หลังเลิกเรียนมา ผมพบว่าตัวเองไม่มีอะไรจะทำ
และด้วยนิสัยอันไม่ค่อยเอาการเอางานของผมบอกว่า การบ้านก็งั้นๆ ไม่ด่วนเท่าไร
เอาไว้ตอนใกล้จะส่งค่อยทำดีกว่า ผมก็เลยคว้าเอาเบียร์ที่ดองไว้ในตู้เย็นออกมา
ลิ้มรส
อืม...เย็น ขม กลมกล่อม เอิ้ก...
ตอนแรกว่าจะกินแค่กระป๋องเดียว ไปๆ มาๆ จำนวนกระป๋องก็เพิ่มขึ้นมารายรอบตัว
อย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว
เมาสุดๆ
ด้วยความเมาทำให้ผมไม่สามารถครองสติสัมปะชัญญะได้ไหว ผมเลยฟุบหลับไป
เวลาผ่านไปนานเท่าไร ผมไม่อาจรู้ได้ รู้แต่ว่าพอตื่นขึ้นมาก็มีบางอย่างผิดปกติ
ทำไมของรายรอบตัวผมถึงได้ดูผิดสังเกต
หมอนที่หนุนนอนกลายเป็นเนินเขาย่อมๆ ตุ๊กตาหมีตัวที่นอนกอดนอนประจำกลาย
เป็นหมียักษ์ หันไปมองรอบตัวทุกสิ่งทุกอย่างใหญ่มหึมาไปหมด
"เฮ่ย ! เฮ้ย ! เฮ้ยยยย ! มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย !"
หัวสมองเตลิดเปิดเปิง สติสตังไม่อยู่กับตัว ผมวิ่งพล่านวนไปวนมาบนเตียง แต่พอ
วิ่งมาถึงขอบเตียงกลับต้องหยุดกึก ขอบเตียงกลายเป็นหน้าผาที่สูงชันไปซะแล้ว
ผมหยุดนิ่ง ไร้ความคิด
ผมชะโงกหน้าลงไปมองที่ก้นหน้าผา ประมาณความลึกโห... มันลึกเอาเรื่องเลยล่ะ
แล้วอย่างนี้จะลงจากเตียงยังไงเนี่ย มีหวังติดแหง็กอดตายอยู่ที่นี่แน่ ผมเริ่มคิดวิตก
กังวลและฟุ้งซ่าน ยืนอ้าปากค้าง สายตาของผมทอดมองไปยังก้อนหินก้อนเบ้อเริ่ม
ที่อยู่ตรงพื้นข้างล่าง รูปทรงและสีสันมันช่างเหมือนขี้จิ้งจกซะจริงๆ
ยืนไร้สมองที่ขอบเตียงอยู่พักใหญ่ จู่ๆ ผมเห็นบางสิ่งบางอย่างเคลื่อนไหวไปมาอยู่
บ้างบนหัวของผม มันเป็นเส้นยาวๆสองเส้นที่ส่ายขึ้น ลง พอผมเงยหน้าขึ้นไปดู
มันก็เคลื่อนที่ขึ้นหนี หันไปซ้าย มันก็ไปซ้ายตาม หันไปขวา มันก็ยังไปขวาตาม
ผมสงสัยอย่างเป็นที่สุดเลยเอื้อมไปคว้ามาดู แต่พอเห็นมือตัวเอง ผมก็ชะงัก
มือผมมันเปลี๊ยนไป๋
มันเรียวเล็กเป็นปล้องสีน้ำตาลแถมมีเงี่ยงด้วย ผมตกใจ รีบยกมืออีกข้างขึ้นมาดู
มันก็เป็นเหมือนกัน พอสำรวจตัวเองพบว่ามีขาเพิ่มขึ้นมาอีก 2 ข้าง เนื้อตัว แขน
ขา สีเดียวกันไปหมด ลักษณะอย่างนี้ชัดเลย
เมาค้างนี่เอง นอนต่อดีกว่า
.
.
.
โครก !
