ล้างไพ่เริ่มเขียนแต่ต้นใหม่อย่างที่เคยบอกไว้นะคะ ของเก่าถือว่าเป็นโมฆะหมด เพิ่มเหตุการณ์ใหม่ เปลี่ยนลำดับเรื่องใหม่เลย แต่ว่าข้อมูลเก่าหลายอย่างไม่ได้หายไปไหน จะกลับมาแน่ ๆ ใครอ่านแล้วอย่าเพิ่งสปอยล์คนยังไม่ได้อ่านนะคะ
ขอโทษทุกคนอีกทีเน้อ Y-Y
###
Dragon Delivery
the case of the thesis grand strategy
###
๑.
หน้าหนาวมาถึงสองสามวันก่อน แต่หิมะยังไม่ตก โซลโทจึงถือโอกาสนั้นเข้าป่าไปตัดไม้ เขาจ้างเกวียนให้ลากไม้ท่อนใหญ่ ๆ มาไว้ที่ร้าน ผ่าเป็นฟืนท่อนเล็กท่อนน้อยกองสูงเท่าภูเขา อากาศตอนเช้าและตอนเย็นตลอดค่ำหนาวจนปลายจมูกปลายนิ้วแทบแข็ง มีแต่ช่วงกลางวันที่พอจะอุ่นขึ้นบ้าง ท่านเจ้าของร้านเห็นอย่างนั้นจึงเริ่มสวมเสื้อหนาวที่เรนาเย็บให้ถี่ขึ้น บางครั้งเดินไปเดินมาในร้านยังใส่ เทย์เห็นแล้วก็ส่งเสียงเฮอะออกมา
เมื่อแรกเขาค่อนโซลโทว่าถึกทือปานนี้ไม่ต้องใส่เสื้อหนาวก็ไม่ตายหรอก แต่ไป ๆ มา ๆ ตัวเองกลับกางแขนเสื้ออวดชุดคลุมกันหนาวตัวยาวสีดำที่สวมอยู่ ชุดดำหนาหนัก บุด้านในอย่างดี ติดกำมะหยี่นุ่มนิ่ม ขนาดนี้แล้วแม้แต่โซลโทที่ไม่ค่อยรู้สึกรู้สาอะไรนักยังดูออกว่าใครตัดให้ นึกรู้อยู่ในใจว่าอีกฝ่ายไม่ได้คิดอวดเสื้อแต่จะอวดอย่างอื่นเสียมากกว่า
"เสื้อของข้าดีกว่าของเจ้า" พ่อมดสอบตกบอกในเช้าวันหนึ่งขณะกินข้าว ทำท่าพองขนสำทับน่าหมั่นไส้ แต่ท่านเจ้าของร้านยังไม่ทันได้ว่าอะไรสักคำ หลานสาวท่านเจ้าของร้านอีกคนกลับเดินออกมาจากในครัว คว้าจานของกินตรงหน้าพี่ชายไปวางแหมะไว้ตรงหน้าคนรักแทน
"เสื้อข้าเย็บให้ไม่สวยไม่ยอมใส่ ของข้าทำให้กินก็ไม่อร่อยด้วย ไม่ต้องกินหรอกนะเจ้าคะ" หญิงสาวบอก พ่อมดที่ถือส้อมค้าง แล้วหันหลังเดินกลับเข้าครัวไป
โซลโทเห็นเทย์เริ่มทำปากสั่น ๆ จึงเขี่ยจานคืนมาให้ตามเดิม
เขารู้...เรนาไม่ได้โกรธพี่ชายตัวเองหรอก ที่จริงแล้ว...ไม่มีความโกรธเลยแม้แต่น้อย เรนากำลังสนุกกับการกลั่นแกล้งพี่ชายซึ่งนานปีทีหนจะเผยจุดอ่อนใหญ่โตขนาดนี้ต่างหาก ว่าไปแล้ว...แม้แต่โซลโทเองยังเกือบ ๆ จะเห็นด้วยกับคนรักตนว่าเทย์ขณะนี้ช่างอยู่ในภาวะน่ารังแกขนาดหนัก ...พ่อมดใช้เวลายี่สิบปีที่ผ่านมาหมดไปกับการเดินวนอยู่รอบ ๆ ท่านวิดา หัวเด็ดตีนขาดอย่างไรก็ไม่ยอมพูดว่ารัก แต่ยิ่งผ่านไปนานเท่าไร โรครักของเทย์กลับยิ่งฝังในรุนแรง เวลานี้ยอมคายความจริงออกมาจนได้ ผลที่เห็นก็น่าสนใจดีอยู่เหมือนกัน
