Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    เขียนให้แม่....มือของแม่... ปากของแม่...และ... หัวใจของแม่...

    แม่เคยบอกอย่างภูมิใจเสมอว่า
    " แม่น่ะจำวันเกิดของลูก ๆได้ทุกคน
    แต่ลูกมันคงจำวันเกิดแม่ไม่ได้หรอกมั้ง "
    ตอนนั้น ฉันฟังแล้วสะอึกในใจเลยนะ
    ว่า ขนาดแม่มีลูกหลายคน
    แม่ยังมีปัญญาจำวันเกิดของลูกทุกคนได้

    แต่ชั้น ดิ ร่ำเรียนมาก็ตั้งสูง จบเภสัชมา
    หยูกยาสารพัด จำได้ทุกตัว
    ยาอะไรใช้ทำอะไร ข้อห้าม อาการข้างเคียง
    ร้อยแปดพันประการทั้งหลายทั้งปวงนั้น ฉัน จำได้โม๊ด
    ทว่า...กะอีแค่วันเกิดของผู้หญิงคนเดียว
    ที่เบ่งฉันออกมา ฉันกลับจำไม่ได้

    ตั้งแต่วันที่ได้ยินแม่พูดประโยคนั้น
    ฉันก็เลยแอบไปดูในทะเบียนบ้าน
    แล้วก็จดจำวันเกิดแม่ไว้ในใจเงียบ ๆ มาโดยตลอด
    จากนั้น เมื่อ สบโอกาส ก็เลยนั่งเขียนเรื่องสั้น
    เตรียมไว้เป็นของขวัญวันเกิด ให้แม่
    ตอนนั้นยังเรียนอยู่ ปี 2 ยังไม่ได้ทำงาน ( ยังเกาะแม่กินอยู่ ) เลยมั้ง
    ไม่รู้จะเอาอะไรให้เป็นของขวัญวันเกิดกะแม่
    เพราะถ้าใช้เงินซื้อก็คงเป็นเงินที่แม่ส่งมาให้ นั่นแหล่ะ
    ซึ่งก็คงไม่น่าภูมิใจเอาซะเลยถ้าจะใช้วิธี อัฐยายซื้อขนมยายอย่างนั้น

    สุดท้ายก็ใช้เวลา 2 อาทิตย์มาคิดพล็อตเรื่อง
    เขียนเรื่องสั้นเป็นของขวัญวันเกิดให้แม่
    และพอถึง วันเกิดแม่ ในเดือนถัดมา
    ก็เอาไปโพสที่ ถนนนักเขียน ในเวบพันธุ์ทิพย์
    เพื่อเป็นของขวัญวันเกิดให้แม่...
    พร้อมกับ print ไปอ่านให้แม่ฟัง
    รู้สึกดีมาก ๆ ที่ได้เห็นรอยยิ้มของแม่
    ตอนที่ได้เรื่องสั้นนั้น เป็นของขวัญวันเกิด

    ตอนนี้ผ่านมาเกือบ 7 ปีได้แล้วมั้ง
    ถึงเรื่องสั้นเรื่องนั้นจะหายไปจากเวบที่เคยโพส
    แต่ก็ยังมีชาวบ้านชาวช่อง
    ช่วยเอาเรื่องนี้ไปโพสต่อให้เห็นบ้างประปราย ในเวบอื่น
    เวลาฉันนึกครึ้ม ๆ แล้วไปนั่ง search คำว่า มือของแม่ ใน google
    ก็มักจะเจอเรื่องที่เคยเขียนไว้เสมอ อย่างเช่น ที่

    http://www.larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/003323.htm

    แถม เวลาท่าน ๆทั้งหลาย เอางานเขียนของฉันไปโพส
    ก็เอาไปเฉพาะตัวเรื่อง อ่ะ
    ไม่ได้เอาที่มาของเรื่องที่ฉันเขียนไว้ไปโพสด้วย
    ผลก็คือ ฉันเลยโดนประณาม เสียยับ
    ด้วยข้อหา ชวนป๋วยฯไม่ปลื้ม อ่ะนะ เฮ้อ
    ซึ่ง พอได้อ่านข้อความที่ชาวบ้านโพสทิ้งไว้
    ก็อึ้ง นะ เพราะไม่คิดว่า หลายคน
    จะ อิน กับเรื่องที่ฉันแต่งขึ้นมา ได้ขนาดนี้


