Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    เคยเขียนแต่เรื่องหมา ขอเขียนเรื่องคนครั้งแรกค่ะ (เค้าโครงจากเรื่องจริง) "เมื่อคุณนายหลงรักผู้ชายอินดี้" ตอน 1

    เรื่องราวรักต่างวัย ของหญิงสาววัยเกิน 35 กับพ่อหนุ่มอินดี้
    อายุห่างกันเป็นรอบ ที่ไม่รู้โคจรมาเจอกันได้ยังไง
    ความต่างขั้วแบบสุดๆ จะกลายเป็นความลงตัวได้หรือไม่ ....
    คงต้องติดตาม ... เพราะดิฉันจะถ่ายทอดแบบช๊อตต่อช๊อตค่ะ ...
    จะลงเอย มีลุ้น หรือ ต่างคนต่างไป ลองติดตามดูนะคะ ....

    ผู้เขียน...

    ตอนที่ 1 :: จุดยืน ::

    “ผมก็เป็นอย่างงี๊แหละ”

    จากประโยคบอกเล่าข้างบน ให้ฟังอีกสักกี่ครั้ง ฉันก็รู้สึกได้แต่ว่า
    ไอ้คนพูดนี่มันช่างแสนจะมั่นใจ เพราะอะไรงั้นสิ ... ก็ต่อท้ายจาก
    ประโยคบอกเล่าที่ประกาศตนอย่างที่ว่าข้างต้นแล้ว จากนั้น มันจะ
    มีประโยคยิบย่อย ขยายความ ได้ว่า

    “ถ้าแม่หญิง (หมายถึงดิฉัน) คิดจะรัก ลุ่มหลง ข้าพเจ้าซึ่งเป็นคนพูด
    แล้วหล่ะก็ ขอให้แม่หญิงจงยอมรับในตัวตน ของผู้ชายเยี่ยงข้าพเจ้านี้
    เสียให้ได้ก่อน ....”


    โอคุณพระคุณเจ้า “มนุษย์ผู้ชาย” ที่กล้าเปล่งวาจาสามหาว แบบนั้นได้
    หลายคนคงจะจินตนาการถึง หนุ่มหล่อคนโปรดในหัวใจโ ดยเฉพาะดิฉัน
    ซึ่งมีรสนิยม พ่ายแพ้อย่างหมอบราบคาบแก้ว ต่อชายหนุ่ม หน้าตี๋ตัวแสบ
    แต่งตัวแนวสุดขีด แววตาขี้เล่นเล็กน้อย แต่มั่นใจเหลือเกิน หากยังนึก
    ไม่ออก กรุณา นึกถึง ใบหน้าของ “โดม ปกรณ์ ลัมพ์” และ .. หรือ คุณบุรินทร์  
    “วงกรู๊ฟไรเดอร์” เท่านั้น.....เท่านั้นจริงๆ ค่ะ

    แต่ไม่ใช่ มันไม่ใช่อย่างที่คิดเล๊ยซักนิด มนุษย์ผู้ชายที่สามหาวเยี่ยงนั้น
    กับดิฉันนั้น หาได้เป็นแบบ พ่อหนุ่มในดวงใจ สองคนที่กล่าวถึงข้างบนนั่นไม่
    ตัวหรือก็เล็กเท่าลูกหมา กล้ามอกให้วัดยังไงก็ไม่มีทางถึง 3 ศอก
    แถมปากคอเราะร้าย ยียวนกวนบาทาเป็นที่หนึ่ง แต่ทำมั๊ย ทำไม มันถึง
    ได้มั่นใจขนาดนั้น นี่ดิฉันทำอะไรผิดพลาดไปหรือเปล่านี่?

    และขอเรียนให้ทราบ ประโยคจี้หัวใจ ให้จี๊ดไปถึงสันหลัง ยังมีออกมาอีก
    มากมาย หลายวรรคตอนนัก

    “ผมไม่เหมือนใครอยู่แล้ว”

    “ผมไม่หล่อ แต่ผมก็เลือกนะ”

    หรือไม่ก็

    ไอ้พวกหล่อๆ หน่ะขอให้มาเหอะ ผมไม่กลัวอยู่แล้ว….
    ผมหน่ะคารมเป็นต่อ ไอ้พวกรูปหล่อหน่ะเป็นเกย์”


    โอ๊ย พ่อทูนกระหม่อม พ่อยอดยาใจทำไม ช่างกล้านัก ทุกประโยค
    ทุกถ้อยวจี ทั้งกล้า ทั้งท้าทาย ปลายส้นสูงคู่สวยของฉันจนสุดจะ
    ทานทนเหลือประมาณ ……..


