Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    รักแท้ของแจกัน

    ผมถือกำเนิดมาพร้อมกับเพื่อนๆที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนผมจำนวนหนึ่งในโรงงานผลิตเซรามิกส์แห่งหนึ่งของจังหวัดทางภาคเหนือของประเทศไทย
    ผมและเพื่อนส่วนหนึ่งถูกขนส่งมายังตลาดนัดเสาร์อาทิตย์ของชาวเมืองหลวงที่ถูกเรียกติดปากว่าจตุจักรหรือเจเจ

    เพื่อนๆของผมเคยบอกว่า ชีวิตของพวกเราจะเป็นชีวิตที่เปราะบางและไร้ค่า  ก็แจกันราคาถูกๆอย่างเรา  ไม่แตกระหว่างการขนส่งก็เป็นบุญหนักหนาแล้ว  มีเพื่อนผมจำนวนไม่น้อยเลยที่มาไม่ถึงจตุจักร...

    ผมถูกนำมาวางบนชั้นโชว์อย่างเป็นระเบียบกับเพื่อนแจกันที่มีรูปร่างหน้าตาแตกต่างจากผมอีกหลายสิบใบ แต่ละวันผ่านไปอย่างเชื่องช้าเหงาหงอย วันๆหนึ่งผมได้แต่มองคนที่เข้ามาเลือกของในร้านเท่านั้น บางคนมองผ่านไม่สนใจ บางคนมีทีท่าพอใจเมื่อเห็นผม แต่เมื่อเห็นแจกันใบอื่นที่ถูกใจกว่า เขาก็วางผมลงที่เดิม

    วันหนึ่งชีวิตของผมก็เปลี่ยนไปเมื่อหญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้มคนหนึ่งหยิบผมขึ้นมาดูด้วยความพอใจ

    “อยากไปอยู่กับฉันใช่มั้ยล่ะ” เธอพูดกับผม ตั้งแต่ผมเกิดมาไม่มีมนุษย์คนไหนพูดคุยกับผมเลย

    “รู้นะว่าเบื่อที่นี่แล้ว มาอยู่นานแล้วนี่” หญิงสาวพูดและยิ้มให้ผม ผมอยากจะตอบเธอไปว่าผมเบื่อที่นี่เต็มทน แต่ผมก็ไม่สามารถสื่อสารกับเธอได้ เธอมองดูแจกันใบอื่นนอกร้าน ผมกลัวเหลือเกินว่าเธอจะวางผมลงเมื่อเห็นแจกันใบใหม่ที่ถูกใจกว่า

    แต่เธอก็ไม่

    แม่ค้าห่อผมด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์หลายชั้น ผมกลับเข้าสู่ความมืดอีกครั้ง ได้แต่รับรู้ทางสัมผัสว่าเธอจับผมระมัดระวังเบามือแค่ไหน

    เธอบรรจงแกะกระดาษหนังสือพิมพ์ออกอย่างเบามือ ผมสิ่งแรกที่ผมเห็นก็ใบหน้าที่ยิ้มแย้มพร้อมกับคำพูด “ยินดีต้อนรับนะจ๊ะ”

    ผมมองไปรอบตัว ที่นี่คงเป็นห้องของเธอ  เป็นห้องไม่ใหญ่นัก ตกแต่งอย่างเรียบง่าย มีเตียง โต๊ะเครื่องแป้ง โต๊ะเขียนหนังสือ ตู้เสื้อผ้า และชั้นหนังสือที่แน่นไปด้วยหนังสือหลากหลาย  เธอพาผมไปไปห้องน้ำเล็กๆที่ติดกับประตูทางเข้า รองน้ำใส่ตัวผมให้ได้ปริมาณพอดี แล้วนำผมออกมาวางที่โต๊ะเขียนหนังสือ

