ขอบคุณมากครับเสียงทุ้มเอ่ยลอดหน้ากากสีฟ้าอ่อนออกมาอย่างเป็นพิธีหลังจากเสร็จสิ้นการผ่าตัด หญิงสาวยิ้มอย่างเกรงใจเพื่อเป็นการรับคำขอบคุณ ถ้าไม่ใช่ว่าหมอดมยาที่ถูกวางตัวไว้เกิดอุบัติเหตุกะทันหัน เธอคงใช้วันลาหยุดอย่างสบายใจ
อาจเป็นเรื่องบังเอิญอีกเช่นกัน ที่วันนี้เพื่อนได้ยกเลิกนัดการไปเที่ยวแบบปัจจุบันทันด่วน ปล่อยให้เธอต้องใช้วันลาหยุดวันสุดท้ายโดยการขึ้นโออาร์มาทำหน้าที่แทนหมอคนนั้น โดยที่หญิงสาวได้รับการติดต่อจากแพทย์ผ่าตัดมือหนึ่งของทีมนี้โดยตรง
เขากับเธอไม่ได้สนิทสนมกัน เขาเป็นรุ่นพี่ของเธอเกือบหกปีพอหญิงสาวเรียนจบ เขาก็กลายเป็นศัลยแพทย์มือหนึ่ง ส่วนเธอก็ใช้ความฝันเติมต่อความจริงเรียนจบวิสัญญีพอดิบพอดีสามปี เธอทำงานมานานกว่าสองปีในฐานะวิสัญญีแพทย์ หญิงสาวทำงานให้แทบทุกภาควิชาที่ต้องมีการดมยาสลบ ไม่ว่าจะผ่าตัดเล็กหรือผ่าตัดใหญ่ งานหนักหนาสาหัสใช้เวลายืดยาวค่อนวันเธอก็เจอมาแล้ว
น่าแปลก เธอได้ร่วมงานกับเขาเพียงแค่เก้าครั้งเท่านั้น ทั้งๆที่ในปีหนึ่งๆเธอทำหน้าที่เป็นร้อยๆวันทว่าวันนี้ไม่รู้อะไรเขาถึงโทรตามหญิงสาวก่อนที่จะถึงเวลาผ่าตัดแค่หนึ่งชั่วโมง
หญิงสาวรีบอาบน้ำแต่งตัวออกจากบ้านพักแทบไม่ทัน...เอาน่าอย่างน้อยครั้งนี้ก็จะได้อีกหนึ่งแต้มสำหรับการทำงานร่วมกับเขา
เหนื่อยไหมคะน้องหมอ เผอิญวันนี้ฉุกละหุกจริงๆ ถ้าไม่มีน้องอยู่ก็ไม่รู้จะไปวานใคร ดีนะคะที่คุณหมอคิดได้ว่าวันนี้น้องหมอว่าง ไม่อย่างนั้นคงยุ่ง ให้ไปไว้วานคนอื่นก็คงต้องจัดตารางงานกันใหม่พี่พยาบาลวิสัญญีคนคุ้นหน้าชวนคุยอย่างเป็นกันเองขณะเดินออกจากห้องผ่าตัดไปยังห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
ผิดกับแพทย์มือหนึ่งที่เดินเลี่ยงไปยังส่วนของผู้ชายตั้งแต่ยังไม่ถอดหน้ากากออกจากใบหน้า หญิงสาวมองหน้าพี่พยาบาลงงๆ ตอนแรกที่เขาโทรเข้าเบอร์มือถือส่วนตัวเธอยังคิดว่าพี่พยาบาลวิสัญญีคนนี้เป็นคนบอกเขาซะอีก แต่นี่ชายหนุ่มเป็นคนติดต่อเธอตรงๆเลยหรือ
ไม่เป็นหรอกค่ะ ยังดีที่วันนี้หนูว่าง เพื่อนมันเบี้ยวนัดน่ะค่ะเธอยิ้มหน้าเป็น
จ้ะ พี่รู้แล้วล่ะว่าน้องหมอลาพักร้อน แต่แหมคุณหมอนี่เค้าดีจริงๆนะที่รู้ว่าน้องหมอยังว่าง
โอ้ย ไม่หรอกค่ะพี่หนูว่าเป็นความบังเอิญมากกว่า แหมหนูกับพี่เค้ายังไม่ค่อยได้คุยกันเลยพี่ก็รู้ หนูไม่ได้บอกเขาสักหน่อยว่าวันนี้หนูว่าง แล้วอีกอย่างเพื่อนมันเพิ่งโทรมายกเลิกนัดหนูเมื่อเช้า
ฮั่นแน่ แล้วคุณหมอเค้ารู้ได้ไงคะว่าน้องหมอว่าง อ๊ะๆมีอะไรในกอไผ่หรือเปล่าจ้ะ
โธ่พี่ค่า หนูไม่กล้าหรอกค่ะ พี่หมอโหดจะตาย หญิงสาวกลอกตา
รู้ด้วยเหรอคะ นึกว่าไม่ค่อยได้ร่วมงานจะไม่รู้พี่พยาบาลกระซิบถาม
