ความคิดเห็นที่ 1 บทนี้เด็กๆคงต้องเอามาล้อเล่นกันบ้างน่า เกี่ยวกับจระเข้ " The crocodile Is in the river: It's lost its teeth and cannot bite anybody" จากคุณ : กูรูขอบสนาม - [ 28 ธ.ค. 51 16:25:31 ]

ความคิดเห็นที่ 2 หรือจะเป็นการละเล่นชื่อมอญ "" The Mon hides a cloth; The doll is behind you ! Dropped here, dropped there, I'll smack your bottom !" จากคุณ : กูรูขอบสนาม - [ 28 ธ.ค. 51 16:26:57 ]

ความคิดเห็นที่ 3 นอกจากนั้นยังมีดอกสร้อยสุภาษิตติดปาก ลองทายกันดูว่ามาจากคำกลอนภาษาไทยอะไร Little Children "O little children, Still lacking in knowledge, you must learn at once. When you grow up, you will have A means to earn a living. Education has many uses. Perserves and you'll come to good. Bear all hardships with patience Being born human, you must be deligent" จากคุณ : กูรูขอบสนาม - [ 28 ธ.ค. 51 16:27:47 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เพลงร้องสมัยเด็กๆ Cluck the Hen (Kuk Kuk Kai) Cluck the hen, She brings up her children, Giving them no suck. When they cry chick-chick She has them peck and pick And live the day In the chicken way. เกริ่นไว้แค่นี้ก่อน ถ้านึกไม่ออก ลองถามลูกหลานในบ้าน ชะอุ้ย ไม่รู้สมัยนี้ยังท่องอยู่หรือเปล่า เล่มนี้เหมาะสำหรับให้แขกฝรั่งผู้สนใจแง่มุมไทยๆแบบบ้านๆ หรือแม้แต่ลูกหลานเพื่อนๆ ที่ยังอยู่ในเจ้าบทเจ้ากลอน ชอบท่องดอกสร้อยสุภาษิต เอามาเปรียบเทียบคำไทย กับ ฝรั่งกัน ลองดูนะคร้าบ อ้อ ในเล่มยังมีบทแปลเพลง ลาว ๆและ เขมรๆ ทั้งหลาย ลาวดำเนินทราย ลาวดวงเดือน เขมรไทรโยค เขมรโพธิสัตว์ ถ้ายังไม่ตาลายก่อน จะพิมพ์ตบท้ายให้หลังเฉลย เข้ามาแก้ไขคำผิด แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 51 21:05:22 จากคุณ : กูรูขอบสนาม - [ 28 ธ.ค. 51 16:31:33 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เข้ามาเล่นเกม 1. แมงมุมขยุ้มหลังคา 2. นึกไม่ออก 3.มอญซ่อนผ้า 4.เด็กเอ๋ยเด็กน้อย ความรู้ยังด้อยเร่งศึกษา 5.กุ๊กเอ๋ยกุ๊กไก่ แม่พาไปคุ้ยดิน(ไม่แน่ใจ) แฮะๆ รู้สึกตัวว่าแก่มากเลยค่ะ จากคุณ : สาวช่างถาม - [ 28 ธ.ค. 51 17:03:06 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อืมม์.. -แมงมุม (ขยุ้มหัวใจ) -เกี่ยวกับไอ้เข้..นึกไม่ออก -มอญซ่อนผ้า -เด็กเอ๋ยเด็กฯ -ตำนานดาวลูกไก่ (ว่าเข้าไปนั่น) อิ อิ..ลอกข้างบนมาเห็นๆ ปล.ไม่มีเกี่ยวกับหมากเก็บ หรืออีตักบ้างเหรอคะ จากคุณ : ระรินใจ - [ 28 ธ.ค. 51 20:16:38 ]