    เธอบรรจงหยิบกำกุหลาบสีขาวขึ้นมาจากถุงพลาสติก

    “โถๆๆ ขอโทษนะจ๊ะ ช้ำหมดแล้ว” เสียงของเธออ่อนหวาน ใบหน้าก็ระบายด้วยรอยยิ้ม  ดูเธอจะคุยกับข้าวของทุกชิ้นที่อยู่ใกล้ตัวเธอเสมอ

    เธอค่อยๆริดใบและหนามกุหลาบทีละดอก ในที่สุดกุหลาบแต่ละดอกที่ยังไม่บานเต็มที่ดูขาวบริสุทธิ์ก็ชูช่อสวยงามอยู่ในตัวของผม  ผมรู้สึกว่าดอกไม้พวกนี้ทำให้ผมดูดีมีค่าขึ้นเยอะเลย ดีกว่าตั้งโชว์ว่างเปล่าอยู่ในร้านเป็นไหนๆ

    “สวยจังเลยนะ...แจกันสวยๆก็ต้องคู่กับดอกไม้สวยๆ เนอะ...บลูจัง” เธอวางผมลงบนโต๊ะเขียนหนังสือแล้วหันไปพยักเพยิดกับเจ้าตุ๊กตาหมีสีฟ้าเก่าๆตัวหนึ่งบนหัวเตียง

    ตั้งแต่นั้นมา ผมก็เป็นส่วนหนึ่งในห้องของเธอ  ทุกๆสามวันเธอจะเปลี่ยนน้ำและนำดอกไม้มาเปลี่ยนเสมอ ดอกไม้ที่เธอนำมามันจะเป็นสีขาว และมีกลิ่นหอม อย่างดอกกุหลาบจะบ่อยที่สุด ผมคิดว่ามันเหมาะกับเธอเป็นที่สุด สวย ขาวบริสุทธิ์ ไร้เดียงสา

    เธอเป็นมนุษย์คนเดียวที่ทำให้ผมรู้ว่าความอ่อนโยนของมนุษย์เป็นอย่างไร เพราะในสายตาคนทั่วไป ผมเป็นเพียงวัตถุที่ไม่มีชีวิตจิตใจ มีประโยชน์แค่เพียงรองรับดอกไม้ที่เจ้าของสรรหามาใส่  

    เธอมีนิสัยที่ชอบพูดคุยกับข้าวของอื่นๆที่อยู่ใกล้ตัวเสมอ แต่สิ่งที่เธอพูดด้วยบ่อยที่สุดคือเจ้าบลูจัง หรือตุ๊กตาหมีสีฟ้าเก่าๆตัวนั้นนั่นแหละ วันที่เธอไม่อยู่ ผมกับเจ้าบลูจังคุยกันถึงเธอเสมอ มันบอกว่ามันอยู่กับเธอตั้งแต่ยังเด็ก ติดสอยห้อยตามไปไหนๆเสมอ แต่พอเธอโตเป็นสาว มันก็ได้แต่นั่งสงบเสงี่ยมอยู่ในห้อง ทุกๆคืนก่อนนอนเธอจะคุยกับมันก่อนจะหลับไปโดยมีร่างตุ้ยนุ้ยของมันแนบอก ในบางคืนเธอหลับไปพร้อมกับน้ำตา

    ผมอิจฉาเจ้าบลูจังเหลือเกิน ทำไมเธอจึงรักแต่มันนะ คุยกับมันแทบจะตลอดเวลา แล้วยังกอดมันอีก เธอจะคุยกับผมก็ต่อเมื่อตอนเปลี่ยนน้ำและเปลี่ยนดอกไม้เท่านั้น ทำไมเธอจึงไม่ทำกับผมเหมือนอย่างที่ทำกับมันบ้าง เธอจะรู้ไหมนะว่าผมก็อยากให้เธอกอดผมเหมือนกัน แล้วทำไมบางวันที่เธอไม่กลับมาที่ห้องนี้หลายคืน เธอก็จะเอามันไปด้วยเสมอ ผมได้แต่เฝ้าถามตัวเองว่าทำไม  แต่เมื่อมาคิดดู ผมเป็นเพียงแจกันที่ทำจากเซรามิกส์แข็งๆ ส่วนเจ้าบลูจังนุ่มนิ่มน่ากอด เมื่อคิดได้อย่างนี้ ผมก็ชิงชังตัวเองเหลือเกินที่ผมไม่น่ากอดเหมือนมัน


