Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    .................................................>>>คิดถึง<<<.................................................

    สวัสดีค่ะ มิตรรักนักอ่านทุกคน

    วันนี้มีแก่ใจอะไรไม่ทราบ ลุกขึ้นมาเขียนเรื่องสั้นเอาตอนเที่ยงคืน
    เสร็จปุ๊บก็แปะปั๊บ กระตือรือร้นขนาดนี้สงสัยองค์จะลง

    สำหรับเรื่องสั้นเรื่องนี้
    แนะนำให้เปิดเพลงนี้ฟังคลอไปด้วยค่ะ ช่วงนี้กำลังอิน

    http://www.imeem.com/people/zwdxA39/music/YfAdnox0/stamp_ost_a_moment_in_june/



    ************************************************



    ฟ้าหลัว...อากาศขะมุกขมัวมาหลายวัน


    ฉันปิดลังกระดาษใบสุดท้ายด้วยเทปกาวสีน้ำตาล ตัดด้วยกรรไกร แล้วลุกขึ้นยืนมองดูกองข้าวของของตัวเองเงียบๆ

    สมบัติที่สะสมไว้หลายปีมีมากมายจนแม้ว่าจะตัดใจทิ้งไปหลายอย่างแล้ว ก็ัยังต้องใช้ลังสำหรับบรรจุถึง 5 ใบ

    ไม่น่าเลยจริงๆ...ฉันไม่่น่าคิดโง่ๆ ว่าจะตั้งรกรากอยู่ที่นี่ไปชั่วชีวิต ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ขนซื้อและเพียรเก็บสมบัติบ้าพวกนี้ไว้จนต้องมาลำบากเอาตอนขนย้ายอย่างนี้


    ก้มดูนาฬิกาที่ข้อมือ...เพิ่งจะสิบโมงเช้า อีกหลายชั่วโมงกว่ารถที่ว่าจ้างให้มาขนของจะมาถึง แล้วก็จนค่ำโน่นแน่ะจึงจะถึงเวลารถทัวร์ออกเดินทาง

    เพราะฉะนั้น กาแฟอร่อยๆ สักแก้วคงช่วยให้บรรยากาศซึมเซาของวันนี้บรรเทาเบาบางลงไปได้บ้าง

    ...ถ้าความขุ่นมัวและหว่างโหวงในใจของฉันตอนนี้ เป็นไปเพราะอากาศล่ะก็นะ...


    ถนนหน้าอพาร์ตเมนท์ยังแออัดด้วยรถสารพัดประเภท ตรงป้ายรถเมลผู้คนยังคงยืนคอยรถอย่างใจจดใจจ่อ หลายคนแหงนหน้ามองฟ้า บางทีอาจสงสัยว่า ไอ้ม่านหมอกหนาข้างบนนั่นมันจะกลายเป็นฝนหลงฤดูบ้างหรือเปล่ากระมัง?

    ถ้ามันกลายเป็นเม็ดฝนเข้าจริงๆ ในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า ถนนแถวนี้ก็คงจะเจิ่งน้ำอีกตามเคย แล้วฉันก็คงจะต้องเปียกเพราะไม่เคยคิดจะหยิบร่มติดมือมาในตอนปลายหน้าหนาวอย่างนี้ แต่เอาเถอะ...ถ้าฝนมันตกเข้าจริงๆ การวิ่งลุยฝนกลางเดือนกุมภาฯ ในสัปดาห์ที่วันวาเลนไทน์กำลังจะมาถึงก็คงจะได้อารมณ์นางเอก MV ไปอีกแบบ...

    ฉันคิดถึงเพลง ‘ฤดูอกหัก’ ของพี่ป๊อบ แคลอรี่ บลาบลา...


    “อ้าว หนูมล ไหนบอกป้าว่าจะกลับบ้านต่างจังหวัดไงล่ะ? นี่ไม่ได้กลับไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วหรอกเหรอ?”

    เสียงร้องทักมาจากหญิงวัยกลางคนเจ้าของร้านชำที่รู้จักกันมานานปี เธอยืนจัดข้าวของอยู่หน้าร้านในเวลานี้เหมือนทุกๆ วัน

    “กลับวันนี้แหล่ะค่ะป้า...” ฉันตอบยิ้มๆ

    “แหม ใจหายเหมือนกันนะ เห็นกันมาหลายปี แล้วนี่ไม่คิดจะกลับมาอยู่กรุงเทพฯ แล้วเรอะ?” ป้าพูดเหมือนบ่น คงนึกเสียดายว่าจะต้องเสียลูกค้าขาประจำอย่างฉันไปหนึ่งคน

    “คงไม่แล้วล่ะค่ะ”

    “อืม ป้าคงคิดถึงแย่...แต่เอาเถอะ ผู้หญิงอยู่ตัวคนเดียวมันก็ำลำบากเหมือนกันนะ กลับบ้านนอกก็ดีแล้ว สบายกว่าเย๊อะ”

    ฉันพูดกับป้าอีกสองสามคำ ร่ำลากันเรียบร้อยแล้วก็ออกเดินต่อไป ไม่ลืมก้มลงลูบหัวเจ้ามาม่า ยามประจำร้านที่นอนหมอบอยู่ข้างๆ ตู้แช่เย็น มันกระดิกหางให้นิดนึงเหมือนทุกวัน เหมือนทุกครั้งที่ฉันทัำกทาย


    ร้านกาแฟเจ้าประจำอยู่ตรงหัวมุมถนนพอดี...

