ความคิดเห็นที่ 1 9.45 น. ออกโรงแรมลงสถานีไปขึ้นรถไฟสายสีเขียว ต้นสายเลย นั่งไป  7 สถานี ก็ถึงสถานี Diamond Hill เดินเล่นไปสักพัก ก็ถึง วัดนางชีหรือ Chi Lin Nunnery วัดนางชี เป็นสำนักชีในศาสนาพุทธนิกายมหายานที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออก สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1930 โดยออกแบบตามสถาปัตยกรรมในราชวงศ์ถึงของจีนแผ่นดินใหญ่ ภายในมีตัวอารามหลายหลัง แต่ละหลังล้วนมีองค์พระโพธิสัตว์ให้กราบไหว้ ไม่ว่าจะเป้น "พระศรีอาตย์" ที่เชื่อว่าเป็นพระพุทธเจ้าองค์สุดท้ายในภัทธกัป ประดิษฐานตรงอารามชั้นนอก "พระไภษัชยครุ" ผู้เชี่ยชาญทางการแพทย์ตรงศาลาชั้นในด้านตะวันออก "เจ้าแม่กวนอิม" ด้านศาลาชั้นในทิศตะวันตก และ "พระศากยมุนี" อยู่ตรงศาลาชั้นในหลังใหญ่ จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) - [ 21 ม.ค. 52 01:30:18 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ผมเดินมามุมถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ... สิ่งหนึ่งที่ผมไม่ค่อยชอบถ่ายให้เข้ามาในภาพแลนด์สเคปประเภท วัด วัง โบราณสถาน ... ก็คือ ตึก..... ดูมันขัดกันเป็นวัฒนธรรมขัดแย้ง ...อิอิ... นอกเรื่องนิดหน่อยนะครับ .... บางทีเวลาผมถ่ายภาพวัด หรือ วัง แล้วมีคน หรือ รถจอดอยู่ ...ผมเคยนั่งรอให้ทุกอย่างโล่งถึงสองชั่วโมงสำหรับภาพเดียวก็มีครับ ....... การถ่ายภาพก็ดีอย่าง.... ฝึกให้ผมเป็นคนอดทนขึ้น .... เอาละ แต่ถ่ายรูปที่ฮ่องกง ถ่ายยังไงก็ติดอะครับ ....... ผมก็เลยไม่อยากถ่ายเท่าไหร่ เดินชมไป ดูโน่นดูนี่ไป  ไหว้พระไป  ....... แล้วข้ามไปยัง Nan Lian Garden เพื่อชม ความงามของ ศาลาทองกลางสวน (Pavilion of Absolute Perfection) แก้ไขเมื่อ 21 ม.ค. 52 11:28:39 แก้ไขเมื่อ 21 ม.ค. 52 11:18:02 จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) - [ 21 ม.ค. 52 01:33:48 ]

ความคิดเห็นที่ 3 หลังจากชมสวนสักพัก 11.00 น. ผมก็กลับไปขึ้นรถไฟ เพื่อไปยัง Museum of History  โดยเปลี่ยนจากสายสีเขียว เพื่อไปสายสีฟ้า ยังสถานี Eash Tsim Sha Tsui  เดินออกจากออก P2 . ถ้าเดินแบบรู้ทางจริงๆ ไม่เกินสิบนาทีก็ถึง ..... แต่ผมหลงอะครับ ถามไป หลงไป ใช้เวลาเกือบ 30 นาที .. และที่นี่ก็คือ Museum of History จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) - [ 21 ม.ค. 52 01:55:03 ]

