สวัสดีปีใหม่ค่า....
เพื่อน ๆ สบายดีอยู่รึเปล่าคะ สบายดีค่ะ กทม. ก็หนาวกับเขาเหมือนกันนะเนี่ย... ฟังข่าวบอกว่า กทม. อุณหภูมิตต่ำสุด13-16 องศา สูงสุด 23-27 องศา ของเธออยู่ที่กี่องศากันน้อ...
อย่าลืม...!! ใส่เสื้อหนา ๆ ให้ร่างกายอุ่น ๆ เข้าไว้นะ เพราะถ้าปล่อยให้หนาว จะป่วยเอาง่าย ๆ เพราะเวลาร่างกายเราหนาว ภูมิต้านทานจะลดลง เราใช้วิธีนี้นะ ไปหาแมวกอดดดดด อิอิ ล้อเล่น ใส่เสื้อยืดไว้ข้างใน ใส่เสื้อหนาว แล้วก็พันคอให้อุ่น แค่นี้ก็โอเคแล้วนะ
จริง ๆ กลับมาตั้งแต่วันที่ 2 แล้วล่ะ รถติดมาก ใช้เวลาเดินทาง 12 ชม. ออกจากอุบล 7 โมงเช้ามาถึง 6 โมงเย็น หลับเกือบตลอดทาง ไม่รู้เป็นไร มันพาลจะง่วง มันไม่รู้จะทำไรมั้ง ว่าจะเล่าให้เธอฟังว่าไปโน่นทำอะไรบ้าง แต่ก็มัวแต่ตั้งท่าจะเล่า ก็ไม่ได้เล่าซักที อิอิ ก็จะเล่า ณ บัดนี้แล้วล่ะ
ออกเดินทางตี 4 ของวันที่ 29 ธ.ค. 51 เดินทางไปด้วยกัน 3 คัน แวะทานข้าวที่นางรอง เมนูง่าย ๆ เลยคือ น้ำพริก ไม่รู้ทำไมให้มาตั้ง 3 น้ำพริก มีน้ำพริกโคราช น้ำพริกเผา น้ำพริกนรก แค่น้ำพริกเดียวก็กินไม่หมดแล้ว ผักสด ฮอดดอกทอดเจ ปลาเค็มเจ โลภมากเอาข้าวมาตั้ง 2 ถุงแหนะ ปกติเป็นคนกินข้าวจุ แต่เวลาเดินทางจะกินได้น้อย เพราะค่อนข้างรีบ พอกินเสร็จ ญาติธรรมจากปฐมอโศกก็มาแวะทานข้าวเหมือนกัน ก็เลยรีบเลยค่ะ มีอาหารทานรึยังคะ เอาโน่นมั้ย เอานี่มั้ย รีบช่วยเหลือเกื้อกูลทันทีเลย อิอิกำลังคิดว่า จะมอบมรดกให้แก่ผู้ใดดีล่ะเนี่ย เพราะว่า ทานแค่วันละครั้ง มันก็จบแล้ว ไม่ต้องทานอะไรอีกแล้ว สบายมาก เลยต้องจัดการกับอาหารที่ทานไม่หมด แล้วก็ไม่ชอบทิ้งของด้วยสิ โชคดีจริง ๆ ที่เจอญาติธรรม ^ _ ^ ญาติธรรมก็ขอบคุณพวกเรากันใหญ่เลย แต่การได้ให้มันมีความสุขจริง ๆ เลยเนอะ