เขาไปวิทยาลัยทุกวัน แม้ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาจะอากาศดีมาก แต่โซลโทก็มีความเชื่อแปลก ๆ ว่าถึงฝนตกฟ้าร้อง หิมะตก แผ่นดินไหว ฟ้าถล่ม คลื่นยักษ์โหมกระหน่ำ แคว้นทั้งแคว้นจมทะเลกลายเป็นอารยธรรมอันสาบสูญ เทย์ก็คงไปวิทยาลัยอยู่นั่นเอง จะว่าไป แม้แต่ตัวโซลโท ช่วงนี้หากหาเวลาได้เมื่อไร ก็จะต้องไปที่หอไอดาชั้นยี่สิบเก้าให้ได้เหมือนกัน
"ไอ้ขอรับ เจ้าจะฆาตกรรมช้อนหรือ" เทย์ถามมาจากอีกด้านของโต๊ะ
"เอ้อ..." โซลโทเพิ่งรู้สึกตัวว่าคิดเรื่องรักมากเกินไป เขินจนบิดปลายช้อนสองข้างงอลงมาติดกันเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มไม่รู้จะทำอย่างไรดี เลยดึงช้อนกลับให้ตรงตามเดิม แล้วเอาซุกยัด ๆ ไว้ข้างจาน ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เทย์เห็นอย่างนั้นก็หรี่ตาเป็นเส้นเดียว...รู้เท่าอยู่เหมือนกัน
"ว่าแต่...พูดถึงเรื่องนี้" พ่อมดเอ่ยต่อไป "ไอ้ขอรับ เมื่อไรข้าจะได้ห้องของข้าคืน"
โซลโทไม่รู้เหมือนกันว่าการฆาตกรรมช้อนของตนเกี่ยวอะไรกับห้องของเทย์ด้วย อย่างไรก็ตาม เขาก็เข้าใจ ...วันก่อน เทย์เพิ่งรู้ว่าท่านชายเอลาซมาอยู่ที่ร้าน แถมโซลโทยังยกห้องเขาให้ใช้นอนเสียด้วย พ่อมดสอบตกเลยเกิดหวงของ โมโหเดินลงส้นขึ้นไปดู พอเห็นสภาพแล้วก็ต้องเบิกตา ...ห้องของเทย์ก่อนนี้ราวกับแดนสนธยา ประกอบขึ้นด้วยระเบียบอันไร้ระเบียบแสนลึกลับซึ่งมีพ่อมดสอบตกเข้าใจคนเดียว ส่วนคนอื่น ๆ ที่เหลือทั้งโลกเห็นว่ารกยิ่งกว่ารังสัตว์ร้ายและไม่เข้าใจเลย อย่างไรก็ตาม เวลานี้รังอันแสนอบอุ่นและป่าเถื่อนก็เทย์กลับถูกอารยธรรมชั้นสูงเข้ารุกราน ...เอลาซเป็นคนมีมารยาท ไม่ชอบอยู่ในที่รกรุงรัง แม้เจ็บปวดอกหักขนาดไหนยังมีแก่ใจเรียกคนมาสังคายนาห้องจนราบคาบ ตอนนี้บนเตียงมีผ้านวมราคาแพงปูเรียบกริบ บนราวแขวนแต่เสื้อผ้าอย่างดีมีรสนิยม บนชั้นหนังสือ...ซึ่งแต่เดิมมีของอัดแน่นจนเห็ดแทบขึ้น...ถูกปราบทิ้งไปเสียหลายชั้น และมีตำราหรูหราปกหนังเดินทอง เขียนตรงสันเป็นอะไรทำนองปรัชญา ดาราศาสตร์ รัฐศาสตร์ วรรณคดี ประวัติศาสตร์ มาเรียงไว้แทน บนโต๊ะทำงานมีถาดเครื่องเขียนทำจากไม้หอม เครื่องเขียนและขวดหมึกบนถาดเรียบหรูมีระดับควรค่าแก่ผู้ดีมีตระกูล ว่าโดยสรุปแล้วก็คือ ทุกสิ่งทุกอย่างในอดีตห้องของเทย์ล้วนส่องรัศมีอารยะและความแพงพวยพุ่งออกมาจนโชติช่วงชัชวาล พ่อมดสอบตกเห็นแล้วช้ำใจแสบตาเป็นกำลัง ต้องเงยหน้าขึ้นมองเพดาน น้ำตาลูกผู้ชายแทบไหลออกมา
