Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    ~:-:~ แมว...ตัวที่หายไป ~:-:~

    ฝนตกอีกแล้ว....

    ความเศร้าของฉันมันมักมาพร้อมกับสายฝนโปรยสายแบบนี้ ความรู้สึกปวดร้าวที่ถูกละเลยไปนานกลับคืนมาเมื่อสายฝนเม็ดแรกตกต้องกระทบดวงหน้าที่แหงนเงยขึ้นมองฟากฟ้าสีหม่นเศร้าราวกับหัวใจฉันในตอนนี้

    นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้ยืนตากฝนแบบนี้...

    คงนานเท่ากับวันเวลาหยุดนิ่งไป ตั้งแต่วันที่ฉันทิ้งทุกอย่างแล้วเดินจากมา ทิ้งหัวใจตัวเองให้นอนนิ่งอยู่ในห้องมืด ๆ ที่ไร้ทางออก ทิ้งแม้กระทั่งคนที่รักที่สุดแต่ไม่อาจอยู่ร่วมกันได้ ฉันเป็นคนทิ้งทุกอย่างเอาไว้เบื้องหลังทั้งสิ้น

    เมื่อก่อนฉันเป็นคนอ่อนแอ ที่แอบซ่อนตัวจริงอันนั้นไว้ ด้านในของเปลือกแห่งความขี้โวยวาย ดุดันและจริงจังกับหน้าที่การงาน จนนานเข้า ๆ มันก็กลายเป็นความเคยชินที่จะใช้ชีวิตกับตัวตนที่สร้างขึ้นมาใหม่นี้ เพื่อป้องกันตัวตนที่แท้จริง

    ฉันมีความสุขลวง ๆ กับเปลือกที่สร้างขึ้นจนกระทั่งในวันหนึ่ง

    มีใครบางคนก็มองเห็นมัน ก่อนจะค่อย ๆ เจาะทะลุเกราะป้องกันนั้นเข้ามาอย่างเงียบ ๆ โดยใช้เวลาไม่นาน และท้ายสุดเขาก็พบตัวตนของฉัน

    วันแรกที่เราพบกันฝนก็โปรยสายเช่นนี้ เธอทักฉันด้วยประโยคที่ไม่เกี่ยวกับงานเลยสักนิดทั้ง ๆ ที่เธอเองก็กำลังซ่อมเครื่องจักรอยู่ และฉันกำลังโวยวายใส่ลูกน้องที่ไม่ได้ความ

    “แหวนสวยนะ”

    นั่นคือจุดเริ่มต้นแรกที่ทำให้เราได้คุยกัน และมันมากขึ้น ๆ ในทุกครั้งที่ได้เจอกันในสายงานที่ทำอยู่

    “เอาความรู้สึกมาเจอกันไหม”

    ประโยคเพียงประโยคเดียวของเธอ ทำให้เรื่องราวระหว่างเราเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม เหมือนคนสนิทคุ้นเคยกันมานาน เราเริ่มคุยกันมากขึ้น ยาวนานขึ้น แม้กระทั่งต่างคนต่างกลับบ้านก็ยังคงโทรุคยกัน สายความรู้สึกของกันและกันให้เติบโตไปทุกที ๆ

    แต่นั่นก็ไม่เกินขีดความสัมพันธ์ของเส้นความเป็นเพื่อน ที่ระหว่างเราไม่มีใครสามารถก้าวข้ามผ่านไปได้

    แต่ถึงจะข้ามผ่านไปไม่ได้ ถึงความรู้สึกมันจะเตลิดไปไกล และฉันก็ยังใช้หัวใจตัวเองวางเดิมพันกับความสัมพันธ์แบบเพื่อนโดยที่รู้ว่าไม่มีวันเดินไปได้จนสุดทางสายนี้ด้วยกัน

    สิ่งเดียวที่ขอก็คือวันเวลาที่ความรู้สึกดี ๆ ของเรามาเจอกัน นั่นก็เป็นเรื่องที่น่าพอใจแล้ว และฉันพอใจที่จะเดินไปด้วยกันแบบนั้น ด้วยความรู้สึกที่ฉันเป็นคนขีดเอาไว้โดยที่ทั้งฉันและเธอไม่สามารถจะก้าวผ่านเส้นนั้นมาได้ เพราะต่างคนต่างรู้ดีว่ามีบางสิ่งฉุดรั้งเราทั้งสองคนเอาไว้

