Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    Christmas...คิดมาก (เรื่องรักๆ...หรือเปล่า)

    ก็แค่คิด...มากไป


    “สวัสดีครับ”

    “สวัสดีค่ะ...เอ้อ...คุณ...”คุณหมอสาวเงยหน้าจากจอคอมพิวเตอร์หันมามองคนไข้รายใหม่ แล้วก็ต้องย่นคิ้วเพราะรู้สึกคุ้นตากับผู้ชายตรงหน้าเสียจริง ชายหนุ่มเองก็ได้แต่ยิ้มอย่างเป็นมิตรตอบกลับมา

    “ชื่ออะไรคะ” ถึงแม้จะสะดุดในทีแรกแต่เธอก็ใช้ทักษะที่เรียนมาสานต่อการสัมภาษณ์ประวัติผู้ป่วยได้อย่างราบรื่น ถามชื่อ อายุ ที่อยู่ อาชีพและอาการนำที่พาเขามาพบเธอในวันนี้พร้อมกับพิมพ์ข้อมูลลงในแบบบันทึกประวัติผู้ป่วย การสัมภาษณ์ใช้เวลาไม่นาน เมื่อคำถามจบลงเธอจึงขออนุญาตเขาตรวจร่างกาย

    เมื่อทาบหูฟังลงไปยังตำแหน่งหัวใจ แทนที่จะเป็นเขา...คุณหมอสาวกลับหัวใจเต้นรัว...
    เธอจำได้แล้ว...แล้วเขาล่ะ เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็พบกับดวงตาสีนิลที่มองอยู่ก่อนแล้ว

    ...หรือเขาจะรู้ แต่ดูจากรอยยิ้มซื่อๆที่มอบมา...คงไม่ใช่
    เธอให้เขาหันหลังและตั้งใจฟังเสียงปอดอีกครั้ง

    ...อืม เสียงปอดโล่ง ทางเดินหายใจสะดวก เผลอใจไปเสียเมื่อไหร่ไม่รู้ ถึงได้เลยเถิดพินิจพิเคราะห์แผ่นหลังกว้างหนาภายใต้เชิ้ตสีน้ำเงินเข้ม สุภาพเรียบร้อย
    ...เฮ้อ อย่าคิดมากสิ

    “จากที่คุณเล่าอาการมาและที่หมอตรวจ หมอคิดว่าคงเป็นแค่ไข้หวัดธรรมดา แต่ถ้าให้สบายใจกันทั้งสองฝ่ายคงต้องขอเจาะเลือดตรวจหาเชื้อไข้เลือดออกอีกที เดี๋ยวหมอจะเขียนใบส่งเจาะเลือดแล้วคุณไปยื่นที่ห้องเจาะเลือดนะคะ อยู่ที่ชั้น...ตึก...แล้วค่อยกลับมาหาหมออีกทีทีนี่”

    เขาเอ่ยขอบคุณเธอรับใบส่งเจาะเลือดแล้วเดินออกจากห้องตรวจไป ทิ้งเหลือไว้เพียงเงาจางๆที่กำลังหายไป คุณหมอสาวทอดถอนหายใจยาวนาน

    เกือบไปแล้วไหมล่ะ ดีนะที่เขาไม่นึกสงสัย ไม่เช่นนั้นเธอคงไม่กล้าเอาหน้าไปมองใครได้

    ...เก้าปีแล้วสินะ

    สองปีที่แล้วเธอเลือกมาอยู่ไกลถึงเพียงนี้ ชนบท ห่างไกล กันดาร ก็แล้วแต่ใครจะเรียก
    ถึงไม่สบายนัก แต่ก็ใช่ว่าจะลำบากไปเสียหมด เธอยังคงใช้ชีวิตประจำวันได้ไม่ต่างจากตอนเรียนมหาวิทยาลัย

    เธอกลับชอบใจเสียอีก ตอนเช้าเดินท่องตลาดกับพี่หมอที่ประจำอยู่ที่นี่ ได้ทั้งกลิ่นอายธรรมชาติ และอากาศบริสุทธิ์ไปในตัว เผลอๆบางวันเจอคนแก่ที่เคยรักษากันมาก่อนได้ของติดไม้ติดมือกลับมา

    ถึงว่า น้ำใจหาง่ายก็ด้วยคนไทยชาติเดียวกัน

    ไม่นานนักเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น หมอสาวเตรียมตัว แต่ใจสิเต้นไปเสียก่อนแล้ว เฮ้ออยากจะหยุดเวลาทำใจให้รู้แล้วรู้รอด บอกแล้วไงว่าอย่าคิดมาก