    แต่แล้วยังไงหล่ะคะ ก็แค่นั้น ... เพราะแทนที่จะตวัดส้นสูงคู่งาม
    ไปต่อต้านผู้ชายปากดีเยี่ยงนั้น ดิฉันก็ได้แต่ เหน็บแบบพอมีเชิง
    ไปสักเล็กน้อย


    “ อุ๊ย...ใครจะเหมือนคุณหล่ะคะ พ่อคนโลกส่วนตัวสูง พ่อคนไม่เหมือนใคร”
    ที่พูดมาหน่ะ มันปาก หรือ กรรไกร จะได้เอาไปใช้ให้ถูกที่ถูกทาง


    ก็แค่นั้น “หญิงมั่น” อย่างดิฉัน มันดันหาเรื่องไปหลงงม กับผู้ชายอินดี้
    แบดบอย ถ่อย เถื่อน ซะนี่ นัยว่า นิยามมันถึงอกถึงใจ คารมคมหอก
    ของผู้ชายแบบนี้ มันกินกันไม่ลง จริงๆ


    อ้อ ... แล้วอีกอย่าง ที่พูดแบบนี้มา ใช่ว่า เค้าจะหล่อลากดินนะคะ
    กะอีแค่หน้าตาพอดูได้ หุ่นรึก็ไม่ได้หล่อล่ำทรมานใจหญิง และสำคัญ
    ที่สุด ผู้ชายพวกนี้ “จนค่ะ” คือจนกว่าเรา แน่ๆ เพราะลองว่าเค้ามาแนว
    อินดี้ซะขนาดนี้ เห็นจะไม่มีเวลามานั่งคิด ธุรกิจหลายร้อยล้าน ให้เสีย
    ลุคหรอกค่ะ  .... มันต้องทำอะไรเท่ๆ แนวๆ ที่ไม่ค่อยจะได้สตุ้งสตังค์
    กับใครเค้าหรอก

    แต่ขอให้เชื่อเหอะ ว่าผู้ชายแบบนี้ ผู้หญิงมั่น ก๋ากั่น ปราดเปรียว เปรี้ยว
    อย่างกับหลุดออกมาจาก “แคทวอร์ค” แฟชั่นวีคที่มิลาน หล่ะก็ ใฝ่ฝันนัก
    นัยว่ามันท้าทายกว่าพวกผู้ชายฟูลออฟชั่น พร้อมพรั่งบริบูรณ์ ทั้งชาติ
    ตระกูล พอกพูนดีกรีปริญญามาจากต่างประเทศอีกอักโข นี่ยังไม่นับ
    นาฬิกาข้อมือราคาเกือบเท่ารถกระบะ กับประดาเสื้อผ้าที่ประโยชน์จริงๆ
    คือเครื่องห่อหุ้มร่างกายกันอุจาด สนนราคาโดยประมาณ รวมกันทั้งตัว
    แทบจะ เลี้ยงโต๊ะจีนได้ทั้งหมู่บ้าน โลกหนอโลก ทำไมถึงเป็นอย่างนี้กันเล่า...




    บางครั้งดิฉันอยากถามพ่อหนุ่มอินดี้เหลือเกินว่า ไปเรียนภาษาไทยที่ไหน
    หนอ หรือมีใครสอน ลงคาถา “สาลิกาลิ้นทอง” ให้ เพราะนอกจากจะมา
    พร้อมความมั่นแน่วแน่ เกินตัว ผู้ชายแบบนี้ ยังมีความสามารถทำให้
    ผู้หญิงมั่นใจ หน้าเชิด เริ่ด หยิ่ง อย่างดิฉัน สามารถฉับพลันโกธร ฉับพลัน
    น้อยใจ แล้วก็หายได้ชั่วกระพริบตา ในเวลาอันรวดเร็ว ประหนึ่งคนบ้า
    คือประเดี๋ยวประด๋าว งอนๆ อยู่ หญิงสาวก๋ากั่น ตัวแม่ ก็สามารถหัวเราะร่วน
    จากมุขตลก บ้านๆ ของเค้าได้ พลอยลืมเรื่องที่โกธรแทบเป็นแทบตาย
    มาเสียตั้งแต่ต้น ............


