เอาบทที่หนึ่งมาฝากอย่างรวดเร็วและเข้ามาขอบคุณที่ยังจำหนุ่มฟาบริโอ้กันได้นะคะ
คุณ scottie อ่านบทนี้แล้วคงรู้ว่าอารมณ์นายฟาบเราประมาณไหนนะคะ
คุณ พีท โอ้ว...คิดเหมือนกันเลยว่าหนุ่มสามสิบนี่น่ากินจริงๆ อิอิ
คุณ Mnemosyne คิดถึงคนอ่านเหมือนกันค๊า
คุณ BestChild แหม...อันนี้ก็เป็นค่ะเรื่องจำตัวละครหล่อๆได้แม่นเนี่ย หุหุ
คุณ กริชครับผม ไม่ได้อ่านเรื่องที่แล้วก็ไม่เป็นไรค่ะ ลองตามอ่านเรื่องนี้ดูนะคะ เนื้อเรื่องไม่ได้อ้างอิงจากเรื่องที่แล้วค่ะ
บทนำ
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7452838/W7452838.html
-----------------------------------------------------------------------------
บทที่ 1
ผมเดินเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมายไปบนถนนสายหลักของแมนฮัตตัน ย่านธุรกิจสุดหรูใจกลางมหานครนิวยอร์กทิ้งออฟฟิตไว้เบื้องหลังพร้อมทั้งยายแพทที่ยืนงุนงงและเป็นกังวลกับปฏิกิริยาของผมหลังจากได้รับฟังข่าวที่ควรจะเป็นข่าวน่ายินดีที่สุดในรอบหลายๆปีของครอบครัวเรา
ตอนบ่ายแก่ๆในวันอากาศไม่เป็นใจเช่นนี้ บนถนนก็ยังคลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากมายเดินอย่างเร่งรีบเหมือนจะวิ่งหนีเวลาที่ไล่ล่ามาอย่างกระชั้นชิด แมนฮัตตั้นเวลาทุกวินาทีมีค่ายิ่งกว่าทอง....
หลังจากถูกเดินชนสองครั้งโดยปราศจากคำขอโทษผมก็ตัดสินใจที่จะแวะเข้าไปในเซ็นทรัลปาร์คที่มองเห็นอยู่ไม่ไกลเบื้องหน้า
ผมยังคงเดินเรื่อยๆในสวนสาธารณะกลางที่วันนี้เงียบสงบไม่ค่อยมีผู้คนมาเดินเล่นมากนักเหมือนอย่างเช่นทุกวัน
แหงล่ะ...อากาศแบบนี้ใครจะบ้าออกมา
ผมคิดและยิ้มเย้ยหยันให้กับตัวเอง รับรู้ถึงอารมณ์ที่ยังไม่สงบดีนักถึงแม้จะออกมาเดินปลดปล่อยอารมณ์มากกว่าหนึ่งชั่วโมงเข้าไปแล้ว
ผมตอบตัวเองไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมถึงมีปฏิกิริยารุนแรงกับเรื่องการแต่งงานของยายแพท จะว่าหวงน้องสาวต่างเชื้อชาติคนนี้มากๆก็คงจะไม่ใช่เพราะผมก็รับรู้ถึงการคบหาเป็นคู่รักกันตลอดระยะเวลาหกปีระหว่างเธอและนายพายเพื่อนสมัยเด็กของเธอที่ตอนนี้ตามมาเรียนต่อเพื่อจะได้อยู่ใกล้ๆกับคนรักของตัวเอง
ถึงแม้ว่าผมจะอดยอมรับกับตัวเองไม่ได้ว่าไม่ค่อยชอบขี้หน้าว่าที่น้องเขยคนนี้สักเท่าไหร่เพราะท่าทีเก็บตัวและไม่ค่อยกระตือรือร้นอะไรนั่นและหน้าตาหล่อแบบหวานๆที่ดูแล้วไม่แมนสมกับสาวเก๋สุดสวยอย่างน้องสาวจอมประเปรียวของผม แต่ผมก็ไม่ได้มีปัญหาหรือพยายามทำตัวให้เป็นปัญหากับความรักของทั้งคู่
จริงๆตอนที่ผมรู้ว่านายพายจะบินตามมาเรียนด้านอักษรศาสตร์ต่อเป็นเพื่อนกับยายตัวดี ผมโล่งใจเสียด้วยซ้ำเพราะรู้ว่าไม่ต้องคอยกังวลและต้องทำตัวเป็นพี่ชายจอมโหดกันท่าหนุ่มๆที่จะเข้ามาเกาะแกะแม่น้องสาวตัวดีของตัวเอง
แต่...เรื่องการแต่งงานของทั้งคู่มันคนละเรื่องกัน ยังไม่พูดถึงว่าสองคนนั่นยังเรียนไม่จบปริญญาโทด้วยกันทั้งคู่ ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเป็นช่วงสุดท้ายของการทำธีสิสแล้วก็เหอะแต่ทั้งหมดที่นี่มันคือเหตุผลของการที่ผมทั้งช๊อคและโมโหกับเรื่องยายแพทจริงๆแน่หรือ ผมถามและเฝ้าค้นหาคำตอบให้กับตัวเองอีกรอบ
ไม่ใช่...ผมได้ยินส่วนลึกของตัวเองตอบกลับมา......เราอิจฉา...ผมตกใจกับข้อสรุปของตัวเอง
ฮ่าๆๆ คนอย่างฟาบริโอ้ อมอร์รินี่ นี่นะจะเกิดอารมณ์อิจฉา...
