Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    เรื่องเล่าสยองของข้าพเจ้า ตอน กลิ่น

    เรื่องเล่าสยองของข้าพเจ้า

    ตอน เขามาเตือน
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7630569/W7630569.html
    ตอน วิญญาณป่าที่เขาใหญ่
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7613807/W7613807.html
    ตอน ผีโพรงที่ลำตะคอง (หลอนครั้งแรก)
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7555350/W7555350.html
    ตอน ผีโพรงที่ลำตะคอง (ฝูงผีบุก)
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7561061/W7561061.html
    ตอน ผีทวงสมอง
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7569912/W7569912.html
    ตอน ช่วยด้วย
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7575674/W7575674.html
    ตอน หัวใคร ในทะเล
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7581096/W7581096.html
    ตอน ทำไมพี่ถึงไม่ช่วยผม!
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7589318/W7589318.html



    เรื่องที่ 10 กลิ่น

    การเดินทางขึ้นไปบนเขาใหญ่ไม่ใช่ว่าจะไปกันได้ตลอดเวลา บางช่วงบางฤดูกาลทางอุทยานก็ประกาศห้ามเช่น ช่วงฤดูการผสมพันธุ์ของสัตว์ป่า และที่ห้ามนักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นไปอย่างเด็ดขาดเลยก็คือ ช่วงฤดูฝน

    เส้นทางขึ้นเขาใหญ่ทางด้านถนนธนะรัตน์เป็นอีกเส้นทางหนึ่งที่ค่อนข้างอันตราย เพราะหากเป็นฤดูฝนถนนจะถูกชะจนพังทลาย ไหนจะต้องเสี่ยงกับน้ำป่าซึ่งไม่รู้จะมาเมื่อไหร่ ดังนั้นก่อนจะไปควรศึกษาสภาพแวดล้อม ณ เวลานั้นกันให้ดี

    มีครั้งหนึ่งครอบครัวพี่จองบ้านพักบนเขาใหญ่ได้ ซึ่งนับว่าโชคดีเพราะที่นี่ได้ชื่อว่าจองยากเพราะมักจะเต็มอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นช่วงวันหยุดติดต่อกันด้วยแล้ว อย่าว่าแต่บ้านเลย บริเวณจุดตั้งเต็นท์พักแรมก็ยังว่างยากเต็มทน

    ด้วยความที่ดีใจพวกพี่เลยรีบออกเดินทางกันตั้งแต่วันศุกร์ แต่โชคไม่ดีที่ตอนนั้นเกิดมีพายุฤดูร้อนเกิดก่อนการเดินทางสองวัน พวกพี่ได้แต่ภาวนาขอให้มันสงบก่อนวันเดินทาง แต่ดูเหมือนฝนฟ้าจะคะนองแรงจนคำขอไปไม่ถึงพระพิรุณ เพราะวันนั้นพอเข้าเขตเขื่อนลำตะคอง ฟ้าก็เริ่มครึ้มแถมลมแรงขึ้นทุกที จะหันหลังกลับก็ใช่ที่เลยต้องลุยกันต่อไป ตอนผ่านด่านตรวจเจ้าหน้าที่อุทยานยังถามย้ำเลยว่า รถพี่ไปไหวนะครับ เพราะตอนนั้นขับรถแดวู น้องสาวพี่ก็ตอบว่าไหว ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ทำหน้าแบบไม่ค่อยเชื่อเพราะตอนนั้นน้องพี่เขาตัวเล็กนิดเดียว ชนิดหัวแทบไม่โผล่พ้นคอนโซลรถเลยด้วยซ้ำ หลังจากวิทยุติดต่อกับเจ้าหน้าที่ที่อยู่บนเขาแล้ว เขาก็ปล่อยให้พวกเราผ่านไปได้

    ก่อนขึ้นเขาพวกพี่แวะสักการะศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ โดยหอบดอกไม้ธูป เทียน อาหารยำและเหล้าขาวสองขวด โดยขอให้ท่านช่วยคุ้มครองพวกเราให้ปลอดภัยและขอขมาลาโทษที่ขึ้นไปเหยียบย่ำแผ่นดินที่ท่านดูแล พอปักธูปปุ๊บฝนก็ตกลงมาปั๊บ แต่ไม่แรงนักเลยไม่ค่อยกังวลใจกันเท่าไหร่ อ้อ ลืมบอกไป คราวนี้พวกพี่เดินทางกันไปแค่ 4 คนมีแม่ น้องสาว เพื่อนแม่แล้วก็พี่ ส่วนคนอื่นจะตามไปสมทบในวันเสาร์

