่จะพยายามจ๊ะ จากคุณ : p-annipe - [ 14 ธ.ค. 51 01:35:00 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ^ ^ ^ เจ๊ป๊อปให้ 8 เต็ม 10 เท่านั้นหรอย่ะ ตาลให้ 10 เต็ม 11 ค่ะป้า   ป้าไผ่เจ๋งจริงๆ แหละจ้า ว่างๆ ก็เขียนอีกนะจ๊ะ หลังไมค์มาบอกด้วยเน้อ จากคุณ : หมื่นพันแสนล้าน - [ 16 ธ.ค. 51 05:44:49 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ทดสอบน่ะ แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 51 03:05:59 จากคุณ : p-annipe - [ 25 ธ.ค. 51 03:04:58 ]

ความคิดเห็นที่ 28 อีกครั้ง แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 51 03:16:49 จากคุณ : p-annipe - [ 25 ธ.ค. 51 03:14:20 ]

ความคิดเห็นที่ 29 อีกนะ แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 51 03:23:57 จากคุณ : p-annipe - [ 25 ธ.ค. 51 03:23:01 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ลองนะ แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 51 04:58:59 จากคุณ : p-annipe - [ 29 ธ.ค. 51 04:57:38 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ทดลอง แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 52 02:10:25 จากคุณ : p-annipe - [ 6 ม.ค. 52 02:09:26 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ส่งใหม่ แก้ไขเมื่อ 14 ม.ค. 52 04:30:44 จากคุณ : p-annipe - [ 14 ม.ค. 52 04:26:35 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เพิ่ม แก้ไขเมื่อ 14 ม.ค. 52 04:36:24 จากคุณ : p-annipe - [ 14 ม.ค. 52 04:28:43 ]