สังคมไทยในอดีตมีความเชื่อในเรื่องของพุทธศาสนา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเวรกรรม ศีลธรรม ทำให้กลายเป็นกฎข้อหนึ่งที่ทุกคนต้องยึดถือและปฏิบัติกันมา
นอกจากนั้นยังมีจารีตประเพณีและวัฒนธรรมอันเก่าแก่ที่มีมาแต่โบราณกาลนับได้หลายร้อยปี ซึ่งสามารถบ่งบอกถึงความเป็นไทยได้อย่างชัดเจน
ด้วยภาพลักษณ์ที่มีทั้งความอ่อนน้อมถ่อมตน กิริยามารยาทอันงดงาม ส่งผลให้มีชื่อเสียงเลื่องลือไปไกลถึงต่างแดน
โดยเฉพาะสตรีแห่งสยามได้รับการกล่าวขานว่าเป็นหญิงที่งาม เพียบพร้อมไปด้วยความเป็นกุลสตรีโดยสมบูรณ์แบบ ผิดแปลกไปจากชีวิตของคนไทยในยุคปัจจุบัน
ตั้งแต่วัฒนธรรมของชาติตะวันตกได้เข้ามามีบทบาท ครอบงำทั้งความคิดและความเจริญทางด้านวัตถุ
ซึ่งเมื่อย้อนกลับไปราวๆ 50 ปีก่อน ช่างยากนักที่จะเทียบกันได้ แม้แต่การดำรงชีวิตของคนไทยก็เปลี่ยนไป
การรู้จักผิดชอบชั่วดีของคนค่อยๆกลืนไปพร้อมกับความเจริญที่ค่อยๆก้าวเข้ามา นอกจากนั้นคำว่า ศีลธรรม ที่เคยยึดและปฏิบัติกันมาเมื่อในอดีต ก็แทบจะไม่มีใครสนใจ
เมื่อเทียบกับความต้องการของมนุษย์ในโลกปัจจุบัน หรือที่เราเรียกกันว่า ความเห็นแก่ตัว
เรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับชีวิตของคนๆหนึ่ง ฉันได้มีโอกาสรับรู้ตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงตอนจบของตัวละคร
ฉันคิดอยู่นานเหมือนกันทั้งไตร่ตรองพินิจและพิจารณาถึงความเหมาะสม สมควรที่จะนำเสนอเรื่องราวเหล่านี้สู่สังคมหรือไม่
แต่เมื่อได้เห็นโลกของความเป็นจริงในปัจจุบัน ที่ยังขาดคำว่าศีลธรรมอันงดงามในจิตใจ จึงทำให้ฉันได้ตัดสินใจถ่ายทอดเรื่องราวสู่บุคคลภายนอก
ให้ได้เรียนรู้และเข้าใจกับชีวิตอีกมุมที่เขาเรียกกันว่า มุมมืด นั่นเอง
ผู้หญิงคนหนึ่งมีบุคลิกที่อ่อนโยนพูดจาไพเราะ มีเสน่ห์ในคำพูด กิริยามารยาทเรียบร้อย
โดยภาพรวมแล้วเป็นผู้หญิงที่ดีและเพียบพร้อม เป็นที่ต้องการของชายหนุ่มหลายๆคน แม้แต่ตัวฉันเองยังหลงเสน่ห์ของเธอโดยไม่รู้ตัว
ฉันชอบในความเป็นคนอ่อนหวานของเธอ ไม่ว่าจะพูดจากับใคร หรือแม้แต่การวางตัวถือได้ว่าเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนเสมอมา จนฉันอดชื่นชมเธอไม่ได้ เธอเป็นคนดีจริงๆ
เวลาผ่านไปสองปี มันไม่แปลกว่าอะไรๆจะเปลี่ยนแปลงไป เพราะทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่ไม่มีอะไรแน่นอน แต่สิ่งที่ฉันคิดว่ามันไม่น่าจะเปลี่ยนไปได้ก็คือ ความเป็นตัวตนของคน ในที่นี้อาจจะหมายถึงนิสัยของคน
