ผมมีความฝัน(หวาน)ว่าสักวันอยากมีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ค่อยๆ เดินทางไต่หาความฝันของตนเอง การเดินทางของชีวิตทำให้เราได้พบเจอกับโลกที่กว้างใหญ่ หลายอย่างอาจเจอในช่วงของการเดินทางแต่ผมก็ไม่เคยทอดทิ้งความที่อยากมีบ้านที่แสนสุขใต้ริมน้ำ มีชานบ้านยื่นออกไปในลำธาร ยามเช้ามีสายหมอกลอยล่อง ภายใต้ฝืนป่าเล็กๆ ที่ผมจะเสกสรรปั้นแต่งขึ้นมาด้วยตัวของผมเอง วิถีแห่งความพอเพียงและเพียงพอผมก็จะเลี้ยงปลาในลำธารใสในบ้าน ปลูกข้าวกินเองตามฤดูกาล ปลูกผักพื้นบ้านไว้กินเองตามริมรั้วบ้าน บ้านผมจะปลูกไผ่ไว้ล้อมรอบบ้าน ยามเย็นย้ำหรือเวลามีพักพวกเพื่อนฝูงมาหาผมก็จะจับปลาในน้ำในผืนบ้านมาย่างกินกับเพื่อนที่ชานบ้านริมน้ำ รึนั่งกินเบียร์ยามเย็นที่ว่างจากการทำงานก็จะนั่งคุยกับใครสักคนดูพระจันทร์บนฟ้า ดูดาวยามหน้าหนาว
มีใครไม่รู้ที่บอกว่าเราต้องเดินทางตามฝัน คนที่ไร้ฝันคือคนที่ตายแล้ว การเดินทางของชีวิตของผม อดทนและก็รอคอยบางทีมันก็นาน แต่ความฝันมันทำให้เรามีชีวิตที่มีความหวังเปรียบดั่งต้นไม้ที่ได้น้ำฝนจากฟ้าที่จะชุ่มชื่นไปถึงหัวใจคนที่เฝ้าดูมิใช่หรือ
ชีวิตที่เรียบง่ายอย่างที่เราคิดฝัน พอคิดถึงมันก็สร้างพลังให้เรามีพลังที่จะก้าวเดินต่อไปข้างหน้า ที่สิ่งที่มันเกิดขึ้นในโลกใบนี้มันเหมือนกับว่าปลายทางของความฝันมันเริ่มตีบตันลงทุกที เวลามันเดินเร็วขึ้นทุกวัน บางทีกลับมาคิดว่าความฝันที่รออยู่ปลายทางกับยุคแห่งโลกาภิวัตน์มันอาทำลายฝันเราลงก็ได้
เพราะวิฤตการณ์ที่มันกำลังก่อตัวกับโลกใบนี้ แสงเงาของการพัฒนา เป็นตัวเร่งให้มนุษย์โลกต้องเร่งใช้ทรัพยากรที่มีอยู่บนโลกให้ก้าวหน้าและก็พัฒนาโลกให้มันสมัย ทรัพยากรที่มีอยู่บนโลกถูกนำมาใช้และเริ่มหมดไป โลกเริ่มเสื่อมโทรม จิตใจมนุษย์เริ่มเสื่อมลง สังคมแตกยกทั้งโลก และโลกก็กำลังหาจุดที่สมดุลของตัวเอง
น้ำกำลังแพงแซงน้ำมัน ใครจะใส่ไว้บ้างว่าทรัพยากรน้ำที่มีอยู่มากกว่าน้ำมันกำลังแพงกว่าน้ำมันทั้งๆ ที่น้ำมีมากจนล้นเกินแต่น้ำที่ดื่มได้เริ่มแพงมากขึ้น อากาศเริ่มเสีย อากาศเริ่มมีมลพิษที่บนเปื้อนมาจากการพัฒนาอุตสาหกรรม นี้เป็นเพียงทรัพยากรที่มีใช้แล้วไม่หมดไปและทุกคนต่างเข้าถึงและใช้ทรัพยากรนี้ได้
แต่เมื่อมอไปที่ทรัพยากรที่ใช้แล้วหมดไป เช่น น้ำมัน ก๊าชธรรมชาติ ที่เมื่อมีการใช้แล้วต้องหมดไป ตามหลักวิชาการแล้วการนำทรัพยากรธรรมชาติเหล่านี้มาใช้จะต้องมีการใช้อย่างระมัดระวังและต้องมีการใช้อย่างฉาดฉลาดเพื่อให้ทรัพยากรเหล่านี้มีไว้ใช้อย่างยั่งยืน(หมายความว่าคนรุ่นต่อไปต้องมีไว้ใช้)