ความคิดเห็นที่ 7 สวัสดีครับขอแก่ด้วยคนนะครับ... ๑) แมงมุมเอยขยุ้มหลังคา    แมวกินปลาหมากัดกระพุ้งก้น ๒) .......................    จระเข้ฟันหักกัดคนก็ไม่เข้า ๓) มอญซ่อนผ้าตุ๊กตาอยู่ข้างหลัง    ไว้โน่นไว้นี่ฉันจะตีตูดเธอ ๔) เด็กเอ๋ยเด็กน้อย ความรู้เจ้ายังด้อยเร่งศึกษา     เมื่อเติบใหญ่เจ้าจะได้มีวิชา เป็นเครื่องหาเลี้ยงชีพสำหรับตน ๕) กุ๊กๆ ไก่เลี้ยงลูกมาจนใหญ่ไม่มีนมให้ลูกกิน     ลูกก็ร้องเจี๊ยบๆ แม่ก็เรียกไปคุ้ยดิน     ทำมาหากินตามประสาไก่เอย จากคุณ : ดาเรน - [ 29 ธ.ค. 51 08:04:55 ]

ความคิดเห็นที่ 8 นึกออกแล้วครับ... ๒) ไอ้เข้ไอ้โขงมะโรงไม้สัก     ไอ้เข้ฟันหักกัดคนก็ไม่เข้า จากคุณ : ดาเรน - [ 29 ธ.ค. 51 08:29:51 ]

ความคิดเห็นที่ 9 คุณ Daren เฉลยถูกหมด เออ..ดีใจที่มีผู้คนรุ่นใกล้เคียงเข้ามาย้อนความทรงจำ ความจำดีอย่างนี้ เอาอีก เอาอีก O Kangaroo, It's rocking the junk. Chased by a hyena, The kangaroo falls into the water. The hyena follows; The kangaroo dives down. Get two bunches of bananas To boost the kangaroo's morale. Cheers.Cheers จากคุณ : กูรูขอบสนาม - [ 29 ธ.ค. 51 09:19:33 ]

ความคิดเห็นที่ 10 Rockabye, The flood's reached the sky. Rabbits come float over; Dogs with curled up tails Hug one another, Rockabye. จากคุณ : กูรูขอบสนาม - [ 29 ธ.ค. 51 09:20:54 ]

ความคิดเห็นที่ 11 I set up an egg : if it falls, I will boil it to eat; If it falls to the ground. Who will eat the egg? จากคุณ : กูรูขอบสนาม - [ 29 ธ.ค. 51 09:22:30 ]

ความคิดเห็นที่ 12 Catch a black crab, Squeeze a field crab, Catch a striped crab, Throw a sea crab. จากคุณ : กูรูขอบสนาม - [ 29 ธ.ค. 51 09:23:48 ]

ความคิดเห็นที่ 13 The pigtail, Come and lick the banana leaf. Monks hit you with their elbows Until your head's almost broken. จากคุณ : กูรูขอบสนาม - [ 29 ธ.ค. 51 09:25:15 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ไทม์แมชีนไม่ค่อยดีอะครับ..ยังนึกได้ไม่หมด... @ จิงโจ้เอยมาโล้สำเภา    หมาไล่เห่าจิงโจ้ตกน้ำ    หมาไล่ซ้ำจิงโจ้ดำหนี    .......................... @ โยกเยกเอยน้ำท่วมเมฆกระต่ายลอยคอ    หมาหางงอกอดคอโยกเยก @ ตั้งไข่ล้มต้มไข่กิน    ไข่ตกดินอดกินไข่เอย @ จับปูดำขยำปูนา    จับปูม้าคว้าปูทะเล @ ..........ตัดใบตองมารองอึ่งอ่าง    ..........พระตีกลองตะลุ่มตุ้มเม้ง ซ่อมเครื่องเสร็จจะมาต่อให้จบครับ..... จากคุณ : ดาเรน - [ 29 ธ.ค. 51 11:06:06 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ^ ^ ^ ^ โห ! ลุง เหมาหมดเลยอ่ะ แต่ก็ดี เพราะบางข้อนึกไม่ออก (เนื่องจากอายุไม่ถึง อิอิ) จากคุณ : ระรินใจ - [ 29 ธ.ค. 51 13:28:05 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อันจิงโจ้ไม่เคยฟังครับ อัน 13 รู้สึกจะเป็น หางเปียมาเลียใบตอง พระตีกลองตะลุ่มตุ้มเม้ง หรือเปล่าเอ่ย แก้ไขเมื่อ 02 ม.ค. 52 10:13:03 จากคุณ : คุณพีทคุง (พิธันดร) - [ 29 ธ.ค. 51 19:41:50 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ใช่แล้วครับ... คุณพีทคุง (พิธันดร) ลงรูปตอนอายุเท่าผมให้ดูหน่อยดิครับ... ดีน (หนุ่ม) ครับ..... จากคุณ : ดาเรน - [ 29 ธ.ค. 51 19:55:25 ]

