วันที่25 พฤศจิกายน ตอนบ่ายๆ เรายังนั่งอยู่บ้านดูดมะม่วงจ๊วบๆอยู่ดีๆเลย
นะ นั่งดูทีวีไปกินไปอ้วนไปแล้วก็มีความสุขไปที่ได้อยู่บ้านกับยาย ตอนเช้า
ยังออกไปจ่ายตลาดซื้อของมาตุนกลับดูไบเลย พ่อเราออกไปทำงานเพราะ
วันนั้นไม่ใช่วันหยุด ส่วนแม่ก็ออกไปสวนกุหลาบดูงานกิจการหลักของบ้าน
ตกลงกันว่าตอนเย็นทุกคนจะกลับมาเจอกัน กินข้าวด้วยกัน มองหน้าลูกสาว
ที่เป็นแอร์และจะต้องบินกลับในคืนนั้น เวลาwake up callตามปกติคือเวลา
ประมาณสามทุ่มครึ่งและpick upตอนเวลาสี่ทุ่มครึ่ง โดยที่พ่อเราก็จะพาเราไป
ส่งให้ถึงที่โรงแรมประมาณสองทุ่มตามที่เคยๆทำ แต่วันนั้น ตอนบ่ายๆ อยู่ดีๆ
พ่อเราก็โทรมาน้ำเสียงตกใจ
พ่อ : เมื่อกี้สงสัยหัวหน้าเราเขาโทรมาหาพ่อ(คือเราให้เบอร์ติดต่อเป็นเบอร์
มือถือพ่อเราไป คนที่กลับไปค้างบ้านต้องให้เบอร์ติดต่อกับPurserไว้กรณีมี
เหตุฉุกเฉิน) พูดภาษาอังกฤษ พ่อขับรถอยู่เลยบอกให้โทรกลับอีก10นาที
สงสัยมีเรื่องด่วน ลูกโทรกลับเขาทีละกัน สงสัยต้องออกเร็วขึ้นแน่เลย ด่วน
ลูกด่วน
เรา : หา ทำไมงะ แล้วนี่พ่ออยู่ไหน
พ่อ : พ่อขับรถกลับอยู่ เดี๋ยวอีกแป๊บคงถึงบ้าน โทรไปคุยกับหัวหน้าเราก่อน
ละกัน
ได้ยินเท่านั้นละเรารีบกดหาPurserเลย
เรา : Hello! Its me. Did you call my dad? Im sorry right now Im
not with him and he is driving.
Purser : Its ok. I just want you to come to the hotel as quick as you can.
Due to the demonstration at Suvarnabhumi airport, the 373 crews
have changed their pick up time and Im afraid that we
might have to do the same.
เรา : (ตกใจอย่างยิ่งยวด) Alright, Ill go there as fast as I can.
Purser : Right now I cant confirm anything. We may or may not
leave one hour earlier. I just want you all to be ready at the hotel
because anything can happen.