    “ถ้าถนนที่เรากำลังเดินกันไปอย่างนี้ มันไม่มีปลายทางล่ะ”

    เธอเอ่ยถามขึ้นในวันหนึ่งซึ่งเราไปเที่ยวทะเลด้วยกัน ฉันจำได้ว่าตอบเธอไปว่า

    “มันก็อยู่ที่ว่าบนถนนนั้นมีนายอยู่ด้วยหรือเปล่า”

    “ถ้าเรากำลังเดินอยู่ด้วยกัน โดยที่รู้ว่า ถนนเส้นนี้ไม่มีปลายทางล่ะ”

    น้ำเสียงและแววตาจริงจังของเธอทำให้ฉันอดคิดมากตามไปด้วยไม่ได้ แต่ไหนๆ  ฉันก็ลงมาเดินบนถนนเส้นนี้แล้วหากจะเดินไปให้สุดทางคงไม่เป็นอะไร

    “ก็ ไหน ๆ ก็ลงเดินมาขนาดนี้แล้ว ยังไงก็ต้องลองเดินต่อไปให้สุดล่ะ ไม่ว่าปลายทางจะสิ้นสุดตรงไหนก็ตรงนั้น อยู่ที่นายนั่นแหละว่าจะเดินไปสุดทางด้วยกันหรือเปล่า เจ้าแมวยักษ์”

    ฉันจำคำตอบในวันนั้นได้ดี และจำแมวยักษ์ของฉันได้ดีเช่นกัน แม้ว่าฉันจะรู้ดีกว่า เรารักกันไม่ได้ แต่เราก็รักกันรักในแบบที่เราเป็น รักที่ไม่ต้องการอะไรมากกว่าการได้พบ ได้พูดคุย ได้ห่วงใย และรับฟังอีกฝ่ายในยามที่มีปัญหา

    ต่างคนก็ต่างรู้ดีกว่าไม่สามารถก้าวผ่านเส้นที่ขีดไว้เพียงเพื่อนสนิทได้...

    มันคงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ในขณะที่คนอื่นมองว่าชายหญิงที่สนิทกันนั้นจะเป็นเพียงเพื่อนกันเท่านั้น แต่สำหรับฉันกับเธอ มันเป็นแบบนั้น เราคงเป็นเพื่อนกัน เป็นเพื่อนที่พยายามจะไม่รักกันในแง่ของความสัมพันธ์ชายหญิง

    เพราะฉันรู้ดีอยู่แล้วว่าเธอมีใครบางคนอยู่แล้ว และเป็นคนที่เธอไม่สามารถตัดทิ้งได้ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใด ๆ ฉันไม่อยากทำร้ายใครคนนั้นของเธอด้วยความเห็นแก่ตัวของตัวเอง

    แต่เป็นเพราะเรารู้กันอยู่สองคนเท่านั้นว่าความจริงมันเป็นอย่างไร รู้กันสองคนเท่านั้นว่าต่างหักห้ามใจกันเพียงใดที่จะไม่รักกัน โดยไม่มีใครได้รู้ความจริงนี้

    ฉันน่าจะเดินจากเธอมาเสียตั้งแต่วันนั้นแล้ว หากไม่เป็นเพราะทิฐิที่ต้องการจะเดินไปบนถนนเส้นนั้นที่ไม่มีปลายทาง รู้ทั้งรู้ว่าเราจับมือเดินไปด้วยกันไม่ได้ แต่เพียงว่ามีเธอบนถนนเส้นนั้นไม่ว่าเธอจะจับมือกับใคร แค่เห็นเธออยู่บนถนนเส้นนั้นฉันก็จะเดินตามไปเงียบ ๆ คอยเป็นกำลังใจ และห่วงใยยามที่เธอหันกลับมา

    แต่มันคงเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว...เมื่อใครคนนั้นของเธอโทรศัพท์มาพร้อมกับน้ำเสียงสั่นสะท้าน หัวใจฉันราวกับถูกจับบีบมันปวดร้าวกับความจริงที่ได้ยิน

    ฉันไม่เคยคิดจะแย่งเธอมาเป็นของฉัน...