"ท่านชายยังไม่ค่อยดีเลย เมื่อเช้าออกไปที่วังก็หน้าซีด ๆ" ท่านเจ้าของร้านบอกเพื่อนตน "ให้เขาอยู่ไปสักพักเถอะ"
"มันหน้าซีดเพราะกลางคืนไม่หลับไม่นอน เอาแต่เขียนกลอนอกหักรักคุดแปะไว้เต็มฝาน่ะสิ" เทย์ส่งเสียงเลือดเย็นไร้ความปรานี กระแทกถ้วยชาลงบนโต๊ะราวกับแก้วเหล้า "อีกอย่างหนึ่ง...อกหักแล้วทำไมนักหนาวะ ผู้หญิงมีมากมายเกลื่อนกล่นเต็มโลก เป็นลูกผู้ชายแท้ ๆ ดันมายึดติดกับผู้หญิงคนเดียว"
พ่อมดพูดจบก็กรอกน้ำชาลงคอทั้งแก้ว...ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าพูดอะไรออกไป
"ถ้าเจ้ากลับมาแล้ว แต่ท่านชายยังไม่อยากออกไป ข้าจะต่อบ้านเพิ่ม หรือให้คนช่วยสร้างเรือนอีกหลังก็ยังได้ มีที่อยู่ถมเถ" โซลโทบอก "ว่าแต่ถ้าให้ต่อบ้านเพิ่ม...เทย์ เจ้าคิดว่าจะมีลูกกี่คน"
ท่านเจ้าของร้านอยู่บ้านนอกมาตลอด เคยชินกับครอบครัวขยายที่คนหลายรุ่นหลายคู่อยู่ด้วยกัน อีกอย่างหนึ่ง ที่บ้านเขาหนุ่มสาวคบหากันแล้วมักแต่งงานในไม่ช้า พอพูดไป โซลโทซึ่งใฝ่ฝันมานานก็ชักกระตือรือร้น คิดเห็นวิมานในอากาศว่าที่บ้านจะมีคนมาก ๆ และพอเขาแก่เฒ่าแล้วจะได้นั่งเก้าอี้โยกดูหลานเป็นฝูงเล่นกันเหมือนลุงคนใหญ่ อย่างไรก็ตาม เทย์ซึ่งเป็นคนเมืองย่อมมีความเห็นตรงข้ามโดยสิ้นเชิง พอเพื่อนพูดถึงลูก เขาก็สำลักชาพรวดทันที
"นี่ไอ้เวร ข้าจะเอาห้องคืนเฉย ๆ คิดไปถึงไหนแล้ววะ ข้ายังหล่อโสดสนิท บังอาจจะให้เลี้ยงลูกแล้วหรือ ฝันไปเถอะโว้ย" พ่อมดโวยวาย
"ข้าได้ยินท่านตาอวดว่าพี่จะมีเหลนให้ไม่ใช่หรือ" เรนาที่ยืนพิงอยู่ตรงกรอบประตูครัวถาม "พูดอย่างนี้ทำให้ท่านตาดีใจเก้อ ระวังเถอะจะโดนดี"
"เรื่องอย่างนั้นเป็นเรื่องของคุณหนูวิดาด้วย เจ้าจะให้ข้าทำอย่างไรได้" พี่ชายเธออุบอิบในคอ
"ที่จริง เรื่องนั้นช่างเถอะ แต่หลังจากวันนั้นแล้ว พี่ไม่ไปหาท่านตาเลย ท่านตาคิดถึงนะ"
เทย์เกาคอแกรก ๆ ที่จริง...เขาไม่ได้มีเจตนาจะหลบหน้าหรือทำให้ตาเสียใจหรอก แต่คราวที่สารภาพรักกับคุณหนูวิดา เขาทำตามเงื่อนไขของเชลาไม่ได้ กลายเป็นบอกความลับของตนทุกอย่างให้แม่มดดำฟังจนสิ้นไส้พุง ถึงแม้จะได้ความรักตอบกลับมา แต่ก็ทำให้ยายเชลาถือโอกาสไม่ยอมบอกวิธีกำจัดตัวเองด้วย เทย์มีเวลาทำรายงานถึงแค่สิ้นปีเท่านั้น นี่หน้าหนาวแล้ว...หน้าหนาวเป็นฤดูที่อยู่กึ่งกลางระหว่างปลายปีเก่ากับต้นปีใหม่ ดังนั้นเวลาถึงสิ้นปีจริง ๆ จึงเหลืออีกแค่เดือนกว่า พอเวลาบีบคั้นอย่างนี้ เทย์ก็ชักประสาทเสียไม่แน่ใจว่าตนจะรักษาสัญญากับตาได้หรือเปล่า และไม่รู้จะเอาหน้าไปให้ตาเห็นได้อย่างไรเหมือนกัน
