Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    เรื่องนี้ยังไม่มีชื่อ....บทที่ 2 (เรื่องสั้นขนาดยาว)

    บทที่สองก็ยังตามมาอย่างรวดเร็วเช่นเดิม
    แต่ตอนหน้าคงนานหน่อยแล้วค่ะเพราะหมดสต๊อกแล้วง่ะ
    อ้อ...อ่านจบแล้วช่วยคอมเมนต์กันหน่อยนะคะว่าเขียนแนวนี้เป็นอย่างไรบ้าง จะติจะชมไม่ว่ากันคนเขียนจะได้เอาไปปรับปรุงฝีมือเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สองแล้วที่ลงมือเขียนอยากจะพัฒนาฝีมือเก่งเร็วๆเหมือนกับเพื่อนๆพี่นี่ในห้องนี้ค่ะ


    ตอบเมนต์

    คุณพีท เดาเก่งจริงวุ้ย..

    คุณชญาลี ยินดีต้อนรับค๊า...

    คุณlook4images ขอบคุณค่ะ

    คุณscottie แหม...มายุให้ขายหุ้นให้หมดเลยเหรอคะ หุ้นยิ่งตกๆอยู่นาสงสารนายฟาบหน่อย

    คุณ xyz ยินดีต้อนรับค่ะ

    ปล.ยังคิดชื่อเรื่องไม่ออกค่ะ ใครมีไอเดียดีๆเสนอบ้างเอ่ย



    -----------------------------------------------------------------------------

    บทที่ 2

    ผมลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกมึนงงเหมือนโลกกำลังหมุนติ้วๆอยู่ในหัว เพดานห้องสีขาวด้านบนที่ผมเห็นอยู่ดูไม่คุ้นตา

    “อ้าวตื่นแล้วเหรอ”

    เสียงผู้หญิงดังขึ้นฟังคุ้นหูแต่ผมยังนึกไม่ออกว่าเป็นเสียงของใคร

    ผมเลื่อนสายตาจากเพดานมองไปมองทางต้นเสียงก็พบกับร่างสมส่วนนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งขนาดใหญ่มีเครื่องสำอางค์ชิ้นน้อยใหญ่วางเรียงรายอยู่เต็มโต๊ะ เธอกำลังติดต่างหูด้านซ้ายแต่สายตาของเธอกลับมองกระจกที่สะท้อนร่างของผม ซึ่งยังนอนแผ่อยู่บนเตียงสีขาวเช่นเดียวกันกับสีของตัวห้อง หน้าตาของผมดูซีดกว่าปกติอย่างเห็นได้ชัด ผมสีน้ำตาลทองหยักศกที่ค่อนข้างยาวดูยุ่งเหยิง ดวงตาสีน้ำผึ้งสะท้อนอยู่บนกระจกดูงุนงงส่อแววว่ายังไม่เข้าใจดีนักว่าตัวเองมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร

    เธอคงเห็นว่าผมยังดูสับสนกับสถานการณ์ของตัวเองเลยลุกขึ้นจากโต๊ะเครื่องแป้ง หมุนตัวเดินมาและหยุดยืนเท้าสะเอวอยู่ข้างขอบเตียง

    “ยังมึนๆอยู่อีกละซิท่า เล่นดื่มเข้าไปเยอะขนาดนั้น เท็ดบอกว่าดื่มมาจากที่อื่นก่อนที่จะมาต่อที่ผับ”

    เธอขยับปากที่บรรจงแต่งแต้มไว้อย่างดีและยิ้มให้ผมอย่างซุกซน








    “แองเจลล่า” ผมพูดออกมา

    “แหมก็ใช่นะสิ จะใครซะอีกคิดว่าจำกันไม่ได้ซะแล้วนะฟาบริโอที่รัก” เธอพูดยิ้มๆ

    “นี่ห้องของเธอเหรอ แล้วทำไมผมถึงมาอยู่ที่นี่ได้”

    ผมถามและมองสำรวจไปรอบๆห้องนอนขนาดใหญ่สีขาวที่ได้รับการจัดและตกแต่งอย่างมีรสนิยม

    “ใช่น่ะสิ เธอนี่นะเมาจนจำอะไรไม่ได้เลย”

    เธอพูดกระเซ้ามาอีกรอบ


    เมื่อคืน.....ผมพยายามนึกย้อนกลับไป

    หลังจากที่แยกย้ายกับฟิลลิปผมก็ขับรถไปยังคลับทเวนตี้โฟร์ คลับประจำที่ผมมักจะไปสังสรรค์คลายเครียดเมื่อมีโอกาสอยู่เสมอๆ ผมจำได้ว่าผมสั่งมาร์ตินี่มานั่งดื่มเงียบๆและคุยกับเท็ดบาร์เท็นเดอร์ไปเรื่อยๆ ผมสั่งเครื่องดื่มค๊อกเทลประเภทอื่นๆมาดื่มต่อจากมาร์ตีนี่แก้วนั้นแต่ก็จำไม่ได้ว่าสั่งไปทั้งหมดกี่แก้ว