    “เอ้อ เจ็บไหมคะ”ไม่รู้จะถามอะไร เมื่อเห็นท้องแขนปิดผ้ากอซขาวสะอาดก็เสหาเรื่องคุย เขายิ้มบางๆเผยอริมฝีปากหนาได้รูปตอบ

    “นิดหน่อยครับ” ชายหนุ่มนั่งลงที่มุมโต๊ะที่เดิม เขามองคุณหมอสาวพิมพ์ข้อมูลของตนลงบนเครื่องคอมพิวเตอร์

    เมื่อได้ผลที่ผ่านจากระบบเครือข่ายของโรงพยาบาลคุณหมอสาวจึงหันเหไปอ่านรายละเอียด สามนาทีไม่มากไม่น้อยเธอก็หันหน้าจากจอคอมพิวเตอร์มาบอกข่าวดีแก่เขา

    “ไม่มีเชื้อไวรัสไข้เลือดออก สบายใจได้ค่ะ แค่พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำอุ่นมากๆแล้วก็ทานยาตามหมอสั่งให้ครบไม่กี่วันก็คงกลับมาทำงานได้เหมือนเดิมค่ะ” เธอพูดไปพร้อมๆกับผ่อนคลายอาการเกร็งที่เกิดขึ้นในตอนแรก

    “คุณหมอทำงานที่นี่มานานแล้วหรือครับ” เป็นเขาที่เอ่ยถามขึ้นบ้าง

    “เมื่อก่อนอยู่ที่โรงพยาบาลชุมชนค่ะ ปีนี้เพิ่งจะย้ายเข้ามาที่โรงพยาบาลศูนย์”

    เธอได้แต่หันหน้ามายิ้มแล้วหันกลับไปคีย์ข้อมูลสั่งยาต่อ เขาเองไม่รู้จะถามอะไรจึงได้แต่นั่งเงียบ

    “เสร็จแล้วค่ะ เอาใบนี้ไปให้พยาบาลที่โต๊ะสามนะคะ จะได้ไปรับยา”
    เขาเตรียมจะลุก แต่คุณหมอนึกอะไรขึ้นได้จึงเรียกไว้ก่อน

    “งานคุมการก่อสร้างทางที่ออกแดดอย่างที่คุณเล่ามา ถ้าให้คนอื่นไปคุมแทนก็ให้เขาทำเถอะนะคะ ไม่อย่างนั้นไข้กับปวดหัวคงไม่หาย” เธอแนะนำเขาด้วยความหวังดี

    “ขอบคุณครับ” ชายหนุ่มยิ้มพร้อมก้มศีรษะให้เธออีกครั้ง สายตาของเขายังคงจับจ้องที่ใบหน้าของเธอ

    ...เหมือนไม่มีอะไร แต่ทำไมเธอรู้สึกแปลกๆ

    “ตายแล้ว เลิกงานแล้วหรือคะคุณหมอ” คุณพี่พยาบาลช่างพูดอายุอานามเลยเลขสี่ ชะโงกหน้ามาถามจากเคาเตอร์หน้าห้องตรวจ

    “ค่ะ แล้วพี่มีเวรหรือคะ” เธอยกนาฬิกาขึ้นดู ห้าโมงกว่าแล้ว ที่จริงเลยเวลาเลิกงานมาแล้ว แต่วันนี้คนไข้มากก็เลยต้องอยู่สายเสียหน่อย นี่พี่ๆที่วอร์ดคงเดินกลับบ้านไปเสียแล้ว

    “ค่ะ นี่ก็เตรียมแคบหมูน้ำพริกอ่องไว้ แล้วคุณหมอล่ะคะเดินกลับคนเดียวเปลี่ยวหัวใจอีกแล้วสิเนี่ย” คุณพี่แกล้งแซว เธอจึงยิ้มบางๆตอบแล้วกระชับกระเป๋าคล้องไหล่ออกเดิน

    ออกจากตึกใหญ่ก็ลัดเลาะอาคารหลายหลังเข้าไปทางด้านหลังของโรงพยาบาล บ้านไม้สองชั้นขนาดกะทัดรัดตั้งเรียงรายทิ้งระยะห่างกันไม่มาก

    นั่นไงบ้านสีขาวมีทิวเขาเป็นพื้นหลัง นั่นแหละบ้านพักที่เธอลงทุนลงแรงทำความสะอาดรื้อจัดเกือบทั้งวัน...เอ้อเกือบจะทั้งคืนถ้าพี่ๆหมอไม่มาร่วมด้วยช่วยกัน...

