สวัสดีค่ะเพื่อนๆ มือใหม่หัดเขียนค่ะ เลยไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เขียนมามันเข้าข่ายความเรียงหรือเรื่องสั้น อ่านให้สนุกและฝากแนะนำด้วยนะคะ
1
จนวันนี้..ฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจว่ากล้าเข้าไปสถานที่แห่งนั้นกับเขาได้ยังไงกัน ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น หนังหรือละครน้ำเน่าบ้านเรามีนำเสนอให้เห็นเกลื่อนกลาด และฉันก็ไม่ใช่นางเอกที่จะวิ่งร้องไห้จ้าออกมาขอให้คนช่วย แต่ฉันพยายามนิ่ง ทำเป็นใจดีสู้เสือ ทำหน้าตาเฉยๆ เหมือนเคยมา ทั้งที่จริงๆ แล้วนั่นเป็นครั้งแรกในชีวิต..
ห้องนั้นเป็นห้องสี่เหลี่ยมเหมือนห้องพักชั่วคราวทั่วไป แคบกว่าเกสท์เฮาส์ที่เคยพักตอนไปแม่สอดนิดหน่อย..เพียงแต่มันไม่ได้อยู่ชั้นสูงๆ ไม่มีหน้าต่าง แล้วก็มีม่านผืนใหญ่หนาไว้เลื่อนปิดเปิดตรงทางเข้า อ้อ! นี่คงเป็นที่มาของคำว่า ม่านรูด ฉันนึกในใจ.. เท้าแตะพื้นห้องปุ๊บก็สะดุ้งปั๊บ เพราะมันเย็นเฉียบ ในห้องมีไฟนีออนสีขาวเปิดไว้ รู้สึกหน้าชาตอนมองไปเห็นเตียงนอนและนึกได้ว่าลูกค้าของสถานที่แห่งนี้มาทำอะไรกัน.. ผ้าปูที่นอนสีขาวเรียบที่ดึงตึงเรียบร้อยพร้อมหมอนหนุน 2 ใบ ดูสะอาดสะอ้านเรียบร้อย มีผ้าเช็ดตัวกับหมวกคลุมผมอาบน้ำของผู้หญิงวางอยู่ตรงโต๊ะข้างเตียง ทีวีแขวนอยู่ตรงปลายเตียง (คงกะให้นอนดู) แล้วก็มีเก้าอี้หวายสองตัวตั้งอยู่ชิดกำแพง ตรงปลายเตียง ฉันสูดหายใจลึก รู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างประหลาด กลัวจริงๆ
ฉันวางกระเป๋าถือตรงเก้าอี้แล้วค่อยๆ ทรุดตัวนั่ง ห้องนั้นเงียบจนได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้น มือใหม่ของแท้ ฉันรู้สึกหนาวสั่นขึ้นมาซะงั้น แต่ไม่ใช่เพราะแอร์เย็นฉ่ำที่เปิดอยู่หรอก..เขาเดินไปเข้าห้องน้ำที่อยู่ตรงมุมด้านในแล้วเดินออกมา..ฉันยังนั่งอยู่ตรงเก้าอี้ ในมือถือเอกสารที่ติดเอามาอ่านจากที่ทำงาน..จริงๆ ก็อ่านประโยคเดิมอยู่ประมาณ 12 รอบได้แล้วล่ะ ตั้งแต่เขาเข้าห้องน้ำ..จนเขาเดินออกมาหาใกล้ๆ ก็ยังไม่กล้าเงยหน้ามอง..เขาถามเรื่องดาราดังที่เป็นข่าวอยู่เหมือนจะชวนคุย ฉันได้แต่ยิ้ม ไม่ยอมมองหน้า
เขาเอื้อมมือมากุมมือฉันให้ยืนขึ้นใกล้ๆ เขา ทั้งใบหน้า ท่าที น้ำเสียงของเขาก็ยังสุภาพ นุ่มนวลเหมือนเดิม นั่นเป็นสาเหตุที่ฉันรู้สึกไว้ใจเขามากพอที่มา..เพียงแต่เราไม่เคยใกล้ชิดกันขนาดนี้ แบบส่วนตัวอย่างนี้ และแบบที่รู้ว่าเรากำลังจะทำอะไร..วินาทีนั้นฉันซุกหน้าตรงหน้าอกเขา รู้สึกว่าตัวเองตัวเล็กนิดเดียว.. อ้อมกอดนั้นแข็งแรง อบอุ่น ใจดีและคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก ทั้งที่เราเพิ่งรู้จักกัน เขาจูบฉันเนิ่นนานที่ริมฝีปากเหมือนที่เคยทำในรถเมื่อเดือนก่อน.. ฉันตัวเบา หมดแรงไปเลย ถ้าเขาไม่ได้กอดไว้ ฉันก็คงลงไปกองกับพื้นเย็นเจี๊ยบนั่นแหละ.. วินาทีนั้นฉันรู้สึกว่ามิติของเวลาและสถานที่มันอันตรธานไปจากจิตสำนึก..
มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่นอนอยู่บนเตียงโดยมีร่างเขาทาบทับอยู่..ตอนนี้เวลากับสถานที่กลับมาแล้ว พร้อมด้วยด้วยความสับสนและความกลัว หัวใจฉันยังเต้นแรงทุกขณะ..แวบหนึ่งตอนที่เขาปลดเสื้อชั้นในออก ฉันรู้สึกว่าน้ำตาไหลออกมา..ฉันยังมีสติและเรี่ยวแรงอยู่ ไม่ได้เสียใจ ไม่ได้จะเปลี่ยนใจวิ่งหนี.. แต่กลัวและอาย..เพราะโลกนี้มีผู้ชายเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เคยเห็นฉันในสภาพเปล่าเปลือย..และสิ่งที่เกิดขึ้นวันนั้นจะเปลี่ยนแปลงฉันไปตลอดกาล..
เขาทำทุกอย่างแบบผู้เชี่ยวชาญและเป็นธรรมชาติเหลือเกิน จนฉันรู้สึกว่าเขาคงไม่มีวันเข้าใจถึงความเขินอายและความกลัวที่บีบคั้นฉันอยู่เต็มหัวใจในตอนนั้น ฉันนึกสงสัยว่าเขาจะเข้าใจหรือเปล่าว่าที่ฉันมากับเขาเพราะฉันรู้สึกดีกับเขาขนาดไหน ไม่ใช่เพราะเหงา หรือ ประชดใคร และไม่ได้รู้สึกแบบนี้ได้ง่ายดายกับผู้ชายคนอื่นที่รู้จัก ทุกสัมผัสของเขาอ่อนโยนและทนุถนอม..ฉันได้ยินเสียงตัวเองสั่นพร่า หายใจหอบถี่ แม้ยามที่พร่ำเรียกชื่อเขา..แววตาเขาดูอ่อนโยนตอนที่ถามย้ำว่า ไม่เปลี่ยนใจนะ? เหมือนอยากจะแน่ใจว่าฉันไม่ได้รู้สึกว่าโดนบังคับให้มาอยู่ตรงนี้ และจะไม่เสียใจกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
เขาซุกไซ้ซอกคอและจูบที่แก้มอยู่นาน ..ยามที่แนบชิด ลึกซึ้ง เขาก็ยังสบตา ถามว่า เจ็บหรือเปล่า? ฉันส่ายหน้าแทนคำตอบ น่าแปลกที่แม้ขณะที่กลัวอย่างนั้น ฉันกลับโอบกอดเขาไว้แน่นจนแทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน
ฉันไม่แน่ใจว่านี่เป็นสิ่งที่ฝรั่งเรียก One Night Stand หรือเปล่า แบบที่ทุกอย่างจบสิ้นกันในวันนั้นแล้วต่างคนต่างไป..ไม่แน่ใจว่าจะได้เจอกันอีกไหม นั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่ฉันถามเขาหลังจาก... เขาได้แต่ยิ้ม ดึงฉันไปกอดไว้ และฉันไม่แน่ใจว่านั่นหมายความว่าอะไร หนังสือทุกเล่มบอกว่าผู้ชายมีความต้องการในเรื่องนี้และสามารถมีกับผู้หญิงคนไหนก็ได้ โดยไม่ต้องมีความรู้สึกร่วม..หรือรัก.. เลย ก็คงจริง ฉันไม่มีหลักฐานอะไรที่จะยืนยันสิ่งที่มันเกิดขึ้น แต่ฉันจำทุกขณะที่อยู่กับเขาได้ในลมหายใจ ทุกสัมผัสที่อ่อนโยนนั้นยังฝังแน่นอยู่ในความรู้สึก ไม่ได้โกรธเขา ไม่เคยนึกเสียใจในสิ่งที่ตัวเองทำ ถ้าจะโกรธ ก็คงโกรธตัวเอง ที่..รู้ทั้งรู้ว่า..ไม่มีวันจะแยกร่างกายออกจากความรู้สึกได้เหมือนผู้ชาย แต่ก็ยังหาเรื่อง
จากคุณ :
คาเมรอน มอร์แกน
- [
16 ม.ค. 52 12:27:24
]