"ข้าจะไปหาตาแล้วกัน" ชายหนุ่มบอกน้องสาว ยังปากแข็งไม่ยอมพูดปัญหาออกมา
"ถ้าได้อย่างนั้นก็..." เรนาชะงักกลางประโยค มีเสียงกระดิ่งประตูดังมาจากข้างล่าง สามคนมองหน้ากันแวบหนึ่ง ครั้นแล้วโซลโท...ซึ่งมีความหวังอย่างยิ่งว่าคนมาเยือนจะเป็นเจวาน ก็เร่งลุกออกไป
สองสามวันก่อนนี้ มีคนถือสารมาจากพระราชาโทปาซ เป็นใบอนุญาตให้โซลโทประกอบกิจการรับของไปส่งได้ ที่จริงตอนนั้นท่านเจ้าของร้านเกือบลืมไปแล้วว่ามันคืออะไร ต้องใช้เวลาจึงนึกออกว่านี่คือแผนธุรกิจของเทย์ ซึ่งทำให้เขาต้องถูกท่านชายกับพระราชาทดสอบ คนเดินสารไม่ได้บอกว่าเหตุใดพระราชาจึงทรงยอมง่ายเช่นนี้ แม้แต่ท่านชายก็ไม่รู้ ท่านชายว่าพระราชาไม่ได้ประทับในเมือง แต่ที่จริงแม้พระราชาไม่ประทานใบอนุญาตนี้มา ท่านชายก็คงเขียนให้โซลโทเองอยู่ดี
เนื่องจากไม่รู้ว่ามันมาได้อย่างไร ชายหนุ่มจึงเดาเอาว่าคงเกี่ยวกับท่านเจวาน ช่วงปลายเดือนก่อนถึงต้นเดือนนี้ มีคนหลายคนรวมทั้งเทย์ด้วยบอกว่าเห็นชายวัยกลางคนในเมือง แต่ดูเหมือนเขาจะไป ๆ มา ๆ ไม่ได้อยู่ซีเลถาวร ทั้งไม่ได้เอาโมรามาคืน ตลอดเวลานั้น เขาไม่กลับร้านเอชานเลยสักครั้งเดียว ถึงโซลโทไปหาที่ห้องก็ไม่เจอตัว ชวนให้อดรู้สึกไม่ได้ว่าผู้ช่วยลุงจงใจไม่พบ แต่ท่านเจวานเป็นผู้ใหญ่แล้ว หากฝ่ายนั้นไม่บอกเอง โซลโทก็ไม่กล้าถามให้วุ่นวาย ชายหนุ่มยังจำได้แม่นยำว่าก่อนหน้านี้ท่านเจวานเคยพูดไว้...คนทุกคนก็มีเรื่องที่บอกไม่ได้กันทั้งนั้น อย่าว่าแต่เรื่องของท่านเจวานคงจะเกี่ยวข้องกับเจ้าหญิงและพระราชา เป็นเรื่องใหญ่โตที่โซลโทไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้หรือเปล่าเลย
ถึงอย่างนั้น เขาก็อยากให้ผู้ช่วยลุงกลับร้านอยู่นั่นเอง
แต่เมื่อลงไปเปิดประตูจริง ๆ แล้ว โซลโทกลับพบด้วยความสยองขวัญว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูหาใช่ท่านเจวานไม่ หากแต่เป็นผู้มีความพยายามของเทพเจ้า ราชามังกรแห่งซีเล ท่านทาร์น เฮเบลผู้กำลังกอดอกมองไปทางมังกรของหลานสาวซึ่งนอนหมอบนิ่งอยู่หน้าร้านโดยมีรัฟมาป้วนเปี้ยนระราน ครั้นโซลโทเปิดประตูแล้ว ชายชราก็ปรายตามามองหน่อยหนึ่ง เป็นเหตุให้ความเย็นของอากาศโดยรอบแทบจะระเหยขึ้นมาเป็นไอร้อนทีเดียว
"...สวัสดีขอรับ" ท่านเจ้าของร้านบอกหลังจากยืนค้างอยู่หลายวินาที
"ข้ามาดูบันทึกประจำร้านกับบัญชีของเจ้า" อีกฝ่ายพูดเสียงต่ำ ๆ ในคอ
"เอ้อ...ขอรับ?"