    “เย็นนี้กินอะไรกันดี” เสียงใสของหมอรุ่นพี่ดังเข้ามาตามด้วยเสียงปิดประตู หญิงสาวหันเดินออกจากห้องน้ำด้วยชุดลำลอง เผื่อแผ่รอยยิ้มไปยังผู้มาเยือน

    “วันนี้กลับช้านะ ไงจ๊ะคุณหมอคนใหม่คนไข้ติดหรือนี่”คนมาใหม่แค่แกล้งแซว ไม่คิดจะเปรียบเทียบเพราะรู้อยู่แก่ใจ งานในโรงพยาบาลศูนย์ยุ่ง คนมาก ถ้าสบายหน่อยก็ได้กลับบ้านตรงตามเวลาเหมือนอย่างตน

    “เก่าแล้วค่ะ อยู่มาเกือบจะครึ่งปีแล้ว”

    บทสนทนาหยุดลง เมื่อใครอีกคนเคาะประตูบ้าน

    อ้อ พี่ชายที่แสนดีของน้องๆนี่เอง

    “กะจะชวนไปถนนคนเดิน ไปกันมั้ยจ๊ะสาวๆ”

    “เอารถใครไป”สาวที่แก่ที่สุดเอ่ยถาม สาวน้อยในกลุ่มมองหน้าคนนั้นทีคนนี้ที

    “ขี้ตืดนัก ระวังเถอะจะหาแฟนไม่ได้”

    “ไม่ได้ก็เอาพี่เนี่ยแหละ”อีกฝ่ายตอบกลับทันควัน เรียกเสียงฮาของน้อง พี่ชายทำหน้าปูเลี่ยนเหมือนกินยาขม

    “ให้แต่งกับเธอ พี่ยอมเป็นโสดเสียดีกว่า”

    “ชิ ชอบผู้ชายด้วยกันก็บอกมาเหอะ” แกล้งกัด แต่พี่ชายยกมือมาผลักหัว ทำเอาคนช่างพูดน่ามุ่ย

    “ผมเสียทรงหมด”

    “เอ้าจะไปกันรึเปล่า เอารถพี่ไปเนี่ยแหละ เดียวใครบางคนจะหาว่าไม่เป็นสุภาพบุรุษ”
    ชายหนุ่มพูดจบก็เดินนำออกไป ทิ้งให้เจ้าของบ้านกับแขกลงกลอนประตูให้มิดชิด

    “ไปกัน หนุ่มกรุงเทพนี่เที่ยวทุกวัน เห็นอยู่มาหลายปีแล้ว หยุดกินข้าวโรงครัวสักวันหิมะคงตก”พี่สาวยังเหน็บคนที่เดินไปเอารถแล้วให้น้องฟัง คุณหมอสาวถึงกลับยิ้มอารมณ์ดี เพราะได้พี่ใจดีอย่างนี้นี่แหละเธอถึงไม่รู้สึกเหงานัก

    ...หาได้ยาก คนที่เป็นทั้งพี่ ทั้งเพื่อน และที่ปรึกษา  แต่ที่นี่หาได้...

    “กินอะไรดี ตามสั่งหรือว่าของกินเล่น อย่างหลังก็ดีนะพี่จะได้จิบเบียร์” ผู้นำกลุ่มถามระหว่างมองหาโต๊ะเพื่อลงนั่ง

    “อะไรก็ได้ค่ะ วันนี้ไม่ค่อยหิว”คุณหมอสาวอ่อนสุดตอบ แต่ดูเหมือนว่าคุณหมอที่สาวมากกว่าอีกคนจะได้ไม่ได้ยินคำถาม เพราะมัวแต่มองหนุ่มเหนือหน้าตาคมคายที่เกากีตาร์โปร่งอยู่บนเวที

    “ตาทะลุออกมานอกเบ้าแล้วไหมนั่น นี่มันฟังที่พูดหรือเปล่า” คุณหมอหนุ่มหันมาถาม เมื่อเห็นสายตาของคู่กัดจับจ้องอยู่แต่บนเวที คุณหมอหนุ่มรักสบายแต่ไม่ยอมทิ้งบ้านนอกไปด้วยเหตุผลกลใดไม่ทราบจับจูงมือเธอไปนั่งโต๊ะที่เขาเล็งไว้ ปล่อยให้คนบ้าผู้ชายยืนโดดเดี่ยวอย่างไม่รู้ว่าตนเองถูกทิ้งเสียแล้ว