ความคิดเห็นที่ 4 พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ฮ่องกง Museum of History เป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ฮ่องกง จัดแสดงนิทรรศการถาวร ชุด"เรื่องราวของฮ่องกง (Hong Kong Story)" ซึ่งเป็นนิทรรศการที่น่าสนใจครอบคลุมเนื้อที่ 7,000 ตารางเมตร มีการนำวัตถุสิ่งของเกี่ยวกับวัฒนธรรม ซึ่งมีความสำคัญทางโบราณคดี ประวัติศาสตร์การศึกษาเกี่ยวกับชนชาติและวัฒนาการของชุมชนในฮ่องกงและจีนตอนใต้มาให้ได้ชมกัน จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) - [ 21 ม.ค. 52 01:56:08 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ที่นี่จะเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็น ยกเว้นวันอังคารจะปิด ค่าเข้าชม $10 ยกเว้นวันพุธสามารถเข้าชมฟรี ยกเว้นส่วนที่เป็นนิทรรศการพิเศษ พิพิธภัณฑ์มีการบริหารจัดการแบ่งเป็นเรื่องราวและสัดส่วนประกอบด้วยกัน 7 หมวด  เริ่มตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์  ยุคหิน ยุคที่อยู่ภายใต้การปกครองของราชวงค์ของจีน 2 ราชวงศ์ วัฒนธรรมความเป็นอยู่ของชาวฮ่องกงในอดีต   และยุคที่อยู่ภายใต้การประครองของอังกฤษ และญี่ปุ่น  รวมถึงเรื่องของความก้าวหน้าของอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม ต่างๆ จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) - [ 21 ม.ค. 52 01:57:58 ]

ความคิดเห็นที่ 6 มารู้จักประวัติศาสตร์ฮ่องกงกันครับ ฮ่องกงนั้น เป็นภาษากวางตุ้ง ซึ่งมาจากภาษาจีนกลาง ว่า "เซียงก่าง" ความหมายก็ไม่เหมือนใคร หมายความว่า "ท่าเรือหอม" มีความเป็นมา สืบเนื่องมาแต่ครั้งที่กวางตุ้ง เป็นแหล่งปลูกไม้หอมชนิดหนึ่ง ส่งขายเป็นสินค้าออก โดยที่ต้องมาขนถ่ายสินค้ากัน ที่ท่าเรือน้ำลึกตอนใต้สุดของแผ่นดินจีน เมื่อราวกลางคริสต์ศตวรรษที่ 19 ได้มีเรือของกองทัพอังกฤษ นำโดยกัปตัน Charles Elliot (ชาร์ลส์ อีเลียต) แล่นผ่านน่านน้ำระหว่าง แหลมเกาลูนและเกาะแห่งหนึ่งที่ร่ำลือกันว่า เป็นที่หลบลมพายุของพวกโจรสลัด กัปตันอีเลียต เกิดได้กลิ่นหอมชนิดหนึ่ง จึงจอดเรือและขึ้นฝั่ง ส่งล่ามลงไปสอบถาม ได้ความว่าเป็นท่าเรือหอม ใช้ขนถ่ายไม้หอม กัปตันรับทราบด้วยความประทับใจ เมื่อกัปตันอีเลียตเดินทางกลับสู่อังกฤษและได้รับการแต่งตั้งให้ไปประจำการฝ่ายการพาณิชย์ของอังกฤษในภาคพื้นเอเซีย ซึ่งขณะนั้นเอง ประเทศอังกฤษซึ่งปกครองโดยพระนางวิกตอเรีย กำลังต้องการอาณานิคมในแถบทะเลจีนใต้ เพื่อใช้เป็นที่จัดส่งสินค้า หรือฝิ่นนั่นเอง และประจวบเหมาะพอดีกับที่ฝ่ายอังกฤษและจีน กำลังมีปัญหาเรื่องการค้าฝิ่นในแถบกวางตุ้งของจีน จนทำให้เกิดสงครามฝิ่นครั้งที่ 1 ขึ้น ในปี ค.ศ. 1839 กัปตันอีเลียตจึงตัดสินใจยกพลขึ้นบกที่ท่าเรือกลิ่นหอม และประกาศให้ดินแดนแถบนั้นเป็นของอังกฤษ ในวันที่ 26 มกราคม ค.ศ.1841 ว่ากันว่ามีเหตุการณ์ที่น่าขัน และสร้างความขายหน้าให้กับพระราชินีวิคตอเรียยิ่งนัก ที่กองทหารอังกฤษเข้ายึดเกาะที่มีแต่หินโสโครก หาประโยชน์ไม่ได้เลย กัปตันอีเลียตจึงถูกลงโทษด้วยการส่งไปเป็นกงสุลอังกฤษประจำเท็กซัสแทน ตั้งแต่นั้น จีนและอังกฤษกระทบกระทั่งกันเรื่องการค้าฝิ่นเรื่อยมา เกิดสงครามฝิ่นถึงสองครั้ง จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) - [ 21 ม.ค. 52 02:00:15 ]