ความคิดเห็นที่ 18 โอ้ ความจำดีๆกันทั้งนั้นเลย งั้นขอโพสเพลงแทน ใครจำหรือร้องภาษาไทยได้ลองเปรียบเทียบดู O Moon, How I woo my full-moon girl! It's late and I must leave; How I miss my full-moon girl! Goodbye, my precious one, How I love you, o my love! Nothing, nothing can compare With my full-moon girl. I smell flowers, A sweet smell of flowers, A smell like that of my love: What sweet smell Can compare With the smellof my love? O my love จากคุณ : กูรูขอบสนาม - [ 29 ธ.ค. 51 21:05:27 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อีกสักเพลง รุ่นหลังมาหน่อย The Chao Phya flows down- The sight brings this thought to mind: The  river never comes back, So the days gone by do not return. We were born to love another Because life is so brief, Let's not break one another's heart Before this happy life. Let's not break with one another, But, in loving, become one, Like a flock of wild birds Flying with enjoined  hearts. จากคุณ : กูรูขอบสนาม - [ 29 ธ.ค. 51 21:13:26 ]

ความคิดเห็นที่ 20 งือ ได้อันตั้งไข่ล้มแต่มาไม่ทันอะ อันแม่น้ำ คล้ายจะคุ้นๆ ฟื้นก่อน เคยได้ยินพี่ร้อง ได้แล้ว .. ชื่อเพลงว่าไรไม่รู้อะ แต่ร้องได้ ลุ่มเจ้าพระยาเห็นสายธารา ไหลล่อง จงอย่ามองหัวใจให้ป่วน น้ำไหลไป มักไม่ไหลทวน ชีวิตเราไม่มีหวน ไม่กลับทวนเหมือนกัน เราเกิดมาผูกใจรักกันดีกว่า เพราะว่าชีวาแสนสั้น จงอย่าได้กระเทือนหัวใจต่อกัน ทิ้งชีวิตอันสุขใจ อย่าแตกกันเลยรักไว้ชมเชย ชิดมั่น จงผูกพันรักกันชื่นใจ ขอจงเป็นเหมือนเช่นนกไพร ที่เหินบินคู่กันไป หัวใจคู่กัน เย้ๆๆ ได้เพลงนึง (พิมพ์ตกคำนึงค่ะ) แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 51 21:44:38 จากคุณ : scottie - [ 29 ธ.ค. 51 21:39:46 ]

