Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    เก็บมาฝาก : เรื่อง สั้น สั้น จาก Reader ' s Digest ที่คมคายยิ่ง

    เขาลงไว้ในพื้นที่ของเรื่องขำขัน
    แต่กระผมว่า ไม่ขัน ฮากลิ้ง ฮาก๊าก
    และไม่ Dirty ด้วย

    แต่ประทับใจมาก จริง จริง
    จึงขออนุญาต ขยายความ นำมาเล่าสู่กันฟัง
    จากความทรงจำ
    ในบรรยากาศแบบ ไทย ไทย

    (คือ  ที่ได้อ่านนั้น
    มิได้เปนหนังสือของตัวเอง
    จึงมิทันได้บันทึกอ้างอิง
    ว่าท่านผู้ใดส่งมา จากไหน
    และลงในฉบับเดือนอะไร

    จึงขออภัย
    และขออนุญาต มา ณ ที่นี้ ขอรับ.)

    . . . . .

    . . .หนุ่มบ้านนอกยากจนคนหนึ่ง
    เสี่ยงโชคเข้ามาหางานทำในกรุงเทพ
    ทั้งที่มิได้มีความรู้อะไรเลย

    เนื่องจากได้ทราบข่าวที่เพื่อนเล่าให้ฟังว่า
    มีโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพ
    กำลังรับสมัคร นักการภารโรง ไม่จำกัดวุฒิการศึกษา

    จึงจับรถมากรุงเทพ
    และเดินกางแผนที่ (ที่เพื่อนเขียนให้)
    สุ่มถามชาวบ้าน
    ถึงที่ตั้งของโรงเรียนนั้น
    ซึ่งกว่าจะเจอ
    ก็เหงื่อตกไปหลายปี๊บทีเดียวแหละ

    เมื่อเข้าไปแจ้งความจำนงที่แผนกธุรการ
    จึงมีเจ้าหน้าที่มาเรียกให้นั่ง
    และยื่นใบสมัครมาให้กรอกข้อความ
    นายหนุ่มนั้นก็ยิ้มแหย ๆ
    ยกมือไหว้
    แล้วบอกอ่อย ๆ กับเจ้าหน้าที่ว่า

    " ขอโทษครับพี่
     ผม. . คือว่า. . .
     ผม. . .อ่านหนังสือไม่ออก เขียนหนังสือไม่ได้ครับ. . ."

    เจ้าหน้าที่ ที่นั่งรับสมัครอยู่นั้น
    ชักสีหน้าทันที

    ". . .อะไรกัน คิดจะมาสมัครงานที่โรงเรียน
    ถึงจะตำแหน่งแค่ นักการภารโรง
    ถึงจะไม่ได้ใช้วุฒิการศึกษา
    แต่อย่างน้อยก็น่าจะอ่านออก เขียนได้ บ้างแหละ "

    หนุ่มบ้านนอกหน้าซีด
    ยกมือไหว้เจ้าหน้าที่ประหลก ๆ

    ". . .ผมไม่รู้หนังสือจริง ๆ ครับ
    แต่ช่วยรับผมไว้หน่อยเถิดครับพี่
    ให้ผมแบกหามกวาดถูอะไรก็ได้ทุกอย่างครับ "

    " งั้นก็คงจะไม่ได้หรอก. . ." เจ้าหน้าที่เก็บใบสมัคร กับปากกาที่วางไว้ให้ คืนที่อย่างไม่มีเยื่อใย

    ". . .เรามาสมัครงานกับโรงเรียนนะ
    อย่างน้อยก็ต้องมีพื้นรู้หนังสือบ้างสิ
    ถ้าไม่รู้อะไรเลยอย่างนี้
    ก็เสียใจด้วยนะ
    กลับไปเถอะ "

    หนุ่มบ้านนอกก็ได้แต่เดินออกจากโรงเรียน
    ที่ตั้งความหวังว่าจะได้งานทำนั้น
    อย่างเงื่องหงอย

    และเมื่อไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้ในกรุงเทพ
    ก็จึงต้องจำใจ กำเงินจำนวนสุดท้าย
    จับรถ ซมซานกลับบ้าน อย่างนกปีกหัก

    . . .

    แต่เมื่อกลับถึงบ้าน
    จึงนึกขึ้นได้ว่า
    ตนเองนั้นเพิ่งได้รับมรดก
    เป็นที่ดินสวนรกร้างเท่าแมวดิ้นตาย
    มาจากพ่อผู้ล่วงลับไปแล้ว

    ด้วยความเจ็บใจ
    จึงเกิดเป็นแรงมานะ ให้จับจอบเสียม
    หักร้างถางพง ที่ดินสวนเก่าที่รกร้างนั้น
    และค่อย ๆ พลิกฟื้นลงร่องผลไม้ไปทีละเล็กละน้อย
    อย่างฮึดสู้ชะตาชีวิต ด้วยความอดทน. . .

    . . .