ความคิดเห็นที่ 7 หลังสงครามฝิ่นครั้งที่สองนี่เอง อังกฤษได้บีบบังคับให้จีนทำสัญญา โดยให้อังกฤษเช่าฮ่องกงทั้งหมด เป็นเวลา 99 ปี โดยกำหนดวันหมดสัญญาไว้วันที่ 30 มิถุนายน ค.ศ. 1997 ด้วยภูมิประเทศของฮ่องกงเอง ที่เป็นเมืองท่าน้ำลึก เหมาะแก่การจอดเรือสินค้าขนาดใหญ่ จึงทำให้ฮ่องกงกลายเป็นเมืองท่าที่สำคัญของโลก ผู้สำเร็จราชการคนแรกที่มาประจำยังเกาะฮ่องกง ท่านลอร์ด Palmerston เคยขนานนามเกาะแห่งนี้ไว้ว่า "หินไร้ค่า" แต่อังกฤษได้ช่วยวางรากฐานการศึกษา การปกครอง และผังเมืองให้ฮ่องกงเป็นอย่างดี เพียง ชั่วพริบตาเดียว ฮ่องกงได้กลับกลายเป็นศูนย์กลางพาณิชย์และยังเป็นประตูเปิดสู่ประเทศจีน แก้ไขเมื่อ 21 ม.ค. 52 02:02:40 จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) - [ 21 ม.ค. 52 02:01:58 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ปลายศตวรรษที่ 19 ดินแดนตอนปลายคราบสมุทรเกาลูนก็ตกเป็นอาณานิคม และอังกฤษยังได้สิทธิเช่าเขตนิวเทอริทอรี่ส์ เป็นเวลา 99 ปี จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) - [ 21 ม.ค. 52 02:03:40 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ซึ่งอังกฤษได้ทำพิธีส่งคืนเกาะฮ่องกง ให้แก่จีนเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 1997 ไปเรียบร้อย ทั้งนี้เคยมีการเจรจาระหว่างอังกฤษโดย นางมาร์กาเร็ต แทตเชอร์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น กับ นายเติ้งเสี่ยวผิง ผู้นำฝ่ายจีน เพื่อเจรจาขอเช่าเกาะฮ่องกงต่อ แต่ได้รับการปฏิเสธ จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) - [ 21 ม.ค. 52 02:04:34 ]

ความคิดเห็นที่ 10 และในปีเดียวกันนั้น วันที่ 26 กันยายน ผู้นำทั้งสองจึงเปิดเจรจาอีกครั้งและลงนามในสัญญา โดยมีสาระสำคัญว่า อังกฤษจะยอมส่งมอบคืนเกาะฮ่องกงให้กับจีน และจีนได้ให้สัญญาว่าจะยอมให้ฮ่องกง อยู่ในฐานะ "เขตปกครองตนเอง" ภายใน 50 ปี จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) - [ 21 ม.ค. 52 02:05:36 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ปัจจุบันจีนได้มอบหมายให้มีตำแหน่งผู้ว่าการฮ่องกง และจีนได้ร่างรัฐธรรมนูญ โดยกำหนดให้รัฐบาลปักกิ่งรับผิดชอบด้านกิจการต่างประเทศ การทหาร และความมั่งคงเท่านั้น ส่วนการบริหารยังคงให้อิสระแก่ชาวฮ่องกงเหมือนเดิม จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) - [ 21 ม.ค. 52 02:06:52 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อย่างไรก็ตามด้วยทำเลอันเหมาะสม เกาะฮ่องกงก็ยังมีบทบาทสำคัญยิ่งในศตวรรษที่ 21 ในฐานะเมืองท่าการค้าระหว่างประเทศ ฐานที่ตั้งสำคัญของผู้ผลิต และศูนย์กลางเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) - [ 21 ม.ค. 52 02:07:53 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ผมได้ความรู้เยอะมาก เดินชมไป ถ่ายรูปไป จนลืมเวลา เหลือบดูนาฬิกา ตายละวา เกือบบ่ายโมงแล้ว ได้เวลาไปต่อที่อื่นแล้ว .... ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆ ที่ผมได้เพิ่มพูนส่วนประวัติศาสตร์ ที่ไม่มีโอกาสสักเท่าไหร่ ..... แล้วจะกลับมาเยี่ยมใหม่ .... จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) - [ 21 ม.ค. 52 02:12:21 ]