    “แม่ยอดขมองอิ่ม” .... ประโยค บ้านๆ เชย แบบนี้หล่ะ เมื่อไหร่ที่หลุดออก
    มาจากปากเขาหล่ะ คุณเอ๋ย ! ใจดิฉันมันจะละลายเสียให้ได้


    วันที่ดิฉันได้ฟังครั้งแรก ปวดหัวตึ๊บจนอยากจะกินพาราฯ ยกแผง ก็ผู้หญิง
    ตัวแม่อย่างฉันจัดอยู่ในประเภท ทันสมัย แต่หลงใหลสำนวนเก่า โบราณ
    เชยๆ ดู โง่ๆ แต่มันแสนจะชวนหลงใหล


    เอาเป็นว่า ถ้ามีใครมาทอดสะพานให้ หรือ หลงเข้ามาจีบแล้ว อาจหาญ
    เรียกดิฉันว่า “ที่รัก” ดิฉันอาจจะแค่ยิ้มให้ แล้วแอบทำหน้าแหวะลับหลัง
    คนพูดเข้าให้อีกด้วย ....

    แต่ครั้นมาเจอะเจอสำนวนโบราณ บ้านนอก และแสนเชย อย่าง  
    “แม่ยอดขมองอิ่ม” และอีกนับไม่ถ้วน พอบทพ่อเจ้าประคุณจะอ้อนหล่ะก็นะ
    หัวใจดิฉันมันพองจนแทบทะลุออกมาจากซี่โครงด้านซ้าย เลือดฝาดของ
    สาวรุ่น(นานมากแล้ว)ฉีดพล่านตั้งแต่กระบังลม จนถึงกกหู ทำอะไรแทบ
    ไม่ถูก ไปไหนจะไม่เป็นเอา เหมือนอัมพาตรับประทานไปครึ่งร่าง


    ถึงจะปลาบปลื้มยังไง ความมั่นใจยังสะกดตัวเองได้ เผยอปากเล็กน้อย
    แต่พองาม ช้อนสายตา บิดไหล่ไปข้างหนึ่ง เอียงราวๆ 45 องศา
    แต่อย่าเกินนะคะ แล้วเปล่งมธุรสวาจาโต้ตอบไปแค่เพียงบางเบาว่า “บ้านนอก”
    ด้วยน้ำเสียงสุดเขิน แพ้และยอมจำนน ทำมั๊ย เค้าจะไม่รู้ แล้วก็ซ่อนรอยยิ้มเอียง
    อาย ประหนึ่งเป็นสาวรุ่นเพิ่งถ่ายบัตรประชาชนมาได้ไม่เกิน 2 วัน



    “แหม่ะ ...เขิน..เขิน” แน๊ะ .... มันยังมาทำเป็นรู้ทันอีก .............

    “ชอบหล่ะสิ” ............. ยังพูดต่ออีกนะ ดิฉันแอบนึกในใจว่า รู้ได้ยังไง
    ลืมคิดไปว่า ก็ตัวเองหน่ะใส่จริตบิดสรีระซะขนาดนั้น ต่อให้ยืนห่างเป็นร้อย
    เมตร ใครๆ ก็ต้องดูออก

    “บ้า....สำนวนแบบนั้นเอาไว้หลอกสาวๆ เหอะ” ฉันยังไม่วายบิดซ้ำ ตัดพ้อ
    ไปอีกรอบ

    “เถียงตลอดนะ เดี๋ยวนี้ อยากลองดีกับผมเหรอ” จะว่าไป มันก็ไอ้ประโยค
    ธรรมด๊า ธรรมดานะคะ ทำไม๊ย ทำไม ทำให้คนฟังอย่างดิฉัน หัวใจมันวูบๆ
    วาบๆ พิกล

    นี่ถ้าเป็นคุยโทรศัพท์กัน ซึ่งเค้าไม่เห็น ฉันอาจจะหกสูงเอาปากคาบมือถือ
    แล้วม้วนตัวลงมาเขินอยู่กับพื้นก็ได้ ใครจะไปรู้


    ไอ้ผู้ชายพวกนี้เหมือนสวรรค์ชดเชยมาให้ สำบัดสำนวน ลีลา มันไม่รู้เอา
    มาจากไหน กระชากใจหญิงเยี่ยงเรา แทบหมดทางสู้


    เชื่อเถอะค่ะ ภาษาที่ฟังแล้วคิดว่าแสนจะบ้านนอก โบราณ และดูเช๊ยเชย
    อย่างนั้น ลองหลุดออกมาจากปากผู้ชายปากมอมแนวนี้ มันทั้งเซ็กซี่
    ทั้งมีเสน่ห์ สุดแสนจะโรแมนติค ...


    ต่อกรโต้ตอบไปมา สุดท้ายวันนั้น เค้าทิ้งท้ายประโยค ก่อนจะไปว่า .........


    “อย่าลืมกินข้าวนะ นางฟ้าของผม”


    โอ๊ย ตาย.............ตาย.............ฉันตายแน่ๆ

    ..............

    เดี๋ยวมาต่อค่ะ

    จากคุณ : เฮเลน - [ 7 เม.ย. 52 22:41:18 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com