เสียงท้องร้องปลุกให้ผมตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ทันทีที่ตื่น ผมรีบสำรวจร่างกายตัวเองก่อน
เป็นอันดับแรก โดยไม่สนใจอาการโวยวายของกระเพาะ มันยังเหมือนเดิม แขน ขา
เป็นปล้องสีน้ำตาลที่ดูคุ้นๆ เหมือนจะเห็นอยู่เรื่อยๆ
ว้ากกกก ! ตูกลายเป็นแมลงสาบไปซะแล้ว !!!
ไม่ใช่ ไม่ใช่ ไม่ใช่ นี่ต้องเป็นฝัน ใช่ ฝันแน่ๆ ผมพยายามบอกตัวเองว่านี่คือฝัน
ก่อนจะเอามือมาตบหน้าตัวเอง แต่มือผมมันไม่มีฝ่ามือซะแล้ว ผมเลยตบหน้า
ตัวเองไม่ได้ ต้องใช้การเคาะหน้าแทน แต่ผลที่ได้คือมันเจ็บ ไม่ว่าจะเคาะกี่ทีก็เจ็บ
อ้าวเวรไม่ใช่ฝันซะแล้ว แล้วมันอะไรล่ะ ผมนิ่งงันพยายามๆหาเหตุผลมาตอบตัวเอง
อ้อ ! แมททริกซ์ไง ตอนนี้ผมอยู่ในแมททริกซ์แมลงสาบ
... บ้าแล้ว ! มันใช่ซะที่ไหน มันเรื่องจริงแน่นอน ผมกลายเป็นแมลงสาบไปแล้ว !
"ทำไมล่ะ ทำไม ทำไม ทามม๊าย !!!"
ผมเงยหน้าขึ้น แหกปากกู่ตะโกนกึกก้อง มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย มันเป็นได้ยังไง
ผมหันรีหันขวางไปมา พอมองเห็นกำแพง (เตียงนอนของผมชิดกำแพง) ผมเลยวิ่ง
เข้าใส่ กะจะเอาหัวโขกกำแพงให้ตื่นจากความฝันหรือไม่ก็ทำลายระบบแมททริกซ์
เผื่อว่าเอ็นทรี่ปลั๊กจะหลุด แต่ด้วยว่าวิ่งมาเร็วเกินไป ผมก็เลยหยุดไม่อยู่ พอไปถึง
กำแพง ตัวของผมก็ยังพุ่งต่อไปอีก ผมใช้ทั้งแขนและขาสี่ข้างยันผนังไว้ก็ยั้งไม่อยู่
จนในที่สุดร่างของผมก็ถลำขึ้นไปวิ่งต่อบนผนัง
เฮ้ย ! ผมไต่ผนังได้เว้ยเฮ้ย !
ใช่แล้ว ! ผมกลายเป็นแมลงสาบไปแล้วนี่ ดังนั้นผมก็น่าจะสามารถทำอะไรได้เหมือน
แมลงสาบสิ ผมเลยลองไต่ผนังสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ดู มันไต่ได้แฮะ แต่พอหันกลับลง
มาข้างล่าง มันสูงซะจนพาลใจหวิว แข้งขาสั่น ผมเลยไต่ลงกลับมาที่เตียงคืน ผม
ลองไต่ไปมาทั้งบนผนัง หัวเตียงและลองไต่ลงจากเตียง โอ้ว ! ผมทำได้แฮะ ตอนนี้
ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นสไปเดอร์แมนกลายๆเลยแฮะ
เป็นแมลงสาบเนี่ย มันก็ดีไปอีกแบบ
โครก !