ความคิดเห็นที่ 14 13.10 น. ออกจากพิพิธภัณฑ์  มายืนรถรถเมล์ แล้วขึ้นสาย 80 ไปยังสตาร์เฟอรี่ ..... จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) - [ 21 ม.ค. 52 02:16:20 ]

ความคิดเห็นที่ 15 13.25 น. ถึงสตาร์เฟอรี่ เมื่อลงรถแล้วก็เดินย้อนไปยัง Avenue of Star จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) - [ 21 ม.ค. 52 02:17:02 ]

ความคิดเห็นที่ 16 กลุ่มบริษัทนิวเวิลด์ได้มอบเงินสนับสนุนถึง 40 ล้านเหรียญดอลลาร์ฮ่องกง เพื่อสร้างอเวนิว ออฟ สตาร์ขึ้น เพื่อเทิดทูนบุคคลที่มีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของฮ่องกง และสดุดีความทุ่มเทของพวกเขาทั้งที่มีต่อวงการแผ่นฟิล์มของฮ่องกงและในระดับโลก และเมื่อดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ ดร. เฉิง อยู-ถุง ประธานกลุ่มบริษัทนิว เวิลด์เป็นตัวแทนแห่งความภาคภูมิใจมอบสถานที่แห่งนี้ให้กับรัฐบาลฮ่องกง จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) - [ 21 ม.ค. 52 02:31:06 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ที่อเวนิว ออฟ สตาร์ จะเปิดไฟประดับประดาในตอนกลางคืน ซึ่งจะเปลี่ยนสถานที่แห่งนี้ให้ดูเจิดจรัส และที่นี่ นักท่องเที่ยวยังสามารถเฝ้าชมการแสดงมัลติมีเดียซิมโฟนี่ ออฟ ไลท์ส ได้อย่างชัดเจน ตั้งแต่เวลา 20.00 น. ของทุกวัน แสงไฟเลเซอร์และสปอตไลท์จะยิงขึ้นจากอาคาร 33 แห่งที่ตั้งอยู่ริมอ่าวทั้งสองด้าน การแสดงนี้ได้รับการจดบันทึกลงในกินเนสบุ๊คว่าเป็นการแสดงแสงเสียงกลางแจ้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และโชว์นี้จะตระการตามากยิ่งขึ้นด้วยการแสดงพลุไฟในวาระพิเศษต่างๆ จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) - [ 21 ม.ค. 52 02:32:08 ]

ความคิดเห็นที่ 18 กิจกรรมก็ไม่มีอะไรมาก ก็เดินหาลายมือประทับคนดังๆ ทานของว่าง.. ซื้อของที่ระลึก.. และถ่ายรูปอะครับ ... ช่วงนี้ฟ้าฮ่องกงไม่สวยเลย ทั้งหมอก และ ฟ้าขาวขุ่น ... แถมเจอแขกอินเดีย มาหลอกดูหมอให้อีก ..... ตอนแรกมันจะเอา ถึง 300 ดอลล่าร์ .... แต่บอกว่าไม่มี ให้ค่าโง่ตัวเองกับมันไป 20 เหรียญ วิธีที่พวกมันจะใช้ก็คือ มาแนะนำตัวบอกว่าจะโชคดี ...ไอ้เราตกงานอยู่แล้ว ก็ลเยอยากลอง ... แต่พอมันเริ่มเล่นกลว่า ทายใจเราได้ ... ก็เริ่มรู้แล้วว่าโดนแน่ .... ก็เลยขอหยุดและให้เงินไป แก้ไขเมื่อ 21 ม.ค. 52 03:34:44 จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) - [ 21 ม.ค. 52 02:35:09 ]

