เรื่องเล่าสยองของข้าพเจ้า
ตอน ผีโพรงที่ลำตะคอง (หลอนครั้งแรก)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7555350/W7555350.html
ตอน ผีโพรงที่ลำตะคอง (ฝูงผีบุก)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7561061/W7561061.html
ตอน ผีทวงสมอง
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7569912/W7569912.html
ตอน ช่วยด้วย
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7575674/W7575674.html
ตอน หัวใคร ในทะเล
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7581096/W7581096.html
ตอน ทำไมพี่ถึงไม่ช่วยผม!
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7589318/W7589318.html
เรื่องที่ 8 วิญญาณป่าที่เขาใหญ่
เขาใหญ่
ชื่อนี้มีเสน่ห์และมนตร์ขลัง ทั้งความงดงามของธรรมชาติ สัตว์ป่าและสิ่งลี้ลับ ซึ่งในจำนวนนักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปบนนั้นร้อยคน จะมีครึ่งหนึ่งที่สามารถสัมผัสถึงสิ่งเร้นลับที่ซ่อนอยู่ในทุกหนแห่งของป่าได้ โชคดี(หรือโชคร้าย)ที่ครอบครัวพี่ก็เป็นหนึ่งในจำนวนนั้นด้วยเหมือนกัน
ในช่วงที่เศรษฐกิจยังดีอยู่ ในทุกช่วงวันหยุดดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่คนทำงานมักจะตั้งหน้าตั้งตารอคอยเพราะจะได้ออกไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจกัน โดยเฉพาะช่วงวันหยุดยาวด้วยแล้วการแย่งกันจองที่พักเปรียบเสมือนการชิงดีชิงเด่นชิงไหวชิงพริบกันเลยทีเดียว พี่จำได้ว่าตอนนั้นเป็นช่วงวันหยุดหลายวันซึ่งเพื่อนแม่ที่เป็นข้าราชการสามารถไปเที่ยวได้ หลังจากทะเลาะกันอยู่พักใหญ่ว่าจะไปเที่ยวไหนระหว่างทะเลกับป่า ในที่สุดแม่ก็ชนะ (แหงล่ะ) ครอบครัวพี่จึงตกลงว่าจะไปเขาใหญ่จึงให้น้องสาว(เจ้าอิทธิพล)เป็นคนไปหาที่พัก โดยเน้นว่าถ้าไม่ได้บนเขาก็ให้อยู่ใกล้ที่สุด ซึ่งเขาก็สามารถหาได้จริงๆ เพราะที่พักแห่งนี้เป็นรีสอร์ทที่อยู่ติด ตีน เขาเลย
และแล้ววันเดินทางก็มาถึง พวกพี่เหมารถตู้เจ้าเก่าไป คนที่ร่วมเดินทางก็เป็นกลุ่มเดิมแต่คราวนี้เพิ่มพี่อุยซึ่งเป็นพยาบาลได้หยุดงานมาด้วย ระหว่างเดินทางก็สนุกสนานเฮฮากันดีเสียแต่ว่าขยันแวะข้างทางไปนิดเพราะเจอร้านขายของกินที่ไหนพุ่งเข้าไปจอดและรุมซื้อกันที่นั่น ดีนะที่คนขับรู้จักกันแถมเป็นคนใจเย็นอีกด้วย กว่าจะถึงที่พักก็บ่ายแก่ๆ ซึ่งก็กว่าจะเข้าไปเห็นที่พักจริงๆก็ไปเสียเวลาที่ร้านไก่ย่างส้มตำอีกชั่วโมงกว่า คนขายยิ้มแก้มปริ ตำกันครกแทบแตกเพราะคณะนี้ซื้อกันกระหน่ำกินกันลืมตาย