ความคิดเห็นที่ 21 งือ พิมพ์จบ ดันเป็นเออร์เร่อร์ ต้องพิมพ์ใหม่เลย น่าจะใช่เพลงนี้นะคะ ลาวดวงเดือน โอ้ละหนอ ดวงเดือนเอย พี่มาเว้ารักเจ้าสาวคำดวง โอ้ว่าดึกแล้วหนอ พี่ขอลาล่วง อกพี่เป็นห่วง รักเจ้าดวงเดือนเอย ขอลาแล้ว เจ้าแก้วโกสุม พี่นี้รักเจ้าหนอ ขวัญตาเรียม จะหาไหนมาเทียม โอ้เจ้าดวงเดือนเอย หอมกลิ่นเกสร เกสรดอกไม้ หอมกลิ่นคล้าย คล้ายเจ้าสูของเรียมเอย หอมกลิ่นกรุ่นครัน หอมนั้นยังบ่เลย เนื้อหอมทรายมเชย เอ๋ย .. เราละหนอ ---------------------------------- ว่าแต่บุฟเฟต์หนังสือหมดยังอะคะ จะได้รีบไปมั่ง จากคุณ : scottie - [ 29 ธ.ค. 51 22:02:37 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ถูกต้องเลย คุณ scottie ตอนแรกที่อ่านบทแปลของลาวดวงเดือน เออ..ทำไมเป็นบทแปลที่สั้นจัง เพราะภาษาไทยมีเอื้อน มีเอ่ย มีละหนอ คำซ้ำคำซ้อนแทบทุกประโยค พอเป็นภาษาอังกฤษตัดออกหมดเหลือแค่นี้เอง งานคาร์นิวาล จบไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไรในสายตากูรู หรือเราไปผิดวันก้อไม่รู้ เพราะคนที่ซื้อหนังสือจริงจังมีน้อยรายมาก ส่วนใหญ่ไม่ใช่คนไทย ไม่รู้จะเป็น Irony หรือเปล่า ขอโทษจ้า ต้องเดาะภาษาฝรั่ง งานนี้จัดในห้างที่น่าจะชื่อว่า Sophisticated ที่สุด กลุ่มลูกค้ามีเงิน มีความรู้ มีรสนิยม แต่ไหงวนเวียนอยู่แต่ชั้นล่างๆ ไม่ขึ้นมาถึงชั้น 3 อ้อที่ขึ้นมาก็มี  เพื่อนั่ง สตาร์บัคส์ ซึ่งอยู่ข้างๆงานเท่านั้น มีจนๆอย่างกูรูเป็นลูกค้าได้บุฟเฟ่ต์มา 2 ถุงใหญ่ รวม 50 กว่าเล่ม ทั้งแบก ทั้งอุ้ม ถ้าคาบได้ก็คงจะง้างปากแล้ว แต่เกรงใจบรรดาลูกค้าในห้างผู้มีรสนิยมทั้งหลาย คิดว่าคงจะจัดอีก ในภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้ ยิ่งต้องเร่งระบายสต็อค จากคุณ : กูรูขอบสนาม - [ 30 ธ.ค. 51 07:21:18 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ^ ^ แต่งานอย่างนี้ ไม่เคยมาถึงบ้านนอกอย่างที่ตัวเองอยู่นะคะ เห็นคนกรุงเทพฯ พูดถึงงานหนังสือ นิทรรศการอะไร ได้แต่มองตาปริบ ๆ อยากดูหนังสือ อยากตามหาตำราที่อยากได้มานาน แต่มันไม่มีให้ไป พอมีงานแถวบ้าน ก็ไม่มีหนังสือที่อยากได้ หรือมีก็แพงเกินเหมือนไม่ลด ตำราเล่มละเกือบหมื่น อยากได้ไว้ใช้เองก็ไม่มีปัญญาซื้อ บางทีงานแบบบัฟเฟต์ หรือ คุ้ยกระบะหา ต้องมีเวลาดูเยอะ ๆ เพราะไปในลักษณะหาเอาข้างหน้า อาจจะไม่เจอที่เราอยากได้ก็ได้ ถ้าใจไม่เย็น หรือ ที่บ้านเรียก 'ใจบ่ยาว' ก็ไม่อยากเข้าไปดูเหมือนกัน เปรียบเทียบกับงานสัปดาห์หนังสือที่เป็นร้าน ๆ ชัดเจน แบบหลังนี้ สามารถตรงไปตามหาตามลิสต์ที่จะซื้อได้ง่าย ๆ เลย งานหนังสือที่เพิ่งจัดแถวบ้าน มีหนังสือขายถูก แต่ต้องคุ้ยกระบะเยอะมาก หรือต้องไล่ดูเอา เพราะเรียงทุกประเภทผสมกัน ตัวเองก็ยอมแพ้เหมือนกัน ปีนี้เลยได้หนังสือมาอ่านน้อยกว่าที่เคย คิดว่าที่ไม่ค่อยมีคนไทยมาดู มาซื้อหนังสือในงาน อาจเป็นเพราะ การเลือกสถานที่จัดและรูปแบบงานอาจไม่ต้องอัธยาศัย และพฤติกรรมการซื้อของกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาในพารากอน ลูกค้าที่มีเงิน มีความรู้ มีรสนิยมอาจจะไม่ชอบเข้างานแบบนี้ เพราะเขามีเงินซื้อในร้าน ไม่จำเป็นต้องซื้อลดราคา หรือสั่งทางเว็บได้ ต้องเป็นคนชอบหนังสือ ตั้งใจมาซื้อจริง ๆ หรือมีเวลามาก ๆ ถึงจะดิ่งตรงมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ หรือแวะเข้ามาดูงานนี้ซะหน่อย สถานที่จัดงานอาจจะ sophisticated แล้ว แต่กลุ่มเป้าหมายอาจจะ sophisticated กว่าที่คนจัดงานคิดก็ได้นะคะ ป.ล. หลายเพลงที่คุยกัน เกิดไม่ทัน ไม่เคยได้ยินเหมือนกันค่ะ ลุ่มเจ้าพระยานี่ ถึงมีเนื้อร้องให้อ่าน แต่ก็ยังนึกไม่ออกอยู่ดี ^ ^" จากคุณ : ปิยะรักษ์ - [ 30 ธ.ค. 51 14:18:26 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ^ ^ ^ บ่นแทนใจเด็กบ้านนอกดีมากส้ม ปีนี้มีเวลาคุ้ยแค่วันเดียวอีกต่างหาก เลยได้มานิดเดียว ตำราเล่มเฉียดหมื่นเหมือนกัน เลยถอยกลับไปทำใจต่ออีกสักปี อยากให้บ้านนอกมีงานหนังสือบ่อยๆจัง (บ้านนอกที่บ้านนอกกว่าบ้านนอกของส้มถ้ามีด้วยจะดีใจมาก T-T) ปล. ได้ยินหลายเพลงอยู่ค่ะ (เกือบหมด) แต่บางเพลงอาจจะเป็นเพลงเฉพาะภูมิภาคหรือเปล่าไม่แน่ใจ อย่างเพลงลุ่มเจ้าพระยานี่ก็ไม่คุ้นอยู่ดี จากคุณ : จริง - [ 30 ธ.ค. 51 20:20:57 ]

