ตอน ผีโพรงที่ลำตะคอง (หลอนครั้งแรก)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7555350/W7555350.html
ตอน ผีโพรงที่ลำตะคอง (ฝูงผีบุก)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7561061/W7561061.html
ตอน ผีทวงสมอง
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7569912/W7569912.html
ตอน ช่วยด้วย
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7575674/W7575674.html
ตอน หัวใคร ในทะเล
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7581096/W7581096.html
ตอน ทำไมพี่ถึงไม่ช่วยผม!
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7589318/W7589318.html
ตอน กลิ่น
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7650035/W7650035.html
ตอน เขามาเตือน
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7630569/W7630569.html
ตอน วิญญาณป่าที่เขาใหญ่
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7613807/W7613807.html
ตอน เขามานำทาง
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7664958/W7664958.html
เรื่องที่ 12 เหงามั้ยจ๊ะ
เรื่องน่ากลัวประจำหอพัก หรือผีประจำมหาวิทยาลัยเป็นสิ่งที่มีคู่กันมาทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าจะเป็นผีผู้หญิงในห้องน้ำ ผีชุดขาวบนหลังคาหรือผีผมยาวที่ชอบนั่งห้อยขาอยู่บนดาดฟ้าอาคารเรียน แม้จะไม่ค่อยเชื่อหรือรู้ดีอยู่แก่ใจว่าส่วนใหญ่แล้วมักเป็นเรื่องเล่าสู่กันฟังระหว่างรุ่นต่อรุ่น อดตาหลับขับตานอนพิสูจน์ก็ไม่เคยเจอซักกะที แต่มันก็สนุกตื่นเต้นดีอีตอนนั่งฟัง
ตอนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย พี่เองก็ได้ฟังรุ่นพี่เล่าเรื่องลึกลับต่างๆในอาคารเรียนเสมอ โดยเฉพาะวันไหนจะต้องเฝ้าแล็บด้วยแล้วไอ้รุ่นพี่ที่เคารพมันก็ช่างหาเวลาว่างมาสาธยายเรื่องผีให้สยองเล่นเช่นเคยมีเด็กเรียนตายเพราะผสมน้ำยาผิดสูตรแล้วระเบิดหน้าเละ ทุกคืนจะมีคนเห็นเขาอยู่ในห้องแล้วหยิบขวดสารเคมีดังก๊องแก๊ง หรืออาคารเรียนเคยมีคนงานตาย(ดูเหมือนจะเป็นพล็อตยอดนิยมเลยนะเรื่องนี้) เรียกได้ว่าสรรหามาเล่าจนเราแทบไม่อยากยืนเฝ้าเพลทเลย
ที่พูดมาทั้งหมดน่ะไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องที่จะเล่าในวันนี้หรอก เพราะสิ่งที่พี่เจอมาอยู่ในหอพัก โดยทั่วไปของมหาวิทยาลัยทั่วไปนักศึกษาปีที่ 1 มันจะได้อยู่หอใน ซึ่งเป็นหอของทางสถาบันเอง จะมีบ้างที่ออกไปเช่าอยู่ข้างนอกเพื่อความสะดวกในเรื่องเวลามีญาติมาเยี่ยมหรือออกร่อนได้ 24 ชม.ตามประสาวัยรุ่น กลุ่มพี่ก็เป็นแบบนั้น เนื่องจากพี่เป็นคนต่างจังหวัด(เป็นคนกรุงเทพที่ไปเรียนสงขลา) และแม่จะเป็นห่วงมากถึงขนาดนั่งรถไฟไปหาเดือนละครั้ง ประกอบกับมีคนรู้จักอยู่ที่นั่นพี่เลยขออยู่หอพักนอกซึ่งเป็นหอสตรี วันแรกที่เข้าไปบรรดาเรื่องเล่าสยองประจำหอพักก็หลั่งไหลมาเข้าหูเช่นวันดีคืนดีจะมีผู้หญิงชุดขาวมายืนที่ห้องอ่างอาบน้ำรวม พี่ฟังก็นึกในใจว่าทำไมต้องชุดขาวเท่านั้น ชุดเขียว ชุดแดงหรือลายจุดไม่ได้เลยหรือไงฟระ เอ้า ฟังก็ฟังแถมทำท่ากลัวนิดหน่อยพอเป็นพิธีเพื่อไม่ให้เสียน้ำใจกัน