ไปถึงบ้านราชเมืองเรือ ชุมชนราชธานีอโศก เวลาบ่าย 2 กว่า ๆ พอไปถึง พี่ขวัญชวนไปนั่งรถเล่นในเมืองอุบล ก็โดดขึ้นรถเลย เพราะว่างงาน ไปแวะที่อุทานบุญนิยม ตามข่าวว่า พวกเสื้อแดงบุกมาปาขี้สิ่งปฏิกูล มาถล่มทำลายข้าวของ ไปถึงแล้ว ชอบบรรยากาศมาก ๆ เป็นร้านอาหารที่มีหลังคาหน้าจั่วยกสูง โปร่ง ๆ ต้นไม้ล้อมรอบ มีโต๊ะอาหารวางเป็นแถวเป็นแนว มีผ้าปูโต๊ะ มีเก้าอี้วาดสอดกันเรียบร้อย ก่อนเดินเข้าไปต้องขึ้นบันได 2 ขึ้น มีป้ายติดว่า กรุณาถอดรองเท้า ด้านหน้ามีต้นชมพู่ขึ้นอยู่ เราไปเก็บชมพู่กัน ฉันดันไปยืนไม่ดูตามาตาเรือ โดนมดกัดเลย แล้วก็คันมาก ๆ เป็นปื้น ๆ เลย
มีคนบอกว่า ก่อนที่พวกเราจะมา ญาติธรรมไปเอาของ แล้วเจอกับพวกเสื้อแดงมาไล่ ฉันไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลย ไม่มีอยู่ในหัวสมองเลย ไม่คิดว่า ชาวบ้านธรรมดาต่อให้เกลียดกัน ก็คงไม่ถึงกับต้องรวบรวมไพล่พล ยกพวกมาบุกรุมทำร้ายรังแกกันได้เลย มันต้องไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดาแน่ ๆ ก็ได้แต่คิดว่า ถ้าเราเคยทำกรรมกับเขามาก่อนเราก็ชดใช้ให้เขา เราก็คืนให้เขาไป ฉันเชื่อ กฎแห่งกรรมจริง ๆ แต่ต้องจัดว่า พวกเรามีกรรมดีอยู่บ้าง ไม่มีวิบากกรรมกับเสื้อแดง ก็เลยไม่ได้เจอกัน อิอิ
ปกติฉันจะต้องไปนอนที่เรือนศูนย์ แต่ปีนี้พี่ขวัญชวนให้นอนในเต้นท์ด้วยกัน ก็เลยนอนกับพี่เขา
30-12-51
ตื่นมาก็ไปช่วยกันทำอาหารถวายพระทั้งชุมชน และญาติธรรม องค์กรของเราได้รับมอบหมายให้ช่วยกันทำอาหารตลอด 3 วันนี้ ก็เริ่มทำกันตั้งแต่ ตี 5-10 โมงเช้า (สำหรับฉันนะ ส่วนคนอื่นอาจจะเช้ากว่านี้หรือ สายกว่านี้) แล้วพักทานข้าว หน้าที่ของฉันวันนี้ส่วนใหญ่ได้รับความไว้วางใจให้ช่วยล้างผักค่ะ อิอิ ดีนะที่อากาศยังไม่หนาวเท่าไหร่ กำลังสบายเลย แล้วก็ผ่ามะเขือเปาะ
ได้คุยกับพี่คนหนึ่งที่มาช่วยล้างผัก ไม่ค่อยได้คุยกันยาว ๆ อย่างวันนี้เลย ก็ดีใจนะ ที่ได้คุยกับเขา ฉันอยากให้พี่เขาคิดแง่บวก ชีวิตจะได้มีความสุขมากขึ้น ถ้าอายุมากขึ้น แล้วเข้าสู่วัยทอง กลัวว่าเขาจะแย่นะ ก็ได้แต่เตือนบอกเขาด้วยความปรารถนาดีจริง ๆ พี่เขาก็รับฟังด้วยดีนะ ^ _ ^ ดีใจตรงนี้แหละ ปลื้ม...
