........ สกล และภรรยาได้แต่เศร้าสร้อย ร้องไห้น้ำตาแทบออกมาเป็นสายเลือด ไม่มีใครหรอกที่ไม่สามารถจำเหตุการณ์เลวร้ายขนาดนั้นไม่ได้ คำถามอยู่ในใจอีกคำ ใครมันเป็นคนทำแล้วใจมันทำด้วยอะไร โกรธแค้นกันมาจากชาติไหน เพราะอะไรถึงทำได้กันแบบนี้ ชีวิตคนเราเกินมาแต่ละครั้งก็ยากเย็น แต่มาพรากไปได้ง่ายดายเช่นนี้หรือ

ใคร........กันที่มันทำได้................ จากสถาน ที่พบศพของลูกสาวคนโตของ สกล ตำรวจเจ้าของดีเล่าให้ฟังตามข้อมูลที่สืบได้ว่า ไม่ได้มี กระเป๋า นักเรียนและสภาพศพ ก็ไม่ได้สวม ใส่รองเท้า จาเหตุการณ์ลูกสาวของสกล สูญ หายไปได้ 2 อาทิตย์ แต่ การเสียชีวิต แพทย์ชันตสูตรออกมาบอกได้ว่า เสียชีวิตได้ 1 อาทิตย์หลังจากวันที่หายตัวไป ในสวนของผู้ใหญ่บ้าน หมู่บ้านแห่งนึง ในพื้นที่น้ำ ผู้พบศพคนแรกแจ้งไว้ว่าได้กลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรงมาทีแรกนึกว่าหนูตาย แต่ ไม่หายสักทีจึงเดินเข้ามาดูในสวน ระยะทางจากทางเข้าเป็นพื้นที่สวนปกคลุม ประมาณ 1000, เมตร เมื่อเห็นเป็นศพด็กผู้หญิงในสภาพขึ้นอืดศีรษะ ถูกทุกด้วยของแข็งใบหน้าเละจำเค้าเดิมไม่ได้ จึงรีบเดินทางไปแจ้งตำรวจ ท้องที่ จากผลชันสูตรบ่งบอกอีกกรณีว่าสภาพศพ พบว่าถูกข่มขืนมา มีร่องรอย และน้ำอสุจิใกล้ ๆที่เกิดเหตุไม่ไกลนัก มีกระท่อม กลางสวน ภายในนั้นตรวจค้น อุปกรณ์การเสพยาบ้าซ่อนไว้......

........ แต่ไม่พบตัวผู้ต้องสงสัย พบเพียงแต่กระเป๋า นักเรียนของผู้เสียชีวิต และเชือก จากการสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดี ลงบันทึกไว้ว่า ว่าผู้ต้องสงสัยเดินทางมาพบเจอ น.ส ..... ผู้ตาย น่าจะอยู่หรือเดินมาคนเดียว แล้วจึงเข้าไป ขู่บังคับ แล้วพามากักขังที่ กระท่อม จากนั้นก็ลงมือข่มขืน จากหลักฐานต่าง ๆทางสถานที่เกิดเหตุ ทางสภาพแวดล้อม ผู้ตาย คงหลบหนีจากการถูกกักขัง แล้วผู้ต้องสังสัยไล่ตาม มาทำร้ายจนเสียชีวิต เพราะไม่มีร่องรอยการลาก ถูใด ๆ มีเพียงแต่ร่องรอยเศษหญ้าที่พบศพ ในช่วงนั้นผู้เสียชีวิตคง ขัดขืนจึงถูก ทำร้ายโดยให้หิน ทุบที่ใบหน้าและศรีษะ.........

