ก่อนอื่นยีนส์ต้องกราบสวัสดีพี่ ๆ เพื่อน ๆ ในห้องถนนนักเขียนทุกท่านค่ะ ยีนส์ต้องขอโทษที่ห่างหายไปนาน และไม่ได้เอาผลงานมาโพสต์ที่นี่เลย แถมไม่มีเวลามาอ่านนิยายของทุก ๆ คนด้วย เนื่องมาจากเดาใจตัวเองไม่ออกว่าจะแก้นิยายที่เขียนอย่างไร (เส้นทางรักข้ามพรมแดน + สะใภ้ Texiana) พอแก้ไขไปมา ยีนส์จึงลงเอยด้วยการได้นิยายชีวิตเรื่องยาวมาให้อ่านกันค่ะ
นิยายชีวิตเรื่องนี้ที่ยีนส์เอามาลงให้อ่านนั้น ยีนส์เขียนเพื่อทุกคนที่ยีนส์รักและเพื่อนักอ่านที่น่ารักทุกคน พิเศษสุดก็เพื่อเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่กำลังประสบโรคมะเร็งระยะสุดท้าย ยีนส์สนิทและรักเพื่อนคนนี้มาก เพราะเขาและยีนส์เติบโตมาด้วยกัน ยีนส์เคยสัญญากับเพื่อนก่อนบินกลับมาอเมริกาเมื่อปี 2006 ว่า จะเขียนนิยายเรื่องหนึ่ง โดยที่มีเพื่อนที่น่ารักคนนี้เป็นตัวละครในนิยายเรื่องนี้ด้วย ซึ่งเพื่อนก็ยินดีและดีใจเป็นอย่างมาก ดังนั้นวันนี้ยีนส์ได้ทำตามคำสัญญาที่มีให้เพื่อนรัก และก็ถือโอกาสเอานิยายชีวิตเรื่องนี้มาให้ทุก ๆ คนได้อ่าน ยังไงก็ขอฝากนิยายเรื่องนี้แด่ทุก ๆ ท่านด้วยนะคะ
รักจากใจ 
โรสลิต้า 
อ่านเรื่องย้อนหลัง 
บทชีวิตที่ 1
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7485092/W7485092.html
บทชีวิตที่ 2
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7486824/W7486824.html
ในความรันทด.....ก็มักจะมีความงดงามแฝงอยู่เสมอ
ทุกสิ่งที่เราได้พบเจอ....ก็ล้วนแต่มีคุณค่าในความทรงจำ
หากบทชีวิตของคนเรา...เปรียบเสมือนนิยายเล่มหนึ่ง
ฉันก็ขอเขียนนิยายชีวิตเรื่องนี้....แด่ทุกคนที่ฉันรัก
บทชีวิตที่ 3 กรุงเทพเมืองนักสู้...เพื่อเส้นทางฝัน
รถประจำทางวิ่งเข้ามาที่สถานีหมอชิตในตอนเช้ารุ่ง (หมอชิตเก่าฝั่งตรงข้ามกับสวนจตุจักร) บรรยากาศภายในเมืองกรุงเต็มไปด้วยผู้คน หมอชิตในวันนี้ไม่ต่างกับวันแรกที่ฉันเห็นเมื่อตอนมาทำงานในช่วงปิดเทอมซัมเมอร์ รถบนท้องถนนในเมืองกรุงหลากหลายยี่ห้อและราคาก็คงจะต่างกันมาก ผู้คนในเมืองกรุงมีการแต่งตัวที่แตกต่างกันไป บางคนมีรอยยิ้มให้กับคนแปลกหน้าอย่างเป็นกันเอง แต่บางคนกลับมองคนแปลกหน้าเหมือนตัวประหลาด ทุกภาพที่ฉันพบเห็นในเมืองกรุงช่างแตกต่างจากบ้านนอกของฉันเสียจริง ๆ เลย ฉันพยายามบอกกับใจตัวเองไว้เสมอว่า อย่าได้กลัวกับภาพที่พบเห็น เป้าหมายชีวิตของตัวเองคืออะไร จงตระหนักและจดจำให้ขึ้นใจ