เวลาเพียงแค่สองปี มันทำให้ฉันได้เห็นอีกมุมหนึ่งของเธอโดยไม่คาดคิดและฝันมาก่อน ผู้หญิงที่เคยสดใส ดูสวยงามในสายตาเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด
ในบางครั้งฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า เพราะสาเหตุอะไรถึงทำให้คนดีๆ กลับกลายเป็นคนอีกคนโดยสิ้นเชิง คำตอบ ณ เวลานั้นยังไม่ชัดเจนมากนัก
ฉันเป็นคนหนึ่งที่ชอบในเรื่องจิตวิทยา มองลักษณะของคนหลายๆมุมมอง ไม่ว่าจะด้วยการกระทำหรือคำพูด และส่วนใหญ่คนที่ฉันคาดเดาไว้จะเป็นจริง แต่สำหรับคนนี้ฉันกลับมองผิดพลาด
ด้วยเหตุผลและหลักฐานหลายๆอย่าง รวมถึงพฤติกรรมที่ตรงข้ามกับการกระทำ ทำให้ฉันมองเห็นจุดบกพร่องของความเป็นเธอ
วันหนึ่งเมื่อความจริงถูกเปิดเผย เธอถูกครหาว่าเป็นเมียน้อยของผู้บริหารระดับสูง ความจริงในที่นี้ไม่มีใครรู้แน่ชัด ได้แต่คาดเดาเรื่องราวต่างๆนาๆ ตามพฤติกรรมและการกระทำของทั้งสองคน
จนกระทั่งข่าวลือดังไปทั่วบริษัท ฉันแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน แต่อย่างไรก็ตามความเป็นคนดีของเธอยังทำให้ฉันเชื่อใจเสมอมา
จนกระทั่งเธอได้ใช้ความใกล้ชิดสนิทสนม กับคำว่าเจ้านายเอ็นดูผิดทาง หรือจะพูดได้ว่าแอบกิ๊กกันอยู่ในใจ
ด้วยความที่เธอเป็นคนค่อนข้างเอื่อยเฉื่อย ลักษณะเป็นคนไม่มีความกระตือรือร้นในการทำงาน อาจทำให้เธอคิดหาวิธีก้าวหน้าให้กับตัวเองในทางที่ผิด
เธอยังคงเชื่อมั่นในตัวเองว่าสิ่งที่เธอกำลังทำคือสิ่งที่ถูกต้อง เธอเฝ้าบอกใครต่อใครว่าไม่มีอะไรกัน ซึ่งตรงข้ามกับความเป็นจริงที่เธอปฏิบัติ
บางคนบอกว่าหายเข้าไปในห้องสองต่อสองเป็นหลายชั่วโมง /กลับบ้านด้วยกันทั้งๆที่อยู่คนละเส้นทาง/ โทรหากันเพื่อพูดคุยกันทุกวัน/กินข้าวด้วยกันทุกมื้อในตอนเที่ยง /ถ่ายรูปกุ๊กกิ๊กกันเก็บไว้ในโทรศัพท์
การกระทำเหล่านี้ยังคงเป็นคำถามที่อยู่ในใจฉันเรื่อยมา เพียงเพราะต้องการความก้าวหน้าให้กับตัวเอง เธอยอมเป็นคนผิดศีลธรรมขนาดนี้เชียวเหรอ
อะไรทำให้เธอเปลี่ยนไป เพราะว่ารักหรืออย่างไร ทั้งๆรู้ว่าเป็น รักต้องห้าม เพราะผู้ชายมีครอบครัวแล้วเธอก็ยังทำ
แต่สิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่านั้นเธอกลายเป็นคนเหย่อหยิ่งและจองหอง ทำร้ายทุกคนที่ตัวเองชิงชังอย่างเงียบๆแบบลึกๆ ไม่เว้นแม้แต่เพื่อนรักของตัวเอง