วันนี้อาหารเยอะมาก ๆ มีขนมจีนแกงเขียวหวาน น้ำยากะทิ น้ำยาป่า อร่อยมาก ๆ ขอบอก จริง ๆ ไม่ค่อยชอบอาหารใส่กะทิเท่าไหร่ แต่ต้องบอกว่า นี่เขาอร่อยจริง ๆ นะ แล้วก็มีข้าวหมูแดงเจ ผัดผักรวมมิตร (ของโปรดได้ทานผัดผักก็รอดตายแล้ว ฮี่ ๆ) ผัดเปรี้ยวหวาน สับปะรดเปรี้ยวสะใจจริง ๆ กินมากไม่ได้เข็ดฟัน (อายุเริ่มมากแล้วก็เงี้ยะ) ซาลาเปา ขนมเค้กกล้วยหอม กระหรีปั๊บ และที่ฮอตฮิตสุด ๆ พิซซ่า....!!. จริง ๆ ตั้งใจว่า มางานนี้จะถวายตัวช่วยทำพิซซ่านะ แต่...เห็นเด็ก ๆ ช่วยเยอะ ก็เลยช่วยทำอาหารก่อนละกัน ถ้าว่างจะไปช่วย
กินอิ่มมาก ๆ ๆๆๆๆ ถ้าขืนอยู่เฉย ๆ คงจะต้องหลับแน่ ๆ พี่เมย์ชวนไปเดินเล่น เลยไปเดินที่บุ่ง(เขาเรียกแบบนี้ มันเหมือนกับบึงรึเปล่า?) ไปยืนดู น้ำสีเขียวไม่เห็นมีอะไร ซักพักหนึ่ง ปลาตัวโต๊...โต...ว่ายมาตรึมเลย เต็มไปหมด ลองเดินไปที่อื่นดู มันก็ว่ายตามมาขออาหาร พี่เมย์ให้ถั่วทอดสมุนไพรมาก็เลย โยนให้ปลากิน ทีนี้ก็แกล้งปลา อิอิ โยนใบมะกรูดให้ปลา สงสัยจะน้ำหนักเบาไป มันก็ไม่สนใจ ซักพักกลองโยนพริกทอด มันก็มางับเลย ฮา...
น้องทิบทิมตามมาสมทบ น้องเขาไปเก็บเศษขนมปังที่หล่นอยู่ตามพื้นมาโปรยให้ปลากิน เขาบอกว่า เขาชอบปลาบึก มันน่ารักดี เคยป้อนมันกินขนมปังมันให้จับหัวด้วย น้องเขาอายุ 8 ขวบ แววตาน้องเขาสดใสมาก ๆ ตากลมใสแจ๋วเลย มองหน้ากัน ไม่รู้จะทำไรก็ยิ้มมมมให้กันตลอด ที่สำคัญน้องเขาเรียกฉันว่าพี่ อี่ ๆ ส่วนรุ่นน้องที่อายุน้อยกว่าฉัน เขาเรียกคนนั้นว่า อา เล่นเอาน้องคนนั้นงอนน้องทับทิมไปเลย ตอนฉันนั่งทานข้าวอยู่ เขาก็มานั่งดูว่าฉันกินอะไร เขาก็เลยหิว เลยมานั่งกินข้าวด้วยกัน เขาเห็นฉันกินน้ำพริกมะนาว เขาก็อยากกินบ้าง เขาไม่เคยกินน้ำพริกกะปิ เขาก็ลองกิน ฉันก็บอกให้เขากินกับผักนะ ก็ชวนกันกิน ฉันจะปั่นธัญพืชกิน เขาก็มาดู ๆ ก็บอกให้เขาลองกินดู เขาก็ทานได้ ตอนแรกไม่ค่อยอยากจะกินเท่าไหร่นะ กินไปบ่อย ๆ ก็พอทานได้ เหมือนกับว่า เวลาเราทำอะไร เขาก็อยากจะทำด้วย กินด้วย ประมาณนั้น ฉันเคยดุเขาด้วยนะ เพราะจะมาเล่นในห้องทำงาน ฉันบอกเลยว่า ถ้าจะมาห้องนี้ต้องทำงาน อิอิ วิธีไล่เด็ก แต่เด็ก ๆ เขาดีอย่างนะ เขาไม่โกรธนาน แป๊บเดี๋ยวเขาก็หาย นี่นะ ความดีของเด็ก ๆ เขาล่ะ ไม่โกรธกันนาน ๆ เหมือนพวกผู้ใหญ่