    อาจเป็นบุญในปางบรรพ์
    ของพ่อหนุ่มคนนี้ก็ได้
    ที่ปรากฎว่า หลายปีต่อมา
    สวนผลไม้ที่ลงแรงไว้นั้น
    ออกผลอย่างงดงาม
    และสร้างผลกำไรมากทบทวีขึ้นทุกปี
    กระทั่งสามารถเก็บเงินซื้อที่ดินในแปลงข้างเคียง
    ขยายอาณาเขตสวนของตนเอง จนกว้างขึ้น และกว้างขึ้น. . .

    หลายสิบปีต่อมา
    จากความขยันขันแข็ง มานะอดทน
    และประสบการณ์ที่เพิ่มพูน

    บัดนี้
    หนุ่มบ้านนอกคนนั้น
    ก็กลายเป็นชายชรา
    ที่คนทั้งเมืองรู้จักในนามของ
    พ่อเลี้ยงสวนผลไม้ ที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัด
    และภูมิภาคนั้น. . .

    . . .

    อยู่มาปีหนึ่ง
    เมื่อเก็บเกี่ยวผลไม้มากมายมหาศาล
    และชำระบัญน้ำบัญชีเรียบร้อย
    โดยฝีมือของลูกหลานที่เลี้ยงดู ให้การศึกษา
    และแจกงานการให้ทำในสวนนั้น แล้ว

    พ่อเลี้ยงชรา
    ก็หอบเงินเป็นฟ่อน นั่งรถเข้ามาในตัวอำเภอ
    เพื่อขอเปิดบัญชีกับธนาคารเป็นครั้งแรก

    เมื่อแจ้งนาม และความจำนงกับธนาคารแล้ว
    พนักงานถึงกับตื่นเต้นกันยกใหญ่
    ผู้จัดการสาขา
    ถึงกับเดินมาต้อนรับด้วยตัวเองเลยทีเดียว

    เมื่อพนมมือไหว้ลูกค้าใหญ่ รายใหม่ อย่างนอบน้อมแล้ว
    ผู้จัดการก็ แตะข้อ ต่อศอก
    ยื่นใบเปิดบัญชีพร้อมปากกาปลอกทอง
    ให้กับพ่อเลี้ยงชรา อย่างพินอบพิเทา

    " ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ
     ทางเรารู้สึกเป็นเกียรติเป็นอย่างยิ่ง
     ที่ได้มีโอกาสบริการพ่อเลี้ยงในครั้งนี้
     รบกวนกรอกใบเปิดบัญชีด้วยครับ "

    พ่อเลี้ยงชราส่ายหน้าช้า ๆ
    ยื่นปากกาปลอกทองคืนให้กับผู้จัดการ
    พร้อมกับยิ้มให้ พลางกล่าวเนิบ ๆ

    " พ่อหนุ่มช่วยกรอกรายการให้ลุงทีเถิด
     ลุงอ่านหนังสือไม่ออก เขียนหนังสือไม่ได้หรอก. . ."

    ผู้จัดการรับปากกาคืนมาโดยอัตโนมัติ แบบ งง สุดขีด
    พลางค่อย ๆ อ้อมแอ้มถาม ลูกค้ารายใหญ่ (มาก ) อย่างเกรงใจ สุด ๆ

    ". . .เอ่อ. . .ผมไม่เคยทราบมาก่อนเลยครับ. . .
    . . .เอ่อ. . .ขออนุญาตเรียนถามพ่อเลี้ยงด้วยความเคารพนิดหนึ่งเถิด ครับ
    คือ. . .พวกเราในจังหวัดนี้ก็ทราบกันดีอยู่
    ถึงชื่อเสียงของพ่อเลี้ยง
    ในกิจการสวนผลไม้ที่ใหญ่โตและเจริญก้าวหน้าที่สุดในภูมิภาคนี้
     แต่. . ." ผู้จัดการ ชะงัก ด้วยความเกรงใจ
     
    และในที่สุดก็หลุดปากถามออกมาด้วยความฉงนที่มิอาจเก็บไว้ได้ จริง จริง

    ". . .แต่ พ่อเลี้ยง อ่านหนังสือไม่ออก
    และ เขียนหนังสือไม่ได้ หรือครับ. . ."

    " พ่อหนุ่ม. . ." พ่อเลี้ยงชรายิ้มให้ผู้จัดการสาขาของธนาคารอย่างใจดี

    ". . .ถ้าลุงอ่านหนังสือออก และเขียนหนังสือได้น่ะ นะ. . ."

    แกถอนหายใจยาว

    ก่อนจะพูดประโยคที่ทำให้ผู้จัดการ ถึงกับ อึ้งไปนานเลย ว่า

    ". . .ป่านนี้. . .ลุงก็คงได้เป็น ภารโรงไปแล้วแหละ. . ."

                                  _ _ _ _ _ _ _


    ดังนี้ ขอรับ.

    จากคุณ : พจนารถ๓๒๒ - [ 27 ม.ค. 52 18:21:24 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com