พอได้ยินเช่นนั้น ในใจเราก็เสียใจนะที่จะได้อยู่กับครอบครัว
น้อยลง แล้วก็รีบตาหูแหกอาบน้ำ พ่อเราก็กลับมาพอดี แม่ด้วย มาช่วยกัน
จัดกระเป๋าให้เรา ข้าวก็รีบยัดๆๆๆๆใส่ปาก จำได้เลยยายทำไก่ทอด
นอนก็ไม่ได้นอนเพราะตอนแรกเรากะว่าจะมานอนตอนเย็น ที่ไหนได้ต้องรีบออก
โดยด่วน รีบกอดแม่กอดยาย ตอนนั้นเรารู้สึกว่าอกยายอุ่นมากเลย อุ่นแบบ
อยากอยู่อย่างนั้นนานๆ ไม่นึกว่าจะสมพรปากคะ เราไปถึงสักประมาณทุ่ม
กว่าๆ ก็มีจดหมายส่งมาในห้องว่าเวลาwake upและpick upเลื่อนขึ้นหนึ่งชั่วโมง
จากเดิม กลายเป็นว่าออกจากโรงแรมสามทุ่มครึ่งเพราะกลัวรถติด พ่อเรายัด
น้ำไว้ในกระเป๋าCabinเราเลยเพราะเดาว่าเราต้องหิวน้ำ เราเองก็
จัดการเข้าห้องน้ำหลายสิบรอบชนิดว่าเอาหมดกระเพาะปัสสาวะ ลำไส้ เซ่ง
จี้ เราฉี่บ่อยหนะ เข้าอย่างต่ำทุกชั่วโมง บนไฟล์ทนะ เข็นรถออกไปกลับมา
เข้าหน เก็บถาดกลับมาเข้าอีกหน ดื่มน้ำเยอะด้วยละ พอสามทุ่มครึ่งลงมา
ทุกคนพร้อมในเครื่องแบบ แต่พี่คนไทยเราคนหนึ่งยังอยู่ในชุดช้อปปิ้ง ตะ
ดึ่ง! พี่เขาเพิ่งกลับมาจากสยาม ไม่มีใครโทรบอกพี่เขา เราโทรแล้ว แต่พี่แกไม่รับ
แล้วเราเองก็มัวแต่รีบๆ เลยลืมที่จะโทรอีกรอบไปสนิท แต่พี่แกก็
สปิริตสูงมากคะ เจ๊แกขอเวลาสิบนาที แต่งตัวอย่างเดียวไม่อาบน้ำไม่ทำผม
ไม่แต่งหน้า มาทำที่เหลือในรถเอา ทันคะคู้นนน เท่านั้นไม่พอ พอกัปตันกำลังจะขึ้นรถบัส
แอร์สาวอียิปต์ลูกเรือที่ทุกคนว่าเธอทำตัวงงๆกับชีวิตก็ปรากฏกายขึ้น
เพิ่งกลับจากจ่ายตลาดเช่นกัน แถมกัปตันบอก ไม่รอแล้ว ต้องรีบไป เท่านั้นละ
แอโรพัตรา(เป็นคำสมาสระหว่างคำว่า แอร์+คลีโอพัตรา)ของเราถึงกับหน้าเสีย
วิงวอนขอเวลาสิบนาที แล้วก็เข้าอีหรอบเดิมแบบเจ๊ฉัน ไม่อาบน้ำ
เปลี่ยนแค่ชุด หน้าไม่แต่ง ผมไม่หวีเดินลงมาพร้อมกระเป๋า
เพื่อนๆแอร์ถึงกับปรบมือให้กำลังใจ แปะๆๆแต่พอขึ้นรถเท่านั้นแหละ กัปตัน
ของเราก็ประกาศว่า......
เอ้า ทุกคน ลงรถ พี่แกบอกว่าตอนนี้สถานการณ์
ที่สุวรรณภูมิกำลังแย่ กลุ่มพันธมิตรเดินทางไปสนามบินกันหมดแล้ว เลยไม่
แน่ใจว่าเราจะไปกันได้หรือไม่ จึงต้องขอให้ทุกคนลงไปรอที่หน้าlobbyก่อน
คุณหัวหน้าแอร์ชั้นผู้ดี (SFSหรือSenior Flight Stewardessชั้นPremium)
พอได้ยินเท่านั้นละ อ้าววว พวกเธอ ใครจะไปคลับกับฉันม่างยะ
เราก็คิด แหม แม่คุณ คิดแต่เที่ยวนะยะ แต่ก็แอบฮาดีนะ เพราะเราว่าสถานการณ์
แบบนั้น ดูฝรั่งเขาจะคิดว่าสถานการณ์มันไม่ร้ายแรง อย่างว่า คนไทยอย่างเรายัง
ไม่คิดเลย แถมได้อยู่กรุงเทพต่อต้องไปเที่ยวสิยะถึงจะคุ้ม ระหว่างนั้น
พ่อเราก็โทรมาบอกว่าเขาปิดสนามบินแล้ว แล้วกัปตันก็ประกาศอย่างเป็น
ทางการว่า.....
