เหตุผล
แม่อยากให้ผมตายเหมือนพ่อเหรอ? ผมพูดกับแม่พร้อมกับวิ่งลงหลังบ้าน ทำไมนะ แม่ถึงอยากให้ผมสมัครเข้ารับการเป็นทหารนักหนา แม่ไม่รู้สึกอะไรบ้างหรือไงที่พ่อต้องไปทิ้งชีวิตในภาคใต้แทนทีจะได้มาอยู่รอดูความสำเร็จของผม อยู่กับความสุขภายในครอบครัว แล้วนี่ยังจะให้ผมไปสมัครอีก ผมไม่เข้าใจแม่จริงๆ แม่ไม่มีเหตุผลจริงๆ หรือแม่ไม่รักผมแล้ว ถึงอยากให้ผมไปเสี่ยง.........
เดี๋ยวลูก ฟังแม่ก่อน ฉันตะโกนตามหลังลูกชายคนเดียวของฉัน หลังจากที่เขาน้อยใจฉัน เรื่องที่จะให้สมัครเข้าทหาร ไม่ใช่ฉันไม่รักลูกหรืออะไรหรอก เพราะคำว่า ทหารนี่แหละที่ทำให้ฉันต้องเสียสามีของฉันไป แต่มันเป็นการสูญเสียที่เขาเต็มใจทำเพื่อชาติ และเป็นการสูญเสียที่ฉันก็ภาคภูมิใจในตัวเขา เขาเคยบอกฉันว่า อยากให้ลูกชายคนเดียวของเราเป็นทหารเหมือนเขา ฉันคงทำได้แค่นี้แหละ ฉันเป็นแค่แม่ ไม่ใช่เจ้าของชีวิตใคร เขาโตพอที่จะตัดสินใจเองได้ ขอเพียงแค่เข้าใจฉันก็พอ......
ผมนั่งอยู่ศาลาริมน้ำตรงหลังบ้าน นึกถึงครั้งเมื่อผมเด็กๆ ตอนนั้นพ่อสอนผมว่ายน้ำในคลองที่ไหลผ่านนี้ บนศาลามีแม่ค่อยนำขนมอร่อยๆมาให้ผมและพ่อทาน มันเป็นภาพความทรงจำที่น่าประทับใจ ผมนั่งหวนคิดถึงสิ่งเหล่านั้น พ่อเป็นฮีโร่ของผมทุกเรื่อง แต่บางครั้งผมอย่างเป็นแค่คนธรรมดา ไม่ใช่ฮีโร่ของใคร พรุ่งนี้คือวันเข้ารับเลือกการเป็นทหาร ผมจะไม่จับใบดำใบแดง ไม่สมัคร ผมจะผ่อนผันไปก่อน เมื่อถึงกำหนดใหม่ค่อยว่ากัน ตอนนี้ผมมีชีวิตมหาลัยที่สวยหรู มีงานพิเศษทำ แค่นี้ก็เป็นการรับประกันอนาคตที่สดใสของผมแล้ว พรุ่งนี้ผมจะไปยื่นเรื่องผ่อนผัน และเดินทางกลับกรุงเทพ ถึงแม้ว่าแม่จะว่ายังไงก็ตาม....
ฉันนั่งมองลูกชายของฉันจากบันไดหลังบ้าน เขานั่งเหม่อที่ศาลาริมน้ำ นี่ฉันทำให้เขาลำบากใจขนาดนั้นเชียวเหรอ ฉันอยากจะเข้าไปอธิบายเหตุผลของฉัน แต่ตอนนี้เขาคงไม่ฟังอะไรแล้ว เขามีนิสัยเหมือนพ่อ มีอุดมการณ์ที่มั่นคง เพียงแต่อุดมการณ์ของเขาต่างกัน ไม่ว่าเขาจะเลือกทางไหน ฉันก็พร้อมจะรับฟังและยืนอยู่เคียงข้างลูกของฉัน นี่คงเป็นหน้าที่ของแม่ที่ฉันทำได้ดีที่สุดในตอนนี้ ฉันกลับเข้าไปในห้องนอน พร้อมกับหยิบรูปสามีของฉันที่ตั้งอยู่ข้างเตียงมากอดไว้แนบอก พร้อมกับน้ำตาที่ไหลมาจากความรู้สึกขอโทษสามี และลูกชาย ฉันทำได้แค่นี้จริงๆ ฉันรักคุณนะค่ะ.....
