Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    เรื่องขำ ๆ ของคน 'สวย'

    ลินดา : คนมันสวยช่วยไม่ได้ (ย่ะ)
    ตอน แผงอกล่ำ ๆ ของฉันเถอะนะ
    โดย เชิญขวัญ

    สาวร่างผิวขาวร่างอวบหมุนตัวพลิ้วหน้ากระจก เสื้อส่ายเดี่ยวสีชมพูกอรปกับผมบ็อบสั้นหน้าม้าเต่อโทนสีแดงประกายทองที่ได้จากน้ำยาย้อมผมสั่งตรงจากปารีส ขับให้ผิวละเอียดยิ่งดูขาวชวนมอง ลินดาเผยอปาก หรี่ตาเล็กน้อยแต่พองามให้กับตัวเองในกระจก

    “นี่แหละนะที่เค้าว่ากันว่าชาติก่อนเคยทำบุญมาดี ชาตินี้ถึงได้สวยเลือกได้ จะมองมุมไหน ๆ ก็...สวย ”

    เธอคว้าเสื้อสูทราคาร่วมหมื่นที่พาดอยู่บนเก้าอี้ ชำเลืองตามองกระจกอีกครั้งขณะย่างก้าวออกจากห้องนอน สาวเจ้าเนื้อเปิดตู้ไม้ หยุดมองอย่างพินิจก่อนหยิบรองเท้าสีแดงเพลิงส้นสูงปรี๊ดออกมาวางไว้ ลินดานั่งลงบนเก้าอี้นวมหน้าตู้รองเท้าบรรจงสอดกีบ เอ้ย! เท้าอวบอั๋นผ่านเส้นหนังไขว้สีแดงอย่างทะนุถนอม เป๊าะ! เสียงอะไรบางอย่างดังขึ้นทันทีที่เธอทรงตัวยืนขึ้น

    “ปัดโธ่เว้ย! ไอ้รองเท้าเฮงซวย!”
    ตะโกนขึ้นสุดเสียด้วยความโกรธ

    “ซื้อของถูกทีไรเป็นได้เรื่อง ใส่แค่ทีสองทีก็เจ๊งซะแล้ว”
    พลางสลัดเท้าเพื่อให้เกือกราคาสามพันเก้าร้อยเก้าสิบบาทหลุดออกจากเท้าของเธอ แล้วเปิดตู้ไม้หยิบรองเท้าส้นเตี้ยสีแดงแบบที่เรียกกันว่าคัตชูมาสวมแทน ก่อนเดินสะบัดก้นลงส้นเท้าเหมือนช้างตกมันออกจากห้องชุดสุดหรูไป เพียงไม่ถึงสองนาทีเจ้าหล่อนก็ต้องเดินกลับมาใหม่...เพื่อล็อกประตูห้อง

    ลินดามาถึงที่ทำงานตอนเกือบ ๆ เก้าโมงเช้า มองกองเอกสารที่เรียงเป็นตับบนโต๊ะทำงานก่อนนึกสาปแช่งเจ้านายในใจ นี่ถ้าไม่เป็นเพราะตัวเลขสูงดึงดูดใจในสภาวะเศรษฐกิจทรุดเช่นนี้ คนอย่างลินดาไม่มีวันมาทำงานเป็นเลขรับใช้เจ้านายแบบคุณคชาธารนี่เด็ดขาด ยังไม่ทันหย่อนบั้นท้ายดินระเบิดลงบนเก้าอี้ โทรศัพท์ที่มุมโต๊ะก็ดังขึ้ง กริ๊ง... กริ๊ง...กริ๊ง...