    และสำหรับ 12 สิงหา นี้ เป็นวันดี ๆ อีกวัน
    ที่ทำให้ฉันนึกถึงเรื่องสั้น ที่เคยแต่งไว้
    ...เรื่อง เขียนให้แม่ ... มือของแม่ ...
    เฮ้อ มันเป็นเวลาเนิ่นนานนักหนา แล้วที่ฉันเขียนเรื่องนั้น
    ซึ่ง ... มือของแม่ ...มันก็เป็น ผลงานชิ้นโบว์แดงของฉัน เชียวแหล่ะ
    เป็นงานเขียนที่ทำให้คนอ่าน อ่านแล้วน้ำตาซึมออกมาเลยทีเดียว
    หลาย ๆ คนถึงกับโพสข้อความชื่นชม เมื่ออ่านจบ
    ยังความภาคภูมิใจแก่ คนเขียนเป็นเอนกอนันต์ ^ - ^
    จนเกิดความฮึกเหิม ประมาณว่า
    แหม ๆ ขนาดชาวบ้านอ่านแล้วยังน้ำตาตก
    แสดงว่า สูข้าก็เขียนเก่ง เหมือนกันเว๊ย
    ( อย่างงี้ โนเบลก็อยู่แค่เอื้อมแหง๋ ๆ แหะ...แหะ...)

    แต่ระหว่างที่ ฉันกะลังตีปีกพั่บๆหน้าบานเป็นกะโล่ อยู่นั้น
    ใครคนหนึ่งกลับบอกฉันว่า
    เขาชอบเรื่อง สาวไร่แห้ว ( ที่อยู่ใน my blog )
    ที่ฉันเขียนมากกว่าเรื่องมือของแม่
    เพราะไอ้เจ้า เรื่องมือของแม่
    ที่ฉันบรรจงปั้นน้ำ(หมึก)เป็นตัว( หนังสือ )นี้
    ช่างขาดชีวิต ไร้เสน่ห์ เป็นงานของราชการ
    นิทานของพระ การบ้านของเด็กมัธยม

    หากมองว่าเป็นแบบฝึกหัดหนึ่งของฉัน
    นับว่าเป็น งานเขียนที่มีคุณค่าทีเดียว
    แต่ถ้าเป็นงานที่เขียนให้แม่ มันบอกว่า ฉัน สอบตก!?!
    แล้ว ก็ย้อนถามฉันว่า ตอนที่ฉันเขียนเรื่องนี้จบ
    ฉันมีความรู้สึกว่า ได้เขียนมันจนเสร็จแล้วจริง ๆ หรือ ?

    แถม ไอ้หมอนั่น มันยัง ( อุตส่าห์ )แนะนำสั่งสอนฉันฉอด ๆ อีกว่า
    ฉันน่าจะสร้างงานเขียนที่กินใจได้อย่างวิเศษ
    ถ้าฉันเปลี่ยนจากการพยามที่จะสรรหาถ้อยคำ
    มาทำให้คนอื่นสะเทือนใจ
    มาเป็นการผสมผสานเรื่องราว
    จากความประทับใจส่วนตัวจริง ๆ ของฉันกับรื่องที่แต่งขึ้น

    อุแหม่ ? ตอนนั้นฟังมันพูดแล้วก็ทั้งขำทั้งฉิวอ่ะนะ
    แต่ก็รู้สึกว่าถูกตีแสกหน้า ขึ้นมาตะหงิด ๆ ไงไม่รู้แฮะ
    ในขณะที่ รัวแป้นพิมพิ์ จิ้มดีด เรื่องสาวไร่แห้ว นั้น
    ฉันรู้สึกสนุกกับมันมากเพราะมันเหมือนการเม้าส์ชีวิตตัวเองให้ชาวบ้านฟัง
    ในมุมมองของตัวเองแบบที่ฉันมักจะทำเป็นประจำ
    ( ตั้งแต่สมัยอยู่ มน. ยัน มาทำงานที่ รพ. )
    แต่เรื่องมือของแม่ นี่ มันไม่ใช่อ่ะเขียนแล้วรู้สึกตื้อในหัวเลยล่ะ

    ตอนที่นั่งเขียนเรื่อง มือของแม่ ฉันรู้สึกอึดอัด นะ
    แม้ว่าฉันมักจะบอกกับคนที่รู้จักเสมอ
    ว่า ตัวละคร " ผม" ในเรื่องมือของแม่นั้น
    มันเขียนขึ้นมาจาก ตัวตนที่ซ่อนอยู่ลึก ๆในจิตใต้สำนึกของฉัน
    แต่การที่จะให้คนที่ชอบใช้ชีวิตแบบ ยิ้มแล้วขำกลิ้ง
    หัวเราะได้แม้กระทั่งตอนที่ร้องไห้ซิก ๆ อย่างฉัน
    มาเขียนอะไรที่มันรันทดอย่างนั้น มันก็มึนตึ้บ อยู่นานทีเดียว

