Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    [นิยายแปล] จอมนางคู่บัลลังก์ บทที่ 18 เขียนโดย...เฟิงน่ง

    บทที่ 1 - 17  http://my.dek-d.com//story/view.php?id=423352



    บทที่ 18


    ร้อน...เหงื่อหยาดไหลลงมาตามใบหน้า

    “ให้โอกาสพิงถิงเป็นครั้งสุดท้ายเถิด ให้พิงถิงได้ใช้ความจริงเป็นสิ่งยืนยันต่อท่าน...ว่าพิงถิงไม่มีทางกระทำเรื่องที่จะทำให้ท่านต้องทุกข์ใจอย่างเด็ดขาด”

    นางยังคงเอนกายอยู่ในอ้อมอกนั้น เงยหน้าขึ้นยิ้มให้อย่างอ่อนหวาน

    “พิงถิงไม่เพียงแต่ไม่อาจหักใจทำร้ายท่านได้ ทั้งยังไม่อาจหักใจทำร้ายใครก็ตามที่มีความเกี่ยวพันกับท่านอีกด้วย”

    “ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่ตงหลิน”

    เรามาสาบานต่อจันทรา......

    จะไม่ทรยศกันชั่วนิรันดร์......

    “ฉูเป่ยเจี๋ยเอ๋ยฉูเป่ยเจี๋ย...เจ้ามันไอ้โง่ !”

    เสียงหัวเราะอันกระด้างรันทด สะท้านแก้วหูจนปวดแปลบ

    มีใครบางคนแหวกสมองนางออกจากกัน แล้วฉีกกระชากเส้นประสาทข้างในนั้น ใช้ปลายเล็บจิกลง ใช้เขี้ยวอันแหลมคมขบขย้ำ

    ฝัน...นี่คือความฝัน

    ร้อน...ร้อนราวกับหินละลาย

    ...นี่คือความฝัน...ตื่นขึ้นมาไม่ได้...

    ในความฝัน พิงถิงรับประทานผลไม้ป่าผลแล้วผลเล่าอย่างเลื่อนลอย ผลไม้สีแดงสดที่งดงามอย่างมากนั้น เหตุใดจึงได้ขมฝาดถึงเพียงนี้ ขม...จนบอกไม่ถูก

    ไยจึงขมเช่นนี้ได้ ?

    ไยจึงขมมากถึงเพียงนี้ได้ ?

    นี่คือความฝัน...ความฝันที่ไม่อาจฟื้นตื่น

    รถม้าอันโอ่อ่าหรูหราวิ่งตะบึงอยู่บนเส้นทางขากลับ ไม่มีธงจอมทัพปักอยู่ข้างบน ชาวเป่ยม่อที่มองดูต่างไม่ทราบว่าในรถม้าคันนี้กำลังบรรทุกผู้ซึ่งช่วยแคว้นของพวกเขาให้รอดพ้นจากการล่มสลายเอาไว้......บรรทุกหญิงสาวผู้หนึ่ง...หญิงสาวซึ่งไม่ได้เป็นของเป่ยม่อ

    นางเคยเป็นของกุยเล่อ และอาจจะเคยเป็นของตงหลิน แต่ยามนี้...นางไม่แม้แต่จะเป็นของตัวนางเองเสียด้วยซ้ำ

    “ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่ตงหลิน”

    รอเจ้า......

    พึมพำซ้ำไปซ้ำมา...นัยน์ตาซึ่งเปี่ยมไปด้วยประกายแห่งรักช่างอ่อนโยนจนดูประดุจแสงจันทร์ในค่ำคืนนั้น

    เป็นแค่ความฝัน...ความฝันที่ไม่อาจฟื้นตื่น

    แต่นางจำเป็นต้องตื่น...ตื่นขึ้นมาดูว่าใครกันที่ทำลายนาง ทำลายป๋ายพิงถิง...โดยแทบไม่ต้องออกแรง ทำลายทุกสิ่งที่นางเฝ้ารอเนิ่นนานกว่าจะได้มาอย่างยากเย็น

    หญิงสาวขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ใช้ความแค้นดิ้นรน จวบจนหนังตาที่ถ่วงหนักดั่งพันจินถูกดันเปิดออกทีละน้อยๆ