    “ไปที่คลับทเวนตี้โฟร์มา เมื่อคืนเธอก็อยู่นั่นด้วยเหรอ”

    “ก็ใช่สิ ตอนชั้นจะกลับน่ะเห็นเธอฟุบอยู่ที่เค้าเตอร์เครื่องดื่มนั่นแล้ว เท็ดกำลังมาพาเธอออกไปแต่ชั้นกับเพื่อนหิ้วเธอออกมาซะก่อน ฮ่าๆๆๆ”

    “แองจี้ เธอนี่ยังขี้เล่นเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะ”

    ผมพูดพร้อมทั้งยกตัวขึ้นนั่งและสะบัดหัวไล่ความปวดเมื่อยที่รู้สึกอยู่ออกไป

    “ไปอาบน้ำสิ อ้อ....แต่ต้องรอเพื่อนชั้นให้ออกมาก่อนนะ ส่วนเรื่องเสื้อผ้าของเธอชั้นเอาเข้าเครื่องปั่นไปแล้วและโทรไปสั่งที่ร้านอาร์มานี่ให้เอาชุดมาส่ง เมื่อคืนตอนที่เราพยุงเธอมาที่รถน่ะ เธออ๊วกออกมาเลอะเสื้อกลิ่นเหม็นหึ่งไปหมด พลอยทำให้รถชั้นเหม็นไปด้วย จ่ายค่าเสียหายมาดีๆ”

    เธอยังพูดแหย่ผมต่อไปโดยไม่ปรานีว่าผมจะปวดหัวขนาดไหน

    “มียาแก้เมาค้างบ้างหรือเปล่า ปวดหัวจัง”  

    “เดี๋ยวไปเอาให้นะ” พูดจบเธอก็เดินออกจากห้องนอนไป


    ผมก้มลงมองตัวเองที่ตอนนี้มีเพียงเสื้อคลุมอาบน้ำตัวยาวสวมทับอยู่อย่างหลวมๆทำให้มองเห็นไรขนน้ำตาลอ่อนๆบนแผงอกและหน้าท้องของตัวเอง

    เฮ้อ...ยังดีที่ยายแองจี้ยังไม่จับผมลอกคราบออกจนหมด

    ผมคิดขณะมองเห็นกางเกงบ๊อกเซอร์ที่ยังติดอยู่กับตัวและลงมือจัดเสื้อคลุมให้เข้าที่เข้าทาง

    แองเจลล่าเป็นสาวสวยนักการตลาดมือดีที่ผมเคยควงเมื่อสองปีก่อน จริงๆแล้วตอนที่ผมคบกับเธออยู่เราเข้ากันได้ดีมากในทุกๆเรื่อง ไม่ว่านิสัยใจคอ รสนิยม ความสนใจในเรื่องศิลปะ เรื่อยไปจนถึงเรื่องเซ็กส์

    ผมควงกับเธออยู่ครึ่งปีแต่ท้ายที่สุดเธอก็เป็นฝ่ายบอกเลิกกับผมด้วยเหตุผลง่ายๆว่าเรานิสัยเหมือนกันเกินไปควรจะเป็นเพื่อนกันดีกว่าและที่สำคัญเธอดูออกว่าผมไม่ได้รักเธอจริงๆเหมือนอย่างที่คนทั่วไปคิดเมื่อมองเห็นการแสดงออกของผมที่มีต่อเธอ ผมยอมรับและตั้งแต่นั้นเธอก็กลายมาเป็นเพื่อนสนิทของผมอีกคนหนึ่ง

    “อ้าวนี่ยา แล้วก็น้ำ”

    แองเจลล่าส่งยาเม็ดสีขาวมาให้สองเม็ดพร้อมกับแก้วที่มีน้ำอยู่เต็ม

    เธอรอให้ผมดื่มจนหมดก่อนที่จะถามต่อมาว่า

    “ทำไมเมื่อคืนถึงไปคนเดียวล่ะ แล้วทำไมถึงกินจนพับซะขนาดนั้น”

    “ก็ไม่มีอะไรมากหรอกมีเรื่องกลุ้มใจอะไรนิดหน่อยเลยชวนฟิลลิปไปกินข้าวแต่เจ้านั่นต้องกลับก่อน เธอก็รู้นี่ว่ามันเพิ่งแต่งงานจะให้ตะลอนๆกันเหมือนเมื่อก่อนได้อย่างไร”

    “เธอก็เลยไปกินเหล้าคนเดียว แต่ก็น่าจะโทรตามแม่นางแบบผมบลอนด์คนล่าสุดที่เธอควงอยู่ให้มานั่งเป็นเพื่อนได้นี่”
    เธอยังคงซักไซต่อไป