    ไม่มีวันที่จะข้ามเส้นที่ตัวเองเป็นคนขีดเอาไว้

    ระหว่างเราคือเพื่อนสนิทคนหนึ่ง...

    เป็นคนสองคนที่พยายามกันอย่างสุดใจที่จะไม่รักกัน...


    ทุกอย่างมันไม่ได้เป็นอย่างที่คิด โลกไม่ได้มีแค่เราสองคน บนถนนเส้นนั้นที่ฉันบอกว่าจะเดินไปจนสุดทางมีคนของเธอเดินอยู่ด้วย และใครคนนั้นไม่เคยเข้าใจสิ่งที่ฉันและเธอเป็น และฉันก็ไม่คิดว่าจะเล่าเรื่องที่คนของเธอโทรมาให้เธอฟังด้วย

    “ถ้าเรามาเจอกันก่อนหน้านี้ก็คงดีนะ”

    ประโยคนี้เธอเป็นคนพูดมันออกมา และฉันรู้ว่ามันคงถึงที่สุดของเธอแล้ว โลกไม่ได้ให้อะไรใครฟรี ๆ มันต้องแลกด้วยของบางสิ่งอยู่เสมอ เหมือนเรื่องของฉันกับเธอที่ไม่เคยลงตัว แววตาเธอในวันนั้นเตือนฉันว่าเธอกำลังก้าวผ่านเส้นที่ฉันขีดไว้เข้ามา

    “เจอกันตอนไหนก็เหมือนกัน”

    “ไม่เหมือน ถ้าแค่ ผมไม่ใช่คนที่พลาดในวันนั้น ก็คงไม่มีเค้าในวันนี้”

    ฉันเห็นความรักร่วงหล่นอยู่ในดวงตาของเขา แต่คำพูดที่ได้ยินทำให้ฉันรู้สึกว่าเธอเป็นคนเห็นแก่ตัว และนั่นเป็นเรื่องปกติของคนที่มีความรัก

    ความรักมักทำให้เรากลายเป็นคนพิการได้ชั่วคราว แถมบางครั้งยังทำให้เห็นแก่ตัวได้อย่างร้ายกาจ แต่มันใช้ไม่ได้สำหรับฉัน

    ถ้าไม่เป็นเพราะใครคนนั้นโทรมาร้องไห้ฟูมฟายในวันนั้น ถ้าไม่เป็นเพราะฉันดันไปเห็นเด็กหญิงตัวน้อยยิ้มร่าเมื่อพ่อของเธออุ้มเธอไว้ในอ้อมแขน ฉันก็อยากเป็นคนเห็นแก่ตัวเหมือนกัน แต่ฉันทำไม่ได้ ฉันเป็นคนขีดเส้นกั้นระหว่างเราไว้เอง และฉันจะไม่ก้าวล้ำเส้นนั้นเป็นอันขาด

    ถึงจะแอบคิดอยู่บ้างว่า เราเจอกันช้าไป แต่ก็รู้ดีว่าเธอไม่ใช่ของที่ฉันจะไขว่คว้ามาเป็นเจ้าของได้โดยไม่ต้องคิดอะไร ระหว่างเราสิ่งเดียวที่เป็นไปได้คือความเป็นเพื่อนเท่านั้น

    “เธอเห็นพูดเห็นแก่ตัว ไม่สงสารเค้าบ้างหรือไง เราเจอกันแบบนี้อยู่ในความสัมพันธ์อย่างนี้ก็ดีแล้ว อย่าก้าวกระโดดไปให้มากกว่านี้เลย เธอก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้”

    ต่างคนก็ต่างเงียบไปนานกับประโยคที่ฉันพูดออกไป

    “คนที่รักกันไม่จำเป็นจะต้องเป็นคน ๆ เดียวที่เราจะใช้ชีวิตร่วมกันก็ได้นะ”

