นั่นสิ อะไรกันนะ

จริงๆเรื่องนี้มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับความรัก ที่ใครสักคนจะตัดสินใจรักและแต่งงานกับคนที่คบอยู่ ทั้งๆที่เขาเด็ก น่ารัก และก็Sexyโคตรๆ-*- สูง165 ซม.ปากนิด จมูกหน่อย ผมบ๊อบหยักศกดำสลวย ผิวสีแทนตามแบบฉบับของคนกรุง อกอันอวบอิ่มด้วยขนาดSize B70 เอวที่เล็ดคอด พุงเรียบแบน จนไม่น่าเชื่อว่าสิ่งที่ผู้ชายไฝ่ฝันมันจะมารวมอยู่ในตัวคนคนเดียว ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแฟนเก่าผมนั่นเอง และถึงแม้เราจะคบกันได้ไม่นาน

แฟนเก่าผมคนนี้ตอนนั้นเธออายุได้18ปี อยู่ ม.6 ส่วนผมอายุ20 อยู่มหาลับปี2 ว๊าว!! เรื่องนี้มันเกือบจะ10ปีแล้วเหรอเนี่ยทำไมรู้สึกเหมือนว่าพึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อไม่นาน.

ผมเป็นแฟนคนแรกของเธอ เธอในตอนนั้นช่างไร้เดียงสา ไม่ประสีประสาเรื่องความรักเลยสักนิด แม้แต่การหอมแก้มในตอนที่เราอยู่ด้านหลังสุดของรถตู้โดยสาร เกษตร-รามอินทรา กันเพียงสองคน บรรยากาศราวกับว่าผมได้นั่งรถลิมูซีนและก็มีคนขับขับรถไปส่งให้ถึงจุดหมายก็มิปาน การหอมของผมต้องเอียงหน้านิดหน่อยคล้ายๆกับการจูบ ผมบอกกับเธอว่าก็เหมือนกับการจูบนั่นแหละถ้าจูบแล้วต้องเอียงหน้าไปคนละด้าน ไม่งั้นถ้าทำหน้าตรงจูบกัน จมูกเราก็ชนกันซึ่งมันไม่ถนัดนัก และนี่ก็คงเหมือนบทรักบทแรกที่เธอได้เรียนรู้ จากผม.

ผ่านไป3เดือนสุดท้ายแล้วเราก็เลิกกัน จากสถานะแฟนก็เปลี่ยนมาเป็นพี่กะน้อง มีอะไรก็คุยกันได้แทบจะทุกเรื่อง ยกตัวอย่างเช่น เนี่ยเพื่อน..ผู้ชายมัน..ถามว่ารู้ป่าวไอ่นั่นของผู้ชายเวลาเก็บมันพับลงหรือพับขึ้น? แล้วท่านผู้อ่านผู้หญิงทราบรึป่าวครับว่ามันพับลงรึพับขึ้น. แน่นอนครับพับขึ้นด้วยความสบายตัว อะไรก็แล้วแต่ ลองคิดดูก็แล้วกันเธอกับผมคุยกันได้ทุกเรื่องจริงๆ.

ผ่านไปราวปีกว่าตอนนั้นเธอได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งย่านกลางกรุงแล้ว และเธอโทรมาคุยกับผมเสมอๆ ว่ามีคนมาจีบเป็นเพื่อนของเพื่อน ไอ่หนุ่มคนนั้นตัวอ้วน หนัก100กว่าโล แต่รวยมากตามใจเธอทุกอย่าง ขับรถยุโรปคันละสองล้านใช้เงินค่ากินเที่ยวนุ่นนี่ตกวันละ1000เธอบอกกับผมว่าอย่างนั้นตอนนี้ก็ดูๆกันอยู่ ผมก็ให้คำแนะนำไปตามประสาความหวังดีที่พี่มีให้แก่น้องสาว ไม่ว่าพวกเขาจะทะเลาะกันงอนกันตามประสาเด็กของมหาลัย สุดท้ายก็ตกลงเป็นแฟนกันและย้ายไปอยู่อเมริกาด้วยกัน และพึ่งจะแต่งงานทั้งๆที่เธอตอนนั้นอายุแค่22ปีเท่านั้น.

ทำให้ผมย้อนกลับมาคิดว่า ทำไมเธอถึงยอมแต่งงานด้วยเพราะอะไร? รวย เหรอก็มีส่วน.หล่อล่ำนี่คงไม่ใช่ ผมได้แต่เก็บคำถามนี้ไว้ในใจหลายปีเพราะตั้งแต่เธอย้ายไปอเมริกาผมไม่ได้คุยกับเธอเลยแม้แต่ในMSN จนในที่สุดก็มาเจอกันในMSNในวันดีดีวันหนึ่ง เธอทักผมว่าเป็นยังไงสบายดีหรือปล่าว นี่กลับมาแต่งงานที่เมืองไทยนะ พร้อมกับส่งรูปงานแต่งมาให้ดู1รูป คำถามที่ผมอยากจะถามมาตั้งนานและลืมไปหลายปีก็หวนนึกขึ้นมาได้ใหม่.
คำตอบนั้นก็คือ เธอจริงจังกับความรักทั้งนั้นแหละไม่ว่าจะเป็นครั้งไหน

ไม่น่าเชื่อ ที่สาวน่ารักsexyแบบเธอที่หาผู้ชายมาควงได้ง่ายๆไม่ว่าจะหล่อรวยแค่ไหน กลับมีมุมมองในความรักที่แน่วแน่มีแฟน รักแฟน แต่งงานกัน เพียงแค่กับแฟนคนที่สองเท่านั้นเอง ทั้งๆที่เธอ
อยากจะเปลี่ยนเมื่อไหร่ก็ได้เหมือนวัยรุ่นสมัยนี้ที่ยังไม่รู้จักพอ

ไม่น่าเชื่อไอ่อ้วนหนัก100กว่าโลที่ผมแอบคิดในใจว่าโดนหลอกแดรกแน่นอนจะพิชิตใจเธอได้.
ฮ่าๆ นั่นเป็นความคิดของคนใจแคบอย่างผมในตอนนั้นครับ ผมได้ดูถูกควารักของตัวผมเอง ดูถูกความรักของแฟนผมในตอนนั้นผมบอกเลิกอย่างไม่มีเยื่อใยเพราะคิดว่ากูเจ๋ง.

เธอคนที่ผมสอนบทเรียกรักให้กับเธอในตอนนั้น ตอนนี้เธอได้สอนให้ผมได้รู้จักความรักที่ยิ่งใหญ่ให้กับผมอย่างไม่รู้ตัว

อะไรกันนะที่ทำให้เราอยากจะลืมสิ่งดีๆที่เคยมีให้กัน?
สำหรับผมไม่เคยลืมหรอกครับเรื่องดีๆของเราจะอยู่ในใจผมเสมอ

แก้ไขเมื่อ 16 ธ.ค. 51 14:42:07

แก้ไขเมื่อ 16 ธ.ค. 51 04:20:19

จากคุณ : _Alice_Alice - [ 16 ธ.ค. 51 04:11:33 ]