    “เลิกกันแล้ว ว่าแต่ไม่ไปทำงานเหรอ”
    ผมถามเธอพร้อมทั้งมองชุดลำลองที่เธอใส่อยู่

    “ไม่เหรอ วันนี้จะต้องไปส่งเพื่อนกลับประเทศน่ะก็เลยถือโอกาสหยุดงานซะเลย” ผมพยักหน้า


    เสียงประตูเปิดออกดึงความสนใจให้ผมหันไปมองผู้ที่เข้ามาสมทบใหม่ ภาพที่เห็นคือหญิงสาวร่างสูงโปร่งกะด้วยสายตาคงจะสูงประมาณห้าฟุตเจ็ดนิ้วเห็นจะได้ เธอสวมเสื้อเจ็คเก็ตกึ่งลำลองกึ่งสูทสีเข้มที่ใส่ทับเสื้อกล้ามสีขาวด้านในและกางเกงยีนส์ขาเดปเน้นให้ช่วงขาดูเรียวยาว ดวงหน้ารูปไข่รับกับผมดำขลับรวบผูกเป็นหางม้าไว้ด้านหลังดูสวยแปลกตา ดวงตาดำเฉี่ยวและคมโตดูจะเป็นจุดเด่นที่สุดบนดวงหน้าของเธอ แต่ท่าทีเย็นชาของเธอก็ลดความน่าดูของวงหน้าสวยนั่นให้น้อยลงไป

    “อ้าว..เสร็จแล้วเหรอ”

    เองเจลล่าทักและเดินเข้าไปหาสาวเอเชียที่ผมยังเดาไม่ได้ว่าเธอมาจากประเทศอะไร

    “ฟาบริโอ้..นี่ปรายเพื่อนของชั้น”  เองเจลล่าแนะนำอย่างสบายๆ

    ชื่อแปลกไม่คุ้นหู...

    “สวัสดีครับ”

    ผมเอ่ยทักออกไปพร้อมทั้งลุกขึ้นจากขอบเตียงที่นั่งอยู่เพื่อที่จะเดินไปจับมือแต่เสียหลักเซไปหน่อย

    “สวัสดีค่ะ คุณไม่ต้องเดินมาหาชั้นก็ได้ ดูท่าคุณยังคงไม่สร่างดีกระมัง”

    เธอทักตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

    “โอเคๆ เดี๋ยวค่อยมาทักทายกันต่อ ฟาบเธอไปอาบน้ำก่อนเถอะจะได้สดชื่นแล้วเราจะได้ลงไปทานอาหารเช้าและไปเอารถเธอที่คลับกัน”

    แองเจลล่าตัดบทและเดินมาลากผมออกไปนอกห้อง









    หลังจากทานอาหารเงียบๆเราทั้งหมดก็ย้ายตัวเองมาอยู่ในรถของแองเจลล่าเพื่อไปยังคลับทเวนตี้โฟร์  

    ตลอดทางแองเจลล่าและผมคุยเรื่องสัพเพเหระกันไม่หยุดเพราะไม่ได้เจอกันมาเกือบเดือนโดยมีเพื่อนสาวชาวเอเชียที่ชื่อแปลกๆของเธอนั่งเบาะหลังเม่อมองออกไปนอกหน้าต่างและไม่มีวี่แววว่าจะเข้าร่วมวงสนทนา

    เมื่อแองเจลล่าจอดรถที่หน้าคลับหรูเพื่อส่งผมเธอจึงหันมามองและกล่าวลาสั้นๆด้วยน้ำเสียงเรียบไม่ส่ออารมณ์เหมือนเดิม

    “ขอบใจนะเองจี้ แล้วว่างๆจะโทรหา เอ่อ...คุณปรายยินดีที่รู้จักและขอให้เดินทางกลับอย่างปลอดภัยนะครับ”

    ผมกล่าวพร้อมทั้งส่งยิ้มให้ทั้งสองคน

    ผู้หญิงเอเชียคนนั้นเพียงแค่ยกมุมปากขึ้นเหมือนยิ้มรับอย่างไว้ตัวส่วนแองเจลล่ายิ้มตอบกลับมาอย่างอารมณ์ดี

    “ไม่เป็นไรน่าฟาบ แต่คราวหน้าถ้าอยากหาเพื่อนดื่มโทรหาได้เสมอนะช่วงนี้โสด...”

    แองเจลล่าพูดจบก็ส่งยิ้มยั่วมาให้อีกรอบพร้อมทั้งเคลื่อนรถออกไป

    เป็นผู้หญิงที่เย็นชาจังนะ...ผมคิดก่อนที่จะบอกบอกเจ้าหน้าที่ของคลับที่ยืนรออยู่แล้วให้นำไปที่โรงจอดรถ

    แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 52 02:39:47

    แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 52 02:29:43

    จากคุณ : ริวไผ่ - [ 28 ม.ค. 52 02:17:21 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com