Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    ร้อยเหตุผล (คนจะโสด)3

    ร้อยเหตุผล (คนจะโสด) 3

    วันเสาร์เสียที วันนี้จะได้ไปรับรถแล้ว
    ฉันโทร.หาน้องชายจะให้พาไปอู่ แต่พ่อตัวดีบอกว่าตอนนี้อยู่ต่างจังหวัดพาลูกพาเมียไปเที่ยว ออกมาตั้งแต่เช้ามืดแล้ว ดูเอาเถอะ จะพึ่งพาไม่ได้เลย ไม่เป็นไรเดี๋ยวนั่งรถเมล์ไปก็ได้
    ..
    ..
    “ คุณนายจ๋า เช้านี้มีอะไรให้กินจ๊ะ ”
    เสียงของฉันดังไปก่อนตัว ก่อนเดินลงบันไดมาถึงชั้นล่าง และ…พบว่า
    “ พ่อโต ” ของคุณนายนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ในห้องนั่งเล่น ลดหนังสือพิมพ์ลงมองหน้าฉันและอุปทานหรือเปล่าฉันเห็นรอยยิ้มในแววตาของเขา ทำเอาอึ้งไปเลยฉัน ก่อนจะยกมือไหว้และผลุบหายไปในครัว

    “ พี่เขามารอตั้งแต่เช้า บอกว่าวันนี้จะพาไปรับรถ แม่ว่าจะขึ้นไปตามแต่พ่อโตเขาห้ามบอกว่าวันนี้เขาว่าง ไม่รีบอะไร เอ้า..นี่ข้าวต้มกุ้งยกไปทานโต๊ะหน้าบ้านไป๊ ”

    “ ทำเนียนเหมือนบ้านตัวเองเลยนะนั่น ไม่ย้ายเข้ามาอยู่เลยล่ะ ” ฉันพูดประชดโดยลืมคิดถึงความหมายนั่น
    “ จริงหรือเปล่ายัยข้าว แม่จะได้ไปบอกคุณนุชกับคุณพงษ์ ” คุณนายว่าอย่างนั้นทำให้ฉันหยุดคิดและมองหน้าคุณนาย

    “ ประชดน่ะคุณนาย ประชด ”
    ตอบเสร็จก็ยกข้าวต้มกุ้งสองชามออกไปข้างนอก พ่อโตก็เหมือนจะรู้ว่า “ อาหารของฉันมาแล้ว ” วางหนังสือพิมพ์ลุกขึ้นมาจะช่วยรับ ฉันเบี่ยงตัวยกถาดหลบ
    “ ไม่เป็นไร ขอบคุณค่ะ ไม่หนัก ”
    แล้วฉันก็เดินไปชงกาแฟสองถ้วยสำหรับเขาและตัวเองยกไปโต๊ะนั่งเล่นหน้าบ้าน
    “คุณนายทานหรือยัง ”
    “ แม่กับพ่อยังไม่หิว ทานกันเถอะ ” แล้วคุณนายก็เตรียมข้าวของอะไรของท่านต่อ เห็นบอกว่าเดี๋ยวจะไปทำบุญที่วัดกัน คุณพ่อคุณแม่ของพี่โตจะมารับ ฉันเลยต้องออกไปนั่งทานอาหารเช้ากับเขา เหมือนสี่ห้าวันที่ผ่านมา

    เรามักนั่งทานอาหารเช้าด้วยกันเงียบๆ สองสามวันหลังฉันไม่ค่อยจะเกร็งอะไรแล้ว รู้ว่าฝืนไปก็เมื่อยเปล่ายังไงซะเขาก็มารับมาส่งอยู่ดี ยอมๆไปเถอะ หลังจากทานข้าวด้วยกันเมื่อเย็นวานฉันก็รู้สึกว่าพ่อโตของคุณนายไม่ได้หน้าตาย ใส่หน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่กับฉัน เอ..หรือว่าจริงๆแล้วฉันไม่เคยสังเกตเห็นเองนะ