ท้องผมส่งเสียงเตือนอีกคนั้งเพื่อดับความฟุ้งซ่าน ผมต้องออกหาอะไรใส่ท้องซะ
ก่อนที่มันจะโวยวายมากกว่านี้ ผมก็เลยไต่ขึ้นโต๊ะญี่ปุ่น ยำปลากระป๋องที่ทำไว้แกล้ม
กับเบียร์เมื่อคืนยังเหลืออยู่ ผมกินเศษชิ้นเล็กๆ ชิ้นหนึ่งก็อิ่มเสียแล้ว เป็นแมลงสาบ
นี่ช่างประหยัดอาหารดีเสียจริงๆ
พออิ่ม สมองก็เริ่มทำงาน ผมเริ่มกลับมาคิดหาสาเหตุที่ทำให้ตัวเองกลายเป็น
แมลงสาบ แม้ว่าจะย้อนไล่ทบทวนยังไงก็ไม่เห็นจะมีสิ่งใดที่สมเหตุสมผลที่จะมา
อธิบายถึงการที่ผมแปลงร่างแบบนี้เลย
ผมมืดแปดด้าน
ช่างหัวมันดีกว่า มันเกิดขึ้นมาแบบไม่รู้ที่มาแล้วผมจะรู้วิธีกลับคืนร่างเดิมได้ยังไง
คิดมากไปก็ไม่มีอะไรงอกเงย สู้ออกสำรวจดูรอบๆ ดีกว่า เผื่อจะเจอเบาะแสอะไร
บ้างก็ได้ ผมเลยออกเดินสำรวจไปทั่วห้อง ห้องกลายเป็นพื้นที่มหึมา ของที่เคยใช้
อยู่ทุกวันก็ใหญ่โตมโหฬาร สร้างความตื่นตาตื่นใจและอาการเหงื่อตกให้แก่ผมไป
พร้อมๆ กัน
กินเวลาและแรงกายอยู่นาน ในที่สุดผมก็สำรวจจนทั่วห้อง ได้ผลสรุปว่ามันก็เป็นห้อง
ของผมเหมือนเดิม ไม่มีวงกลมปริศนา เครื่องมือวิทยาศาสตร์ล้ำยุค ขวดยาพิลึก ๆ
หรือสิ่งอื่นใดที่น่าสงสัยว่าจะทำให้ผมกลายเป็นแมลงสาบแต่อย่างใด แม้ว่าผมลอง
กินเบียร์ที่เหลือค้างตามขอบกระป๋็องดูแล้ว แม้ว่าจะเมาแต่ก็ไม่ได้ทำให้ผมกลับคืน
ร่างคน ไอ้ครั้นจะลงไปอาบในกระป๋องเลย ก็กลัวว่าตัวเองจะกลับขึ้นมาไม่ได้ กลาย
เป็นแมลงสาบกระป๋องไป ผมก็เลยหยุดทำทุกอย่าง ทอดอาลัยอย่างหมดหวัง
แต่ทันใดนั้น แสงสว่างก็ทอมาที่ผม
ผมมองไปที่แหล่งกำเนิด มันเป็นช่องว่างระหว่างประตูกับพื้น พอผมเห็นเข้า ผมก็
เลยตัดสินใจออกไปสำรวจข้างนอก
พอออกมาก็พบว่าระเบียงทางเดินยาวสุดลูกหูลูกตา ผมรู้สึกท้อแท้และห่อเหี่ยวขึ้น
มาทันที แล้วแบบนี้ตูจะไปไหนรอดฟ่ะเนี่ย แต่พอมองดูที่วางรองเท้าหน้าห้อง ผมก็
ขนลุกซู่ขึ้นมา
รองเท้าผมหายไป !
นี่หมายความว่า ร่างของผมออกไปข้างนอกสิท่า รึว่าผมสลับร่างกับแมลงสาบ !
ไม่น่าใช่ เพราะถ้าแมลงสาบอยู่ในร่างผม มันก็ไม่น่าจะรู้จักการใส่รองเท้าก่อนออก
ไปเดินข้างนอก นี่แสดงว่ามันต้องมีอะไรผิดปกติบางอย่างเกี่ยวกับตัวของผมแน่นอน
ฮื่อออ ผมถอนหายใจด้วยความรู้สึกโล่งใจขึ้นมา ที่เหลือก็รอแค่ให้ร่างของผมกลับ
เข้าห้องมาอีกทีแค่นั้นแหล่ะ ถ้ามันกลับมาเมื่อไรก็ค่อยหาทางกลับเข้าร่างอีกที
อาจจะเอาหัวโขกกัน หรือไม่ก็กัดมัน หรือไม่ก็บางทีอาจคุยกันสื่อสารกันรู้เรื่องก็ได้
มั้ง
จากคุณ :
garnet19th
- [
17 ธ.ค. 51 02:59:29
]