Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    ได่ชื่อเรื่องแล้วค๊า....ข้ามขอบฟ้ามาดีไซน์รัก บทที่ 3 ( เรื่องสั้นขนาดยาว)

    ริวไผ่นั่งคิด นอนคิด ตีลังกาคิดอยู่หลายตลบในที่สุดก็ได้ชื่อเรื่องของพ่อหนุ่มฟาบริโอ้แล้วค่ะ ดีใจจัง ตอนแรกกะว่าจะเขียนเรื่องนี้เอามันไว้เบรคอารมณ์ช่วงอ่านหนังสือเพื่อสอบวันอังคารหน้า แต่พอเริ่มเขียนพล๊อคเรื่องมันดันตีกันอยู่ในหัวยุ่งไปหมด เลยตัดใจลงมือเขียนตอนที่สามต่อค่ะ

    เมื่อกี๊แอบแวะไปอ่านกระทู้เก่าๆในกระทู้นอกเรื่อง แล้วไปเจ๊อะเอากระทู้ข้ามปีเรื่องตัวละครหลุดพล๊อตและก็แบนไม่มีมิติ อยากฝากคนอ่านเรื่องนี้ว่าถ้าเห็น ว่าตัวละครเอกมันแบ๊นแบน หรือว่าตัวละครหลุดคาแรกเตอร์ไปบ้างก็ช่วยดึงๆตบๆคนเขียนให้มีสติขึ้นหน่อยนะคะ ช่วงนี้หน้ามึนอย่างแร๊งงงงง


    ตอบเมนต์ค่ะ

    คุณพีท  เจอกันแล้วค๊าแต่จะเริ่มต้นสวยหรือเปล่านั้นต้องติดตามอ่านบทนี้นะคะ


    คุณ xyz    :) เอาบ้างๆ  

    คุณ Psycho man ขอบคุณค่ะ หวังว่าจะเป็นกำลังและติดตามอ่านต่อไปนะคะ

    คุณดาด๊าดา  ยิ้มด้วยคนค่ะ

    คุณ scottie อย่าเพิ่งเปลี่ยนอาชีพให้คุณปรายสิค่ะพี่สก๊อตตี้


    ปล. ลิ้งบทที่ 2 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7465373/W7465373.html

    -----------------------------------------------------------------------------


    บทที่ 3

    หลังจากประทับตราเข้าประเทศที่กองตรวจคนเข้าเมืองและไปรับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่นำติดตัวมาด้วยเรียบร้อยแล้ว ผมเดินอย่างเร่งรีบออกมาจากประตูผู้โดยสารขาเข้าและเริ่มสอดส่ายสายตาหาคนที่มาจากบ้านว่าที่น้องเขยของผม คนที่ยายแพทจัดแจงติดต่อไว้ให้มารับที่สนามบินเพราะกลัวว่าพี่ชายของเธอจะเซ่อซ่าหาทางไปยังบ้านพักแถวๆสุขุมวิทย์ไม่ถูก

    หลังจากมองหาอยู่ไม่นานก็พบกับชายวัยกลางคนสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงสเลคสีดำในมือถือป้ายกระดาษแผ่นโตซึ่งมีชื่อผมแผ่หราอยู่บนนั้น ผมเดินตรงไปหาและแนะนำอย่างสุภาพเป็นภาษาไทยที่ฝึกมาตลอดระยะเวลาหลายปีมานี้ทั้งภายในห้องเรียนและจากยายแพทติวเตอร์ส่วนตัวของผม

    “สวัสดีครับ ผมชื่อฟาบริโอ้ อมอร์รินี่”

    ดูท่าภาษาไทยแปร่งๆของผมคงทำให้คู่สนทนาตกใจเพราะท่าทีได้รับคือการมองตาค้างและนิ่งไปประมาณสิบวินาทีก่อนที่จะเอ่ยออกมาอย่างตะกุกตะกักว่า

    “คะ คุณพูดภาษาไทยได้”

    ผมยิ้มตอบรับและถามย้ำไปเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ชายตรงหน้าคือคนที่ยายแพทโทรทางไกลสั่งให้มารับผม

    “ครับ ผมพอพูดได้บ้าง เอ่อ...คุณคือคนที่ทางบ้านของคุณพายส่งมารับผมใช่หรือเปล่าครับ”

    “ครับผมมาจากบ้านคุณพาย ท่านเอ่อ..พ่อของคุณพายให้ผมมารับคุณฟาบริโอ้”

    หลังจากแนะนำตัวกันเรียบร้อยแล้ว คนขับรถประจำบ้านของว่าที่น้องเขยผมหรือน้าเม้ยชื่อที่เจ้าตัวบอกให้ผมเรียกก็กุลีกุจอเข้ามาช่วยผมลากกระเป๋าใบใหญ่และนำไปที่รถ



    ระยะทางระหว่างสนามบินมายังบ้านของยายแพทที่อยู่แถวสุขุมวิทย์ย่านธุรกิจของกรุงเทพไม่ไกลนักเพราะใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงก็มาถึง หลังจากรถเมอร์ซิเดสสีดำที่ผมนั่งอยู่เลี้ยวเข้าถนนเล็กที่ผมเห็นป้ายเขียนไว้ว่าซอยสุขุมวิทย์ตามด้วยจำนวนตัวเลข ไม่นานนักรถก็ตีวงเลี้ยวเข้าสู่บริเวณบ้านที่เต็มไปด้วยต้นไม้รกครึ้มและจอดสนิท

