Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    อำนาจวรรณกรรม - พื้นที่ มุมมองและศรัทธา

    “อำนาจวรรณกรรม” คือหัวข้อโก้หรูศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกหยิบยกมาถกเถียงตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ถึงยุคปัจจุบันกาลของแวดวงวรรณกรรม มันคือคำถามตลอดกาลที่จำเป็นต้องถามและจำเป็นต้องตอบเพื่อตรวจสอบสมรรถภาพวรรณกรรมภายในสังคมว่ายังสั่นคลอนสังคมไหม ยังมีอิทธิพลต่อความนึกคิดของผู้เสพอยู่ไหม นอกจากนี้หัวข้อดังกล่าวยังเป็นภาพสะท้อนสถานภาพสถาณการณ์ทางสังคมของวงวรรณกรรมอีกด้วย ซึ่งภาพที่เห็นในระยะหลังมานี้คือ “โรคเปลี้ย” กำลังคุกคามวงวรรณกรรมและบรรยากาศของความเป็นวรรณกรรมให้เบาบาง อ่อนกำลังลงไปเรื่อยเรื่อย และกำลังจะกลายเป็น “ไอ้เปลี้ย” ในสักวันหนึ่งที่ไม่ไกลจากวันนี้



    บรรยากาศอันเบาบาง(เปลี้ย)ที่ว่า มีให้เห็นตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป “พื้นที่” ในสมัยนี้มันมีค่าราคาแพงและไม่อาจจะกรุณาเกื้อกูลพื้นที่ให้กับหนังสือวรรณกรรมที่ทั้งขายยากและอาจนำพาสภาพคล่องของร้านให้เดินเข้าสู่สภาวะยาจกอันเป็นสภาวะที่ผู้ประกอบการไม่อยากเจอในช่วงสภาพเศรษฐกิจที่มีจีดีพีติดลบอย่างนี้ นั่นหมายความว่า “สถานที่สามัญ” อันเป็นที่รู้จักของบรรดานักอ่านทุกชนชั้น ไม่อาจจะเสาะหาหนังสือวรรณกรรมได้อีกต่อไปแม้จะอยู่ในโซนซอกหลืบของร้านก็ตาม ซึ่งนักอ่านรุ่นใหม่ส่วนใหญ่เป็นพวกที่ “ใหม่” เกินกว่าจะรู้แหล่งทางเลือกที่ไม่สามัญอย่างร้านหนังสือมือสองหรือแผงหนังสือบนอินเทอร์เน็ตที่มีหนังสือประเภทวรรณกรรมสถิตอยู่  มันเลยเกิดปรากฏการณ์ที่ผู้อ่านเสพเฉพาะงานกระแสหลักบนแท่นหนังสือขายดีเท่านั้น ทำให้กลุ่มคนที่เสพวรรณกรรมมีเพียงกลุ่มคนเก่าก่อน



    คลื่นลูกหนึ่งที่สามารถนำวรรณกรรมซัดเข้ามาแทรกอยู่ในปรากฏการณ์กระแสหลักในช่วงสั้นๆ อย่างงานสัปดาห์หนังสือซึ่งถูกจัดปีละสองหน คือแรงกระตุ้นหนึ่งที่ทรงพลังอย่างแรงกล้าพอจะสั่นสะเทือนให้ พลังหนุ่มสาวตื่นและหันมามองหนังสือวรรณกรรมบ้าง มันช่างเป็นภาพที่วิจิตร งดงามเหลือเกินในยามที่หนุ่มสาวเหล่านั้นหยิบจับหนังสือวรรณกรรม มันทำให้ยังพอเห็นแสงแห่งความหวังในความหมองหม่น แต่..เอ่อ..นั่นเฉพาะคนในงานหรอก! ที่ได้สัมผัสกับอำนาจความรู้สึกของวรรณกรรม คนที่ไม่ได้ไปร่วมงานยังคงมีวัฒนธรรมในการเสพเหมือนเก่าก่อนไม่ผิดเพี้ยน  งานสัปดาห์หนังสือยังไม่อาจแผ่พลังมาถึงคนนอกจุดศูนย์เกิดพลังทางวรรณกรรม ไม่ช้านานหลังงานสัปดาห์หนังสือเสร็จสิ้นลง บรรยากาศการอ่านที่เคยเกิดเริ่มจางหายอีกครั้ง  และเราไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าเวลาของวรรณกรรมที่จะได้สถิตอยู่ในพื้นที่สามัญขนาดใหญ่แห่งนี้เหลืออีกนานเท่าใด หรือคลื่นลูกยักษ์อย่างหนังสือที่เน้นการตลาดจะโถมใส่พื้นที่ของวรรณกรรมให้เลือนหายไปเมื่อไหร่



    ซึ่งหากเวลานั้นเป็นเวลาเดียวกับที่คนเก่าในแวดวงวรรณกรรมผลัดใบร่วงหล่นและคนหนุ่มสาวผลิใบใหม่ที่ขาดแรงศรัทธาในอำนาจของวรรณกรรมมาทดแทน วงการวรรณกรรมคงจะอึมครึมอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน...