ความคิดเห็นที่ 19 มาประทับฝ่ามือกับดารากันเลยดีกว่า เริ่มด้วย หลี่เหลียงเจี๋ย...... จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) - [ 21 ม.ค. 52 02:36:55 ]

ความคิดเห็นที่ 20 จางเซ๊ยะโหย่ว จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) - [ 21 ม.ค. 52 02:37:53 ]

ความคิดเห็นที่ 21 จางหมั่นอวี้ ....คนโปรดของผมคนหนึ่งเลย จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) - [ 21 ม.ค. 52 02:38:21 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ตามด้วยสาวสองพันปี ** หลินชิงเสีย จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) - [ 21 ม.ค. 52 02:38:57 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ตำนานที่จากไป ** เหมยเยี่ยนฟาง จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) - [ 21 ม.ค. 52 02:39:25 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ซุปเปอร์สตาร์ *** เฉินหลง จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) - [ 21 ม.ค. 52 02:40:03 ]

ความคิดเห็นที่ 25 สุดหล่อ ** หลีหมิง จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) - [ 21 ม.ค. 52 02:40:30 ]

ความคิดเห็นที่ 26 พี่หลิวของเรา จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) - [ 21 ม.ค. 52 02:41:04 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ปิดท้าย ด้วยหนุ่มน้อย แฟนคลับของกั๊วฟู่เฉิน จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) - [ 21 ม.ค. 52 02:41:33 ]

ความคิดเห็นที่ 28 14.30 น. เดินจนสุดทางถึงนิวเวิลด์ แล้วก็ไม่มีอะไร .....ข้าวกลางวันก็ยังไม่กิน ก็เลย นั่งรถไฟกลับที่พักก่อน เพราะ ต้องไปเอาขาตั้งกล้อง เพื่อขึ้นไปถ่ายที่พีค .... แวะกินข้าวข้างโรงแรม วันนี้ขอเบาๆ เป็นก๋วยเตี๋ยวหลอด จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) - [ 21 ม.ค. 52 02:44:31 ]

ความคิดเห็นที่ 29 15.30 น. ขึ้นห้องพัก และ อาบน้ำ ....... แล้วงีบหลับไป จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) - [ 21 ม.ค. 52 02:45:15 ]

ความคิดเห็นที่ 30 17.00 น. นาฬิกาปลุก ก็ลุกขึ้นมาอาบน้ำ แล้วออกเดินทางไปยังสถานีเซ็นทรัล ... แล้วก็เดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) - [ 21 ม.ค. 52 02:47:32 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ตั้งใจว่าจะเดินถ่ายไปจนถึงสถานีรถรางขึ้นพีค ..... แต่อันนี้เป็นรถรางข้างล่าง เห็นสีสันสวยดีเลยเก็บมาสักภาพ จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) - [ 21 ม.ค. 52 02:48:47 ]

ความคิดเห็นที่ 32 17.45 น. เดินถึงสถานีรถรางขึ้นพีค ....โอมายก๊อดดดดดดดดด คนต่อแถวขดไปขดมาเหมือนแยมโรล เพื่อรอขึ้นวิคตอเรีย พีค .... ผมเห็นว่าสามชั่วโมงก็ไม่รอด .... งั้นย้อนกลับไปขึ้นรถเมล์สาย 15C  ที่ Star Ferry ดีกว่า .... ว่าแล้วก็นั่งรถเมล์สาย 15 ย้อนกลับไปยัง Star Ferry จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) - [ 21 ม.ค. 52 02:51:13 ]

ความคิดเห็นที่ 33 18.10 รถสาย 15C  ออกจาก Star Ferry จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) - [ 21 ม.ค. 52 02:52:23 ]

