ผมนั่งเหม่ออยู่ใต้ต้นสาเกตามลำพังในช่วงพักกลางวันโดยที่จานข้าวซึ่งอุตส่าห์หอบหิ้วจากโรงอาหารยังไม่พร่องไปถึงไหน จนกระทั่งเด็กนักเรียนที่เดินผ่านไปมาเริ่มมองกันเป็นตาเดียวและจับกลุ่มซุบซิบนินทาในระยะเผาขน เนื้อความประมาณว่าผมน่าสงสาร เวลานี้ไม่มีใครเหลือเป็นเพื่อนอีกแล้ว ก็ถูกของคนนินทานะครับ จิรัฐตามล่ายายลูกหมียังไม่กลับ การเวกนอนแหมบอยู่ที่ห้องพยาบาล ก๊วนเพื่อนเก่าขึ้นสวรรค์ไปนาน ส่วนพวกยายฟินกับแทนวนา ลูกหมีก็ยืนยันแล้วว่าไม่รอด
ทว่าผมไม่ได้นั่งปลงสังเวชในชีวิตตนเองอย่างที่พวกนั้นเข้าใจหรอกครับ แค่กำลังคิดหาเหตุผลว่าทำไมมนุษย์กลุ่มหนึ่งถึงยอมทิ้งความเป็นคนเพื่อสนองความต้องการส่วนตัว แม้จะยังหาคำตอบในเคสของกิ่งไม่ได้ แต่สำหรับยายลูกหมี เจ้าหล่อนยึดติดกับชีวิตในนิยายจนถึงขั้นแยกความฝันกับความจริงไม่ออก
ถึงตรงนี้ นิยายน้ำเน่าของแม่หมีน้อยแอ๊บแบ๊วก็แทรกเข้ามาในสมอง ใช่ว่าผมไม่เชื่อการเวกนะครับ แต่ยังมีบางสิ่งระหว่างสองคนนั่นที่น่าคลางแคลงอยู่ โดยเฉพาะแววตาของจิรัฐที่มองเธอ กับความเป็นห่วงที่การเวกเพิ่งแสดงออกไปเมื่อครู่ ต่อให้คนนอกมาเห็นก็ต้องคิดว่าพวกเขามีซัมธิงรองกันอยู่บ้างแหละ
การเวกเป็นยังไงบ้าง
นั่น... ตายยากชะมัด คิดถึงอยู่ก็โผล่มาแบบไม่ให้สุ้มให้เสียง ผมเหลือบมองหน้าคนทักก่อนตอบ
ยังอยู่ห้องพยาบาล
จิรัฐพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้และนั่งลงตรงข้ามผม นิ่งกันไปสักพัก ผมจึงถาม
ไม่ไปดูยายนั่นหน่อยหรือ
ไม่ล่ะ ให้พักผ่อนไปน่ะดีแล้ว
ผมมองนายปิศาจอย่างต้องการจับผิด ไม่รู้สิครับ พอฉุกใจได้ ทุกกิริยาอาการของหมอนี่ก็ดูมีพิรุธไปเสียหมด เมื่อคิดว่าตัวเองทนเป็นกลางไม่ไหว เลยไพล่ถามถึงเรื่องลูกหมีทั้งที่รู้คำตอบอยู่แล้ว
เรื่องยายคลั่งละครนั่นเป็นยังไงบ้าง
เรียบร้อยดี
ผมพยักหน้าก่อนเขี่ยจานข้าวเล่นเพื่อรอให้จิรัฐเล่าเรื่องที่เขาเพิ่งไปทำมา โดยลืมไปว่าผมหรือใครก็ตาม (อาจยกเว้นการเวก) ไม่มีวันง้างปากหมอนี่ได้หรอกถ้าไม่ถาม เกือบห้านาทีโน่นครับกว่าจะคิดออกถึงความจริงข้อนี้
ได้เรื่องของวัวโตไหม... ตอนนี้มันอยู่ฟาร์มไหน กำลังจะถูกเชือดหรือยัง
ฉันไม่ใช่เจ้าของฟาร์มวัวว่ะ เลยไม่รู้
ตายล่ะหว่า... ลืมไปว่ากวนประสาทหมอนี่ไม่ได้
เฮ้ย ฉันหมายถึงวัว... โวลเดอมอร์ต่างหาก นายก็รู้ ชื่อหมอนั่นจำยากจะตาย
จิรัฐเลิกคิ้วแล้วกอดอก อมยิ้มเหมือนเยาะกันนิดๆ ก่อนกล่าว
เพิ่งรู้นี่แหละว่าสองคำยากกว่าสามคำ
ยากสิวะ! ออกเสียงยากจะตาย อย่ามัวอมพะนำน่า รีบบอกเรื่องเจ้าวัวบ้ามาได้แล้ว!