................ส่วนผู้ต้องสงสัยในเบื้องต้น คือ นาย......... อายุ 22 ปี เป็นบุตรชายของผู้ใหญ่บ้าน.....เจ้าของสวนที่พบศพ.......น.ส ซึ่งจับตัวได้ในบ้านพัก จากการตรวจค้นพบ ร่องรอย ขีดข่วนตามร่างกาย และ ระหว่างถูกจับอยู่ในสภาพเมายาบ้า
ให้การวกวน ระหว่างตรวจค้นพบยาบ้าอยู่ในตัวจำนวน 10 เม็ด จึงตั้งข้อกล่าวหา ไว้
5. ข้อ 1. มียาเสพติดให้โทษชนิดแอมเฟนตามีนไว้ จำหน่าย จำนวน 10 เม็ด
2. มียาเสพติดให้โทษมีไว้เพื่อเสพ
3. ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
4. กักขังหน่วงเหนี่ยว
5. ข่มขื่นผู้อื่นโดยอายุต่ำกว่า 18 ปี
แต่หลังจากเหตุการณ์นั้น ผ่านได้สัก 4 เดือน ในช่วงต้นปี 2540 ก็มีการพิพากษา คดีนี้ โดยที่ทางญาติของผู้ต้องหาไม่ได้เจรจาหรือชดใช้ค่าเสียหายใด ๆกับ นาย สกล อีกทั้งยังให้การปฎิเสธ ด้วยประจักพยานไม่มี อีกทั้งอื่น ๆอีกหลายปัจจัย จึงทำให้ นาย......ผู้ต้องหาไม่ได้รับการประกันตัวแต่ศาลตัดสินจำคุกในคดีมียาเสพติดให้โทษไว้เพื่อจำหน่าย จำคุก 2 ปีครึ่ง จากการตัดสินคดีของศาลตำรวจ เจ้าของคดีบอกว่าทำดีที่สุด (สกลอดคิดในใจไม่ได้ว่าตำรวจค้าสำนวนหรือไม่) แล้ว.........อีกทั้งหลังจากจับได้ไม่มีการขอขมาใด ๆเพียงแต่นำตัวผู้ต้องหาส่งเรือนจำโดยทันที สกลเห็นก็เพียงภาพถ่ายในคดีที่ตำรวจนำมาให้ดู แต่ในห้องพิพากษาผู้ต้องหาหรือผู้กระทำผิดต้องมาฟังคำพิพากษาด้วยตนเองจึงทำให้เป็นครั้งแรก ที่ สกล เห็นหน้าค่าตาเดรฉานตัวนี้แบบตัวเป็น ๆ ระหว่างเดินออกจากห้องพิพากษา สกล จำหน้าตาทางของ นาย..........จำเลยได้อย่างแม่นยำ รวมถึงคำพูดของ ผู้ใหญ่บ้านพ่อของจำเลย ได้ตะโกนบอกลูกชาย ว่า พาดเคราะห์ไปลูก ..............