    หน้าร้านทำเป็นระเบียงไม้สีน้ำตาล ตั้งโต๊ะเก้าอี้ไว้สองชุด ปกติเวลาหัวค่ำ ฉันจะจับจองโต๊ะตรงมุมระเบียงที่มีเก้าอี้สองตัวตรงนั้น แต่วันนี้ยังไม่หัวค่ำและควันรถยนต์จากถนนในช่วงเวลานี้ก็น่ากลัวว่าจะทำให้เป็นมะเร็งปอด

    ฉันเลยเลือกเข้าไปนั่งในร้านดีกว่า ตรงหน้าเคาน์เตอร์บาร์...คงเหมาะกับการนั่งละเลียดกาแฟคนเดียว

    เจ้าของร้านที่คุ้นหน้ากันดีเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มให้ เมื่อฉันเปิดประตูเข้าไปพร้อมเสียงกระดิ่งดังกรุ๋งกริ๋ง เตร็ดเตร่อยู่ตรงชั้นวางขนมและหน้าตู้เค้ก หยิบคุ้กกี้ธัญพืชถุงหนึ่งมานั่งที่เก้าอี้สูงหน้าเคาน์เตอร์บาร์ คาปูชิโน่กลิ่นหอมส่งควันกรุ่นก็วางลงมาให้ตรงหน้าพอดีอย่างรู้ใจ

    “ไหนว่าจะกลับบ้านนอก?” เจ้าของร้านเอ่ยถามล้อๆ

    “บ้านนอกที่ไหน เจริญน้อยกว่ากรุงเทพฯ หน่อยเดียว”

    “แล้วต่อไปนี้ใครจะมากินกาแฟร้านนี้กันล่ะนี่”

    “พูดเกินไปไหม ทำอย่างกับร้านนี้มีลูกค้าคนเดียว” ฉันว่าพลางยกกาแฟขึ้นจิบ อืม...รสชาติดีเหมือนเคย

    เขาถอนใจนิดหนึ่ง คว้าผ้าผืนเล็กมาเช็ดถ้วยกับจานรอง พูดลอยๆ อย่างไม่เจาะจง “หนีอะไรก็หนีได้นะ หนีใจตัวเอง...จะพ้นจริงๆ เร๊อ?”

    กาแฟรสดีเมื่อแรกจิบ ดูจะขมขึ้นมานิดหนึ่งแล้วตอนนี้...


    ฉันไม่ได้พูดอะไร นอกจากยกถ้วยกาแฟกับถุงขนมย้ายที่นั่งจากหน้าเคาน์เตอร์มาเป็นโต๊ะเล็กใกล้ประตู ติดหน้าต่างกระจกของร้านที่ทำให้มองออกไปเห็นความเป็นไปข้างนอกได้ถนัดตา

    กระถางต้นชวนชมที่วางอยู่ตรงหน้ากำลังออกดอกสีชมพูสวยสด...

    จำได้ว่าเพราะความคุ้นเคยกันเป็นส่วนตัวกับเจ้าของ จึงออกปากแนะนำให้เขาปลูกไม้ดอกไว้ประดับร้านเสียบ้าง ร้านกาแฟที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้โทนน้ำตาลเข้ากับสีกาแฟจะได้มีสีสันขึ้นอีกหน่อย

    เจ้าของร้านท่าทางไม่เอาใจใส่ต่อคำแนะนำของลูกค้าขาประจำ เพราะนอกจากกาแฟแล้วก็ดูเหมือนเขาจะไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรอีก

    เลยเดือดร้อนไปถึง...ลูกค้าขาประจำอีกคนหนึ่ง...ไปสรรหามาปลูกให้ แลกกับการได้ดื่มกาแฟฟรีไป 3 วัน...นอกจากกาแฟ ยังได้กินข้าวฝีมือฉันไปอีกหลายมื้อ เพราะเขายังอุตส่าห์ตามไปปลูกเจ้าชวนชมสีเดียวกันนี้ให้ที่ห้องอีกกระถางหนึ่ง

    ป่านนี้...เจ้าของอพาร์ตเมนท์คงดีใจที่ได้ชวนชมออกดอกงามไว้ประดับทางเข้าด้านหน้า โดยไม่ต้องลงแรงปลูกและเฝ้ารอให้มันเติบโต

    แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 52 02:17:18

    แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 52 02:08:42

     
     

    จากคุณ : ชญาลี - [ 7 ก.พ. 52 02:07:29 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com