เอาละ ไทยแก๊งค์ ผมรู้นะว่าพวกคุณคิดอะไรอยู่ ยิ้มกันใหญ่เชียวนะ (ตอน
นั้นเราทุกคนยิ้มแก้มปริเลย เพราะไม่รู้ว่าสถานการณ์มันเลวร้ายขนาดนี้ เลย
หวังแค่จะได้อยู่บ้านต่ออีกวันเท่านั้น) ตอนนี้พวกเราคงต้องอยู่ที่โรงแรมอีก
หนึ่งวัน หรือจนกว่าสนามบินจะเปิดนั่นละ อย่างไรก็ตามใครที่คิดจะกลับ
บ้าน ผมขอละ เอาแฟน เอาครอบครัวมาอยู่ที่นี่ดีกว่า เพราะกำหนดการ
เปลี่ยนแปลงได้ทุกนาที และหากมีการเปลี่ยนแปลงอะไร ผมจะแจ้งให้ทุกคน
ทราบอีกที คืนนี้กลับเข้าห้องเดิมไปก่อนละกันนะจ้ะ
คิดว่าคงน่าจะเป็นพรุ่งนี้ละที่จะได้กลับ เออ แล้วมีใครกลัวต้องการให้ผมกอดปลอบใจไหม ......
(แอบฮาได้อีกคุณกัปตัน)
จากนั้นเราก็เปิดเข้าห้อง1001ห้องเดิมของเรา รีบเปิดทีวีดูข่าว โอ้โห!พระเจ้า
ช่วย มันขนาดนี้เลยหรอวะ แอบตกใจถึงกับลืมเซ็นเซอร์ สภาพที่สนามบิน
สุวรรณภูมิดูน่ากลัวมาก ผู้คนเสื้อเหลืองมากมาย ผู้โดยสารก็เดินอย่างไร้ที่
พึ่งเพราะทุกเคาน์เตอร์ปิดหมด และภาพที่ติดตาเราที่สุดคือ แอร์สายการบิน
ประจำชาติเดินลงบันไดเลื่อนมาในขณะที่คนเสื้อเหลืองถือไม้หน้าสามวิ่งขึ้นบันได
เลื่อนสวนทางกับเหล่าแอร์ ถ้าเป็นเรา เราจะทำยังไงน้า สงสัยฉี่แตกแน่ๆเลยกรู
เราติดตามข่าวทั้งคืนเลย โชคดีนะเนี่ยที่มีเสื้อผ้าติดมาหนึ่งชุดพอจะใส่นอนได้
ส่วนกับข้าวที่ยายทำไว้ ผักบุ้งและเต้าหู้ที่ยัดใส่กระเป๋า ต้องรีบเอายัดตู้เย็นหมด
พี่นพก็เลยชวนแอร์ไทยและเสี่ยวหุ้ยแอร์อาหมวยชาวสิงโตทะเลมากินกับข้าวถุงที่ป้าพี่เขาทำมา
เพราะกลัวจะเน่า เรียกว่าอร่อยกันถ้วนหน้า อิ่มและฟรีมีที่ไหน ที่นี่แหละคะ ห้อง1002ห้องพี่นพ
แอร์บางคนเนื่องจากเสื้อผ้ามีจำกัดเพราะไม่นึกว่าจะ
ต้องมาค้างที่นี่นานกว่ากำหนด เลยต้องใส่แล้วใส่อีก เน่าแล้วเน่าอีก
จนทนไม่ไหวต้องออกไปซื้อเครื่องในที่ห้างในวันรุ่งขึ้น
ส่วนพี่SFSคนไทยในชั้นEconomyเรา หรืออาจจะเรียกว่านางพญาชั้นประหยัดก็หรูไม่น้อย
พี่แกรู้จักMIX and ไม่MATCH พี่เขาไม่มีเสื้อ มีแต่กางเกง แกก็ใส่เสื้อยูนฟอร์มเรานี่แหละ
แล้วเอาผ้าพันคอคลุมเอา แต่ออกมาดูได้นะจะบอกให้ ถ้าไม่
บอกนี่ เรียวขาประหนึ่งพอลล่า บั้นท้ายให้เจโล เรียวแขนให้ยาวเรียวแบบอั้ม
แต่พอดูเสื้อและผ้าคลุมไหล่