    “สวัสดีค่ะ ลินซี่พูดสาย วันนี้นายเข้าบ่ายค่ะ”
    ตัดสายก่อนที่จะได้ยินเสียงของคู่สนทนา

    กริ๊ง...กริ๊ง...กริ๊ง...
    “สวัสดีค่ะ ลินซี่พูดสาย วันนี้นายเข้าบ่ายค่ะ”
    ตัดสายก่อนที่จะได้ยินเสียงของคู่สนทนา พร้อมทั้งหยิบถุงมันฝรั่งทอดกรอบในลิ้นชักขึ้นมาฉีก แล้วเอามือเปิบกินอย่างสำราญใจ เพียงเสี้ยวนาทีเสียงริงโทนโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น เจ้าหล่อนรับสายทั้งที่ปากยังเคี้ยวตุ้ย ๆ

    “ฮัลโล้ (โทนเสียงสูง พยายามใส่สำเนียงฝรั่ง)”

    “นี่คุณลิน ผมบอกคุณกี่ครั้งแล้วว่าเวลารับโทรศัพท์หัดให้อีกฝ่ายเค้าพูดก่อน ไม่ใช่พูด ๆ เสร็จก็ตัดสายแบบเมื่อกี้”
    “อ้าว เมื่อกี้คุณคชาธารโทรมาที่โต๊ะลินเหรอคะ ต๊ายยยตายจริง ลินต้องขอโทษด้วยค่ะ พอดีลินติดสายคุณฉวีน่ะค่ะ”

    “เอาล่ะ ๆ ผมไม่ได้โทรมาฟังคุณแก้ตัว ผมจะบอกว่าวันนี้ผมไม่เข้านะ ยังไงช่วยจัดการเรื่องขอวีซ่าประเทศอุกานด้าให้ผมด้วยแล้วกัน อ่อ...แล้วก็อย่าลืมทำเรื่องยืนยันการสัมมนาให้ผมด้วยนะ ถ้าเป็นไปได้ช่วงบ่ายโทรกลับมารายงานผมด้วย...ฯลฯ”

    “ค่ะ...ค่ะ...ได้ค่ะ...ทราบค่ะ...ค่ะ...สวัสดีค่ะ”

    ลินดาวางสายพร้อมทั้งถอนใจเฮือกใหญ่ ทำไมมันไม่เหมือนในทีวีนะ ที่เจ้านายหล่อล่ำแอบมากุ๊กกิ๊กกับเลขาสาวสวย นี่อะไร...แค่นึกถึงหน้ากลม ๆ ตาหยี ๆ ขาสั้น ๆ และลำตัวอ้วนกลมของตาคชาธารก็อยากจะอาเจียน ถ้ามีเจ้านายหล่อ ๆ ก็คงจะทำให้วันที่น่าเบื่อของเธอมีสีสันขึ้นบ้าง

    ..........................................................................................................................................................................................


    มีคนกล่าวว่า ผู้หญิงทำให้โลกสวยงาม นั่นคงเป็นความคิดของผู้ชายเกือบทั้งโลก (เว้นบางส่วนที่เป็นชายเพียงเรือนร่าง) ในขณะเดียวกันโลกของผู้หญิงก็คงแห้งแล้งเหี่ยวเฉาหากไม่มีบุรุษเพศมาช่วยในการเจริญพันธุ์ของมวลมนุษยชาติ ลินดาก็เป็นคนหนึ่งที่อยากมีใครซักคนที่พร้อมมอบแผงอกล่ำ ๆ ให้เธอซบ กับไหล่อุ่น ๆ ให้พักพิงยามอ่อนล้า จะว่าไปเธอก็ผ่านมาแล้ว 29 ฝน และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีแม้แต่เงาของชายที่เธอรอคอย อันที่จริงในชีวิตของเธอได้รู้จักผู้ชายแค่สามคน คุณพ่อ คุณปู่ และคุณคชาธาร เจ้านายของเธอ ก๊อก ก๊อก... เสียเคาะประตูปลุกให้สาวร่างอวบตื่นจากภวังค์ มือสั่นระริกเลื่อนเมาส์ปิดรูป แบรด พิท เปลือยอกบนหน้าจอคอมพิวเตอร์

    “เชิญค่ะ”