ผมหัวเราะออกมาดังๆจน สองหนุ่มสาววัยรุ่นที่นั่งพลอดรักกันบนม้านั่งยาวริมทางเดินผละจากกันและหันมามองผมที่กำลังเดินผ่านทั้งคู่ ผมไม่ใส่ใจอะไรและยังคงสาวเท้าก้าวยาวๆเป็นจังหวะสม่ำเสมอเหมือนเดิม
หลังจากปัดความคิดที่ไม่เข้าท่าออกไปแล้ว ผมก็ล้วงมือถึงรุ่นใหม่ล่าสุดสีดำออกมาจากกระเป๋ากางเกงสเล็คสีดำแบรนด์ดังของอิตาลี่และไล่กดไปจนเจอเบอร์คุ้นตา
เฮ...ว่าไงไอ้เสือ
เสียงฟิลลิปเพื่อนสนิทของผมตั้งแต่สมัยมัธยมดังมาตามสาย
ว่างเปล่าคืนนี้ ออกมาเจอกันหน่อยแล้วไม่ต้องหิ้วเจ้าสาวหมาดๆของแกมาด้วยเลยนะ
ผมเอ่ยนัดเพื่อนออกมาเจอกันพร้อมทั้งดักคอเพื่อนตัวดีไว้ก่อนว่าไม่ควรพาศรีภรรยาที่เพิ่งแต่งงานกันได้ไม่ถึงสองเดือนของตัวเองมาด้วยเพราะช่วงนี้ทั้งคู่ตัวติดกันอย่างกับตังเมยิ่งกว่าก่อนแต่งงานซะอีก
เออๆ รู้แล้วน่าไม่ต้องบอกหรอก อีกอย่างลินลี่เค้าก็รู้อยู่แล้วว่าถ้ามาเจอหนุ่มโสดเนื้อหอมที่ติดอันดับหนึ่งในยี่สิบหนุ่มชวนฝันในแวดวงธุรกิจของนิตยสารโวคอย่างแกตอนที่อารมณ์ไม่ดีอย่างนี้ หนุ่มชวนฝันก็อาจจะทำให้ฝันร้ายได้ ฮ่าๆๆ
รู้อยู่ว่าอารมณ์ไม่ดียังกวนประสาทอีกนะ แกนี่
ผมตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิดและขุ่นมัวกว่าเดิม
มีอะไร
น้ำเสียงที่ตอบกลับมาคราวนี้ดูจริงจังและเป็นกังวลมากกว่าเก่า
เฮ้อ...เอาไว้มาเจอแล้วจะเล่าให้ฟัง
ผมถอนหายใจและปรับน้ำเสียงให้กลับเป็นปกติตอบกลับไป
ได้...ทุ่มตรงที่ร้านเดิมใช่ป่าว
ฟิลลิปตอบกลับมาอย่างรู้สถานที่นัดหมายดี
ใช่...แล้วเจอกัน
อึม แล้วเจอกัน
หลังจากสายโทรศัพท์ตัดไปแล้ว ผมก้มลงดูนาฬิกาที่ข้อมือ ห้าโมงสิบห้า ยังเหลือเวลาอีกตั้งเกือบสองชั่วโมงเต็มๆจะไปไหนก่อนดีนะ
กลับบริษัท....
ไม่ ผมยังไม่มีอารมณ์กลับไปทำงานตอนนี้ อีกอย่างผมรู้สึกเบื่องานที่บริษัทอย่างรุนแรงในช่วงนี้โดยไม่ทราบสาเหตุ จะว่าไปอารมณ์เบื่อ เซ็ง หงุดหงิด งุ่นง่านและไม่คงเส้นคงวาของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือเรื่องอะไรอย่างอธิบายไม่ได้เกาะติดผมมาเป็นเวลากว่าสองเดือนและนับวันยิ่งจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ผมกดเบอร์โทรศัพท์อีกครั้ง
ครับ ท่าน
เสียงตอบรับคุ้นหูดังมาจากคนขับรถประจำตัวของผม
มารับที่ประตูฝั่งตะวันตกของเซ็นทรัลปาร์คด้วย เอารถสปอร์ตสีดำนะ ขอบใจ
ครับ
ผมวางสายและเดินต่อไปเรื่อยๆเพื่อตรงไปยังประตูทางเข้าออกของสวนสาธารณะใหญ่ใจกลางแมนฮัตตั้น และรู้ดีว่าเมื่อไปถึงราฟาโรมิโอ สไปเดอร์สีดำคันโปรดของตัวเองก็คงมาจอดรออยู่แล้วที่ประตูทางออกอยู่แล้ว
แก้ไขเมื่อ 26 ม.ค. 52 05:45:56
แก้ไขเมื่อ 26 ม.ค. 52 04:45:32
จากคุณ :
ริวไผ่
- [
26 ม.ค. 52 04:44:35
]