    แล้ววันหนึ่งเธอก็เปลี่ยนไป...เธอกลับบ้านช้าลง และคุยกับพวกเราในห้องน้อยลงแม้แต่เจ้าบลูจัง

    มันถูกทิ้งให้อยู่บนหัวเตียงโดยไม่ย้ายที่ไปไหนนานแล้ว  แต่ในห้องเล็กๆห้องนี้ยังคงมีเสียงเธอพูดแจ้วๆอยู่คนเดียวเหมือนเดิม แต่ไม่ใช่กับพวกเราอีกต่อไป สิ่งที่เธอคุยด้วยเป็นโทรศัพท์มือถือเครื่องเล็ก เธอใช้เวลาที่ควรจะคุยกับพวกเราทั้งหมดไปคุยกับเจ้าโทรศัพท์บ้านั้น เดี๋ยวนี้เวลาเธอเปลี่ยนดอกไม้ เธอก็ไม่พูดกับผมอีกแล้ว กลับพูดกับเจ้านั่นแทน พูดไปหัวเราะไป ดูเธอมีความสุขมาก ไม่เหมือนตอนคุยกับผมหรือเจ้าตุ๊กตาหมีสีฟ้านั่นเลย

    ความสนใจต่อพวกเราของเธอน้อยลงไปทุกวันๆ จะว่าไป เธอก็แทบจะไม่อยู่กับพวกเราด้วยซ้ำ  ตอนเช้าเธอแต่งตัวสวยออกไป กว่าจะกลับก็ค่ำมืดแล้ว หลังจากนั้นเธอก็คุยโทรศัพท์จนดึก แล้วจึงนอนหลับ  เป็นอย่างนี้ทุกวัน บางครั้งเธอลืมเปลี่ยนดอกไม้บนตัวผม ทิ้งให้มันเหี่ยวเฉา  กว่าเธอจะสังเกต น้ำที่แช่เจ้าดอกไม้พวกนั้นก็เน่าแล้ว

    วันนี้เธอหายออกจากห้องไปแต่เช้าเหมือนเคย  และเธอก็ไม่ได้เปลี่ยนดอกไม้บนตัวผมมาหลายวันแล้ว เจ้าดอกกุหลาบที่เคยสดสวยตอนนี้มันกลับแห้งเฉา ดูโรยราอ่อนล้า

    มันทำให้ผมรู้สึกเศร้าจนบอกไม่ถูก  เมื่อแรกที่ผมมาอยู่กับเธอ เธอเอาใจใส่ผมดีกว่านี้


    เธอกลับเข้ามาเมื่อพระอาทิตย์เริ่มอ่อนแสง ซึ่งเร็วกว่าปกติทุกวัน  แต่คราวนี้เธอไม่ได้กลับมาคนเดียว

    ชายหนุ่มร่างสูง หน้าตาดีตามเธอเข้ามาด้วย

    “ตามสบายเลยนะอิฐ” เธอพูดอย่างอารมณ์ดี ตั้งแต่ผมมาอยู่กับเธอที่นี่ ผมไม่เคยเห็นเธอมีความสุขขนาดนี้มาก่อน ผมมองไปที่เจ้าบลูจัง มันมองผมตาละห้อย หน้าหงอยๆ

    ใจหนึ่งผมก็สมน้ำหน้าที่มันถูกเธอเฉยใส่บ้าง แต่อีกใจหนึ่งก็รู้ว่าชะตากรรมของผมกับมันตอนนี้ไม่ต่างกันเลย  ขนาดว่าเธอไม่ค่อยคุยกับเท่ามัน ผมยังเจ็บปวดขนาดนี้ แล้วมันล่ะ จะเจ็บปวดขนาดไหนจากที่เคยเป็นที่รัก กลายเป็นเพียงตุ๊กตาเก่าๆธรรมดาๆตัวหนึ่ง