อยู่หอพักได้ครึ่งปี เดินร่อนทั่วหอทั้งกลางดึกและเข้าห้องน้ำตอนเที่ยงคืนก็ไม่เคยเจออะไร พี่ก็สนุกสนานเฮฮากับเพื่อนๆไปตามเรื่องเช่นหาเรื่องเข้าเมืองตอนค่ำเพื่อไปหาอะไรกินที่ตลาดโต้รุ่ง ที่โปรดปรานกันมากคือน้ำเต้าหู้ใส่ไข่นกกระทาซึ่งเขาทำได้เก่งมาก ตัวไข่ขาวจะสุกในขณะที่ไข่แดงจะเป็นวุ้น จนป่านนี้ยังหาอร่อยแบบนี้ไม่ได้เลย
นอกเรื่องอีกแล้ว อย่าเพิ่งทำหน้าแบบนั้นสิ เอ้า! มาฟังของจริงกันได้แล้ว ด้วยความที่ชอบออกไปหาของกนกันกลางดึก มีอยู่ครั้งหนึ่งพวกพี่(ซึ่งก็คือเพื่อนนักศึกษาที่อยู่หอเดียวกัน) ได้รับคำชวนจากเพื่อนว่าให้ไปกินเลี้ยงวันขึ้นหอใหม่ (มันมีด้วยเหรอฟระ) คือมันย้ายหอแล้วหาเรื่องกินน่ะแหละ ในเมื่อเพื่อนชวน ของฟรีไม่มีใครปฏิเสธแน่ พี่ก็ยกขบวนไปกันประมาณห้าหรือหกคน เริ่มออกเดินทางกันตอนหนึ่งทุ่มเพราะหอเพื่อนกับหอพี่อยู่ห่างกันซักหนึ่งกิโลได้ เส้นทางก็ริมถนนสายหลักที่จะวิ่งเข้าเมืองซึ่งในสมัยนั่นค่อนข้างเปลี่ยว ดีที่มีไฟริมทางช่วยไม่งั้นคงไม่กล้าเดินกันหรอก
ขาไปน่ะไม่มีอะไร แต่ขากลับนี่น่ะสิพวกพี่ต้องยืนตัวแข็งตอนที่จะออกจากหอเพื่อนซึ่งน่าจะอยู่ในราวๆห้าทุ่ม มีข่าวลือมาว่ามีคนผูกคอตายที่ต้นไม้ริมถนนแถมเป็นทางที่เราจะต้องเดินกลับด้วย
เอาล่ะสิ ทำไงล่ะทีนี้
หลังจากปรึกษากันอย่างเคร่งเครียดทุกคนก็สรุปกันเองว่า เขาผูกกันตั้งแต่สี่ทุ่ม ป่านนี้ตำรวจคงนำลงมาแล้ว ก็ออกเดินทางกัน อ้อ ลืมบอกไป คือคนผูกน่ะเป็นลูกสาวเจ้าของบ้านที่ตั้งอยู่ริมถนน และหน้าบ้านเขาจะมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นอยู่ค่ะ พวกพี่เดินไปคุยไปกันอย่างสนุกสนาน พอเริ่มเข้าใกล้บ้านหลังนั้นก็เริ่มใจหายวาบเพราะยังมีกลุ่มคนยืนรอบต้นไม้แถมไฟรถตำรวจยังวับวาบอยู่เลย ยิ่งไปกว่านั้นยังเห็นอะไรบางอย่างแกว่งอยู่บนกิ่งไม้ที่ยื่นออกมาบนถนน พูดง่ายๆก็คือถ้าเราเดินผ่านก็จะต้องลอด สิ่งนั่น พอดี พวกพี่หันมามองหน้ากัน
เอาไงดี
คืออารมณ์ตอนนั้นจะถอยก็ไม่ได้ จะเดินหน้าต่อก็ไม่ไหว ยืนเก้ๆกังๆกันอยู่แบบนั้นจนในที่สุดเพื่อนคนหนึ่งก็เสนอว่า
ก็ข้ามไปเดินอีกฝั่งสิฟระ แล้วอย่าหันไปมองเชียวนะเฟร้ย
ทั้งกลุ่มเดินข้ามถนนไปอีกฝั่งและรีบก้มหน้าก้มตาเดินจ้ำอ้าวไม่พูดไม่จากัน อีตอนกำลังจะผ่านไม่รู้ไทยมุงคนไหนดันร้องว่า
เฮ้ย จะหล่นแล้ว
ตามมาด้วยเสียงดังพลั่ก!