    ระหว่างที่ขับขึ้นเขา ฝนก็เริ่มตกหนักมากขึ้นจนน้องต้องจอดรถไว้ข้างทางเพื่อรอให้ฝนซาเม็ด หนึ่งชั่วโมงผ่านไปก็ไม่มีทีท่าว่าฝนจะหยุด แต่ยังดีที่ตกแบบพรำๆไม่แรงนัก ด้วยความที่กลัวว่าจะถึงที่พักไม่ทันค่ำ น้องสาวพี่จึงตัดสินใจออกเดินทางต่อ รถก็ไต่ขึ้นเขาไปเรื่อยๆมีหลายครั้งที่รถไถลไปด้านข้างเพราะถนนลื่นมากแต่น้องพี่ก็ประคองให้กลับเข้าเส้นทางได้ จนกระทั่งถึงจุดหนึ่งซึ่งเป็นเส้นทางที่นับว่าอันตรายที่สุดเพราะเป็นทางโค้งและหักขึ้นเขาพอดี แถมเป็นทางที่ลาดชันมาก น้องพี่เร่งความเร็วชนิดครั้งเดียวต้องผ่านเพราะกลัวกำลังรถจะไม่พอ ตอนแรกก็ไปได้ด้วยดีแต่พอถึงช่วงกลางไม่รู้มีน้ำป่ามาจากไปมันไหลพรวดลงมาจากเขา ถึงจะไม่แรงนักแต่ก็เล่นเอาดินพังตามมาเป็นแถบ รถที่กำลังไต่ระดับขึ้นไปไหลเลื่อนตามลงมาทันที พวกพี่ใจหายวูบเพราะทิศทางของน้ำมันไหลไปลงที่เหว น้องสาวพี่เป็นคนที่มีสติดีมากบวกกับความบ้าเลือด เขารีบเชนเกียร์แล้วทำอะไรไม่รู้พี่ก็เรียกไม่ถูกแต่ก็ทำให้รถตั้งลำได้แต่ก็ยังไหลไปตามดิน ตอนนั้นคนทั้งรถคิดถึงแต่เจ้าพ่อเขาใหญ่อย่างเดียว ตัวพี่นึกถึงชื่อของท่านที่เขียนไว้หน้าศาล เลยยกมือไหว้และภาวนา

    ช่วยลูกด้วย ปลัดจ่าง !

    ตอนนั้นเองพวกพี่ก็ได้กลิ่นเหล้าขาวอบอวลไปทั้งรถ น้ำที่กำลังไหลอ่อนลงดินที่เลื่อนก็เริ่มหยุด น้องสาวพี่รีบเข้าเกียร์และบังคับรถให้กลับเข้าเส้นทางพร้อมกับขับผ่านช่วงนั้นขึ้นไปด้านบนได้ปลอดภัย พอถึงจุดพักรถพวกเรารีบจอดและออกมายืนมองหน้ากัน พี่ถามป้าที่ไปด้วยกันว่า ตอนนั้นได้กลิ่นอะไรไหม ป้าบอกว่าเหล้าขาว ทุกคนทำหน้าตาตื่นและพร้อมใจกันหันหน้าไปทางที่ตั้งของศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่และยกมือไหว้ขอบคุณท่าน จากนั้นพวกเราก็ออกดินทางกันต่อจนกระทั่งถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย

    เพื่อที่จะไปเจอบ้านพักที่มีเสาตกน้ำมัน!

    ในเมื่อเล่าเรื่องราวของเจ้าพ่อเขาใหญ่แล้ว พี่ขอนำประวัติของท่านมาให้อ่านกันพอสังเขป บางคนที่รู้แล้วก็เฉยไว้ แต่อยากจะเตือนอย่างหนึ่งว่า แม้จะไม่เห็น แต่สิ่งลี้ลับพวกนี้ มีจริง!