    แสงสว่างรั่วไหลสู่สายตา ทิ่มแทงจนเจ็บแปลบ หญิงสาวเบิกตากว้าง ไม่ยอมหลับตาลงหลบแสงสว่างอันแรงกล้านั้น และเอาแต่จ้องคนตรงหน้าเขม็ง เพ่งจ้องอย่างสุดกำลัง เบิ่งตากว้างจนหางตาเหมือนจะฉีกขาดถลึงจ้อง “นาง” แน่วนิ่ง

    ฟูเหรินของท่านขุนทัพ...หยางเฟิ่ง

    นางได้กลับมายังข้างกายของหยางเฟิ่งแล้ว กลับมานอนอยู่บนเตียงซึ่งก่อนหน้านี้นางเคยนอนกระซิบพูดคุยกับหยางเฟิ่งทั้งคืน ผ้าห่มหนานุ่มหมอนต่วนเนื้อลื่น หรูหราและงดงามดุจเดิม

    หยางเฟิ่งคอยเฝ้ามาหลายวัน ครั้นเห็นพิงถิงลืมตา สีหน้าของนางก็ปรากฏประกายยินดีในทันที แต่เมื่อสบสายตาของพิงถิง นางก็เกิดอาการขนลุกซู่ หนาวเยือกไปทั้งตัวอย่างฉับพลัน

    ภายใต้สายตาจ้องเขม็งของเพื่อนรัก ประโยค “พิงถิง ในที่สุดเจ้าก็ฟื้นจนได้” ที่คิดจะกล่าวมีอันสะดุดอยู่แค่ลำคอ ไม่สามารถที่จะพูดออกมาได้...

    “เจ้าเอายาไปให้ใคร ?” พิงถิงถามเสียงแหบพร่า

    “ต้าหวาง......”

    “หลังจากได้รับยาแล้ว ต้าหวางได้พบกับใคร ?”

    หยางเฟิ่งกัดริมฝีปาก แล้วโพล่งถามว่า

    “เหตุใดเจ้าจึงโกหกข้าว่านั่นเป็นแค่ยาสลบเล่า ? แม้ยานั้นจะไม่สามารถทำร้ายผู้ใหญ่ที่ร่างกายแข็งแรงได้ แต่กลับสามารถทำให้เด็กถึงตายได้ ทั้งยังไม่จำเป็นต้องใช้ปริมาณมากมายนักด้วย เพียงนิดเดียวก็พอแล้ว”

    พิงถิงเจ็บปวดใจราวถูกบิด นิ้วมือซูบผอมจนเห็นกระดูกทั้งห้าขยุ้มตำแหน่งหัวใจเอาไว้แน่น ดวงตาพริ้มหลับลง ชั่วครู่ให้หลังจึงลืมตาโพลงอย่างฉับพลัน ถามเสียงเครียด

    “เพราะเหตุนี้เจ้าถึงได้ใช้ยานั้นฆ่าองค์ชายทั้งสองของตงหลินสินะ ? หยางเฟิ่ง...เจ้าใจร้ายถึงเพียงนี้เชียวหรือ ? เจ้าไม่คิดที่จะสะสมบุญไว้ให้ลูกในท้องของเจ้าสักนิดเลยรึ ?”

    หยางเฟิ่งเหมือนถูกแทงใส่ไปหนึ่งดาบ เอามือกุมหน้าท้องซึ่งนูนออกมาน้อยๆ ถอยหลังไปสองก้าวโดยพลัน แล้วคุกเข่าลงอย่างเศร้าสร้อย น้ำตาเอ่อคลอเบ้า กล่าวเสียงรันทด

    “ข้านำยาไปส่งที่วังหลวง แล้วตอนเที่ยงคืนก็ถูกต้าหวางเรียกตัวไปพบกะทันหัน ถามว่ารู้หรือไม่ว่ายานี้สามารถฆ่าเด็กที่ยังไม่เติบใหญ่เต็มที่ได้ ต้าหวางบอกว่าการที่ตงหลินหวางหมดสติเพียงไม่กี่วันไม่สามารถทำให้ตงหลินปั่นป่วนวุ่นวายอย่างแท้จริงได้ แต่หากตงหลินต้องสูญเสียองค์ชายที่ยังเยาว์ทั้งสองคนไป ศึกภายในจะดำเนินติดต่อกันเป็นเวลานานหลายปี

    “พิงถิง...ข้าถูกกักตัวเอาไว้ในวังหลวง จึงส่งข่าวอะไรออกไปข้างนอกไม่ได้เลย ข้าส่งข่าวอะไรออกไปข้างนอกไม่ได้เลยแม้แต่น้อยจริงๆ นะ ! แล้วเจ๋ออิ่น...เจ๋ออิ่นก็ไม่ได้อยู่ในเป่ยหยาหลี่ด้วย......”