วิกฤตอีกประเด็นที่น่าเป็นห่วงคือวิกฤตอาหารบนโลกที่เริ่มแพงมากขึ้น คนบนโลกเริ่มขาดแคลนอาหาร ประเด็นอาหารบนโลกน่าจะเป็นประเด็นที่สำคัญมากกว่าน้ำมัน คนไม่กี่ปีคนบนโลกก็จะแย่งชิงอาหารกันกิน ต้องยอมรับว่าคนบนโลกเพิ่มมากขึ้น อาหารที่มีอยู่อย่างจำกัดแต่สิ่งที่ปะปนมากับอาหารคือธุรกิจ ทำให้การการะจ่ายตัวของอาหาไม่สามารถที่จะเขาถึงคนจนได้ จริงๆ อาการหรือสินค้าการเกษตรจะต้องไม่ทำให้เป็นธุรกิจการค้า เพราะสินค้าการเกษตรจะต้องเอาออกจากระบบของการค้า เพราะเมื่อมีกลไกการตลาดเข้ามาเกี่ยวข้องเมื่อใด เมื่อสินค้าน้อยลงความต้องการเพิ่มมากขึ้น คนรวยก็มีใช้อย่างร้นเกินเหมือนเดิม แต่คนจนก็ต้องเข้าถึงทรัพยากรเหล่านี้ได้น้อยลง
ไม่ใช่ว่าสินค้าเกษตรแพงขึ้นเป็นโอกาสของชาวนาที่จะขายข้าวได้แล้วมีเงิน ไม่ใช่ขายอาหารแล้วมีเงิน แต่ก็ทำได้ถ้าเกษตรกรรู้จักลดต้นทุนการผลิตของตนเองแล้วปลูกสินค้าการเกษตรแล้วขายตามความสมารถของปัจจัยของครอบครัวของตนเอง แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ ข้าวขึ้นราคาชาวนาได้ประโยชน์มากน้อยสักเท่าไหร่ ผมเห็นแต่คนที่ขายข้าวได้กำไรมหาศาล ประเด็นคือเมื่อเรานำสินค้าการเกษตรเป็นการค้า การกระจ่ายอาหารก็ไม่ทั่วถึงคนทุกคน อนาคตการจลาจลเพื่อแย่งชิงอาหารก็จะเพิ่มมากขึ้นบนโลก
โลกร้อนขึ้นทุกปี หลายอย่างบนโลกกำลังเปลี่ยนไป โลกธรรมชาติก็ต้องหาสมดุลของตนเองบนโลกเพื่อให้ธรรมชาติหรือสิ่งมีชีวิตบนโลกอยู่ได้อย่างสมดุลไม่ใช่อยู่ได้เพราะมนุษย์ผมเชื่อว่านอกจากมนุษย์จะทำลายล้างกันเองแล้ว สงครามที่น่ากลัวคือสงครามระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติที่ต้องรุนแรงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ สมดุลธรรมชาติมนุษย์ไม่ได้สร้างแต่ธรรมชาติจะสร้างสมดุลของมันขึ้นมาเองเร็วๆหรือช้ามันอยู่ที่ตัวเราเอง
แล้วความฝันเล็กๆ ของผมที่แอบฝันที่เฝ้ารอ เมื่อเห็นวิกฤตบนโลกเริ่มเปลี่ยน รึความฝันต้องรีบทำให้เสร็จ ทำไมการทำความฝันต้องรีบ ความฝันมันต้องรอมันถึงจะหอมหวานและเมื่อได้มันมาแล้วมันถึงจะภูมิใจ
บางทีความฝันกับความจริงมันจะต้องเดินทางสวนกันไปกันมา ความจริงเราก็ต้องยอมรับมันว่ามีอะไรเกิดขึ้นมาบ้าและก็เพียงรับรู้ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นและก็ดำเนินชีวิตต่อไปเพราะต้องเรียน ต้องหาเงิน ต้องทำงาน เพราะความฝันของคนเล็ก ๆ ไม่ใช่จะบรรดาลเอาว่าอยากได้อะไรแล้วก็ต้องได้ อยากซื้อสโมสรฟุตบอลก็ง่าย อยากแก้รัฐธรรมนูญก็ทำ อยากเป็นนายากก็แค่ซื้อ
บางทีความฝันของคนเล็ก ๆ ก็ต้องอดทนรอ และค่อยเดินเลาะริมฝั่งน้ำเพื่อเฝ้ารอความฝันของตนเองบางทีการมีชีวิตที่รีบเร่งก็จะดีเสมอไป การมีชีวิตที่เนิบช้ามันอาจจะมีต่อความเป็นตัวเราก็ได้ ไม่ว่าข้างหน้าจะเป็นอย่างไรชีวิตคนเล็กๆที่เฝ้ารอความฝันอย่างเนิบช้าผมก็จะลงมือทำและฝันที่พอจะทำได้มันต่อไป
จากคุณ :
ดูเธอทำ
- [
23 ม.ค. 52 00:37:58
]