    “เอ่อ...โทษทีครับ พี่ลินรึป่าวครับ พอดีพี่ตุ๊กให้ผมเอาเอกสารมาฝากให้นายเซ็นน่ะครับ”

    ลินดาอ้าปากค้างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง ภาพหนุ่มหล่อที่เห็นอยู่ตรงหน้า หน้าตาละม้ายคล้ายพี่เคน ธีรเดช เวอร์ชั่นมีดั้ง หุ่นสูงล่ำเหมือน คิม จอง กุก ผสมพี่เรน เจ้าหล่อนพยายามรวบรวมสมาธิ ปรับสีหน้าให้เรียบเฉยพร้อมทั้งเชิดหน้าจิกปากเล็กน้อยเพื่อรักษามาดเลขาท่านประธานใหญ่

    “เอามาฝากพี่ไว้ก่อนละกันเพราะวันนี้นายไม่เข้า ว่าแต่เราน่ะมาใหม่หรอ ไม่เคยเห็นหน้าเลย...”

    กรี๊ด กรี๊ด กรี๊ด ควายป่าตกมันวิ่งพล่านอยู่ในอก คนบ้าอะไรน่ารักน่าหยิกนัก ลินดาเรียบ ๆ เคียง ๆ ถามหนุ่มหน้าใหม่ได้ความว่าชื่อ ธี อยู่แผนกบัญชี มาทำงานได้สองเดือนแล้ว ให้ตายสิทำไมไม่เคยเห็นมาก่อนนะ รึนี่จะเป็นพรหมลิขิตที่ฟ้าประทานหนุ่มหล่อล่ำคนนี้มาให้สาวสวยอย่างเธอ อย่างนี้ค่อยมีกำลังใจทำงานขึ้นมาหน่อย

    หลังจากวันนั้นลินดากับธีก็เริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น เพราะธีต้องนำงานมาให้นายเซ็นอยู่เรื่อย ๆ ทั้งสองไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยครั้งจนเพื่อนสาวของเธอต้องเอ่ยถาม

    “นี่แม่ลินซี่ ฉันถามแกจริง ๆ เถอะ นี่อีตาธีรูปหล่อนั่นมาจีบแกจริง ๆ น่ะหรอ”
    โอ๋ สาวผมยาวนัยน์ตาคมจ้องเขม็งเพื่อเค้นคำตอบจากเพื่อนสาว

    “แล้วมันจะแปลกตรงไหนล่ะฮึ ในเมื่อคนสวยอย่างฉันมันก็ต้องมีหนุ่ม ๆ มารุมล้อมเป็นธรรมดา...ฉอด...ฉอด...”
    ลินดาจีบปากจีบคอตอบ บรรยายสรรพคุณความสวยของตนอย่างไม่อายฟ้าดิน เพื่อนสาวได้แต่นั่งฟังส่ายหน้าอย่างเอือมระอา นี่ถ้าไม่ได้รู้จักมักจี่กับแม่สาวคนนี้มาตั้งแต่สมัยอนุบาล เธอคงเอาน้ำร้อนสาดให้สาวร่างช้างหยุดพูดไปนานแล้ว แต่เป็นเพราะทั้งสองเป็นเพื่อนรักกัน เรียนด้วยกัน โตมาด้วยกัน ซ้ำยังทำงานที่เดียวกัน เธอจึงรู้ดีว่าแม้ดูภายนอกแล้วลินดาเป็นสาวยุคใหม่ที่มีความมั่นใจในตัวเองสูงจนอาจดูหยิ่งยโส แต่เนื้อแท้ของเธอเป็นคนดีมีน้ำใจ ซึ่งหายากมากในสังคมไทยปัจจุบัน

    “แต่ฉันรู้สึกว่ามันแปลก ๆ ยังไงไม่รู้ ยังไงแกก็ระวังตัวหน่อยละกัน”

    “นี่ยายโอ๋ แกอิจฉาฉันล่ะสิ ฉันรู้นะว่าแกก็เล็งน้องธีอยู่เหมือนกัน...แต่ขอโทษนะเพื่อนรัก (ยืดคอสูง หลบตาลงต่ำ แววตาสำนึกผิด) แกอยากจะว่าฉันเป็นนางแมวยั่วสวาทก็ได้ ที่ความสวยเซ็กซี่ของฉันมันทำให้แกต้องอกหัก...”

