... มณีเทวา ...
...ล่วงรัตติกาลแห่งคืนเดือนดับอันเย็นเยียบและฉ่ำชื้นด้วยหยาดพระพิรุณที่ถะถั่งสายโปรยปรายลงต้องพื้นปฐพีประหนึ่งหยาดน้ำทิพย์แห่งสรวงสวรรค์จากหัตถ์แห่งองค์เทพ ท่ามกลางความมืดมนอนธกาลแห่งราตรี ณ ริมฝั่งมหานทีอันศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองโชติรัตนาปุระ ยังมีความเคลื่อนไหวลักษณาการหลีกเร้นประดุจมฤคชาติระแวงไพร แฝงเงาไม้พฤกษาชาติและสายฝนเป็นเสมือนหนึ่งฉากกำบัง ด้วยอาการอันร้อนรนมุ่งหน้าสู่มหาวิหารเทวรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำนคร
ร่างแบบบางอรชรทั้งสามมุ่งตรงสู่สถานที่ต้องห้ามอันยากแก่การล่วงล้ำกร้ำกรายตามปกติวิสัย แพรพรรณที่ปกปิดเรือนร่างและดวงหน้าของสามดรุณีน้อยนั้นบ่งบอกถึงฐานันดรอันสูงส่ง มิใช่หญิงสาวชาวบ้านสามัญชั้นไพร่ หรือนักเดินทางผู้พลัดหลงมาแต่แดนไกล มือของนางผู้หนึ่งในอาภรณ์สีเขียวอ่อนถือโคมไฟแก้วเล็กๆที่ส่องแสงสว่างแวววามท่ามกลางหยาดฝนเพื่อเป็นเครื่องนำทาง ถัดกันนั้นสาวน้อยในชุดสีม่วงครามผู้ถือหีบทองคำฝังอัญมณีอันวิจิตรบรรจงกำลังกางร่มกำบังหยาดพิรุณมิให้ตกต้องร่างดรุณีน้อยในพัตราภรณ์สีแดงเพลิงอีกนางหนึ่ง ลักษณะท่าทางอันเปี่ยมด้วยราศีและความงามเหนือนางทั้งสองนั้นบ่งชี้ให้เห็นถึงความเป็นใหญ่ในหมู่นางทั้งสาม
หยาดฝนซาเม็ดลง แต่ความหนาวเหน็บมิได้คลายลงสักน้อยนิด นางทั้งสามเดินทางมาถึงปากทางเข้ามหาวิหารองค์เทพ ตรีโลจนา พลันที่แสงไฟส่องกระทบสายตา ทหารยามผู้รักษาหน้าที่พิทักษ์วิหารแห่งนี้ถลาเข้าขวางทางผู้มาเยือนยามรัตติกาลอย่างขึงขัง ด้วยมิทราบเจตนาแฝงเร้น
หยุด ! พวกเจ้าเป็นใคร มีธุระอันใดบอกมา เสียงห้วนเฉียบขาดดังแหวกอากาศกระทบโสตประสาท ทั้งสามนางหยุดยืนประจันหน้ากับสองบุรุษผู้อารักขาอย่างมิคร้ามเกรง
หากยังมิตอบ ศีรษะของพวกเจ้าจะหลุดจากบ่า จงตอบข้า เจ้ามาที่แห่งนี้ด้วยเหตุใด สิ้นเสียงคำรามทั้งสองคนเงื้อดาบขึ้นสูง อาวุธสังหารสะท้อนแสงไฟจากคบเพลิงที่ผนังวิหารแปลบปลาบเป็นที่น่าสะพรึงกลัว นางผู้สวมอาภรณ์สีแดงเพลิงปลดผ้าคลุมหน้าลง เผยให้เห็นวงพักตร์อันงดงามผุดผาด ดวงตากลมโตสุกใสราวดาวเหนือในเหมันตฤดู ริมฝีปากบางเฉียบเอื้อนเอ่ยวาจาตอบ
พวกเจ้าจะหลีกทางให้ข้าได้หรือยัง น้ำเสียงราบเรียบทรงพลัง ทว่าใสกังวานดุจกังสดาลแก้วสะกดให้บุรุษหนุ่มทั้งสองตกตะลึง และไวดังคิด ดาบคมกริบทั้งสองเล่มก็พลันกลับคืนสู่ฝักในทันใด
พระอาญามิพ้นเกล้า ข้าทั้งสองมิรู้ที่ต่ำสูง ขอเชิญพระนางกรพินทุวดีเสด็จตามราชประสงค์ ท่าทีหยิ่งผยองดังพญาสีหราชเมื่อครู่ก่อนกลับแปรไปเป็นความเคารพนบนอบ ทั้งสองหลีกทางให้นางทั้งสามเข้าสู่ปากประตูวิหารโดยดุษณียภาพ...
จากคุณ :
พิจิตรเลขา
- [
22 มี.ค. 52 21:29:24
A:192.168.0.17 X:61.7.174.94
]