.................คำพูดนี้ ลูกสาวที่สกลเลี้ยงมาตั้งแต่ เกิด จนคลานป้อนนมป้อนข้าว เลี้ยงดูทนุทนอม 17 ปีไม่เคยที่เค้าจะมีความทุกข์ใจสาหัสแบบนี้ คนเราเมื่อไปสู่จุดที่เรียกว่ามุม อับของจิตใจ สิ่งที่ตามมา แม้จะต้องเสียบางสิ่งบางอย่าง ก็ต้องทำ สกลกลับบ้านไปคิดไม่ตก อยู่ 2-3 วัน โดยที่ไม่ได้พูดคุยกับภรรยามากนัก เพราะภรรยายังดูเศร้าหมอง แม้ลูกคนเล็กจะยังอยู่ แต่ก้อถามถึงพี่สาวคนโตเสมอ ๆ ว่าคิดถึงพี่........จังเลยนะแม่ จริง อยู่ถึง สกล จะเป็นคนทำมาหากินสุจริต แต่คนที่ไม่โกรธไม่เกลียด เป็นนิสัย แต่ถ้ารับแรงกดดันและความสูญเสียรุนแรงเช่นนี้ ก็คงหาทางทำสิ่งใด้สิ่งหนึ่งที่คาดไม่ถึงเหมือนกัน หลังจากวันนั้นหนึ่งสัปดาห์ สกล ถูกตำรวจ จับโดยโรงพักเดียวกับเค้าติดตามคดีลูกสาว คนโต ด้วยข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาน สกล คดีของสกลนั้นมีดังนี้ ผู้ต้องหาได้อาศัยจังหวะพลบค่ำในคืนวันเสาร์ ปี 40 ได้ไปหน้าบ้านผู้ใหญ่...........แล้วตะโกนเรียก ผู้ใหญ่บ้านออก มา เมื่อผู้ใหญ่บ้านเปิดประตูสกล ยกปืนขนาน 9.มม ยิงเข้าที่ศรีษะ ผู้ใหญ่บ้าน 2- 3 นัดโดยพบปลอกกระสุนปืนได้ที่เกิดเหตุ โดยที่คนในบ้านของผู้เสียชีวิต ไม่กล้าออกมาดู จากนั้นสกลได้หลบหนีกลับมาที่บ้านแล้ว บอกกับภรรยาและลูกเดิมที สกล คิดจะยิงตัวตายตามลูกสาวคนโต พร้อมภรรยาและลูกสาวคนเล็ก แต่ บางอย่างได้บอกให้ สกล รู้ว่า เค้าควรจะรับโทษทัณ์ที่ทำไว้เพียงคนเดียว เหตุการณ์ร้าย ๆจึงไม่ได้ เกิดขึ้นตามมามีเพียงตำรวจเจ้าของที่ สกลโทรศัพท์ไปบอกให้มารับตัว
แน่นอน สกลไม่มีทรัพย์สินพอ ที่จะสู้คดี หรือประกันตัว เพราะเป็นคดีอุกอาจ จึงต้องถูกจับส่งตัวไปดำเนินคดีถูกกักขังในเรือนจำ และเรือนจำแห่งนี้จะแยกผู้ต้องขัง หากเป็นคดีปกติ ไม่ใช่คดียาเสพผู้ต้องขัง จะอยู่แดนนึง ส่วนผู้ต้องขังที่มีคดียาเสพติดจะอยู่อีกแดนนึง ในแต่ละแดน จะไม่สามารถเดินไปเดินมาระหว่างกันได้ จะถูกปิดไว้อย่างเข้มงวดการเข้าออกระหว่างแดน ต้องมีเหตุณ์จำเป็นหรือมีใบผ่านแดน ที่มีผู้คุมอนุญาตแล้วเท่านั้น เรือนจำแห่งนี้ก้อเช่นกันหลังจากสกล ได้เข้ามาอยู่ในเรือนจำเพื่อต่อสู้คดี ได้ เกือบ 4 เดือน..........