    พูดมาถึงตอนนี้โอ๋ก็เดินฉับ ๆ ไปไกลแล้ว เพราะหากเธอนั่งฟังเพื่อนสาวจนจบ อาจต้องมีการสำรอกผัดขี้เมามื้อกลางวันออกมาเป็นแน่

    ..........................................................................................................................................................................................

    ถุงน้ำเต้าหู้ที่เย็นชืดยังคงนอนแอ้งแม้งอยู่บนโต๊ะทำงานรก ๆ ของสาวมั่นอย่างลินดา ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงรีบกรอกน้ำนมถั่วเหลืองลงคอโดยไม่รีรอ หล่อนเหลือบตามองปาท่องโก๋เหี่ยว ๆ น้ำมันเยิ้มในถุงหิ้วพลาสติกใสที่แขวนอยู่ที่ลิ้นชักอย่างหมดอะไรตายอยาก ในหัวทบทวนแต่เรื่องราวหวานซึ้งของเธอและเค้า...เค้าคนนั้น...เทพบุตรรูปงามที่ฟ้าประทานมาให้ ยังไม่ทันได้เชยชมก็ดันตกไปอยู่ในน้ำมือของหญิงอื่น เธอคงไม่รู้สึกเศร้าแบบนี้หากหญิงผู้โชคดีคนนั้นไม่ใช่ยายโอ๋ เพื่อนรักของเธอ

    เมื่ออาทิตย์ก่อนนี้เองที่เพื่อนสาวนางนี้มัวแต่เดินแทะเม็ดก๋วยจี๊อย่างเพลิดเพลิน ไม่ได้มองทางข้างหน้าที่คนงานกำลังขุดฝังท่อกันอยู่ แม่เจ้าประคุณจึงก้าวพลาดหล่นผลุงลงท่อไป รถร่มกตัญญูและปอเต็กตึ๊งเปิดสัญญาณหวอกันเกรียวกราว คิดว่าเธอคงได้ไปนั่งสวยเฝ้ายมทูตที่ยมโลกซะแล้ว แต่บุญยังมีก็เลยแค่กระดูกข้อเท้าหัก เธอจึงต้องลางานไปหลายวันเลยทีเดียว แต่เพียงแค่ยายโอ๋ไม่ได้มาทำงานแค่วันเดียว น้องธีถึงกับแสดงความกระวนกระวายอย่างเห็นได้ชัด

    “พี่ลิน ผมอยากจะไปเยี่ยมคุณโอ๋ซักหน่อย พี่ลินไปเป็นเพื่อนผมหน่อยนะ”
    เด็กหนุ่มกระเซ้าเว้าวอน

    “พี่เพิ่งไปเยี่ยมมันเมื่อวานนี้เอง ไม่เป็นอะไรมากหรอก เดี๋ยวเราค่อยไปเยี่ยมมันวันศุกร์ก็ได้”

    “โห รอตั้งวันศุกร์ ผมได้ขาดใจตายปะไร แค่ไม่เจอวันเดียวผมก็คิดถึงจะแย่แล้ว”

    ลินดาหูกระดิกหันขวับมองค้อนเด็กหนุ่มทันที ดูเผิน ๆ เหมือนวัวกระทิงเห็นผ้าแดงของมาธาดอร์ ยกมืออวบอูมทรงกีบหมูฟาดลงบนโต๊ะอย่างไม่กลัวเจ็บ ปัง!