"ข้ามาดูบัญชีร้านเจ้า ก่อนนี้เจ้าไปที่ร้านข้า ขอให้ข้าช่วยไม่ใช่หรืออย่างไร ข้ามาดูว่าเจ้าทำตามเงื่อนไขที่ว่าจะบริหารร้านคนเดียวได้หรือเปล่า แล้วค่อยพูดกัน" ชายชราบอก "แต่รู้สึกว่าตอนนี้ในร้านเจ้าจะมีหลานข้าอยู่ทั้งสองคนเลยสินะ"
โซลโทนิ่งไปอีกครู่หนึ่ง ครั้นแล้วจึงคิดขึ้นได้ว่าตัวเองทำผิด ถึงจะขอความรักเรนา แต่ยังไม่ได้บอกท่านทาร์นเลยสักคำเดียว หากเป็นที่บ้านเขา...เรื่องนี้เป็นมารยาทสำคัญที่สุด ต่อให้เป็นคนรักของพี่สาว ถ้ามาคบพี่แล้วไม่บอกลุงคนใหญ่ก่อน ไม่ช้าไม่นานต้องถูกทั้งพี่และลุงคนใหญ่ช่วยกันจัดการแน่นอน
"ข้า...ข้าคบกับเร...เอนาเรขอรับ" ชายหนุ่มนึกได้อย่างนั้นก็เร่งบอกออกมา ชิดเท้ายืนตัวตรง "ข้าขอโทษท่านทาร์นที่ไม่ได้บอกก่อน ข้าผิดไปแล้ว แต่เพิ่ง...สารภาพรัก...เมื่ออาทิตย์ก่อน ข้าขอคบกับเอนาเรนะขอรับ"
ชายชราชะงักนิดหนึ่ง ไม่นึกว่าจู่ ๆ อีกฝ่ายจะโพล่งอะไรอย่างนี้ พอตั้งสติได้แล้วจึงอดเสียดสีไม่ได้
"ขอหรือไม่ขอก็ข้ามหัวข้าไปมาตั้งแต่แรกอยู่แล้วนี่นะ"
"ไม่ใช่ขอรับ ก่อนนี้ข้าเป็นเพื่อนกับเอนาเรจึงไม่ได้พูด แต่ตอนนี้คบกับเธอแล้ว ต้องขอขอรับ ถ้าท่านทาร์นไม่ให้ ข้าก็...ขอร้องท่านทาร์น ต้องการให้ข้าทำอะไรจึงให้คบได้ ก็สั่งเถอะนะขอรับ"
ชายชราส่งเสียงหึออกมา ไม่ตอบอะไร เพียงแต่ถอดเสื้อคลุมออกส่งให้อีกฝ่ายเอาไปแขวน ถึงตอนนั้น เรนากับเทย์ได้ยินเสียงตาตนดังไปถึงข้างบนก็ลงบันไดมาดู
"ท่านตา..." หญิงสาวเรียก
"นานา เจ้ากลับร้านไปหน่อยเถอะ ข้าอาจจะอยู่นาน ไม่มีคนดูแล" ชายชราบอก "มีเรื่องจะคุยกับเจ้านี่ ...แล้วก็เจ้าเทย์"
จากคุณ :
ลวิตร์
- [
25 ก.พ. 52 01:33:52
]