ความคิดเห็นที่ 34 19.05 หลังจากเมารถขึ้นเขา ผมก็ถึง ยอด Victoria Peak ... เดอะพีค เป็นสัญลักษณ์ของฮ่องกงและหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับผู้มาเยือน มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลถึง 554 เมตร และเป็นจุดที่เยี่ยมยอดสำหรับการชมวิวทะเลจีนใต้ อ่าววิคตอเรีย ชายฝั่งด้านเหนือของเกาะฮ่องกง แหลมเกาลูน และไลอ้อนส์ ร็อค ชื่อของวิคตอเรีย พีคในภาษาจีนคือ Tse Ki Shan  แปลว่าภูเขาจุดปักธง โดยตามตำนานเล่าว่า โจรสลัดชื่อดังในสมัยนั้นได้เคยใช้ยอดเขานี้เป็นจุดปักธง เพื่อส่งสัญญาณบอกพรรคพวกที่ซุ่มอยู่ที่เชิงเขาให้เข้าปล้นเรือสินค้าที่ล่องเข้ามาในอ่าว หากแต่ตำนานนี้ไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัด อีกหนึ่งตำนานที่ดูจะสมเหตุผลกว่าเล่าว่า ยอดเขานี้เป็นที่ปักธงของหน่วยลูกเรือนำร่อง ที่จะส่งสัญญาณธงทุกครั้งที่มีเรือสินค้าผ่านมา เพื่อให้เพื่อนร่วมงานที่อยู่ด้านล่างทำหน้าที่นำเรือเหล่านั้นล่องไปตามช่องทางได้ ปัจจุบัน วิคตอเรีย พีค มีชื่อเรียกว่า “Tai Ping Shan” ซึ่งมีความหมายว่า ภูเขาแห่งความสงบอันยิ่งใหญ่ นอกจากทัศนียภาพอันสวยงามของอ่าวแล้ว เดอะพีคยังมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ทำให้เป็นทำเลในฝันของบ้านพักอาศัย ด้วยเหตุผลนี้ เหล่าบุคคลร่ำรวยมีชื่อเสียง ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐบาลระดับอาวุโส นักธุรกิจ นายธนาคาร และเจ้าหน้าที่กงสุล ต่างก็เลือกที่จะมีบ้านพักบนเดอะพีค ในสมัยแรกที่เป็นอาณานิคม มีเพียงชาวตะวันตกเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้มีที่พักบนนี้ โดยชาวจีนคนแรกที่มีบ้านบนเดอะพีคคือ เซอร์ Ho-Tung ซึ่งเป็นบุคคลที่ร่ำรวยมาก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ขึ้นมาที่เดอะพีคเพื่อชมทิวทัศน์อ่าวที่สวยงาม และบางกลุ่มมาเพื่อเดินเล่นรอบยอดเขา โดย “Peak Circle Walk” เริ่มต้นที่ถนน Lugard และสิ้นสุดที่ถนน Harlech หรือในทางกลับกัน ทางเดินนี้จะวนรอบยอดเขาและใช้เวลาเดินประมาณหนึ่งชั่วโมง เดอะพีคในยามค่ำคืนเป็นสิ่งที่พลาดไม่ได้สำหรับนักท่องเที่ยว เมืองด้านล่างจะสว่างไสวไปด้วยไฟนับล้านดวง แต่ถ้าให้ผมเทียบกับที่โตเกียวนะครับ ....โตเกียวสวยกว่า และมีมุมสวยๆ 360 องศาเลยทีเดียว ค่าขึ้นชมวิว 20 เหรียญครับ ..... เลยมีภาพนี้มาฝากท่านผู้อ่าน.. แก้ไขเมื่อ 21 ม.ค. 52 11:31:15 แก้ไขเมื่อ 21 ม.ค. 52 02:59:43 จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) - [ 21 ม.ค. 52 02:57:07 ]

ความคิดเห็นที่ 35 อยู่ถึงประมาณ 20.30 น. เดินผ่านมาดามทูซโซ ค่าเข้า 150 เหรียญ ไม่เอาดีกว่า .... 20.25 น. นั่งรถเมล์กับมายัง Star Ferry จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) - [ 21 ม.ค. 52 02:59:18 ]