    ฉันบอกเธอแบบนั้น แบบที่หัวใจฉันบอกตัวเอง ถึงจะขีดเส้นไว้แค่เพื่อน แต่หัวใจก็รู้ว่าความรักระหว่างเรามันเตลิดไปไกลว่านั้นมากนัก เพียงแต่ฉันควบคุมมันเอาไว้

    และก่อนที่เรื่องราวมันจะเลยเถิดไปไกลกว่านี้ และก่อนที่ฉันจะทำให้ใครคนนั้นของเธอเสียใจไปมากกว่านี้ ฉันควรเป็นคนยุติเรื่องราวต่าง ๆ ระหว่างเราลง แม้ว่ามันจะเดินไม่ได้สุดทางอย่างที่เคยพูดไว้ ฉันก็จะยอม  แล้วฉันก็จากมาเงียบ ๆ โดยไม่มีการร่ำลาหรือเหตุผลสำหรับการจากมาในครั้งนั้น

    เพราะหากไม่จากมาฉันกลัวว่าเรื่องของเธอกับใครคนนั้นอาจจะลุกลามใหญ่โต ฉันไม่อยากให้ทั้งเธอและใครคนนั้นปวดร้าวเพราะฉัน และเราสามคนต้องปวดร้าวไปด้วยกัน แต่ถ้าฉันเป็นคนจากมา คนที่ปวดร้าวก็คือฉันและเธอ เราสองคน แต่นั่นก็อาจทำให้ใครคนนั้นของเธอมีความสุข และไม่นานเธอก็จะลืม...

    น้ำฝนกับน้ำตาของฉันผสมกันจนไม่รู้ว่าสิ่งไหนคือน้ำสิ่งไหนคือน้ำตา แต่ที่รู้ ๆ ในบางครั้งฉันอดคิดถึงวันเวลาเก่า ๆ ที่จากมาไม่ได้

    “ยืนตากฝนทำไมน่ะ...”

    เสียงดุของใครบางคนทำให้ฉันหันกลับไปมอง และก็ทำให้รอยยิ้มแต้มขึ้นบนริมฝีปากเมื่อเห็นว่าใครคนนั้นทำหน้าดุ คว้าร่มเดินเข้ามากางให้

    “เดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก ไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะมายืนเล่นน้ำฝนอย่างนี้” เขาดุฉันอีกครั้ง

    “ไม่เป็นไรหรอกเย็นดี” ฉันเถียง แต่ก็ยอมเดินเข้าไปในบ้านหลังน้อยที่แสนอบอุ่นที่เราเป็นเจ้าของร่วมกัน

    ...เมี้ยวววววววว... เจ้าแมวพันทางตัวโตสีดำสลับขาวเดินเข้ามาคลอเคลียอยู่ที่ข้างขา

    “เจ้าแมวยักษ์ ไปไกล ๆ ก่อนแม่เจ้าเปียกเป็นแมวตกน้ำอย่างนี้เดี๋ยวก็พลอยเป็นหวัดไปด้วยอีกตัว” เสียงของเขาดุเจ้าแมวตัวใหญ่สีดำตัวนั้น แต่มันแหงนหน้าขึ้นมามองหน้าฉัน ร้องเมี้ยว ๆ แล้วเดินจากไป กระโดดขึ้นไปนอนร้องเมี้ยว ๆ อยู่บนโซฟาตัวโปรดของฉัน

    “ว่าจะถามหลายทีแล้วว่าทำไมไปตั้งชื่อเจ้าตัวนั้นว่าเจ้าแมวยักษ์”

    “ก็เพราะว่ามันเหมือนแมวตัวเก่าที่เลี้ยงนะซิ”

    ฉันตอบคำถามเขาไปแบบนั้น แต่จริง ๆ แล้วเจ้าแมวตัวนั้นไม่เหมือนแมวตัวเก่าของฉันเลยสักนิดเดียว แต่ฉันก็รักมันเสียเหลือเกิน

    (The end)

    แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 52 12:37:16

    จากคุณ : เปียร์รุส - [ 28 ก.พ. 52 12:22:03 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com