สงสัยก็สงสัยค่ะว่า ไอ้ที่จะหล่นน่ะคนหรือศพ แต่ใครจะกล้าดูล่ะคะ พวกพี่พร้อมใจกันโกยอ้าวกลับหอเลย ไม่กล้าเดินผ่านตรงนั้นไปหลายเดือน
จบในเรื่องของพี่แล้วมาฟังเรื่องของเพื่อนที่เจอมาบ้าง พี่ขอเรียกว่าทีก็แล้วกันนะคะ เจ้าทีเนี่ยเป็นหนุ่มหน้าตาที่จัดว่าค่อนข้างดีแต่มีความคิดอะไรที่ผิดชาวบ้านตลอดเวลา แถมเป็นพวกรักธรรมชาติกับความสันโดษด้วย ฉะนั้นตอนหาที่พักแทนที่จะไปอยู่หอรวมเหมือนคนอื่นเจ้าทีดันอุตริไปเช่าห้องพักขนาดเล็กที่ตั้งห่างจากถนนพอควร เป็นห้องพักราคาไม่แพงนักสร้างจากไม้และใช้ไม้อัดตีฝากั้น ประตูก็เป็นไม้อัดแบบง่ายๆ แถมห้องเจ้าทีถ้าเปิดออกไปจะเจอต้นตาลเดี่ยวเด่นเป็นสง่า มันบอกว่าตอนพระอาทิตย์ตก ต้นตาลนี่จะสวยมาก ให้บรรยากาศโรแมนติกที่สุด พวกพี่ฟังแล้วส่ายหน้า เอาเถอะพ่อคุณ
วันหนึ่งเจ้าทีเดินหน้าซีดเข้ามาหาเพื่อนแล้วชวนให้ไปขนข้าวของออกจากบ้านพัก พวกพี่ขอผัดให้พ้นชั่วโมงเรียนไปก่อนแล้วบ่ายจะไปให้มันก็ไม่ยอมดึงดันจะให้ไปเดี๋ยวนั้นอย่างเดียว ตอนแรกเพื่อนๆก็นึกฉุนแต่พอเห็นหน้าจ๋อยๆของมันแล้วก็สงสาร เอ้าไปก็ไป ว่าแล้วก็โดดเรียนกัน
ระหว่างที่เก็บข้าวของเสื้อผ้า เจ้าทีมันหันหน้าหันหลังตลอดเวลา และพอเก็บเสร็จมันก็เดินอ้าวออกไปโดยไม่รอใคร พวกเพื่อนๆก็มองมันด้วยความสงสัยเพราะโดยปรกติแล้วถึงเจ้านี่จะรักสันโดษจนบางครั้งออกแนวกวนอวัยวะบางส่วนแต่ทีก็เป็นคนคุยสนุก แถมที่พักใหม่ก็เป็นหอรวมซึ่งผิดวิสัยของมันมาก พวกเรารอจนเจ้าทีเอาของไปเก็บเรียบร้อยแล้วกลับมานั่งจึงเริ่มซักถามด้วยความอยากรู้ แรกๆมันก็ไม่ยอมเล่าแต่พอโดนเพื่อนๆพร้อมใจกันเงื้อบาทาเจ้าทีเลยยอมเปิดปาก
ทีเล่าว่าเมื่อวานหลังเรียนคาบบ่ายเสร็จเขาก็ตรงกลับห้องพักและนอนหลับยาวไปจนกระทั่งได้ยินเสียงอะไรบางอย่างที่หน้าประตูเลยตกใจตื่น มันบอกว่าตอนแรกคิดว่าเป็นเพื่อนมาเคาะประตูเรียกก็เลยทำท่าจะลุกมาดูแต่ปรากฏว่าขยับตัวไม่ได้ ตอนแรกก็คิดว่าเป็นตะคริวแต่พอได้ยินเสียงประตูเขย่าเจ้าทีก็เงยหน้าขึ้นมอง มันบอกว่าตอนนั้นหัวใจแทบหยุดเต้นเพราะสิ่งที่เห็นก็คือผู้หญิงที่มีหน้าตาสวยมากคนหนึ่งกำลังยื่นหน้าเข้ามา
แต่มันเป็นการยื่นหน้าแบบทะลุผ่านบานประตูที่ปิดสนิท และลอยมาหยุดอยู่ตรงหน้าเจ้าทีเพียงแค่ครึ่งตัว เธอส่งยิ้มหวานมาให้ และถามเจ้าทีเสียงเย็นว่า
เหงามั้ยจ๊ะ
ทีไม่ได้ตอบ เพราะมันกระโดดหนีออกทางหน้าต่างและเผ่นป่าราบตั้งแต่เธอยิ้มแล้ว
*/*/*/*/*
แก้ไขเมื่อ 02 เม.ย. 52 10:36:47