    “ ความจริงวันนี้ข้าวไปรับรถเองก็ได้ ไม่เห็นต้องลำบากพาไปเลย ” เจ้าของบ้านที่ดีควรมีมารยาทชวนแขกคุยสินะ
    “ พี่ไม่ได้ลำบากอะไร อีกอย่างจะได้แวะไปคุยกับเพื่อนด้วย และอู่เจ้าศักดิ์ต้องนั่งรถเมล์หลายต่อ ไปเองไม่สะดวกหรอก ” เขาวางแก้วกาแฟลงมองหน้าฉัน ขณะพูด มีบางอย่างอยู่ในแววตานั่น ฉันเห็นเพียงชั่วกระพริบตาก็จางหาย ทำให้ไม่แน่ใจคืออะไรกันแน่
    ..
    ..
    ..
    “งานยุ่งเหรอครับ ”
    “ คะ ”
    “ ผมโทร.บอกนายโตตั้งแต่วันพุธว่ารถซ่อมเสร็จแล้ว นายโตบอกว่างานยุ่งๆ เลยขอมารับรถวันเสาร์ เดี๋ยวผมไปเอากุญแจรถก่อนนะครับ ”
    หมายความว่าไง ? เสร็จตั้งแต่วันพุธแต่ทำเฉยไม่บอก และยังไปเทียวรับส่งฉันอีก อีตาพี่โตนี่เห็นแก่อาหารเช้าฝีมือคุณนายจริงๆ เอ….ตกลงฉันเคืองเพราะเขาไม่บอก เคืองเพราะเขาเทียวรับส่ง หรือเคืองเพราะหวงอาหารเช้ากับแน่ ฉันมองหน้าคนที่ยืนอยู่ข้างๆ คนตัวโตไม่หลบสายตา ไหนจะอะไรวิบวับหลังดวงตานั่นอีก เออนะ.. ดวงตาคนเรานี่พูดได้ด้วย คราวนี้มันพูดอะไรสักอย่างที่ทำให้ฉันจ้องนานไม่ได้ ต้องหลบสายตา แอบหน้าแดงแน่ๆเลย เพราะอากาศร้อนหรอกน่า ฉันปลอบใจตัวเอง อยู่มาจนเป็นป้าแล้วยังจะหน้าแดงอีกข้าวเอ๊ยข้าว

    ฉันหลบสายตาทำเป็นมองดูรอบอู่ ทั้งที่ไม่เห็นมีอะไรน่าดู มีแต่รถบุบๆบี้ๆ ไม่รู้สิยังไงก็ดีกว่าดูหน้าอีตาพี่โตนั่น

    โอ๊ย…ทำไมรู้สึกเหมือนใจสั่น รำคาญความรู้สึกนี้จริงๆเชียว

    “ แล้วค่อยคุยกัน อย่าเพิ่งโมโห โกรธคือโง่โมโหคือบ้านะ เคยได้ยินรึเปล่า ”

    ฉันหันขวับไปมองหน้าเขาใหม่คราวนี้ชักจะกรุ่นโกรธขึ้นมาจริงๆ เฮอะ!
    แต่เขากลับหัวเราะเบาๆ ก่อนเดินตามคุณศักดิ์เข้าไปในออฟฟิศ เอ..กินอะไรผิดหรือเปล่าพ่อโตนี่สองสามวันมานี่ถึงได้อารมณ์ดี เดี๋ยวยิ้ม เดี๋ยวหัวเราะ คุณนายใส่อะไรลงไปในข้าวต้มหรือเปล่าเนี่ย!
    ....
    ….
    กว่าจะออกจากอู่ก็เกือบเที่ยงรอเขาคุยกับเพื่อนก่อน จะออกมาก่อนก็ดูไม่ค่อยดีเลยต้องรอออกมาพร้อมกัน
    “ เดี๋ยวเจอกันที่ร้านอุ่นอิ่มนะ พี่มีเรื่องจะคุยด้วย ”
    คำสั่งใช่มั้ยนั่น..ขยันออกคำสั่งจริง คนอะไร
    ว่าจะไม่ไปแล้วเชียว แต่ส่องกระจกหลังก็เห็นรถเขาขับตามมาไม่ห่าง เลยต้องแวะไปร้านอุ่นอิ่มตามบัญชาท่าน

    เจ้าของร้านสาวยิ้มและเดินมาหา “ วันนี้มาได้ ”
    “ ฮื่อ..เด็กไม่อยู่ พ่อแม่เพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่ามีลูก เลยทำหน้าที่เสียหน่อย ”
    ฉันหมายถึงน้องชายที่มักพาลูกมาที่บ้านช่วงวันหยุดและปล่อยให้ฉันทำหน้าที่พี่เลี้ยงเด็ก และแม่หลานสาวก็เป็นใจติดคุณป้าแจ ครอบครัวของน้องชายจะอยู่ไม่ไกลนักคนละหมู่บ้าน บางทีน้องสาวอีกคนที่อยู่ต่างอำเภอไม่ไกลมากนักก็จะพาลูกมาที่บ้าน นั่นน่ะมีลูกสองคนชายหนึ่งหญิงหนึ่ง ถ้ามาครบเซตเสียงดังลั่นบ้าน