    แต่ว่านั่นอาจเป็นเพียงความคิดซีกเดียวของเราเพียงลำพัง


    ถ้าคุณกำลังจินตนาการเอาเองถึงสภาพอึมครึมอย่างร้ายกาจของวงวรรณกรรมในมือของหนุ่มสาวยุคโมเดิร์น
    คำถามที่ผมจำเป็นต้องถามคุณคือ “คุณประเมินศักยภาพของพลังหนุ่มสาวรุ่นใหม่ต่ำเกินไปหรือไม่?”



    พลังหนุ่มสาวยุคโมเดิร์นที่เติบโตมาพร้อมกับชั้นหนังสือขายดีและนิยายตาหวานถูกมองผ่านบางทัศนคติว่าเป็นปัญหาที่สั่นคลอนความมั่นคงของ “อำนาจวรรณกรรม”  เพราะหนังสือเหล่านั้นเป็นหนังสือที่ขาดแคลนสาระ เป็นกับดักจับเงินชั้นดีจากกระเป๋าของหนุ่มสาวสมัยใหม่ และยังส่งผลต่อคุณภาพของนักอ่านรุ่นใหม่ด้วย ทว่า แม้มันจะเป็นหนังสือที่ขาดแคลนซึ่งสาระจริง  เป็นกับดักจับเงินชั้นดีจริงและส่งผลต่อคุณภาพของนักอ่านจริง แต่เราควรอนุโลมรสนิยมตามช่วงอายุของเขาบ้างมิใช่หรือ อย่างน้อยพลังหนุ่มสาวเหล่านั้นยังคงเชื่อมต่ออยู่กับโลกหนังสือ ปีกอิสระแห่งการเสพกำลังพาพวกเขาโบยบินไปค้นหาสิ่งที่ใช่สำหรับตัวเขา  เราอาจต้องให้เวลากับพวกเขาสักระยะหนึ่งมากกว่าที่จะไปริบรอนและตัดปีกอิสระแห่งการเสพนั้นด้วยการกล่าวหาอย่างรุนแรงว่าพวกเขาเป็นนักอ่านที่ไม่ได้เรื่อง


    อำนาจของวรรณกรรมไม่อาจเกิดเลยหากงานยังไม่ถูกเสพ…


    การที่พวกเขาไม่เข้าไปเสพงานวรรณกรรมที่ถูกยกขึ้นสูงเสียจนศักดิ์สิทธิ์อาจเพราะคุณไปตีตราต่อว่างานที่ล้ำค่าสำหรับเขาในเวลานั้นเสียก่อนว่ามันอับเฉาปัญญาและพวกเขาประชดกลับด้วยการไม่เสพงานวรรณกรรม บางครั้งปัญหาในการเสพงานวรรณกรรมไม่ใช่อยู่เฉพาะเรื่อง “พื้นที่” แต่ยังเป็นเรื่องของ “มุมมอง” มาประสมประสานด้วย

    สักวันหนึ่งพื้นทีของวรรณกรรมอาจถูกไล่ต้อนให้ไปอยู่ในมุมอับและในมุมอับนั้นมีพลังแห่งศรัทธาเสมอ ศรัทธาจากมุมอับที่ขาดทางถอยอันผสมผสานระหว่างกลุ่มเก่าก่อนและกลุ่มพลังรุ่นใหม่มักนำมาสู่การลุกฮือเพื่อวรรณกรรมอันเข้มข้นจริงจัง ในวันนั้นวรรณกรรมอาจมีจุดยืนอันมั่นคงและบ้านอันอบอุ่นที่จะคงอยู่อย่างถาวร  


    ถ้าหากมันมีสักวันหนึ่งอย่างที่ผมเอ่ยถึงจริง..นั่นล่ะ “อำนาจวรรณกรรม”








    ผู้เขียนบทความ : เลิศสุนทร







    ปอลอหนึ่ง. ผมเชื่อในอำนาจวรรณกรรมครับ
    ปอลอสอง. พี่น้องท่านใดมีความเห็นอย่างไรก็มาร่วมแสดงแลกเปลี่ยนทัศนมุมมองกันนะครับ ^^

    จากคุณ : เลิศสุนทร - [ 11 มี.ค. 52 13:24:15 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com