    “น้องธีหมายความว่ายังไงคะ คิดถงคิดถึงอะไร...ไหนอธิบายให้เคลียร์หน่อย”

    “พี่ลินทำไมต้องเสียงดังด้วย...คืองี้...ผมน่ะแอบมองคุณโอ๋มาตั้งนานแล้ว เห็นว่าเค้าเป็นเพื่อนสนิทพี่ลินก็เลยอยากจะให้พี่ลินช่วยหน่อยน่ะครับ”

    สาวผมบ็อบปากสั่นระริกหลังจากได้ฟังคำตอบที่ไม่พึงปรารถนา ไม่นึกไม่ฝันว่าจะถูกหนุ่มหน้ามนคนซื่อหักอกซะได้ จะว่าไปเธอเองก็ควรเอะใจมาตั้งนานแล้ว น้ำเต้าหู้ที่น้องธีซื้อให้เธอมีแต่สาคู ในขณะที่ของยายโอ๋มีทั้งถั่วแดงและลูกเดือย ตอนพักกลางวันน้องธีมักซื้อโอเลี้ยงหน้าตึกมาฝากเธอเป็นประจำ แต่ของยายโอ๋กลับเป็นกาแฟแมลงดาว (สตาร์บัค คอฟฟี่) แก้วละเกือบสองร้อย วันวาเลนไทน์ยายโอ๋ได้ดอกกุหลาบแดงหอบเบ้อเร่อ ทีหล่อนกลับได้เพียงพวงมาลัยดอกดาวเรืองจากเค้าคนนั้น

    ..........................................................................................................................................................................................

    ผ่านไปได้สองอาทิตย์แล้วหลังจากที่น้องธีและยายโอ๋เปิดตัวว่าทั้งสองคบหาดูใจกันอย่างเป็นทางการ หากเป็นคนทั่วไปคงต้องนอนซมหยอดน้ำใบบัวบกแก้หัวใจช้ำไปแล้ว แต่แน่นอนว่าเหตุการณ์แบบนั้นไม่มีวันเกิดขึ้นกับลินดา สาวมั่นแห่งสหัสวรรษอย่างแน่นอน

    “ฉันไปหลงรักมันตอนไหนเนี่ยฮึ!”
    ลินดาบ่นกับตัวเองอย่างหัวเสียขณะมองดูรูปถ่ายอดีตน้องธีของเธอ

    “ดีนะเนี่ยที่ถอนตัวทัน คนอะไรคิ้วสองข้างก็ไม่เท่ากัน ดูซิเนี่ย ขนจมูกแล่บออกมายังไม่รู้จักเล็ม แล้วดูซิใส่เสื้อเชิ้ตดันปล่อยให้จั๊กกะแร้เปียชุ่มเป็นวงเชียว อี๋! หยะแหยง”

    คุณ ๆ ผู้อ่านคงเคยได้ยินนิทานอีสปเรื่องสุนัขจิ้งจอกกับองุ่นเปรี้ยวมาบ้าง ตอนนี้ถ้าจะเปรียบลินดาก็คงเหมือนช้างป่ากับอ้อยฝาด แต่อย่างน้อยเธอก็เลือกที่จะหาเหตุผลมาทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้นโดยไม่บั่นทอนความมั่นใจของเธอแม้แต่น้อย อันที่จริงดูเหมือนว่าจะเพิ่มความมั่นใจให้กับเธอด้วยซ้ำไป...

    “ขืนคนอย่างฉันได้อีตาธีมาเป็นแฟน หนุ่ม ๆ ในออฟฟิศขี้คร้านจะฆ่าตัวตายกันยกบริษัท เฮ้อออ...เกิดมาเป็นคนสวยนี่ก็ลำบากนะ จะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนก็ไม่ได้ เรียกง่าย ๆ ว่าต้องเป็นอาหารตาให้กับประชาชน” ว่าพลางปล่อยรูปถ่ายลงไปนอนที่ก้นถังขยะ

    จากคุณ : เชิญขวัญ - [ 2 มี.ค. 52 19:10:18 A:202.176.157.106 X: TicketID:171208 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com