    ยามที่เขียน เรื่องมือ ของแม่ ไป ก็สงสาร(ตัวเอง)ไป
    จนต้องบ่นไปเขียนไป ว่า
    ทำไมตูต้องมาเขียนเรื่องเศร้าเคล้าน้ำตา งี้ด้วยฟะ
    มันช่างไม่เหมาะกับ ตำแหน่งสาวซ่าส์ประจำไร่แห้ว อย่างตูเลยวุ้ย
    แล้ว ยายแม่ในเรื่องนั่นก็เหลือเกิน ช่างเป็นผู้หญิงที่ อาภัพเสียนี่กระไร
    โอ๊ย ยิ่งเขียนยิ่งหดหู่โว๊ย ! ทำไมชีวิตคนเป็นแม่ ( ในเรื่อง )มันช่างน่าเวทนานักวะ ฯลฯ
    แต่ก็ทู้ซี้กัดฟันเขียนจนจบทั้ง ๆ ที่รู้สึกตึง ๆ ในหัวนั่นแหล่ะ

    แถมเขียนไปบางครั้งก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะคิก (เหมือนคนพี้กัญชา )
    อย่างตอนที่ฉันเขียน ให้ ตัวละครแม่
    เป็นผู้หญิงเงียบ ๆ ชอบทำมากว่าพูดอ่ะนะ
    โธ่ ก็แม่ของฉัน ( ยัยแก้วดี ตัวจริงเสียงจริง ) น่ะ
    เป็นงั้นที่ไหนกันเล๊า
    เจ้าหล่อน เป็น ผู้หญิงขี้บ่นที่น่าเอ็นดู จะตายไป
    เรื่องคุยนี่ขอให้บอกเถอะ เจื้อยแจ้ว
    จนนกแก้วนกขุนทองยังอายเลยแหล่ะ ยัยแก้วดีน่ะ
    แล้วงี้ เวลา เขียนให้แม่ เรื่องมือของแม่
    จะไม่ให้ฉันรู้สึกคันคะเยอในหัวใจได้ไงล่ะ

    ก็ในเมื่อ หญิงชราผมสีดอกเลา
    ที่แสนเศร้า ในเรื่องนั่น ไม่ใช่แม่ฉันนี่หว่า
    แต่เป็นแค่ตัวละครตัวหนึ่ง ที่ถูกฉันสร้างขึ้นมาจากตัวหนังสือเท่านั้น
    อาจจะมีบ้างที่เก็บเล็กผสมน้อยจากประสบการณ์ที่เคยพบเจอ
    หรือ ที่เกิดขึ้นกับตัวเองมาใช้บรรยายเหตุการณ์ในเรื่อง
    งานเขียนที่ได้อาจทำให้คนอ่านสะเทือนอารมณ์ ซาบซึ้งจนน้ำตาซึม
    เแต่ มันก็ช่างขาดชีวิต ไร้เสน่ห์ ไม่ต่างอะไรกับงานของราชการ
    นิทานของพระ การบ้านของเด็กมัธยม
    แบบที่ไอ้เพื่อนนั่นมันวิจารณ์ จริง ๆ นั่นแหล่ะ

    เคยถามตัวเอง เหมือนกันนะ ว่า นี่ฉันเขียนอะไรให้แม่ กันแน่ (วะ )เนี่ย
    นี่มันไม่ใช่ภาพแม่ที่อยู่ในใจฉันเลย
    คำถามต่อมาก็คือ
    แล้วทำไม ฉันไม่เขียนถึงความรู้สึกดี ๆ
    ที่ฉันประทับใจในตัวแม่บ้างล่ะ
    ฉันไม่อยากเล่าเรื่องราวเหล่านี้ ให้ชาวบ้านฟังมั่งหรือ
    ถึงมันจะไม่ซาบซึ้ง สะเทือนซาง แบบ เรื่อง มือของแม่
    แต่มันก็เป็นการเขียนถึงตัวตนของแม่จริง ๆ
    แบบนี้แหล่ะถึงจะเรียกว่า " เขียนให้แม่" จริง ๆ

    เอาล่ะ งั้นวันนี้เป็นวันแม่ ฉันจะ "เขียนให้แม่" อีก ครั้ง
    จะเขียนเรื่องมือของแม่
    แล้วก็แถมเรื่อง ปากของแม่ ( และ หัวใจของแม่ ) ให้อ่านด้วย
    ลองอ่านดูนะ ^ 0 ^

    แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 52 17:01:57

     
     

    จากคุณ : นู๋บี - บัวเหล่าที่ 5 - [ 1 มี.ค. 52 16:46:41 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com