    ผมเปิดประตูก้าวออกไป ที่เห็นเด่นอยู่ตรงหน้าคือบ้านไม้คลาสสิคสีฟ้าสองชั้นขนาดใหญ่  ด้านข้างตัวบ้านเป็นระเบียงไม้ต่อยาวออกไป ชุดโต๊ะเก้าอี้เหล็กดัดสีขาวขนาดไม่ใหญ่นักวางอยู่มุมหนึ่งของซุ้มหลังคาไม้โปร่งที่คลุมด้วยเถาไม้เลื้อย
    เป็นระเบียงบ้านดูสวยมากผมคิดก่อนที่จะมองสำรวจตรวจตาบ้านใหม่ของผมต่อ เลยจากระเบียงไปเป็นสวนที่ปลูกไม้ยืนต้นที่ผมไม่รู้จักไว้เป็นแนวเรื่อยไปจนติดกำแพงอิฐที่ล้อมรอบตัวบ้าน ลมที่พัดอเอื่อยๆหอบเอากลิ่นหอมเย็นๆของดอกไม้บางอย่างให้ลอยมาเข้าจมูก

    “ถึงแล้วครับ บ้านของคุณแพท”

    น้าเม้ยพูดขึ้นหลังจากจัดการยกกระเป๋าเดินทางออกมาจากท้ายรถ

    “บ้านสวยมากๆ” ผมกล่าวขึ้นมาลอยๆ

    “ครับบ้านไม้เก่าตั้งแต่สมัยรัชกาลที่หกก็สวยแบบนี้แหละครับ”

    น้าเม้ยคงเห็นผมทำหน้างงๆเลยอธิบายตามมา

    “เอ่อคุณคงไม่รู้... พระเจ้าอยู่หัว กษัตริย์สมัยก่อนนะครับ คือ..บ้านหลังนี้อายุกว่าร้อยปีแล้ว”

    ผมพยักหน้า ก่อนที่จะหันไปมองผู้หญิงที่ค่อนข้างมีอายุเดินกระหือกระหอบมาจากด้านข้างของตัวบ้านก่อนที่จะหยุดยืนตรงหน้าน้าเม้ย

    “มาถึงเร็วจังนะ ไอ้เม้ย”

    “คุณฟาบริโอ้...นี่คือคนดูแลบ้านหลังนี้ชื่อนวลครับ”

    เธอทำหน้างงๆก่อนที่จะเอนไปกระซิบกระซาบเบาๆกันสองคน

    “พูดภาษาเราได้หรือวะ”

    “พูดได้ คราวนี้ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะพูดกันไม่รู้เรื่องแล้วพี่นวล”

    “เอ่อ...สวัสดีครับคุณนวล ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ผมชื่อฟาบริโอ้จะมารบกวนพักที่นี่สักระยะ”

    “อุ้ย..คุณฟาบริโอ้อย่าเรียกป้าว่าคุณเคือนเลยค่ะ เรียกว่าป้านวลแล้วกัน คุณหนูแพทบอกป้าแล้วว่าคุณจะมาแต่ไม่ได้บอกว่าคุณพูดภาษาเราได้ แหม...ป้าก็กลุ้มใจอยู่ว่าจะส่งภาษากันยังไง นี่ป้าก็ไหว้วานหลานสาวป้าไว้แล้วว่าให้มาช่วยเป็นล่ามหน่อยแต่คุณพูดภาษาไทยได้ ดีจริง”

    ดูท่าป้านวลคนนี้จะเป็นคนช่างคุยเหมือนที่ยายแพทบอกจริงๆ

    “เข้าบ้านกันเถอะค่ะ ป้าปัดกวาดเช็ดถูไว้เรียบร้อยแล้ว”

    พูดพลางป้านวลก็ไขกุญแจบ้านและเปิดประตูออกกว้างเพื่อให้ผมและน้าเม้ยที่ลากกระเป๋าเข้ามาในบ้าน



    ข้างในตัวบ้านที่เห็นดูแตกต่างจากภายนอกอย่างเห็นได้ชัด ห้องนั่งเล่นที่อยู่ด้านขวาตกแต่งอย่างทันสมัยด้วยเครื่องเรือนโทนสีดำและน้ำเงินเข้มตัดกับสีฟ้าอ่อนของตัวบ้าน โซฟายาวขนาดใหญ่วางอยู่หน้าโฮมเทียร์เตอร์ มีตู้ปลาที่ทำมาจากทีวีจอยี่สิบสี่นิ้วตรงกลางห้องที่ข้างๆมีชั้นหนังสือเตี้ยๆสีดำเช่นเดียวกันที่ทำเป็นวงโค้งกั้นแบ่งส่วนของห้องนั่งเล่นกับทางเดินเข้ามาจากประตู นอกจากนี้บนฝาผนังยังแขวนรูปภาพทั้งสีและขาวดำที่ดูน่าสนใจไว้อีกหลายภาพ ผมมองเลยม่านสีขาวที่กางกั้นหน้าต่างออกไปก็เห็นระเบียงไม้ด้านนอกที่สะดุดตาผมตั้งแต่ก้าวเท้าออกมาจากตัวรถ

    “เดี๋ยวขึ้นไปสองชั้นกันก่อนนะคะ จะได้เอาของไปเก็บแล้วเดี๋ยวป้าจะพาชมบ้าน”

    เสียงป้านวลกล่าวขึ้นทำให้ผมละสายตามาจากห้องนั่งเล่นทางฝั่งขวามือและเดินตามเธอเพื่อตรงไปยังบันไดไม้ที่นำขึ้นไปยังชั้นสองของตัวบ้าน

    แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 52 17:12:37

    แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 52 16:49:51

    จากคุณ : ริวไผ่ - [ 30 ม.ค. 52 16:42:35 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com