ทุกอย่างจึงกลายเป็นสงครามระหว่างองค์กร เกิดการแบ่งพรรคแบ่งพวก สิ่งแวดล้อมที่เคยสงบสุขกลับกลายเป็นไฟโลกีย์ เผาพลาญความเป็นคนโดยสิ้นเชิง
ฉันเฝ้ามองพฤติกรรมของเธอเรื่อยมา จนวันหนึ่งฉันเริ่มสงสัยสายตาของเธอและพรรคพวก ฉันจึงพยายามหาหลักฐานว่าเกิดอะไรขึ้น
จนในที่สุดฉันเกิดไอเดียอัดเทปเก็บไว้ เป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็มๆ โดยไม่มีใครรู้นอกจากคนสนิท
เมื่อฉันได้เปิดฟัง ฉันแทบอึ้งเพราะคำพูดทุกคำที่ได้ยิน ไม่เคยคิดว่าจะมาจากปากของคนที่ฉันคิดว่าเขาเป็นคนดี
ฉันจึงได้ค้นพบสัจธรรมข้อหนึ่งของชีวิตว่า รู้หน้าไม่รู้ใจ อย่ามองคนแต่เปลือกนอกให้มองทะลุถึงข้างใน คนดีที่ทุกคนเห็น อาจจะไม่ใช่ผู้หญิงที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน พูดจาดี เสมอไป
ถ้าหากวันนั้นฉันไม่ได้ยินกับตัวเอง ฉันก็ยังคงเชื่อว่า เธอเป็นคนดีจริงๆ
ไม่ว่าจะอย่างไรฉันขอภาวนาให้เธอรู้จักคำว่าผิดชอบชั่วดี
ในบางครั้งความต้องการของตัวเอง มันควรจะมาทีหลังของความถูกต้อง
รวมทั้งให้อยู่ในกรอบของคำว่าศีลธรรม แล้วโลกของเราถึงจะเจริญทางด้านจิตใจ ไม่ใช่เจริญแค่วัตถุเพียงอย่างเดียว
มีคำสอนของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกท่อนหนึ่ง อ่านแล้วกินใจฉันมาก
ชีวิตนี้ตกอยู่ใต้อำนาจความโลภ ความโกรธ ความหลง แสวงหาอำนาจวาสนาบารมีทรัพย์สินเงินทอง อย่างไม่คำนึงถึงความถูกต้อง ไม่คำนึงถึงศีลธรรมใดๆ ชื่นชมสมใจแล้วมิใช่จะว่ายั่งยืน จะชื่นชมสมปรารถนาไปได้อย่างมากก็ชั่วอายุร้อยปี แล้วก็หมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง ทิ้งชื่อเสียงที่เน่าเหม็นไว้ให้คนโจษขาน พาแต่จิตดวงเดียวร่อนเร่ไป ทำกรรมไม่ดีไว้ก็พร้อมจะไปกับจิตที่ห่อหุ้มด้วยความไม่ดี ไปสู่ทุคติ ภพภูมิที่ไม่ดี ภพภูมิที่มีแต่ความทุกข์
กิเลสตัณหาหากผู้ใดหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆแล้ว อย่าโทษ เวรกรรม ว่าเคยทำเมื่ออดีตชาติ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนโลกนี้ ล้วนแล้วเกิดจากตัวของท่านเองเป็นผู้เลือก
ฉันได้แต่หวังไว้เสมอว่าสิ่งที่เธอเลือกกระทำอยู่ทุกวันนี้ วันหนึ่งเธอจะสำนึก และละความต้องการของตัวเองได้โดยเด็ดขาด
เพราะเลือดของความเป็น มนุษย์ด้วยกัน ยังคงมีสิ่งที่ดีๆมอบให้กับเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเสมอ
แก้ไขเมื่อ 05 ก.พ. 52 16:14:43
จากคุณ :
ปัทมนันท์
- [
5 ก.พ. 52 16:04:49
]