หลังจากนั้นก็เดินไปดูเรือสุดชีวิต หรือที่เผาศพนั่นเอง เดินไปสุดดดดด เลย ไกลเหมือนกัน อยู่ในป่าโน่น ติดริมแม่น้ำมูล สวยมาก ๆ เลย สวยแบบเรียบง่ายน่ะ บรรยายไม่ถูก ไม่มีอะไรประดับตกแต่งอย่างวิวิศมาหราเลย แต่ฉันชอบจัง ตรงที่เผาศพ มีสมณะมากางกลดยึดพื้นที่ไว้จำวัดอยู่ ลมดีมาก ๆ ต้นไม้พากันร้องเพลงใบไม้พร้อม ๆ กันเลย
แล้วก็พากันเดินกลับ เริ่มเมื่อยแล้วสิ ต้องหาที่แล้ว อิอิ เด็กสัมมาสิกขาเขาพักในเรือกัน เลือกหาอยู่นานมาก ก็ไปนั่งพักกันที่เรือของสิกขมาต พอถึงก็ไม่ไหวแล้ว นอนดีกว่า มันรู้สึกสบายมากเลย ลมพัดเย็นสบาย สงบดียังไงไม่รู้ ตื่นมาก็เห็นเด็ก ๆ เขาพายเรือเล่นกัน
แล้วก็เดินกลับไปที่พักอาบน้ำซักผักไปดูการแสดง
31-12-52
เช้านี้ตื่นไปทำวัตรเช้า แต่ไปไม่ทันกราบพระครั้งแรก ไปถึงเริ่มสวดมนต์กันแล้ว ฟังพ่อท่านเทศน์แล้วพาลให้ง่วงอีกแล้ว เลยลุกไปช่วยทำอาหาร ทำถึง 9 โมงกว่า ก็ทานข้าว ตอนเที่ยงดูข่าวนิดหน่อย พวกเสือแดงกำลังปิดล้อมการแถลงนโยบายของรัฐบาล ใจมันคิดว่า รัฐบาลน่าจะเลื่อนเวลาไปเรื่อย ๆอยากรู้ว่า เสื้อแดงจะล้อมได้กี่วันน้า............. สงสัยจริง ๆ แต่รัฐบาลต้องรีบแถลงนโยบายเพื่อรีบทำงาน อืม...คงงั้น... ช่วงบ่ายก็มาช่วยปอกกระเทียม แล้วอาบน้ำดูการแสดง เขาบอกว่า วันนี้วงซู ๆ จะมาล่ะ ต้องไปดูซักหน่อย
1-1-52
เข้านี้ตื่นไปทำวัตรคนเดียว ไม่มีใครไปด้วย ทำวัตรเช้าที่หน้าพระพุทธาภิธรรมนิมิต อากาศหนาว แต่ก็เตรียมพร้อมพอสมควร พอง่วงก็เลยมาช่วยเขาทำอาหาร ปีนี้เป็นปีแรกเลยที่มาบ้านราชแล้วไม่ได้ใส่บาตรเลย เพราะมัวแต่ช่วยทำอาหารอยู่ ก็ได้แต่คิดว่า เราใส่บาตรแล้ว ใส่เป็นหม้อเลย หม้อใหญ่ ๆ ถวายทั้งพระ แจกทั้งฆราวาส ก็ทำบุญเหมือนกัน หลังทานข้าว เดินไปดูเวทีเชาวบ้าน มีดนตรีของวงฆราวาส เหมือนจะไม่ครบวง ขาดมือโซโล่กีต้าร์ แต่เขาแก้ด้วยการทำเสียงกีต้าแทน ดูแล้วสนุกดี เข้าใจทำนะ แล้วก็มีการทายปัญหาเด็ก ๆ เด็กกรูกันไปตอบกันใหญ่ ตอบแต่ละที คำตอบเหมือนกันเด๊ะ ๆ ไม่ค่อยตอบต่างกันเลย มีคำถามถามว่า ปลาอะไรว่ายน้ำไม่ได้ ติ๊กต๊อก ๆๆๆๆ
คำตอบ ปลาร้า....ค่ะ อีกอัน หมาอะไรเห่าไม่ได้ ก็หมามุ่ยไงละคะ ตอนบ่ายโมงกว่า วงซู ๆ มาเล่นดนตรีอีกรอบ น้าเสกบอกว่า ปีนี้มาเค้าดาวน์ที่บ้านราช เค้าท์ไปดื่มน้ำอัดลมไป เพราะไม่มีน้ำเมาให้ดื่ม อิอิ เลิกตั้งบ่าย 3 แหนะ แต่ฉันนั่งดูแป๊บเดียว ไม่ยอมเล่นเพลงเดิน เพลงโปรดของฉันซะที ไปช่วยทำพิซซ่าดีกว่า