.............ประมาณช่วงปลายปี 41 ระหว่างที่สกลนั่ง
เหมอ หวนคิดถึงภาพถ่ายที่ไปเที่ยวกับลูกสาวที่สวนสยาม พลันสายตาก้อเหลือบไปเห็น ผู้ต้องขัง 3 คนสีเสื้อเหมือนอยู่ในแดนยาเสพติด เดินถือถุงอาหารใบใหญ่เข้ามาภายในแดนคดีปกติของ สกล เข้าทางประตูแดน ในบางครั้งการจ่ายอาหารที่สั่งซื้ออาจมีการสลับกันระหว่างแดน จึงต้องมีผู้ต้องขังที่ทำหน้าที่ดูแล การจ่ายอาหาร เข้ามาตามอาหาร ในแดนอื่น ๆที่ อาหารจ่ายผิด ทีแรกสกลไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก แต่ เมื่อเข้ามาในระยะสายตา ของ สกล พลัน ลุกขึ้นมาทันที เพราะคนที่ 3 ที่เดินตามหลังเข้ามาในแดน ถ้าจำไม่ผิดคือนาย.......... ที่ก่อคดีฆ่าลูกสาวคนโตของเค้านั่นเองแต่ต้องโทษจำคุกเพียง แค่ 2 ปีครึ่ง ไฟแค้นเหมือนสุมอยู่ในอก ในเรือนจำผู้ต้องขังไม่สามารถครอบครองหรือมีอาวุธใด ๆได้ แต่เท่าที่สกล สังเกต ทั้ง 3 คนจะต้องไปที่สโตร์ภายในแดน ระหว่างที่ผู้ต้องขังแดนอื่น 3 คนมาตรวจเช็คอาหารที่ขาด หรือสลับกับแดน นี้ สกล ได้ลุกที่นั่งเดิมหายไปที่ล๊อคเกอร์เก็บเสื้อผ้าแป๊บนึง แล้วเดินไปที่สโตร์อีกครั้ง พร้อมกับ เดินเข้าไป ใกล้ ๆ ผู้ต้องขังแดนยาเสพติดที่มาตามอาหารที่สลับกัน แล้วเอ่ย เรียกชื่อ........ ผู้ต้องขังคนที่ 3 เงยหน้าขึ้นมาตามเสียงเรียก จังหวะนั้นสกล จ้วงปักปลายช้อนกินข้าวชนิดปลายสั้น ๆแทง เข้าไปที่หน้าของน.ช...........แถว ๆเบ้าตา ในช่วงเวลาที่ทุกคนตกตะลึง กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สกล ได้ใช้ปลายช้อนกินข้าวจ้วงแทงเข้าที่เบ้าตาของน.ช.................ซ้ำ ๆ อย่างไม่ยั้งและยังนั่งค่อมทับบนตัวน.ช....ที่ล้มตัวลงนอนพร้อม แหกปากร้องดิ้นทุรนทุราย...........กว่าจะมีผู้เข้ามาห้ามปราม เหล่าผู้ต้องขับได้ยินคำพูดคำสุดท้ายของ...น.ช............ก่อนสิ้นลมหายใจอย่างทรมาน “ผมขอโทษครับ ไม่ทำอีกแล้ว” ซึ่งเป็นคนเดียวกันที่ก่อคดีฆ่าลูกสาวคนโตของ สกล กว่าเพื่อนนักโทษคนอื่นจะห้ามได้ทัน น.ช ....คนดังกล่าวก้อสิ้นใจพร้อมกลิ่นคาวเลือดคุ้งไปทั่ว โดยที่ สกล ยืนร้องให้อย่าง หมดอาลัยตายอยาก อยู่ใกล้ ๆในมือยังมีช้อนที่ ปลายงอหงิก..........................................

.............. หลังจากนั้นสกล ก็โดนดำเนิน คดีในเรือนจำเพิ่ม อีก 1 คดี ในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา และยังต้องใส่ตรวน เส้นใหญ่ที่ข้อเท้าอีก รวมถึงถูกกักขังอยู่บนเรือนนอนโดยไม่ได้ลงมาข้างล่าง เกือบ 1 ปี จากวันนั้นถึงวันนี้ จ.ม จากภรรยามาถึง สกล มีข้อความว่าพี่ไม่ต้องห่วง หนูอยู่กับลูกสบายดี ทำตัวให้ดีแล้วรีบออกมาจะได้อยู่ด้วย กัน เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว หนูฝันเห็นลูก ในฝันแกเดินเข้ามายิ้มให้หนู ลูกคงไปดีแล้วนะพี่ อยากได้อะรัยเขียนบอกหนูมาได้นะพี่ ส่วนน้อง ........บอกว่าไว้เยี่ยมญาติคราวนี้ปิดเทอมพอดี หนูจะพาเค้ามาด้วย รักและห่วงพี่เสมอ สุกใจ แน่นอนครับจดหมายฉบับนี้ แกให้ผมดูพร้อมกับภาพถ่ายลูกสาว ที่ไปเที่ยวสวนสยามมาตอนปี 39 ...................ปัจจบัน สกล ยังคงต่อสู้คดีอยู่ในเรือนจำ ........

จากคุณ : กุมภ์กานต์ - [ 27 ธ.ค. 51 20:27:38 A:192.168.0.17 X:58.9.135.241 ]