    “อุ้ยขอโทษค่ะหนู” เธอรีบคว้าแขนเด็กผู้ชายไว้ ก่อนที่ร่างเล็กจะล่วงสู่พื้น อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่พอเธอหันตามแรงจูงเท่านั้น เด็กผู้ชายผิวขาวตัวเล็กโผล่จากไหนไม่ทราบวิ่งเร็วปร๋อจนเธอหยุดไว้ไม่ได้ ชนกันเกือบ...โครมถ้าไม่จับไว้ทัน

    “พ่อ พ่อครับ” เด็กน้อยวัยประมาณสี่ขวบ คาดเดาได้ว่าคงวิ่งออกจากโต๊ะที่นั่งมาเดินเล่นร้องเรียกหาพ่อ สายตาของพ่อหนูน้อยก็สอดส่ายหาครอบครัว จนคุณหมอสาวมองหาด้วย แต่พอพ่อเห็นเท่านั้นแหละเด็กชายก็วิ่งปราดหายวับไปกับผู้คนที่เดินขวักไขว่

    “เอ้า เหม่ออีกคนหรือนี่ เร็วๆโต๊ะทางนั้นยังว่าง ปล่อยให้แม่คนบ้าผู้ชายหาเราซะให้เข็ด” พี่หมอเร่งเธออีกครั้ง จนคุณหมอสาวต้องละสายตาจากเด็กน้อยมายังกลุ่มของตนโดยไม่รู้เลยว่าจุดหมายปลายทางของเด็กน้อยคือที่ใด...

    “ทิ้งกันเฉยเลย เราก็อีกคนไปเชื่อพี่หมอ หลอกพี่ให้ยืนหาตั้งนานสองนาน” คนตามหาอารมณ์เสีย ด้วยหลงกลพี่หมอสุดแสบ น้องสุดท้องของกลุ่มได้แต่หัวเราะ เพราะระหว่างการรอเธอเดินหาโต๊ะ วีรกรรมของรุ่นพี่ตรงหน้าถูกถ่ายทอดออกมาเป็นฉากๆ ทั้งที่โรงพยาบาล ที่งานเลี้ยง ไม่เว้นแต่ที่ถนนคนเดินที่ประจำของหมอทั้งโรงพยาบาล

    “อ้าว เห็นว่าสนใจอยู่แต่บนเวที นึกว่ายังอยากยืนดู พี่ก็ไม่ขัดศรัทธา พาน้องเขามาหาอะไรกินก่อน เอาน่าอย่างอน นั่งๆ จิบเบียร์สดเย็นๆให้สบายใจ”ชายหนุ่มแกล้งเหย้า ให้วงครื้นเครงด้วยเกรงว่ารุ่นน้องคนนี้จะโกรธจริงๆ หญิงสาวตรงหน้านั่งลงคว้าหมับแก้วเบียร์แก้วใหญ่ที่ข้างๆมีไอน้ำเกาะพราว

    “แล้วเรา ไม่เอาเสียหน่อยหรือ หนาวๆแบบนี้ดีนักแล” รู้ทั้งรู้ เนื่องด้วยครั้งไหนมีของมึนเมาหญิงสาวรุ่นน้องเป็นอันได้ปฏิเสธ วันนี้นึกครึ้มอกครึ้มใจจึงเอ่ยปากชวน แต่นึกไว้ในใจเดี๋ยวคงได้รับคำตอบแบบเดิมๆ

    “ยังดื่มไม่เป็นเลยพี่” คุณหมอสาวสารภาพ อยากจะร่วมวงอยู่หรอก แต่กินยังไงมันก็ยังขมปร่า แล้วมันจะไปสนุกได้ยังไงถ้าฝืนกิน

    “ไม่เป็นไร พี่แค่ชวน...ตามมารยาท” นั่นมุกหรือ ทำเอาเธอตามไม่ทัน หญิงสาวอดขำเสียไม่ได้ เธอจิ้มไส้อั่วเข้าปากพลางมองบรรยากาศรอบๆ

    มากี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็ยังชอบ ยิ่งการฟ้อนรำของเด็กๆจากโรงเรียนอนุบาลนั่นแล้วยิ่งน่ารัก เธอชอบเด็กๆจัง

    “เอ๊ะ” สายตาของเธอสะดุดกึก เมื่อการแสดงรำของเด็กหญิงตัวน้อยๆจบลง ใครคนหนึ่งจูงเด็กชายหน้าคุ้นตาเข้าไปคล้องพวงมาลัย ไม่นานหญิงสาวรูปร่างสูงหน้าตาสวยหมดจดตามเข้าไปอุ้มเด็กหญิงลงจากเวทีเดินคู่จากมายังโต๊ะของพวกตน