รู้สิ เห็นเมื่อกี้มั้ยคะ เพลงที่เปิดในโออาร์ออกจะเพราะ พี่เค้ายังนิ่งซะ
ไม่เหมือนน้องหมอ ยิ้มเคลิ้ม ขืนคุณหมอหันไปมองคงโดนดุ
เอาน่า วันนี้พี่เขาไม่เห็นสักหน่อย อีกอย่างหนูก็ไม่ค่อยได้ผ่ากับเขา
ค่าน้องหมอ อย่างงั้นพี่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ ออกเวรแล้ว
ค่ะสวัสดีค่ะพี่เธอยกมือไหว้ผู้อาวุโสกว่า แล้วผละไปเปลี่ยนชุดลำลองที่ใส่มาก่อนหน้านี้สามชั่วโมง หญิงสาวเข้าโออาร์ตอนสาย นี่ก็บ่ายกว่าแล้วยังเหลืออีกค่อนวันว่าง หญิงสาวตัดสินใจเดินกลับบ้านพักเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนที่จะออกไปหากิจกรรมทำข้างนอก
เอ๊ะ รถใครกันนะ หญิงสาวรู้สึกคุ้นตากับรถยุโรปคันใหญ่สีดำมันปลาบที่จอดนิ่งอยู่หน้าบ้านพักของตน เมื่อหญิงสาวเดินเข้าไปใกล้ๆก็เห็นเขายืนพิงกระโปรงรถ
มีอะไรรึเปล่าคะคุณหมอด้วยความเกรงใจที่เขาแก่กว่าเธออยู่หลายปี หญิงสาวจึงเอ่ยทักออกไปด้วยเสียงสุภาพ เธอรู้สึกตัวลีบเล็กขึ้นมาทันทีที่ชายหนุ่มเงยหน้ามาจากรองเท้าหนังแท้สีน้ำตาลของเขาเอง ความแปลกใจทั้งเรื่องเมื่อเช้าและในตอนนี้ถูกบดบังด้วยรัศมีบางอย่างจากชายหนุ่ม
วันนี้คุณว่างใช่ไหม เสียงสุขุมเอ่ยถามเรียบ แววตาและใบหน้าไม่บ่งบอกว่าอยู่ในอารมณ์ไหน
คะ เอ้อ ค่ะวันนี้หนูว่างหญิงสาวที่ยังมึนๆงงๆ เผลอใช้คำแทนตัวเองเฉกเช่นเวลาที่คุยกับคนสนิท
ได้ข่าวว่ามีงานหนังสือที่ศูนย์ประชุม สนใจจะไปเดินดูรึเปล่า
ฮะ! คุณหมอสาวสบถออกไปอย่างไม่เชื่อ
คุณจะไปชุดนี้เลย หรือว่าจะเปลี่ยนชุดก่อนก็ได้นะ ผมจะรอ
ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ไปชุดนี้ก็ได้ เธอรีบปฏิเสธเขาด้วยความเกรงใจ ชายหนุ่มคิ้วเข้มขยับตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เปิดประตูขึ้นไปเตรียมพร้อมด้านคนขับ ส่วนเธอเองก็ละล่ำละลักก้าวตามเขาขึ้นไปนั่งทางด้านข้างซ้าย
โดยที่คุณหมอสาวเองก็ยังงงว่าเธอตกลงปลงใจกับเขาตอนไหนว่าจะไปงานหนังสือกับเขา
คุณชอบฟังเพลงอะไร ขณะขับรถไปสักพัก คนคิ้วเข้มหน้าดุก็เริ่มชวนคุย
เพลงเพราะๆค่ะเธอตอบเขาตรงๆ ชายหนุ่มหันมามองหน้าหญิงสาวหนึ่งครั้งแล้วเบนหน้าไปสนใจการขับรถตามเดิม
นี่เธอตอบอะไรผิดหว่า เขาถึงตีหน้าดุยิ่งขึ้น เธอไม่เข้าใจจริงๆ
แล้วชอบทะ
เหมือนเขาจะนึกถามอะไรอีก ทว่าในที่สุดชายหนุ่มก็หยุดลงกลางคัน
ผมชอบกินอาหารไทย แล้วคุณล่ะ
อะไรก็ได้ค่ะที่อร่อย
เธอฉีกยิ้มกว้างเต็มที่เมื่อเขาหันหน้ามามองเธออีกหน
เอ่อคุณหมอคะ
เรียกพี่ก็ได้
ค่ะ...พี่หมอ
ถ้าจะขออนุญาต เปิดวิทยุได้ไหมคะ หนูว่ามันเงียบไปน่ะค่ะ
ก็เอาสิ
พอจบคำชายหนุ่มก็กดปุ่มวิทยุภายในรถคันหรู เขาค่อยๆเร่งเสียงเพลงจากสถานีวิทยุให้ดังขึ้น