    เจ้าพ่อเขาใหญ่

    แต่เดิมเขาใหญ่ ไม่ได้เป็นอุทยานแห่งชาติเหมือนในปัจจุบัน เมื่อประมาณเกือบ 70 กว่าปีที่ผ่านมา มีราษฎรจากบ้านท่าด่าน และบ้านท่าชัย จังหวัดนครนายก ได้พากันอพยพมาตั้งบ้านเรือนบนเขาใหญ่เพื่อล่าสัตว์และเก็บหาของป่าขายเป็นอาชีพ และมีการแผ้วถางป่า ที่สำคัญเขาใหญ่ยังเป็นที่หลบซ่อนกำบังของพวกโจรผู้ร้ายในคดีสำคัญ โดยแบ่งเป็นก๊กเป็นเหล่า ปกครองกันเอง ทำให้ชาวบ้านทั้งพื้นราบและอยู่บนเขาได้รับความเดือดร้อนจากพวกมิจฉาชีพอยู่เสมอ

    ในสมัยนั้นปลัดจ่าง นิสัยสัตย์ ซึ่งเป็นชาวบ้านอำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก มาดำรงตำแหน่งเป็นปลัดกองทัพ ดูแลหัวเมืองด้านบูรพาทิศ อันได้แก่ ปราจีนบุรี นครนายก เป็นผู้มีความสามารถในการปราบปรามโจรผู้ร้าย และรู้จักภูมิประเทศในแถบนี้เป็นอย่างดี เมื่อท่านเกษียณอายุราชการ ทางการจึงได้ขอความร่วมมือให้ท่านช่วยบ้านเมือง ในการทำลายล้างซ่องโจรบนเขาใหญ่ ซึ่งมีอยู่ 5 ก๊กสำคัญ คือ 1. เสือจัน 2. เสือไทร 3. เสือบุญมี 4. เสือสำอาง และเสือสองพี่น้อง คือเสือเย็นกับเสือหล้า อีกทั้งชักชวนให้ชาวบ้านลงจากเขาใหญ่

    เมื่อประกาศให้พื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ ในการชักจูงชาวบ้านนั้นเป็นไปได้ด้วยดี ส่วนการปราบปรามโจรผู้ร้าย ปลัดจ่างนับเป็นผู้ที่มีวิธีการและนโยบายที่แยบยล จนทำให้หัวหน้าซ่องโจรต่าง ๆ ยอมรับนับถือ และปฏิบัติตามแนวคิดของท่าน เลิกราการเป็นโจรกลับลงสู่พื้นราบ มีอยู่คราวหนึ่งโจรสองพี่น้อง เพียงพอพบหน้าท่านครั้งแรก ก็ลงจากหลังม้ามา
    กราบและพูดคุยกับท่านถึงกับยอมบวชเรียน ซึ่งต่อมาได้มีอาชีพเป็นครู นับว่าเป็นบุคคลที่มีคุณค่าต่อสังคมเป็นอย่างยิ่ง เมื่อปลัดจ่างถึงแก่กรรม ชาวบ้านและหน่วยราชการได้จัดตั้งศาลให้ท่านที่ต้นกะบกใหญ่บนเขา ใกล้ โรงเรียนวัดหนองเคี่ยม อ.บ้านนา จ.นครนายก และขนานนามศาลนี้ว่า ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ท่านเป็นเจ้าพ่อที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเจ้าพ่อรอบ ๆ เขาใหญ่ และเป็นนักอนุรักษ์ธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ เพราะทำให้เขาใหญ่เป็นป่าใหญ่ถึงวันนี้

    ต่อมาเมื่อมีการตัดถนนธนะรัตน์ขึ้นสู่เขาใหญ่ เจ้าหน้าที่อุทยานได้อัญเชิญท่านมาอยู่ศาลใหม่ ใกล้ด่านทางขึ้น-ลง เพื่อจะได้ให้ผู้คนเดินทางผ่านไปมาได้กราบไหว้เพื่อความปลอดภัยและ
    เป็นสิริมงคล
    ในวันที่ 26 มกราคมของทุกปี จะมีการบวงสรวงระลึกถึงพระคุณท่าน ซึ่งเป็นวันที่อัญเชิญท่านลงมาอยู่ศาลใหม่นั่นเอง ทุกวันนี้ชาวบ้านแถบเขาใหญ่ยังติดปากเรียกศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ว่า ศาลปลัดจ่าง

    เจ้า       ผู้ทรง ฤทธิ์ล้ำ เลอภพ
    พ่อ       รักสรรพ สัตว์จบ เถื่อนถ้ำ
    เขา       โขดป่าชลาสงบ ตลอดทั่ว แดนนา
    ใหญ่     ยิ่งใครรุกล้ำ  วิบัติแล้ว ผู้ทะนง  


    */*/*/*/*

    แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 52 09:27:26

    แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 52 09:26:54

    จากคุณ : Moony_Lupin - [ 21 มี.ค. 52 09:26:18 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com