ไม่รู้ว่าคำตะคอกของผมได้ผลหรือเปล่า เพราะสีหน้าเจ้าปิศาจบอกชัดเลยว่าจะพาออกทะเลกันอีกระลอก แต่ผมยังพอมีโชคอยู่บ้างครับ เมื่อเสียงหวานของแม่นกน้อยการเวกดังแทรกขึ้นมาพอดี
นั่นสิ ฉันเองก็อยากรู้
การเวกว่าพลางนั่งลงบนเก้าอี้หินระหว่างผมกับจิรัฐ ปกติเจ้าหล่อนผิวขาววิ้งอยู่แล้วนะครับ พอบวกกับปากซีดๆ อย่างนี้ยิ่งดูเซียวไปกันใหญ่ ขณะที่กลัวว่าเธอจะล้มลงไปอีกหรือไม่ จิรัฐก็เข้าเรื่อง
เท่าที่สรุปได้ ตอนนี้มีคนแจกจ่ายสัญลักษณ์ปิศาจฟรีอยู่ข้างนอกนั่น ไม่รู้เหมือนกันว่าแจกไปเยอะแค่ไหน แต่อย่างน้อยก็พอเดาได้ว่าคนทำต้องเป็นผู้หญิงระหว่างวัยนักศึกษาจนถึงวัยทำงาน เรื่องที่สองคือเหลือผู้ใช้พรของโวลดัวที่เรามองไม่เห็นขั้นต่ำสองคนขึ้นไป
เท่านั้นคนพูดก็เงียบไป ผมนึกว่าเรื่องหมดเท่านี้จึงพูดประชดทำนองว่าช่วยได้มากเลยกับข้อมูลเพียงนิดเดียว แต่การเวกกลับถามต่อ
เรื่องที่สามล่ะ
รอยยิ้มคล้ายเยาะเย้ยกันจากจิรัฐถูกส่งมาให้ผม ก่อนเขาจะวางสิ่งหนึ่งลงบนโต๊ะ
ฉันได้สิ่งนี้มาจากยายลูกหมี
น่าตบกะโหลกปิศาจจอมกวนไหมล่ะครับ มีอย่างที่ไหนแกล้งให้หน้าแตกกันต่อหน้าสุภาพสตรีแสนสวย แต่ถึงแม้จะเจ็บใจ ผมก็ยังชะโงกมองของที่จิรัฐวางลงบนโต๊ะด้วยความอยากรู้ เห็นเหรียญทองแดงขนาดเล็กเท่าข้อนิ้วก้อยบอกชื่อรุ่นและพ.ศ.ที่ผลิตชัดเจนคล้องกับตะขอสร้อยคอทองคำขาวดีไซน์น่ารักแล้ว ผมถึงกับอุทาน
เฮ้ย เหรียญพระเหรอ
ใช่ พลังด้านดีจะกลืนไปกับอำนาจชั่ว ทำให้พวกเรามองไม่เห็น
งานเข้าแม่นกน้อยชุดใหญ่เลยสิครับ ลำพังสู้สมุนวัวบ้าก็แทบแย่ เจออย่างนี้เข้าไปก็เรียกได้ว่าแววแพ้จ่อแค่หน้าประตูเสียแล้ว แต่ดูเหมือนคนใกล้แพ้จะไม่คิดแบบผม เจ้าหล่อนหยิบสร้อยพระขึ้นมอง ยิ้มหวานก่อนหันไปพูดกับจิรัฐ
ขอบใจนะ
เห็นสองคนประสานสายตาพลางยิ้มให้กันเหมือนโลกนี้มีแต่สองเรา สมองก็เริ่มไพล่ไปถึงนิยายรักน้ำเน่าของลูกหมีอีกครั้ง ชักนึกอยากถามแล้วสิว่าพวกเขาเป็นแค่อดีตผู้ร่วมงานหรือมีอะไรมากกว่านั้นแน่ ทว่าสิ่งที่ปากพูดออกไปกลับเป็นอีกเรื่อง
เหรียญนี่ใช้ทำอะไรได้หรือ
ไม่ใช่ไม่กล้าถามนะครับ แค่ไม่อยากก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของพวกเขาต่างหาก การเวกมองผมแล้วยิ้ม ใจมาเป็นกองเมื่อความหวานของรอยยิ้มนั้นใกล้เคียงกับที่เธอส่งให้จิรัฐ
หลายอย่างเลยล่ะ ต้องยกความดีความชอบให้อดีตคู่หู ฝีมือไม่ตกเลย
คนฝีมือไม่ตกยิ้มเจื่อนไปวูบก่อนจะเสมองกลุ่มนักเรียนหญิงที่แอบหัวเราะคิกคักชี้มือชี้ไม้มาทางเขา อาการนี้เห็นได้ชัดเลยครับว่าคนมีซัมธิงน่าจะเป็นเจ้าจิรัฐฝ่ายเดียวมากกว่า... เอ... แล้วทำไมผมต้องเกิดความรู้สึกลันล้าด้วยนะ
เอาล่ะ ทีนี้ฉันก็เสมอกับโวลดัว ค่อยมีกำลังใจขึ้นมาหน่อย
ผมผละจากความรู้สึกพิกลในอกแล้วมองหน้าแม่นกน้อย... อืม สร้อยเส้นนี้ทำให้เธอพาวเวอร์อัพขนาดนั้นเลยเหรอ
หมายความว่า... เธอรู้ที่อยู่ของวัวโตแล้ว?
