Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    เรื่องของความเจ็บป่วย (บันทึกของคนเดินเท้า)

    บันทึกของคนเดินเท้า

    เรื่องของความเจ็บป่วย

    เทพารักษ์

    ดูเหมือนจะมีภาษิตอยู่บทหนึ่งว่า ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ เราจึงนิยมอวยพรให้ผู้อื่นในวาระต่าง ๆ รวมทั้งปีใหม่ที่ผ่านไปเร็ว ๆ นี้ว่า ขอให้สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง และโชคดีมีเงินทองร่ำรวยไปตลอดปี หรือประโยคอื่น ๆ ที่มีความหมายเหมือนกัน ซึ่งในปัจจุบันได้ย่นย่อลงมาเป็นวลีสั้น ๆ ว่า อย่าเจ็บอย่าจน ซึ่งกินความทั้งหมดของคำอวยพรทั้งหลาย ที่เราใช้กันอยู่

    แต่ในความเป็นจริงนั้น คำอวยพรก็เป็นแต่เพียงคำปลอบใจ ระหว่างคนที่รักและเคารพ นับถือกันเท่านั้น ไม่อาจเป็นจริงไปได้ ถ้าเราทำกรรมที่จะก่อให้เกิดความเจ็บไข้ และไม่ทำกรรมที่จะก่อให้เกิดความร่ำรวย เราก็มีสิทธิที่จะเจ็บและจนได้เสมอ

    ผมก็เคยได้รับคำอวยพรแบบนี้มา เป็นเวลาหลายปีแล้ว แต่ความเจ็บไข้ก็มาเยือนตามโอกาสและเวลาอันควรเสมอ ตั้งแต่การผ่าตัดสองครั้งที่เวลาห่างกันยี่สิบปี แล้วก็เคยตีปิงปองกับเพื่อน บนโต๊ะที่มีขาพับได้ เพื่อนตบลูกอย่างแรง จนกระแทกโต๊ะล้มลงทับหัวแม่เท้าขวา กระดูกแทบแตก ทั้ง ๆ ที่ใส่รองเท้าหุ้มข้อ ต้องลาป่วยหลายวันเพราะเดินไม่ได้ และการกินเหล้าไม่เติมโซดาเป็นประจำจนบวมไปทั้งตัว เพราะเป็นโรคตับโต

    หลังเกษียณอายุแล้ว ก็มีโรคฟันผุ เพราะเมื่อเป็นเด็กไม่ชอบแปรงฟันให้ถูกวิธี เดี๋ยวซี่นั้นเป็นรูโบ๋ เดี๋ยวซีกนี้โยกคลอน  ต้องไปหาหมอฟันซึ่งเดิมเป็นนายทหารเสนารักษ์ อยู่ที่หมวดตรวจโรคกรมเดียวกัน ท่านเป็นทหารเกณฑ์ก่อนผม ประมาณสงครามอินโดจีน พอเกษียณอายุก็ออกมาเปิดร้านทำฟันแถวสะพานควาย ผมก็ไปหาท่านตั้งแต่ซี่แรก เพราะคุ้นเคยกันมาก่อน เมื่ออ้าปากให้ท่านดูฟัน ท่านถามว่า จะให้ถอนซี่ไหนวะ ผมก็ชี้ฟันกรามซี่ที่เป็นรูโบ๋ลึกถึงเส้นประสาท ท่านก็ปรารภว่า ฟันลื้อนี่น่าจะถอนให้หมดทั้งปากนะ ผมก็ขอร้องว่าอย่าเพิ่งเลยครับ เอาแค่ซี่เดียวก่อนเถอะ ท่านก็ถอนให้โดยคิดค่าออกแรงแต่พอควร

    ซี่ต่อไปก็เป็นฟันกรามอีกข้างหนึ่ง จำไม่ได้ว่าข้างไหนก่อนหลัง รวมแล้วถูกถอนฟันโดยฝีมือท่านรวมสี่ซี่ ท่านก็เกษียณจากร้านทำฟันเมื่ออายุกว่า ๘๐ ปี โดยลูกหลานขอร้องให้เลิกเสียที ต่อมาเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ฟันหน้าข้างล่างโยกพร้อมกันสองซี่ เพราะเหงือกร่นลงไป จึงต้องไปหาทันตแพทย์ปริญญา ด้วยความอายที่ฟันไม่น่าดู แต่หมอก็ไม่ได้ตำหนิติเตียนว่าอย่างไร แต่ค่าถอนแพงกว่าหมอเก่าแก่อีกเท่าตัว คราวนี้ถอนแล้วเวลายิ้มก็จะเห็นฟันโหว่อยู่ข้างล่าง จึงขอความเห็นจากหมอที่ถอนออก ว่าถ้าจะทำฟันปลอมใส่จะต้องเสียเงินสักเท่าไร หมอให้อ้าปากตรวจดูเพดานและใต้ลิ้นแล้วบอกว่า กระดูกข้างล่างโปนออกมาจะต้องผ่าตัดให้เรียบเสียก่อน จึงจะทำฟันปลอมใส่ได้ ผมก็เลยขอร้องว่าจะไปปรึกษาหมอที่โรงพยาบาลทหารก่อน เพราะสามารถเบิกค่ารักษาได้

    แต่ผมก็ไม่ได้ไปโรงพยาบาล เพราะความจริงผมกลัวการผ่าตัด เลื่อยกระดูกในปากมากกว่า ผมจึงปลอบใจตัวเองว่า อายุก็เกินเจ็ดรอบแล้ว จะเอาความสวยงามมาทำอะไร ต้องเจ็บตัวด้วย แล้วจะใช้ไปได้สักกี่ปี ไม่ช้าก็เข้าโลงแล้ว ผมจึงปล่อยให้มันโหว่อยู่อย่างนั้น จนฟันหน้าข้างบนที่ตรงกัน เกิดกร่อนแหว่งและหักไปเองเวลาเคี้ยวของแข็ง จึงเป็นรูโบ๋ทั้งข้างบนข้างล่าง เวลายิ้มหรือหัวเราะต้องเอามือปิดปาก จะซดของเหลวก็ต้องระวังมันจะกระเด็นออกจากปาก เวลาบ้วนน้ำก็ขลุกชลัก เพราะมีอากาศแทรกเข้าไปในปาก เวลาแปรงฟันยาสีฟันก็จะหลุดออกมา ทางช่องโหว่นี้เสมอ ขออภัยถ้าอ่านแล้วรู้สึก    ผะอืด ผะอม ไปด้วย

    (จบตอนต้น)

    (ตอนหน้าควรอ่านก่อนเวลารับประทานอาหาร)

    จากคุณ : เจียวต้าย - [ 23 ม.ค. 52 06:18:49 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com