    “พ่อ พ่อครับ” เสียงเมื่อครู่ดังเข้ามาในโสตประสาท

    “มีอะไรเหรอ” รุ่นพี่ทั้งสองถามขึ้นแทบจะพร้อมกัน หญิงสาวรีบปรับสีหน้า

    “ไม่มีอะไรค่ะ เผอิญเห็นเหมือนคนรู้จัก แต่มองดีๆแล้วไม่ใช่”

    คนอีกสองรับคำ แล้วนั่งจิบเบียร์เคล้าเสียงเพลงเพื่อชีวิตสลับกับสีสันของการแสดงหลากหลายที่ทยอยโชว์บนเวที ทิ้งให้คุณหมอสาวนั่งนิ่งคิดอะไรคนเดียว
    ....จนกระทั่งรุ่นพี่สาวนึกอะไรขึ้นได้

    “เอ่อ ทุกคนคะฟังทางนี้หน่อย” พี่หมอเปิดการสนทนาหลังจากอาหารพร่องเกือบหมด เมื่อเห็นว่าบุคคลอีกสองหันมามอง หญิงสาวก็เริ่มแจกแจงแถลงไข

    “วันพฤหัสฯนี้ว่างกันหรือเปล่าคะ ติดเวรอะไรกันหรือเปล่า” สองคนส่ายหน้า พี่หมอมีเวรติดกันแค่สองวันแรกของสัปดาห์ ส่วนเธอนั้นมีเวรคือสองวันสุดท้ายของสัปดาห์หน้าไม่มีปัญหาอะไร
    “คือว่างี้นะคะ เผอิญว่าเพื่อนที่อยู่กรมทางหลวงเขามาชวนไปช่วยจัดงานคริสต์มาส”พูดยังไม่ทันจบ เพียงแค่พักหายใจ ชายหนุ่มหนึ่งเดียวก็โห่นำขึ้นมาเลย

    “วันของฝรั่งเขา ยัยนี่เอาหมดเลยวุ้ย ไม่ไปไม่ไป เช่าหนังในตลาดมานอนดูที่บ้านดีกว่า”

    “ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ ไม่ฟังให้จบก่อนพี่หมอก็จับไปกระเดียดเสียละ ถ้าอย่างนั้นไม่พูดด้วยแล้ว”เธอประชดเข้าให้ หญิงสาวน่างอ แกล้งงอนแล้วหันมาพูดกับคุณหมอสาวอีกคนแทน

    “พี่หมอไม่ไปไม่เป็นไรแต่เราต้องไปนะ คือว่าเพื่อนพี่ที่เขาเป็นหัวหน้าวิศวโยธาเขาจะจัดงานคริสต์มาสให้บ้านเด็กกำพร้ากัน เขาก็เลยมาชวนให้ไปช่วยกันจัดเตรียมงาน พี่เห็นว่าพวกเราคงว่างๆกันก็เลยจะชวน นี่พี่ๆน้องๆหมอวอร์ดเด็กกับออโธฯก็ว่าจะไปด้วย ก็เลยมาชวนว่าไงจ๊ะ สนใจไหม”

    “อ้าวเฮ้ย แล้วไม่บอกเรื่องทำบุญพี่ชอบนัก”ผู้ชายที่ถูกผลักออกไปนอกวงเสนอหน้าเข้ามาทันที

    “แหมพี่หมอคะ ไม่พูดไม่รู้เลยนะคะ ถ้าน้องหมอวอร์ดเด็กไม่ไปด้วยเนี่ย พี่จะหูผึ่งไหมคะ” ด้วยสนิทกันมานานตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพ หญิงสาวรุ่นพี่จึงกล้าแหย่กับพี่หมอแรงๆ

    “เอ้อ ก็นึกว่าเอ็งจะชวนไปฉลอง งานบุญพี่ก็อยากจะทำบุญมั่งนี่หว่า”

    “ให้มันจริง”

    “จริ๊ง”ชายหนุ่มแกล้งดัดเสียงสูงตอบกลับ ทำเอาคนนั่งมองหัวเราะออก

    “งั้นไปใช่มั้ย” ทั้งหนึ่งหญิงหนึ่งชายพยักหน้ารับ เมื่อรับประทานอาหารอีกสักพักจนอิ่มหมีพลีมันกันถ้วนหน้าก็ลุกจากโต๊ะเตรียมตัวไปขึ้นรถกลับบ้าน....

    จากคุณ : nattanaree - [ 25 ธ.ค. 51 01:26:39 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com