สวัสดีค่ะ เพื่อนๆทุกคน
ขอโทษนะคะที่สัญญาไม่เป็นตามสัญญา สัญญาว่าจะลงเรื่องใหม่ก็ไม่ได้ลง สารภาพว่าเขียนไม่ออก เนื่องจากกำลังดื่มด่ำหลงใหลกับชนเผ่านักล่าหัวคน
คำที่จารึกอยู่ทางเข้าสุสาน การต่อสู้ยาวนานตั้งแต่รัชสมัยรัชกาลที่ 5 จนถึงบัดนี้ยังต่อสู้กันไม่จบ จึงทำให้เกิดแรงบันดาลใจอยากจะเขียนเรื่องราวเหล่านี้โดยสมมติสถานที่และบุคคล หากแต่อิงกับความจริงบางส่วน โดยเฉพาะส่วนที่สวยงามของพวกเขา ชาวนากาแลนด์ ขอบคุณคุณจันทร์เคียวที่ไปเที่ยวแล้วนำกลับมาเล่าเรื่องราวของพวกเขา
จากเวบhttp://board.trekkingthai.com/board/show.php?forum_id=2&topic_no=4025&topic_id=4025
ซึ่งทำให้ดิฉันตระหนักถึงคุณค่าแห่งเจตน์จำนงเสรี (Free Will)
When you go home
Tell them of us and say
For your tomorrow
We gave our today
การตัดสินใจเลือกข้างในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง โดยร่วมรบกับฝ่ายชนะสงคราม สิ่งที่พวกเขาได้ตอบแทนคือ ดินแดนพวกเขาถูกยกเป็นบรรณาการให้ผู้ชนะสงครามด้วยกัน
สิ่งที่พวกเขาโหยหาไม่ใช่เงินทอง อาหาร ความเจริญแบบทุนนิยม หากคืออิสรภาพแห่งมนุษย์
ดังนั้นเรามาสร้างดินแดนในฝันของพวกเขากันดีกว่า ด้วยนิยายโรแมนติค การเมือง เสรีภาพ
นิยายเรื่องนี้เกิดจากความคิดและจินตนาการของผู้เขียน สถานที่และบุคคลล้วนสมมติทั้งสิ้น
ตอนที่ 1
เราให้มงกุฏเจ้า สุรเสียงกังวานก้องเขตพระราชอุทธยานของเจ้าชายน้อยส่งผลให้ร่างเล็กป้อมย่อกายถอนสายบัวพร้อมก้มหน้าลงนิดๆรับคำสั่งเสียงใส ใบหน้าที่ยังเลอะคราบน้ำตาบัดนี้ยิ้มแย้มจนตายิบหยี
เพคะ เจ้าชาย ยิ้มนั้นกว้างขึ้นอย่างตื่นเต้นเมื่อได้รับพระราชทานมงกุฎกิ่งไม้ที่พันเข้าไว้แซมด้วยดอกไม้เล็กๆที่ผู้ประทานให้ทรงเก็บจากอุทธยาน นิ้วป้อมๆจับที่ข้อพระหัตถ์องค์ชายที่เป็นทั้งเพื่อนทั้งพี่และทุกสิ่งสำหรับเด็กหญิงวัยห้าขวบ
สิมาจะเป็นราชินีของเจ้าชายอามีทีล เด็กหญิงแหงนเงยหน้าราวให้คำมั่นด้วยท่าทีจริงจัง
มีรอยแย้มพระสรวลนิดๆบนพักตร์คมเข้มขององค์ชายน้อย พระเนตรเข้มด้วยม่านขนตาสีเข้มส่งผลให้พระเนตรดูเข้มหวาน คนจะเป็นราชินีต้องไม่ซน ไม่ร้องไห้งอแง แล้วยังต้องเรียนเก่งๆด้วย เจ้าชายน้อยทรงย้ำกับร่างอ้วนกลมที่มักจะร้องไห้โหยหวลยามที่น้าสาวหรือพระพี่เลี้ยงต้องคอยถวายการดูแลองค์ชาย จะเพราะเสียงเล็กๆคร่ำครวญราวจะเป็นจะตายหรือเพราะพระพี่เลี้ยงทำหน้าราวจะร้องไห้หรือจะเพราะความสงสารในชะตากรรมของเธอ ทำให้องค์ชายอามีทีลต้องทรงยอมแพ้ยินยอมให้เด็กหญิงเจ้าน้ำตาเข้ามานั่งในห้องทรงพระอักษรด้วยแทบจะทุกครั้ง