    เธอกับไอ้หมอนั่นนั่งคุยกันอยู่นานสองนาน ผมอยากให้มันไปเร็วๆเสียที

    นั่น! มือมันเริ่มเลื้อยไปโอบไหล่เธอแล้ว

    “ทำอะไรน่ะ” เสียงเธอฟังดูตกใจ

    “โธ่ ชวนมาห้องซะขนาดนี้แล้ว อย่ามาเล่นตัวทำใสซื่อบริสุทธิ์เลยน่า” มันดึงตัวเธอเข้ามากอด ผมโมโหที่มันทำอย่างนั้นกับเธอ

    “ปล่อยนะ อิฐ เราไว้ใจนายนะถึงชวนมา นายจะมาทำแบบนี้กับเราเหรอ”

    มือของมันเริ่มลูบไล้เปะปะไปตามตัวเธอ ผมอยากจะช่วยเธอแต่ก็ทำอะไรไม่ได้

    “อย่างเธอน่ะนะ ถ้าฉันไม่เอาก็ไม่มีใครเอาหรอก ใครจะเอาผู้หญิงไม่ปกติอย่างเธอมาเป็นแฟน” เธอนิ่งตัวแข็ง คงช็อกกับคำพูดของไอ้บ้านั่น

    ท่าทางมันพอใจที่เธอหยุดนิ่งแล้ว ผมไม่รู้จะช่วยเธอได้อย่างไรดี รู้ทั้งรู้ว่าเธอกำลังอยู่ในอันตราย แต่ผมก็ขยับตัวเองไม่ได้เลย ขอร้องเถอะ ให้ผมได้ช่วยอะไรเธอบ้าง แม้จะต้องแลกด้วยชีวิตของผมก็ตาม

    “เพล้ง!!” ผมรู้สึกเจ็บปวดราวร่างกายแตกสลาย ชั่ววินาทีแรกผมรู้สึกมึนงง แต่ภาพต่อมาที่เห็น ก็คือไอ้มนุษย์บ้ากามนั่นหัวแตกเลือดโชก ส่วนผม...

    เศษชิ้นส่วนเซรามิกส์ที่เมื่อชั่ววินาทีก่อนหน้านี้มันยังประกอบเป็นรูปเป็นร่างของผมแตกกระจายอยู่บนพื้นห้อง บางส่วนอยู่บนที่นอน

    “เมิง...” มันคำรามออกมาด้วยความโกรธ

    เธอรีบคว้ามีดคัตเตอร์ในลิ้นชักขึ้นมาถือตรงหน้า หันคมมีดไปทางมัน น้ำตาเธอไหลเป็นสาย ตัวสั่นไปหมด

    “อย่าเข้ามานะ”

    มันมองเธอด้วยสายตาอาฆาตแล้วเปิดประตูจากไป ทิ้งให้เธอที่เพิ่งผิดหวังนั่งร้องไห้ข้างเศษซากของร่างผม

    ผมสงสารเธอจับใจ  อยากจับเธอมากอดมาปลอบใจให้เธอหายเศร้าลงบ้าง แต่ผมก็ไม่สามารถทำได้อย่างที่ใจต้องการ ถึงกระนั้นผมก็ยังดีใจเหลือเกินที่สามารถช่วยเธอไว้ได้ ชีวิตของผมไม่เสียดายเลย เพื่อเธอแล้วไม่ว่าจะตายกี่ครั้งผมก็ยอม

    ภาพสุดท้ายที่ผมเห็นก่อนทุกสิ่งทุกอย่างจะดับสลายลงไป...ภาพของเธอที่คว้าเจ้าบลูจังบนหัวเตียงมากอดซุกหน้าร้องไห้กับตัวมัน.

    จากคุณ : ใบไม้ปลิว - [ 25 ธ.ค. 51 18:59:39 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com