หลังจากซื้อของกินและน้ำดื่มเสร็จเรียบร้อย รถก็วิ่งตรงไปอีกเกือบสิบนาทีก็ถึงจุดหมาย ตอนที่รถเลี้ยงเข้าที่พักเหมือนเครื่องยนต์จะสะดุดแล้วดับตรงต้นไม้ใหญ่ พี่เห็นแม่หันไปมองแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรเพราะคนขับสตาร์ทรถได้พอดี ก็วิ่งไปจอดที่หน้าบ้านพักซึ่งอยู่ด้านในสุด พวกพี่ก็เริ่มขนข้าวขนของเข้าที่พักซึ่งเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวขนาดใหญ่นอนได้สักยี่สิบคน ด้านหลังจะติดกับเชิงเขาชนิดถ้ามีความเป็นลิงเพิ่มอีกสักนิดคงไต่ขึ้นไปชมวิวข้างบนได้ มีเสียงแม่น้ำลำตะคอง(อีกแล้ว)ไหลอยู่ไกลๆ ด้านตรงข้ามก็มีบ้านพักอีกหลังซึ่งห่างกันพอสมควร
ตอนที่เดินไปดูหลังบ้านพี่เห็นแม่ทำหน้าหนักใจขึ้นมานิดนึง พอถามแม่ก็บอกว่าไม่มีอะไรแต่ส่งว่าถ้าออกไปเที่ยวอย่าลืมเตือนให้ซื้อเหล้าขาวเข้ามาด้วย หลังจากขนสมบัติและตบตีแย่งที่นอนกันเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ออกไปเที่ยวกันโดยแวะสักการะศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ก่อนที่จะขึ้นไปบนอุทยาน ไปกันจนถึงน้ำตกเหวนรก กว่าจะกลับที่พักอีกครั้งก็มืดพอดี
ทันทีที่ลงจากรถ แม่พี่ก็บอกให้ไปหยิบธูปและจัดแบ่งอาหารทุกอย่าง อย่างละนิดละหน่อยแต่ต้องมากกว่าหนึ่งคำจัดใส่จานแบ่งและเดินไปหลังบ้าน พี่ยืนดูแม่วางของ ซึ่งตอนนี้น่าจะเรียกว่าเครื่องเซ่นและเปิดขวดเหล้า จากนั้นก็จุดธูปบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางเพื่อขออนุญาตพวกท่านในการพักค้างคืนรวมไปถึงขอให้เจ้าพ่อเขาใหญ่ช่วยคุ้มครองคณะท่องเที่ยวของพวกเรา พอปักธูปลงดิน พี่กับเพื่อนสนิทอีกคนที่ชื่อติ่งก็ขนลุก เพราะแทนที่ควันธูปจะลอยไปตามลงซึ่งไหลามา มันกลับลอยในลักษณะเลื้อย ขึ้นไปตามเชิงเขาและกระจายหายไป ถ้าไม่คุ้นกับเหตุการณ์แบบนี้พวกพี่คงเผ่นในคืนนั้นแล้วล่ะ แต่แม่บอกว่าที่นี่ไม่มีอะไร ไม่แรงเหมือนรีสอร์ทริมลำตะคองที่พวกเราเคยเจอมา และแม่สั่งด้วยว่าห้ามบอกคนอื่นเดี๋ยวจะตกใจกลัวกัน จากนั้นก็ออกไปร่วมวงเฮฮากับคนอื่น
คณะเดินทางของพี่นิยมการบริโภคมากกว่าการดื่ม ดังนั้นอาหารการกินจึงมีเพียบชนิดแทบล้นกระเพาะแต่ไม่รู้ว่าแต่ละคนมีพยาธิหรือโดนปอบสิง เพราะเพียงแค่ไม่ถึงชั่วโมงอาหารทุกอย่างก็เรียบวุธ หลังจากเก็บกวาดทำความสะอาดทุกอย่างจนเรียบร้อยแล้วก็เข้าไปนั่งเล่นในห้อง ที่น่าแปลกคือแม่ห้ามพวกพี่เล่นกิจกรรมยอดนิยมของนักท่องเที่ยว ซึ่งก็คือไพ่ ถึงจะไม่เข้าใจแต่ทุกคนก็เชื่อและทำตาม พอเวลาผ่านไปได้สักระยะแม่ก็สั่งให้ทุกคนเข้านอน