ความคิดเห็นที่ 25 แหม เถียงไม่เต็มปาก พอดีบ้านอยู่ลุ่มเจ้าพระยาจริงๆ ซะด้วยสิ คิกๆ ต้องถามคุณกูรูฯว่ามันใช่เพลงสุทราภรณ์หรือเปล่าค่ะ แต่เพลงมันเก๊าเก่านะ อีกเพลงที่รู้จักพร้อมๆ กัน พี่ชอบร้องคือ ดวงใจ ดวงใจ ทุกคนมีสิทธิ์จะรักกันได้ ... จากคุณ : scottie - [ 30 ธ.ค. 51 22:57:14 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เออ เห็นใจนักวิชาการไกลกรุงจริงๆ ก็หวังว่า คาร์นิวาล หนังสือ น่าจะไปถึงถิ่นบ้าง คุณ Scottie ไม่แน่ใจว่าเพลงลุ่มเจ้าพระยา เป็นของสุนทราภรณ์หรือเปล่า เพราะเท่าที่กูรูจำความได้ มีหลายคนร้อง คุณน้าชนินทร์ นันทนาคร ก็เป็นผู้หนึ่งที่ร้องด้วย ส่วนตัวกูรูชอบเพลงทุกเพลงที่เกี่ยวกับแม่น้ำ สงสัยเป็นเพราะเกิดราศีน้ำกระมัง อิอิ อย่าง ริมฝั่งบางปะกงงี้  แม่กลองงี้ ริมปิงงี้ (ไม่ใช่ไส้อั่วน้า) แคนลำโขงงี้   เอาใจคนเหนือหน่อย เดี๋ยวดูซิว่ามีบทกลอนเกี่ยวกับท้องถิ่นนิยมมั้ย จากคุณ : กูรูขอบสนาม - [ วันสิ้นปี 20:59:12 ]