อยากจะบรรยายว่าพิซซ่าเขาทำกันยังไง ก็จะมีแป้งพิซซ่านะ ต้องทาแป้งด้วยครีมมะเขือเทศ ไม่รู้เรียกอะไร แล้วก็มีพริกหวาน มะเขือเทศ บ็อคเคอร์รี่(มันเหมือนต้นไม้เลย เวลาอยู่บนหน้าพิซซ่าจะมีสีเขียวเข้ม สวยดี) สัปปะรด แครอท ฮอตดอกเจ แล้วก็ราดด้วยมายองเนส แล้วนำเข้าเตาอบ ฉันชอบที่สุดคือต้องใส่มะเขือเทศเยอะ ๆ สัปปะรดเยอะ ๆ มันจะเปรี้ยว ๆ อร่อยดี ฉันไปช่วยแต่งหน้าให้พิซซ่า แล้วไปช่วยทำอาหารต่อ ฉันรู้สึกว่า กินหลาย ๆ มื้อนี่มันวุ่นวาย เป็นภาระมาก คนทำอาหารก็ทำกันทั้งวันไม่ได้หยุดพักเลย
ช่วงค่ำฉันไม่ได้ไปดูการแสดง เขาบอกว่า ดีมาก เป็นการแสดงแบลคไลด์ คือจะมองเห็นแต่มือที่เหมือนนกกำลังบิน แล้วจะประกอบกันเป็นรูปร่างต่าง ๆ หรือตัวอักษร ที่ไม่ได้ไปดูเพราะไม่รู้อ่ะ แง้ ๆ ไปช่วยเขาทำขนมปังลูกเกด ช่วยทาเนยให้ขนมหลังจากเอาออกมาจากเตาอบใหม่ ๆ ทิ้งให้เย็น แล้วเอาใส่ถุง จะแจกคนเดินทางกลับพรุ่งนี้ อยู่ช่วยตั้งแต่ 1 ทุ่มจนถึง 5 ทุ่มกว่า จึงออกมาก่อน มีเด็กชายคนหนึ่งอยู่ ป.6 มาช่วยคีบขนมที่ออกมาจากเตาอบ ท่าทางขมีขมันตั้งใจทำมากเลย แถมพูดเก่งมากกกก พูดจาฉะฉานด้วยสิ คืนนี้อากาศหนาวมาก สงสารเด็ก ๆ ที่ช่วยกันล้างหางพวกถาดขนมปังและอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่รู้จะหนาวมากรึเปล่า?
2-1-52
ตื่นเตรียมตัวกันตั้งแต่ตี 5 เก็บของเสร็จแล้ว เอาอาหารก็แล้ว รถยังไม่มาเลยโทรตามดู ถามว่า โบ้อยู่ที่ไหน เขาตอบว่า ฟังเทศน์อยู่ หืม.....ไม่อยากจะเชื่อ โม้รึเปล่าเนี่ย.... น้องคนนี้เวลาถามอะไร จะมีคำตอบที่เป็นคำปฏิเสธตลอด ไม่ ๆๆๆๆ ตลอดเลย ฉันบอกน้องเขาว่า ครับ ๆๆๆๆ บ้างสิ ชอบฟอร์ม ปากกะใจไม่ตรงกันเลย แต่เขาเป็นคนใจดีนะ ชอบไปเป็นอาสาสมัครพาคนเจ็บไป รพ. ถ้าทางรพ. ให้ที่พาคนเจ็บมาส่ง เขาก็ไม่รับ บอกว่าสงสารคนเจ็บจะได้ไม่โดนชาร์ตเพิ่ม กว่าจะได้ออกเดินทางจริง ๆ ก็ตอน 7 โมงเช้า กลับกรุงเทพฯ แล้ว ตอนกลางทาง มีคนชวนว่าจะไปแวะเขาใหญ่กันมั้ย แต่ก็ไม่ไปกันเพราะป้า ๆ อยากจะพักผ่อน แล้วก็ต้องเปิดร้านกันในวันที่ 4
งานรออยู่ ไปไหนไม่ได้แล้ว >_<
แก้ไขเมื่อ 14 ม.ค. 52 18:57:52
แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 52 23:46:11
จากคุณ :
ริเศรษฐ์
- [
13 ม.ค. 52 22:52:52
]