อย่างที่เคยบอก พี่เป็นคนที่จะต้องนอนใกล้แม่ตลอดเวลา ดังนั้นคืนนี้พี่จึงนอนทางด้านซ้ายมือของแม่โดยมีติ่งนอนเป็นคนถัดไป ส่วนขวามือของแม่จะเป็นน้องสาวและพี่อุย และคนอื่นๆเรียงต่อกันไป ตกดึกตอนที่ทุกคนหลับสนิท พี่รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงคนเดินที่ระเบียงด้านนอกก็หรี่ตามองเพราะกลัวขโมยมากกว่าอย่างอื่น ประตูของบ้านพักหลังนี้เป็นกระจกทั้งหมดทำให้สามารถมองเห็นทุกอย่างได้ แต่พี่ไม่เจอใครเลยซักคนก็คิดว่าหูคงฝาดไป ที่ไหนได้เสียงเดินน่ะมันเข้ามาอยู่ข้างในแล้ว ถ้าใครเคยอ่านการ์ตูนผีญี่ปุ่นลองนึกภาพปีศาจเดินดมคนนอนหลับไล่ไปทีละคนเพื่อหาคนที่มันต้องการจะพบ นี่ก็เหมือนกันพี่ได้ยินเสียงเหมือนคนลากเท้าไล่มาเรื่อยตั้งแต่ด้านในสุดที่ติดกับเชิงเขาออกมา พี่รีบขยับตัวนอนคว่ำโดยหันหน้าไปทางแม่ ตอนนั้นเองที่เหมือนมีลมหายใจใครบางคนรดหน้า มันเหม็นคาวจัดจนแทบสำลัก พี่ทำเป็นแกล้งหันหน้าหนีไปอีกด้าน น่าแปลกที่ไม่ได้กลิ่นนั้นสักนิดเพื่อความชัวร์เลยหันกลับไปอีกครั้ง คราวนี้มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์เลยค่ะ พี่เลยหันหน้าหนีแล้วหลับตาปี๋เลยล่ะ ผ่านไปได้สักห้านาทีทำใจกล้าหันไปพิสูจน์อีกครั้ง (ตอนนี้ยังนึกว่าทำไปได้นะเรา) คราวนี้ไม่ได้กลิ่นอะไรแล้วค่ะ เสียงเดินก็หายไป พี่ชะโงกมองออกไปข้างนอกก็ไม่มีอะไร แต่คงไม่อยากรู้มากไปกว่านั้นแล้วล่ะเพราะคลุมโปงแล้วนอนต่อเลย
ตอนเช้าพี่แอบเล่าให้แม่ฟัง แม่บอกว่าเป็นเจ้าป่าเจ้าเขาเขาลงมาดูไม่มีอะไร เพราะเราขอให้เขาคุ้มครอง พี่ก็ถามว่าเขาจะลงมาดูอีกรอบไหมแม่บอกไม่แล้วล่ะเพราะเขารู้แล้วว่าจะต้องดูแลใครบ้างซึ่งคืนนั้นก็ไม่มีอะไรจริงๆ วันสุดท้ายของการพัก พี่ทูนคนขับรถบอกว่าผมฝันเห็นผู้หญิงสวยมากๆเดินออกมาจากต้นไม้แล้วชวนให้อยู่ด้วย(ก็พี่แกหน้าตาดีแบบหนุ่มไทยสมัยโบราณเลย) แกบอกว่าคงไม่ได้หรอกครับเพราะผมต้องขับรถให้คุณแม่(แกนับถือแม่พี่มาก) เขาก็ไม่ว่าอะไร ก่อนไปยังให้เลขมาสามตัวด้วย (ซึ่งพี่ทูนโทรมาเล่าให้ฟังตอนหลังว่าถูกตรงเป๋งเลยได้เงินหลายเชียวล่ะ)
ตอนที่ขับรถออกจากที่พัก แม่บอกให้หยุดตรงต้นไม้ใหญ่แล้วให้พี่ทูนกดแตรหนึ่งครั้ง พอใกล้จะเข้ากรุงเทพเลยถามว่าทำไปทำไม แม่บอกว่ารู้ไหมว่าต้นไม้ที่ทางเข้าที่พักน่ะเป็นต้นอะไร พี่บอกไม่รู้ พอแม่บอกพี่ขนลุกซู่เลยล่ะแถมคิดว่าไม่น่าแปลกที่พี่ทูนฝันแบบนั้น
เพราะนั่นเป็นต้นตะเคียน!
*/*/*/*/*
จากคุณ :
Moony_Lupin
- [
11 มี.ค. 52 01:44:16
]