    นางอกสั่นขวัญแขวนมาหลายวันเต็มที ยามนี้จึงปล่อยโฮออกมาสุดเสียงอย่างไม่อาจจะฝืนทนข่มกลั้นเอาไว้ได้อีก

    “หยางเฟิ่ง” พิงถิงพยุงร่างท่อนบนขึ้นมาอย่างยากเย็น เรือนผมดำขลับทิ้งตัวลงห้อยระยังด้านหนึ่งของใบหน้า หญิงสาวฝืนใจลงจากเตียง เดินซวนเซทีละก้าว...ทีละก้าวไปจนถึงเบื้องหน้าเพื่อนรัก แล้วกดหัวไหล่ที่สั่นสะท้านด้วยแรงสะอื้น จ้องมองเพื่อนรักเขม็ง

    “หยางเฟิ่ง...ใครเป็นผู้แพร่งพรายความลับของยานี้ให้แก่เป่ยม่อหวาง ? บอกมาสิ เจ้าต้องรู้แน่ๆ ใช่หรือไม่ ?”

    “ข้า......” หยางเฟิ่งมองสบสายตาที่จ้องมองมาด้วยน้ำตานองหน้า ก่อนจะส่ายศีรษะอย่างหดหู่ “อย่าถามเลย......พิงถิง......เจ้าอย่าถามเลย”

    พิงถิงจ้องเพื่อนรักเขม็งอยู่ชั่วครู่ นัยน์ตาทอประกายแข็งกร้าว ก่อนจะสลายไปในพริบตาเดียว หลงเหลือเพียงประกายหมองเศร้าและปวดร้าวด้วยไม่อยากจะเชื่อ หญิงสาวกลั้นลมหายใจ แล้วจึงเอ่ยออกมาอย่างระมัดระวังสองพยางค์

    “เหอเสีย ?”

    หยางเฟิ่งเมินหน้าหนีอย่างไม่อาจหักใจเอ่ยตอบได้

    พิงถิงคลายมือปล่อยไหล่ของเพื่อนรักอย่างไม่รู้สึกตัว ก้าวถอยหลังเข่าอ่อนยวบทรุดฮวบลงนั่งคุกเข่ากับพื้น ริมฝีปากไร้สีเลือดสั่นระริก หลังจากเหม่อลอยอยู่ครู่ใหญ่ จึงค่อยเค้นรอยยิ้มหม่นหมองออกมา

    “ถูกแล้ว...นอกเสียจากเขา...ผู้ใดเล่าจะมาล่วงรู้ความลับของยานี้ได้ ? ก็แต่เดิมนั่นเป็นยาที่เราสองคนจับมือกันค้นคว้าขึ้นมานี่นะ”

    หญิงสาวนิ่งตะลึงอยู่เนิ่นนาน แล้วเหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้ จึงดิ้นรนลุกขึ้นยืน หยางเฟิ่งตรงเข้ามาช่วยพยุง แต่ถูกนางปัดมือเบาๆ เป็นการปฏิเสธ แล้วจึงเอามือจับเก้าอี้กัดฟันพยุงตัวลุกขึ้นยืนเองจนสำเร็จ เอ่ยเสียงหนัก

    “เตรียมม้า”

    หยางเฟิ่งเห็นว่าแม้แต่ยืน นางก็ยังยืนได้ไม่มั่นคง ทั้งสีหน้ายังผิดปกติ จึงถามอย่างระมัดระวัง

    “เจ้าจะไปไหนหรือ ?”

    “ไปหาเหอเสีย” พิงถิงขบกรามเบาๆ ทอดมองไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย น้ำเสียงว่างเปล่า “ข้าจะถามเขาตรงๆ ต่อหน้าว่า...ทำไมถึงต้องทำอย่างนี้กับข้า ?”

    หยางเฟิ่งนิ่งเงียบงันไปอึดใจใหญ่ ในที่สุดจึงถอนหายใจออกมาเบาๆ

    “เจ้าไม่ต้องไปหาเขาหรอก เขาอยู่ในจวนขุนทัพนี่เอง ตั้งแต่เจ้าถูกส่งกลับมา เขาก็รอให้เจ้าฟื้นอยู่ตลอด”


    <>::<>::<>

    จากคุณ : Linmou - [ 2 ม.ค. 52 05:40:17 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com