ความคิดเห็นที่ 27 รู้จักแต่ลาวดวงเดือนอะครับ เจ้าพระยาไม่รู้จักแฮะ (มาผิดภาคไปไกล กรึ๋ย) คุณดีน รูปลงไม่ได้ครับ ไว้ค่อยดูตัวเป็นๆ ละกัน อิๆ จากคุณ : คุณพีทคุง (พิธันดร) - [ 2 ม.ค. 52 10:16:28 ]

ความคิดเห็นที่ 28 มี ผู้ใหญ่ลี อีกเพลงหนึ่งหนา ซึ่งผมเคยมาบอกเล่าสู่กันฟังแล้วฮะ เมื่อ. . .ซัก. . . หลายเดือนก่อน กระมังฮะ. . . แฮ่. . . . . จากคุณ : พจนารถ๓๒๒ - [ 7 ม.ค. 52 05:17:24 ]

ความคิดเห็นที่ 29 พ้อศ่อส่องพันห้าร้อยสี่  พู้ใย้หลี่ตี่กลองปร๊ะชุ่ม ฯลฯ..... ใช่ไหมครับคุณ พจนารถ๓๒๒ จากคุณ : ดาเรน - [ 7 ม.ค. 52 09:49:32 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ปร๊ะฉุ่ม... ครับ จากคุณ : ดาเรน - [ 7 ม.ค. 52 09:51:49 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ไหน ไหน ขอลองดูบ้าง กดปุ่มกลับอายุจึ๊กหนึ่ง อา น่าจะประมาณนี้ "พอศอ สองพันห้าร้อยสี่ ผู้ใหญ่ลีตีกลองประชุม ชาวบ้านต่างมาชุมนุม มาประชุมที่บ้านผู้ใหญ่ลี ต่อไปนี้ผู้ใหญ่ลีจะขอกล่าว ถึงเรื่องราวที่ได้ประชุมมา ทางการเข้าสั่งมาว่า ให้ชาวนาเลี้ยงเป็ดและสุกร ฝ่ายตาสีหัวคลอนถามว่า "สุกรนั้นคืออะไร" ผู้ใหญ่ลีลุกขึ้นตอบทันใด สุกรนั้นไซ้รคือหมาน้อยธรรมดา (ซ้ำ) ยังมีต่อ แต่จำไม่ค่อยได้ อิอิ คล้ายๆกับว่าผู้ใหญ่ใส่แว่นตำดำ ฟ้าแจ้งจำปา และมักจะร้องต่อมั่วกับอีกเพลงหนึ่ง "เดือนสามนกกาเหว่ามันร้อง.... ยูงทองมันก็ร้อง............. จากไปสวีวี่วี่ หากบุญเฮามีคงจะได้เจอกัน" เพลงสาวบ้านแต้นั่นเอง ปล.เพลงผู้ใหญ่ลี ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจสำหรับนวนิยายเรื่องยาว "ผู้ใหญ่ลีกับนางมา" ของกาญจนา นาคนันทน์ ซึ่งเอามาทำเป็นละครทีวีหลายรอบแล้ว จากคุณ : กูรูขอบสนาม - [ 7 ม.ค. 52 18:50:51 ]