เมื่อรถจอดสนิท ฉันก็ถือกระเป๋าเสื้อผ้าและก็รีบลงจากรถทันที จากนั้นก็มายืนรอเพ็ญอยู่ที่จุดนัดพบ ช่วงระหว่างที่ยืนชะเง้อมองหาเพื่อนรัก ฉันก็เห็นหญิงสาววัยรุ่นหน้าตาคุ้นเคยเดินตรงมายังจุดที่ฉันยืนอยู่ ทันทีที่รู้ว่าเป็นเพ็ญเพื่อนรัก รอยยิ้มแห่งความสุขและความตื้นตันใจก็บังเกิดขึ้นฉับพลัน และก็รีบวิ่งไปกอดเพื่อนด้วยความดีใจ
รอนานหรือเปล่า เพ็ญถามพลางยิ้มไปด้วย
ไม่นานหรอก ขอบคุณมากนะที่มารับเรา
ไปกันเถอะ เดี๋ยวรถติด เพ็ญเอ่ยชวนพลางเดินนำหน้าไปที่ถนนหน้าหมอชิต
ในวันนั้น เพ็ญไม่ได้พาฉันนั่งรถเมล์หรือแท็กซี่แต่อย่างใด แต่เพ็ญกลับพาฉันนั่งรถตุ๊ก ๆ พร้อมทั้งถือโอกาสพาฉันไปแวะไปหาเพื่อนสนิทที่เคยเรียนมัธยมด้วยกันด้วย และเส้นทางสายนั้นทำให้ฉันมีโอกาสได้พบ พริม เพื่อนเก่าซึ่งทำงานอยู่ที่ภัตตาคารจีนแห่งหนึ่ง พริมทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟให้กับภัตตาคารแห่งนี้มาหลายเดือนแล้ว การพบเจอกันในครั้งนี้ทำให้พริมลาออกจากงานด้วย เนื่องมาจากพริมต้องการไปหางานโรงงานทำกับฉันและเพ็ญด้วยกัน
ฉันรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่มีโอกาสได้ไปพบพริม เพราะเราสามคนสนิทกันไม่น้อย พอพบเจอหน้ากัน ฉันและเพื่อน ๆ ก็มีเรื่องพูดคุยต่าง ๆ นา ๆ เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก พริมก็ขอตัวไปลาออกจากงาน จากนั้นก็เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าพร้อมทั้งนั่งรถตุ๊กๆ มาด้วยกัน ในตอนนั้นเพ็ญทำงานอยู่ที่โรงงานแถวถนนสุขสวัสดิ์ ซึ่งก็เป็นโรงงานที่เงินดีใช่น้อย และเพ็ญก็ตั้งใจอยากให้ฉันและพริมไปสมัครงานที่โรงงานเดียวกับเธอด้วย
แต่น่าเสียดายที่ฉันไม่มีบัตรประชาชน เพราะพ่อไม่ยอมให้บัตรประชาชนแก่ฉันพกติดตัว ด้วยความที่พ่อกลัวว่าฉันจะหนีมาเมืองกรุง ก็เลยยึดบัตรประชาชนเอาไว้ ฉันยังคงฉลาดอยู่บ้างที่ได้ถ่ายสำเนาทะเบียนบ้านพกติดตัวไปด้วย แม้ว่าฉันจะฉลาดแค่ไหน แต่โชคชะตาและกฏหมายไทย ก็ไม่สามารถให้เด็กที่ไม่มีบัตรประชาชนทำงานในโรงงานที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฏหมายได้
แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 52 14:06:14
แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 52 14:05:48
แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 52 14:05:06
แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 52 02:51:09