เปล่า ตอบเท่านั้นก่อนยิ้มอีกรอบ เพิ่งสังเกตครับว่าสร้อยพระหายไปจากมือเธอแล้ว และเท่าที่ดูอยู่ผมยังไม่เห็นว่าเธอเก็บเข้ากระเป๋าเลย กำลังจะถามถึง สัญญาณเข้าเรียนก็ดังขึ้นพอดี
การเวกไม่ได้ออกไปตามหาหรือพูดถึงสุดยอดวายร้าย คนที่คุณก็รู้ว่าใคร อีกเลยตลอดทั้งบ่าย จนกระทั่งใกล้เลิกเรียนวิชาคาบสุดท้าย อาจารย์สมศรีก็เดินเข้ามาในห้องพลางทำสัญญาณคล้ายขออนุญาตอาจารย์ประจำวิชาซึ่งพยักหน้าเป็นคำตอบรับ เมื่อประจำอยู่ที่โต๊ะอาจารย์เรียบร้อย ท่านจึงกล่าวด้วยใบหน้าเศร้าหมอง
ช่วงนี้มีข่าวไม่ดีเกิดขึ้นตลอดกับนักเรียนในโรงเรียนเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อนร่วมชั้นของเรา อย่างตอนเช้าพวกเธอคงทราบข่าวเรื่องครอบครัวของวิกานดาจากการไว้อาลัยหน้าเสาธง ตอนนี้ครูเพิ่งได้รับแจ้งว่าโรจน์รัศมีกับสุรีรัตน์ก็จากพวกเราไปแล้ว
เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้นทั่วห้อง ก่อนที่อาจารย์สมศรีจะกล่าวต่อด้วยเสียงเครือสั่น
ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังติดตามหาตัวเพื่อนต่างห้องของเรา... อิศเรศ...
ผมสะดุ้งโหยง และชี้ตัวเองด้วยอาการเหมือนคนทำอะไรไม่ถูก
เจ้าหน้าที่ท่านหนึ่งอยากคุยกับเธอ เรื่องแทนวนาห้องสอง
เอ่อ... ผม... จากนั้นจึงเหลียวไปทางการเวกโดยอัตโนมัติ แต่เธอยิ้มเหมือนให้กำลังใจและตบลำคอตัวเองด้วยท่าทีคล้ายบอกใบ้อะไรสักอย่าง ผมจึงลองคลำลำคอของตนดู โล่งอกไปเยอะเมื่อสัมผัสถูกกรอบพลาสติกบรรจุก้อนหินที่เธอให้มา
ครับ พูดเท่านั้นก่อนลุกขึ้นและเดินตามอาจารย์สมศรีไปพบเจ้าหน้าที่ซึ่งคอยอยู่ในห้องประชุม ตอนแรกคิดว่าจะได้พบชายวัยกลางคนหน้าตาดุดันในชุดสีกากีเข้มกับลูกน้องอีกสองคนยืนประกบหน้าหลัง แต่ผิดคาดครับ คุณตำรวจคนนี้หนุ่มมากจนเหมือนแก่กว่าผมแค่ไม่กี่ปี แถมชุดเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนกับกางเกงสแล็ค ไม่ได้ผูกเนคไททำให้เขาเหมือนเด็กเพิ่งจบมหาวิทยาลัยกำลังมาสมัครงานอย่างไรอย่างนั้น
อิศเรศ จินตนันทกานต์ ใช่ไหม
ครับ
ฉันสิบตำรวจตรีชัชวาลย์ รัตนวารีลักษณ์ มีเรื่องอยากถามเธอนิดหน่อย ไม่ต้องเกร็งนะ
จากคุณ :
g_maru
- [
10 มี.ค. 52 15:22:04
]