    คุณแม่แต่งงานตั้งแต่อายุยังไม่มาก พอพบคุณพ่อคบกันไม่กี่ปีก็แต่ง
    ไวไฟเหมือนกันนะคุณนายเนี่ย ! แต่งปุ๊บมีลูกปั๊บ แถมมีปีเว้นปี น้องชายน้องสาวของฉันได้เชื้อพ่อแม่มาเต็มพิกัด “ยีนเด่น ” แม่ว่างั้น
    เรียนจบทำงานไม่เท่าไหร่ก็แต่งงาน แต่ปุ๊บมีลูกปั๊บหัวปีท้ายปี สองคนนั่นบอกว่า “ เดี๋ยวมีลูกไม่ทันใช้ ”

    ส่วนฉันไม่รู้ไปได้เชื้อหวงชีวิตโสดมาจากใคร แม่บอกว่าผ่าเหล่าผ่ากอ ทั้งที่เป็นพี่คนโต แต่ดันค้างเติ่งอยู่บนคานซะนี่ เป็น “ ยีนด้อย ” ซะงั้น แต่คุณพ่อบอกว่าน่าจะเหมือนอาเพราะ “อาสาว” ของฉัน น้องสาวคนเล็กของคุณพ่อ ยังคง “สาว” อยู่ แม้เวลาจะล่วงเลยมาหลายปีเท่าอายุหลาน

    …
    ฉันเดินไปนั่งโต๊ะสีขาวที่มุมร้าน มองผ่านกระจกไปหน้าร้าน “พี่โต” จอดรถหลังรถฉัน ยังไม่เข้ามา เขากำลังคุยโทรศัพท์ ฉันนั่งเอามือเท้าคางมองดูเขาที่กำลังคุยไปยิ้มไป เวลาที่ยิ้มก็ดูดีเหมือนกันนะอีตาพี่โตนี่ จริงๆแล้วเขาเป็นคนยังไงนะ เห็นยิ้มหัวกับใครๆได้ง่าย แต่กับฉันทำไมถึงได้ยิ้มยากนัก ถ้ามีรอยยิ้มให้อย่างนี้ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมาฉันคงรู้สึกดีไม่น้อย แล้วฉับพลันฉันก็ให้รู้สึกแปลกใจระคนตกใจกับความรู้สึกของตัวเอง เผลอถอนหายใจ อย่าลืมสิยัยข้าวจำไม่ได้หรือไง ที่นี่ไงที่เจอ“พี่โต”กับสาวสวยน่ารักนั่น เผลอรู้สึกอะไรไป น่ากลัวจริงๆความรู้สึกที่ผ่านเข้ามาเพียงแวปนั่น

    ฉันมองออกไปที่หน้าร้านอีกครั้งไม่เห็นพี่โตแล้ว
    “ กลุ้มใจอะไรนักหนา ” เสียงทุ้มดังขึ้นข้างๆ ทำเอาสะดุ้ง นี่ฉันเผลอใจลอยไปถึงไหน
    แถมยังถอนหายใจด้วยเหรอนี่
    เขาเลื่อนเก้าอี้นั่งลงข้างๆ
    เจ้าของร้านนำเมนูมาให้ ก่อนเดินกลับไปรอที่ประจำหลังเคาน์เตอร์บาร์ ทิ้งรอยยิ้มล้อเลียนใส่ตาฉัน และนั่นทำให้ฉันมองตอบส่งภาษาผ่านสายตา “ไม่ใช่อย่างที่เธอคิด” เพื่อนฉันส่ายหน้ายิ้มกว้างขึ้น
    หลังเลือกเมนูเค้กและกาแฟได้ เราก็นั่งรอ
    “ อยากถามอะไรพี่มั้ย ”
    “ ตอนแรกอยากถามแต่ตอนนี้ไม่แล้ว ”
    “ แต่พี่อยากบอก อยากฟังมั้ย ”

    ฉันมองหน้าเขา ไม่สิมองที่ตา ใครนะบอกว่าดวงตาเป็นภาษาของดวงใจ
    ฉันมองเห็นตัวหนังสือมากมาย ได้ยินภาษาที่ไม่ได้เปล่งออกจากปาก
    น่าตกใจ ใช่ … น่าตกใจ เป็นไปได้ถึงเพียงนี้

    “ จะลองคบกับพี่ได้มั้ย ” ประโยคสั้นๆ น้ำคำเรียบง่าย สายตานั่น
    “เป็นลุงเป็นป้ากันแล้ว ข้าวคงไม่ชอบให้พี่อ้อมโลกก่อนวกเข้าเรื่องหรอกมั้ง พูดตรงๆอย่างนี้น่าจะดีกว่า ”
    ฉัน… เจออย่างนี้ใบ้กินอีกแล้ว เฮ้อ!ช่วงสองสามวันมานี่ พี่โตทำเอาฉันพูดไม่ออกสองสามครั้งแล้ว ยังไม่ทันได้ตอบรับหรือปฏิเสธ พี่โตก็พูดต่อ