ห้าทุ่มกว่าแล้ว ผมต้องรีบเข้าไปเก็บของพร้อมกับเตรียมเอกสารที่จะนำไปผ่อนผันในวันพรุ่งนี้ ไฟในห้องแม่ยังเปิดอยู่ นี่แม่ยังไม่นอนอีกเหรอ ก็คงจะหาหนทางที่จะทำให้ผมไปสมัครทหารแหละ ผมแอบมองเข้าไปในห้องแม่ตามรอยแยกของผนังห้อง เผื่อจะรู้แผนการที่แม่จะทำ ภาพที่ผมเห็นคือนั่งกอดรูปพ่อพร้อมกับร้องไห้ แม่พูดขอโทษพ่อที่ไม่สามารถให้ผมเป็นทหารดังที่พ่อตั้งใจ แม่บอกพ่อว่าผมโตแล้ว มีอนาคตที่เลือกเองได้ พร้อมกับบอกพ่อว่าขอให้ผมหายโกรธแม่ด้วย ที่แม่ทำให้ลำบากใจ ผมค่อยๆเดินกลับห้อง พร้อมกับเหตุผลที่ผมแบกไว้ ซึ่งตอนนี้เหตุผลเหล่านี้ มันช่างบางเบาเหลือเกิน หากเทียบกับน้ำตาของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ได้ชื่อว่าให้กำเนิดผมมา..
ฉันเอารูปสามีไปวางที่เดิม พร้อมกับจะเดินไปลงหลังบ้าน เพื่อจะบอกให้ลูกชายไปนอน แต่กลับเห็นไฟในห้องของลูกเปิดอยู่ เขาคงกำลังเก็บของอยู่ ฉันอยากจะเข้าไปช่วยเขา แต่เขาคงโกรธอยู่ ฉันได้แต่บอกออกไปเบาๆว่า ฝันดีนะ ลูกแม่ ก่อนที่ฉันจะกลับเข้าห้องนอนของตัวเอง...
ที่ว่าการอำเภอ
ผมยื่นเอกสารให้กับเจ้าหน้าที่
ฉันยืนรอลูกอยู่ข้างนอก
ผมเดินออกมาหาแม่
ลูกเดินมาหาฉัน
แม่ครับ ผมยื่นกระดาษใบหนึ่งให้แม่ดู
ฉันหยิบกระดาษอะไรสักอย่างหนึ่งที่ลูกยื่นมาให้ดู
ผมยิ้มพร้อมกับบอกว่า ลองอ่านดูสิครับ
ในกระดาษใบนั้นบอกว่า ลูกชายของฉันสมัครเข้าการเป็นทหารโดยไม่มีการจับใบดำใบแดง โดยผ่อนผันหลังเรียนจบ จะมารับหน้าที่ทหาร รับใช้ชาติ
ผมเห็นแม่ยิ้มทั้งน้ำ
ฉันได้แต่ยิ้ม ยิ้มที่เต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความตื้นตัน ฉันถามลูกว่าทำไม
ผมตอบแม่ไปว่า เพราะผมเป็นลูกของพ่อ ลูกของแม่ และที่สำคัญผมเป็นลูกของแผ่นดินนี้
ฉันยิ้ม
ผมยิ้ม
ภาพของหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งที่ยืนกอดลูกชายตัวเอง พร้อมกับเสียงสะอื้น ทำให้คนหลายๆคนที่เห็นต่างคิดถึงเหตุผลที่ทำให้หญิงคนนี้ร้องไห้ ว่าเพราะอะไร อาจเพราะลูกชายของเขาติดทหาร หรือเพราะลูกชายของเขาไม่ติดทหาร แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เหตุผลทั้งหมดเป็นเพียงสิ่งที่เห็น เหตุผลจริงๆต่างรับรู้และสื่อถึงกันในใจของแม่ลูกคู่นั้นแล้ว.....
อาจยาวไปแต่ช่วยวิจารณ์หน่อยนะครับ
จากคุณ :
หัวโต
- [
1 เม.ย. 52 20:51:40
A:161.246.243.181 X:161.246.1.35
]