แหมมม ก็ยังน่ารักอยู่ดีละ (ก็มันไม่มีเสื้อใส่นี่หว่า)
เช้าวันใหม่ บิดาเรามาเคาะประตูแต่เช้า เราเองก็ไปเปิดประตู
อย่างสลึมสลือ แน่ดิ เมื่อวานไม่ได้นอนกลางวัน แถมมาตอนกลางคืนก็นอน
ดึก มัวแต่ดูข่าวจนตีสอง เครียดนะเนี่ย (คือความจริงนั่งกินถึงตี1ครึ่ง มันง่วง
ก็เพราะกินจนดึกมากกว่ามั้ง) พ่อเราเอาเสื้อผ้ามาให้ อาหาร น้ำ นม แบรนด์
(เหมือนมาเยี่ยมไข้) เอามาทุกอย่างยกเว้น เครื่องในเรา เลยต้องทนใส่ซ้ำๆไปอีกวัน
เน่ากันพอดี สักพักพ่อเราก็ออกไปทำงาน เราก็อยู่ห้อง ลงไปเดินเล่นนอก
โรงแรมบ้าง แต่ไม่กล้าออกไปไหนไกลกลัวเขาเรียกแล้วเราไม่อยู่ ซวยเลย แต่
แอร์คนอื่นๆก็มีไปสยาม ไปประตูน้ำกันนะ เฮฮาปาจิงโกะกันไปเลย จ่ายตลาดกัน
ทั้งนั้นพวกแอร์สาวฝรั่ง
ไฟล์ทกรุงเทพเป็นที่โปรดปรานของแอร์ฝรั่งเลยนะ
เท่าที่ฟังมาเราไม่ค่อยได้ยินใครไม่อยากได้กรุงเทพ
เพราะเขาอยากมาซื้อของ มันถูกไงละ เรียกได้ว่า ถูกเป็นขี้เลยในสายตา
เขา เลยอยากจะมาช้อปปิ้งกัน ผ่านไปอีกหนึ่งวัน ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีความคืบ
หน้า สนามบินยังปิดอยู่ เสื้อเหลืองไม่ยอมถอยถ้านายกไม่ลาออก
ข่าวในทีวีต่างวิพากษ์วิจารณ์สถานการณ์กันใหญ่ พ่อเราเองก็บอกมันคงปิด
ไม่เกินสามวันหรอก เราก็มั่นใจอย่างนั้น เพราะไม่เช่นนั้นก็เท่ากับปิด
ประเทศ นี่ย่างเข้าวันที่สอง เราแอบกลับไปบ้านแว้บนึงไปเอาของและเล่นคอมที่
บ้าน เพื่อนๆในMSNเราก็ถามกันใหญ่ว่าเป็นไงบ้าง เราก็บอกว่าสบายดีไม่ต้องห่วง
มันก็บอกไม่ใช่แก หมายถึงสนามบินต่างหาก เป็นไงบ้าง มันจะ
ได้กลับไหมเพราะมันมีไฟล์ทกรุงเทพ กรอดดดดดด ไม่ได้ห่วงตูเลย
แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 51 23:17:15
แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 51 23:15:54
แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 51 23:11:48
แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 51 23:08:41
แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 51 23:02:32
แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 51 22:59:58
แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 51 22:57:07