    “ ข้าวคิดว่าการที่พี่มาเทียวรับเทียวส่งข้าว เป็นเพราะพ่อกับแม่สั่งอย่างนั้นจริงๆเหรอ อย่างพี่นี่ข้าวคิดว่ายังจะมีใครกล้าสั่งหรือเปล่า ”
    ฉันเผลอพยักหน้าเห็นด้วย ใช่ๆอย่างพี่โตนี่มีแต่สั่งคนอื่นนั่นแหละ เฮ้ย!นี่ฉันคล้อยตามเขาได้ไง

    พี่โตยิ้มนิดๆ ก่อนพูดต่อ “ ไหนจะรถนั่นอีก ความจริงพี่ก็ไม่ได้ยุ่งอะไร พาข้าวไปรับตั้งแต่วันพุธก็ได้ แต่พี่ไม่อยากไปเอง ต้องให้บอกมั้ยทำไม ”

    ฉันนิ่งคิด มองหน้าพี่โต แล้วรีบส่ายหน้า ก็คำตอบที่ฉายออกจากดวงตานั่นชัดยิ่งกว่าอะไร
    “ ขอบคุณอุบัติเหตุนั่นที่ทำให้พี่เข้าใกล้น้องข้าวได้ ก่อนหน้านั้นพยายามแต่ไม่สำเร็จ โบราณว่าจีบหญิงให้อิงผู้ใหญ่ เฮ้อ!เห็นจะไม่จริง ”

    ฟังพี่โตพูดสินั่น เชอะ ไม่เห็นจะใช้ความพยายามตรงไหน ไม่เห็นรู้สึก
    เหมือนเขาจะรู้ว่าฉันคิดอะไร
    “ ผู้หญิงบ้าอะไรก็ไม่รู้ พูดออกมาได้ว่ารักอิสระอย่างแรง นั่นมันคำพูดของผู้ชายเขา ที่ร้ายยิ่งกว่ายังหาว่าพี่เป็นเกย์อีกเจอน้องข้าวพูดอย่างนี้ทำเอาพี่ต้องถอยตั้งหลัก ดีหน่อยที่ยังไม่ตั้งหลักดีรถก็มาชนท้ายเข้าให้ ”

    ฉันอ้าปากหวอ อะไรกันนี่ ฉันบ่นอะไรไปไปถึงหูพี่โตทุกเรื่องเลยหรือไง คุณนายนะคุณนาย
    เฮ้อ..บอกกันตรงซะขนาดนี้ฉันจะหาอะไรมาอ้างนะ “ จะคบกับพี่ได้มั้ย ” ถามออกมาได้ธรรมดามากเลย มันฟังดูไม่ต่างจาก “ ไปกินข้าวกันเถอะ” หรือไม่ก็ “ อากาศดีจังนะ ” ฮึ..เหมือนกันเปล่าเนี่ย

    ฉันจะหาเหตุผลดีๆอะไรมาปฏิเสธนะ แล้วถ้าฉันบอกว่าไม่ พี่โตจะทำหน้ายังไง
    แล้วจริงๆฉันอยากจะปฏิเสธหรือตอบรับกันแน่ ไม่รู้สิ ไม่รู้
    มองหาตัวช่วย

    และ...

    ตัวช่วยก็มา

    “ พี่โต พี่โตจริงๆด้วย ” หญิงสาวผมยาวสลวย หน้าตาจิ้มลิ้ม ผู้หญิงคนนั้น
    ที่ฉันเจอมากับเขาคราวก่อนนั้น
    …
    …

    ฉันยิ้มให้เธอ ก่อนขอตัวลุกไปเข้าห้องน้ำ
    ไม่รู้สิ ฉันไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้เลย
    ไม่รู้สินะ ยังไงขอถอยออกไปตั้งหลักก่อนละกัน

    มันเหมือนกับเรากำลังลิ้มรสความหอมหวานของไอศกรีม
    เพิ่งตักคำแรก จู่ๆไอศกรีมก็หล่นปุ๊กไปจากมือ...ซะงั้น
    ..

    ..


    ..
    ปล.เข็นพี่โตกับน้องข้าวมาอย่างยากเย็น
    เข้าใจเลย"ยากเย็นแสนเข็น"มันเป็นยังไง

    ตอนที่1 http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2008/11/W7226062/W7226062.html
    ตอนที่2 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7550711/W7550711.html

    จากคุณ : สิงห์อมบ๊วย - [ 10 มี.ค. 52 12:59:06 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com