พี่ชอบอ่านหนังสือหรือคะ หญิงสาวหาเรื่องชวนคุยบ้าง
เปล่า
.... แล้วเขาชวนเธอไปงานหนังสือทำไมเนี่ย
ได้ข่าวว่ามีหนังสือซีไรท์เรื่องใหม่ออกงานนี้ด้วย
เหรอเขาถามอย่างไม่ใส่ใจ จนเธอเริ่มหงุดหงิดอยากจะถามออกไปว่า
ตกลงแล้วพี่อยากไปงานหนังสือหรือเปล่าคะ หญิงสาวหันไปสนใจภาพข้างทาง แทนที่จะหัวเสียกับผู้ชายคนข้างๆ จนกระทั่งรถเข้าใกล้บริเวณศูนย์ประชุม
ไม่นึกว่ารถจะติดมากขนาดนี้ศัลยแพทย์หนุ่มเปรยขึ้น เมื่อเห็นว่าทางเข้าหน้างานหนังสือมีรถติดเป็นขบวนยาวพอๆกับขบวนรถไฟสักสองโบกี้
ก็แบบนี้แหละคะ เมื่อปีที่แล้วหนูต้องนั่งรถรับจ้างเข้ามาแต่เช้า บ่ายๆแล้วยิ่งวันหยุดแบบนี้คนยิ่งเยอะ อย่างว่างานนี้ปีนึงจะมีสักครั้ง คนรักหนังสือต่างก็ตั้งหน้าตั้งตารอทั้งนั้น
เขานั่งฟังเงียบจนกระทั่งการจราจรติดขัดเริ่มขยับตัว จึงค่อยเคลื่อนรถเข้าไปต่อเพื่อรอรับบัตรจอดรถ
เข้าไปในงานก่อนเดี๋ยวผมไปหาที่จอดรถแล้วจะตามเข้าไป เขาหยุดรถให้เธอลงหน้าประตูทางเข้า หญิงสาวรอจนรถของเขาวนไปทางที่จอดเธอจึงเดินเข้างาน
อุ้ย! นั่นมันหนังสือใหม่นี่นา หญิงสาวอุทานด้วยความยินดี เมื่อเหลือบไปเห็นบูทหนังสือที่นักเขียนคนโปรดออกหนังสือใหม่ คุณหมอสาวรีบเดินเข้าไปเพื่อจับจองเป็นเจ้าของมัน หญิงสาวออกร้านนี้เข้าร้านนู้น ไม่เพียงแต่จะใช้เวลาดูหนังสืออย่างรวดเร็ว แต่หญิงสาวใช้เวลาเลือกและซื้อนานแสนนาน จนกระทั่งตนเองลืมไปว่าใครเป็นคนพามางานนี้
เฮ่ย เรามากับพี่หมอนี่หว่า แล้วนี่เขาไปไหนของเขาเนี่ย หญิงสาวหยิบมือถือขึ้นมาหาเบอร์ของเขาที่โทรเข้ามาในตอนเช้า
ตื้ด...ๆ...ๆ สวัสดีครับ
พี่หมอหรือคะ ตอนนี้พี่หมออยู่ตรงไหนของงานคะ
อ่อ อยู่ตรงคอฟฟี่ชอบด้านหน้า ตามสบายเลย หาหนังสือที่ต้องการได้เลยนะ
พี่ไม่เดินหรือคะ
เอ่อ...ไม่หรอกเขาตอบไม่เต็มเสียงนัก
ถ้าอย่างนั้นพี่กลับก่อนได้เลยนะคะ เดี๋ยวหนูหารถกลับเอง ขอบคุณมากค่ะเธอกดตัด
สัญญาณก่อนที่เขาจะได้พูดอะไร หญิงสาวไม่ได้เห็นสีหน้ากังวลใจของเขา ชายหนุ่มไม่ได้ตั้งใจ...ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ
คนบ้าอะไรวะ ชวนเขามาแล้วมาทิ้งเขาให้เดินคนเดียว คุณหมอสาวเดินลากรถขนหนังสือดุ่มๆหาทางออก เธอโกรธจนไม่มีอารมณ์ที่จะเดินดูหนังสือ
อุ๊ย! ขอโทษค่ะเธอถูกมหาชนเดินเบียดจนกระทั่งหลุดออกไปกระแทกแผ่นหลังของใครคนหนึ่ง
จะรีบไปไหน เสียงของเขายังคงเส้นคงวา
นิ่งเฉยและเย็นชา
เปล่าค่ะ คุณหมอสาวพยายามเลี่ยงที่จะเดินไปสู่ประตูทางออก แต่มือใหญ่กลับฉุดแขนเล็กๆนั้นไว้ก่อน
อยู่เป็นไกด์งานหนังสือให้ผมหน่อยได้หรือเปล่า อย่าเพิ่งกลับ
หญิงสาวหันมา แล้วต้องเบิ่งตา
รอยยิ้มน้อยๆของเขาก็ดูดีจังแฮะ!