ความคิดเห็นที่ 36 นั่งเรือข้ามมายังฝั่งเกาลูน ....... โอโฮ มายก๊อดอีกครั้ง ..... เขาปิดถนนนาธาน เพื่อรอเคาท์ดาวน์ คริสมาสกัน ........ คนเดินไปมายั๊วเยี๊ยะอย่างกับหนอน...... เวทีคอนเสิร์ต ตั้งเป็นระยะๆ .. จะตั้งขากล้องถ่ายภาพก็ไม่ได้ถนัด แถมฟ้าก็ไม่เป็นใจ  ... กดภาพได้ภาพเดียวก็นั่งรถไฟกลับที่พักเลย ..... แวะทานข้าวข้างที่พัก เห็นคนเยอะดี ท่าทางอร่อย เป็นข้าวอบกระดูกหมู กับไส้กรอกตับ หมดไป 21 เหรียญ แก้ไขเมื่อ 21 ม.ค. 52 18:31:51 จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) - [ 21 ม.ค. 52 03:03:29 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ไม่อิ่มครับคุณผู้อ่าน ว่าแล้วก็ไปซื้อลูกชิ้นกับใส้หมู มากินอีก ไม้ละ 5 เหรียญ จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) - [ 21 ม.ค. 52 03:04:35 ]

ความคิดเห็นที่ 38 23.55 น. ตะกายขึ้นห้อง ....อาบน้ำ แล้วเริ่มเก็บกระเป๋า เพราะพรุ่งนี้ต้องไปมาเก๊าครับ ....... แล้วพรุ่งนี้พบกันใหม่ครับ ..... ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชม ราตรีสวัสดิ์ จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) - [ 21 ม.ค. 52 03:06:58 ]

ความคิดเห็นที่ 39 รูป Pavilion of Absolute Perfection สวยมากเลยค่ะ ตัดกับตึกทางด้านหลังดี ที่จริงก็สวยทุกรูปเลยโดยเฉพาะลูกชิ้นกับใส้หมู ว่าแล้วก็คอยตอนต่อไปค่ะ จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) - [ 21 ม.ค. 52 03:57:46 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ขอชมค่ะ รูปภาพสวยมากๆ ได้ดูจากกระทู้ ไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วล่ะค่ะ ติดตามผลงานค่ะ จากคุณ : jeab (jeabsoon) - [ 21 ม.ค. 52 11:04:49 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ฝากถึงเพื่อนๆ ครับ .... ขอบคุณที่มาเยี่ยมชม ทุกครั้งผมจะให้กิฟเป็นการขอบคุณทุกท่าน ... แต่เดือนนี้กิฟหมดแล้ว เลยขอติดไว้ก่อนนะครับ  .... อย่างนั้น กระทู้นี้ เลยขอขอบคุณเพื่อนๆ ด้วยภาพแม่ชีจากสังขละบุรีแทนละกันครับ จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) - [ 21 ม.ค. 52 11:36:45 ]

ความคิดเห็นที่ 42 มาจัดกระเป๋า ตามติด ติดตาม   ไปทุกที่ จากคุณ : Thonnam = ต้นน้ำ - [ 21 ม.ค. 52 15:42:12 ]

ความคิดเห็นที่ 43 โอ๊ะ แม่ชีห่มสีชมพูหรือคะ อยากไปดูพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์บ้างจัง จากคุณ : scottie - [ 21 ม.ค. 52 18:36:29 ]

ความคิดเห็นที่ 44 คุณ scottie ... แม่ชี มาจากฝั่งพม่าครับ ... มักจะข้ามมาทางด่านเจดีย์ ฯ เพื่อมารับทานบริจาค จากคนไทยในวันโกน ... พวกเธอจะห่มผ้าสีชมพูครับ ส่วนพิพิธภัณฑ์ .... ตื่นตาตื่นใจดีครับ .... มีอะไรให้ศึกษาเยอะทีเดียว... ถ้าไปฮ่องกง ก็อย่าลืมไปชมนะครับ แก้ไขเมื่อ 21 ม.ค. 52 19:59:10 จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) - [ 21 ม.ค. 52 19:58:03 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 6 ก.พ. 52 01:06:31 ]