เด็กหญิงสิรินมามีสภาพจิตย่ำแย่จากการสูญเสียบิดาที่เป็นที่ปรึกษาด้านการทหารในเหตุการณ์ลอบยิงของศัตรูทางการเมืองในหลายเดือนก่อนขณะที่กำลังนำเสด็จเจ้าชายอามีทีลตรวจดูพื้นที่ที่จะจัดสร้างโรงผลิตอาวุธ ท่านที่ปรึกษาทุ่มร่างเข้ารับกระสุนแทนองค์ชาย ส่วนมาริสาภรรยาสาวชาวไทยก็เอาตัวเข้าบังร่างของลูกสาวขณะโดนถล่มยิงอย่างอุกอาจอย่างที่ไม่เคยและไม่น่าจะเกิดขึ้นในประเทศมณีปุระอันแสนสงบมากว่าพันปีแห่งนี้ ภาพที่พ่อแม่อันเป็นที่รักล้มลงพร้อมเลือดแดงฉานคงทำให้ขวัญน้อยๆของเด็กอายุห้าขวบนั้นกระเจิง นับตั้งแต่นั้นมา อันธิกาน้าสาวชาวไทยที่ติดตามพี่สาวมาอยู่ที่ประเทศมณีปุระแห่งนี้จึงเป็นผู้ดูแลเด็กหญิงกำพร้าโดยปริยายและแน่นอนเหลือเกินที่เด็กหญิงสิรินมาก็จำต้องย้ายเข้ามาอยู่ในเขตพระราชฐานตามน้าสาวที่ทำหน้าที่เป็นพระพี่เลี้ยงองค์รัชทายาทแห่งมณีปุระด้วยความสามารถทั้งด้านกีฬา ศิลปะการป้องกันตัวและภาษาที่พูดได้ถึงสามภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศสและสเปน
และจากนั้นเด็กหญิงสิรินมาก็กลายเป็นทั้งผู้ติดตามของเจ้าชายน้อยจอมซน เป็นทั้งเพื่อนร่วมชั้นเรียน เพื่อนเล่น ภาพที่ทุกคนในพระราชวังแห่งมณีปุรีจะเห็นจนเจนตาคือภาพที่เด็กหญิงสิรินมาวิ่งตามองค์ชายต้อยๆ ยามองค์ชายน้อยอารมณ์ดีก็ดีไป แต่ยามที่องค์ชายโกรธกริ้ว คนที่โดนหนักก็ดูเหมือนจะเป็นสิรินมาและพวกองครักษ์ที่ใกล้ชิด องค์ชายจะทรงเอะอะปึงปังใส่แต่ก็เห็นจะเป็นนานๆครั้ง แต่ว่าก็ว่าเถอะ เวลากริ้วนี่ราวกับพายุทอร์นาโดเลยเชียว จนโดนพระพี่เลี้ยงดุเตือนอยู่บ่อยครั้ง
อารมณ์กริ้วก็เหมือนกับถ่านร้อนๆที่พระองค์ฉวยไว้ในมือหมายใจขว้างใส่คนอื่น แต่คนที่จะถูกถ่านร้อนลวกกลับเป็นเราที่ถือเอาไว้ พระองค์เป็นเจ้าชายที่ต่อไปจะต้องเป็นพระราชา หากเอาแต่โกรธกริ้วพระองค์จะได้รับเพียงความกลัวจากผู้คนกลับมาหาใช่ความภักดีไม่ การเป็นพระราชาเป็นพระราชอำนาจยิ่งใหญ่แต่มาพร้อมกับภาระความรับผิดชอบมหาศาล ต้องทรงรับผิดชอบแม้แต่คำพูดทุกคำของพระองค์เอง
ถึงอย่างนั้นก็เหอะ ดูเหมือนเจ้าชายน้อยจะไม่ทรงสดับเสียงพร่ำบ่นของพระพี่เลี้ยงสาวสักเท่าไหร่ เจ้าชายอามีทีลที่กำพร้าพระมารดาหลังจากทรงประสูติกาลพระโอรสที่คนทั้งประเทศรอคอยมานาน อาจจะเป็นเพราะพระวรกายที่แบบบางหรือความเคร่งเครียดในเวลาหลายปีที่ผ่านมา ที่ต้องทรงทำทุกอย่างทางการแพทย์เพื่อสืบสายรัชทายาทแห่งมณีปุระจนเกิดความเครียดและซึมเศร้าส่งผลให้องค์รานีแห่งมณีปุระเสด็จสวรรคตหลังจากนั้นไม่นาน การเจริญพระชันษาโดยพระนมและพระพี่เลี้ยงจึงทำให้องค์ชายแห่งมณีปุระไม่ใคร่จะยอมเชื่อฟังใครง่ายๆ ยกเว้นพระราชบิดาองค์เหนือหัวเท่านั้นที่ดูเหมือนเพียงชายพระเนตรมาก็ทำให้องค์ชายจอมซนอารมณ์ร้ายหยุดลงได้
จากคุณ :
สาวช่างถาม
- [
11 ก.พ. 52 14:02:29
]