..................ตื๊ด...ๆ...ๆ...ๆ สวัสดีครับ
ทำอะไรอยู่คะ
อยู่ในโออาร์กำลังจะเข้าผ่า
เบื่อจังค่ะ
ทำไมล่ะ
ก็ไม่ได้ทำอะไรเลยนี่คะ นอนทั้งวัน
ดีแล้ว
พรุ่งนี้มีงานหนังสือพาไปหน่อยซี
ไม่เอาหรอก มันไม่ดีต่อสุขภาพ เดินอยู่ที่บ้านนั่นแหละ
นั่งอยู่บ้านมาหกเดือนแล้วนะ
ดีแล้ว จะเอาอะไรเดี๋ยวพี่หาซื้อให้
งั้นเอาหนังสือซีไรท์เล่มใหม่ แล้วก็ซีดีเพลง
ซีดีเพลงอะไร
ในงานหนังสือมีเพลงอะไรเพราะๆก็ซื้อมาเถอะ
ตกลงจะให้พี่ไปงานหนังสือให้ได้ใช่ไหม
ก็พี่ไม่อยากให้หนูไปด้วยนี่นา
ก็เป็นห่วง ไม่อยากให้ไปที่คนเยอะๆ
เป็นหมอซะเปล่า ไม่รู้จะห่วงอะไร
นั่นแหละ ครั้งแรก
แล้วตกลงว่าจะไปงานหนังสือให้ไหม
ไม่อยาก...
ไม่อยากอะไรพูดให้ดังๆหน่อยสิ
ไม่อยากเดินคนเดียว
ก็บอกแล้วให้หนูไปด้วย หนูแค่ท้องนะไม่ได้เป็นง่อยสักหน่อย
เอาน่าเดี๋ยวซื้อนมปั่นไอศกรีมจากงานหนังสือไปฝากนะ
ตั้งแต่จีบหนูมาเนี่ย นอกจากไอติมจากงานหนังสือเคยให้อย่างอื่นไหมเนี่ย
ให้สิ"
คำตอบทำเอาหญิงสาวหน้าแดง รู้ความหมายของวลีสั้นๆนี้ทันที
ไม่กวนแล้ว ไปห้องผ่าตัดเถอะ ฝากทักทายพี่ๆที่โออาร์ด้วยนะคะ"
หลังสัญญาณโทรศัพท์ตัดไป คุณหมอสาวที่กำลังจะกลายเป็นคุณแม่คนใหม่ นึกถึงวันแรก
ที่ เขา จีบเธอด้วยการพาเธอไปงานหนังสือที่เธอชอบ โดยที่เขาเองไม่เคยไปงานนั้นเลยสักครั้งเดียว
หญิงสาวหวลคิดถึงเพลงเพราะๆที่มีคนนำมาเปิดในโออาร์ หารู้ไม่ว่าชายหนุ่มไหว้วานให้พี่พยาบาลช่วยเปิดไว้ก่อนที่เธอจะเข้าไปทำงานในห้องนั้น
โดยที่เธอไม่รู้สักนิดเลยว่า เขาจะ จีบ เธอด้วยวิธีการนี้
จากคุณ :
nattanaree
- [
24 มี.ค. 52 22:18:31
]