Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    ผีบังตา..(ตอนจบ)

    ผีบังตา...ตอนจบ

    ราสส์ กิโลหก

    เสียงฝนที่ตกใส่หลังคารถอย่างสม่ำเสมอ  ทำให้รู้สึกว่าความแรงของสายฝนยังไม่มีทีท่าว่าจะเบาบางลง หลังจากนั่งเงียบกันอยู่ครู่ใหญ่ ๆ

    อากาศในรถเริ่มอึดอัด เพราะทั้งปิดกระจกและไม่ได้เปิดแอร์

    “เฮ้ย กิม  ไขกระจกด้านข้างๆลงกันซักหน่อยดีมั๊ย   รถจอดเฉยๆมันอึดอัด ว่ะ” เสียงอ้ายหน่อยพูดในความมืดเพราะมองหน้ากันไม่เห็น

    “ก็ได้  ลงนิดเดียวพอนะ!มืดตื๋ออย่างนี้ เดี๋ยวมีอะไรเข้ามา จะมองไม่เห็นนะมรึง”

    พอไขกระจกลงมาแม้เพียงนิดเดียว เสียงของฝนและไอความเย็นจากบรรยากาศนอกตัวรถสอดแทรกเข้ามาในรถ จนรู้สึกได้

    “ มรึงช่วยคุยกับกูหน่อย  อย่าเอาแต่เงียบมันวังเวง ว่ะ” อ้ายหน่อยมันคงกลัว แต่ผมไม่มีอารมณ์อยากจะพูด สมองมันเครียดกับเจ้าเสียงฝนตกนี่จริงๆ อยากให้เสียงฝนหายไปเร็วๆ ผมมีความรู้สึกว่าเกลียดเจ้าเสียงฝนจนเข้ากระดูก

    “ กิม  มรึงว่า ฝนจะตกอีกนานมั๊ย ”

    “ไม่รู้ โว๊ย  กูไม่ใช่เทวดา” ผมไม่อยากคุย

    “มรึงบอกเทวดาให้ฝนหยุดตกไม่ได้หรือ วะ” มันยังอ้อนอีก  แต่ผมไม่ตอบ

    เรานั่งนิ่งเงียบ  ฝนยังคงตก ...ไม่อยากพูดอะไร  เอนตัวพร้อมหลับตาลงอย่างเหนื่อยหน่าย

    ใจคิดล่องลอยไปเรื่องนั้นเรื่องนี้ คนเราถ้าอยู่ในความเงียบความคิดมักจะฟุ้งซ่าน  

    “แครกๆๆๆๆๆๆๆๆ” เอ๊ะเสียงอะไร

    อ้ายหน่อยเอื้อมมือมาจับที่ข้อมือผม มือของมันเย็นเฉียบ…พูดเสียงเหมือนคนลอยคออยู่กลางแม่น้ำ

    “มรึง ได้ยินเสียงอะไรหรือเปล่า ?”

    “ได้ยิน” ผมพยายามเอียงหูฟังว่าเสียงมาจากทางไหน

    “แครกๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” เสียงเริ่มดังชัดขึ้น

    “แครกๆๆๆๆๆๆๆๆ” แล้วก็ชัดขึ้นเรื่อยๆเหมือนมีการเคลื่อนไหวจากสิ่งของบางอย่าง เสียงคล้ายๆคนกวาดถนน

    จนเข้ามาใกล้   แล้วมาหยุดอยู่ที่บริเวณหน้ารถ ..

    “เฮ้ย  ปิดกระจกเร็ว”ผมบอกอ้ายหน่อย  แม้กระจกด้านข้างเราจะเปิดแง้มๆเพียงนิดเดียว แต่ในความรู้สึกปิดแล้วจะอุ่นใจกว่า ปิดเสร็จแล้วก็นั่งเงียบกัน

    “เสียงมันอยู่ที่หน้ารถ เปิดไฟดูมั๊ย ” อ้ายหน่อยยื่นหน้ามาพูดเสียงเบาๆที่ข้างๆหู

    ไม่ต้องรอให้บอกซ้ำ ผมกดสวิตซ์เปิดไฟหน้ารถทันที ลำแสงพุ่งเป็นลำจากไฟใหญ่หน้ารถสองดวง ไปยังพื้นที่ด้านหน้า มองเห็นเม็ดฝนเป็นสายตัดกับแสงไฟ แต่ไม่พบต้นเหตุของเสียง

    “ปิดไฟเถอะ  ไม่เห็นมีอะไร” เสียงอ้ายหน่อยพูดแบบเซ็งๆ

    ลำแสงหน้ารถดับวูบลง ความมืดกลับมาเหมือนเดิม  แต่แล้วผมก็ใจหายวาบเมื่อมีความรู้สึกว่าตัวรถมีการขยับยุบตัวลงเล็กน้อย  เหมือนมีบางอย่างก้าวขึ้นมาบนรถ  กลัวก็กลัวแต่จากความกลัวกลายเป็นควากล้าถ้าไม่ดูให้รู้แจ้ง  ผมคงอยู่ในที่มืดๆกับเจ้าสิ่งที่น่าสงสัยนี้ไม่ได้แน่  ตัดสินใจเปิดไฟเก๋งในรถ  พร้อมหันหลังมองไปที่เบาะหลังรถ  ปรากฏมีแต่ความว่างเปล่า ไม่พบอะไรผิดปกติ ประตูรถยังปิดสนิทเหมือนเดิม   พอหันหน้ากลับมา อ้ายหน่อยกำลังยกมือพนมที่หน้าอกได้ยิน เสียงพึมพำเหมือนเสียงสวดมนต์ แสดงว่ามันก็มีความรู้สึกแบบเดียวกับผม

    “หน่อยๆๆ ไม่มีอะไร กูมองดูที่เบาะหลังแล้ว” ผมเอามือไปสะกิดที่แขนของมัน ทั้งๆที่ตัวเองขนลุก ซู่ๆๆ

    “แล้วรถมันขยับทำไม วะ มรึงก็รู้สึกเหมือนกูใช่มั๊ย” หน้ามันซีดจนเห็นได้ชัดทั้งๆที่ไฟในรถสว่างไม่มาก

    ตอนนี้สถานการณ์ในตัวรถไม่ค่อยดี มีความรู้สึกว่ามีสิ่งแปลกปลอมรวมอยู่ในรถกับพวกเราด้วย  หรือเราเกิดประสาทหลอน แต่ทำไมอ้ายหน่อยก็รับรู้ด้วย  หรือเป็นเรื่องจริง  

    ผมยังไม่ปิดไฟเก๋งในรถ เพราะสถานการณ์บีบบังคับ จำเป็นต้องอยู่ในความสว่างดีกว่าในความมืดและ ทุกครั้งที่คิด  ผมอดไม่ได้ที่ต้องชำเรืองมองกระจกเงาที่ใช้สำหรับมองหลัง กวาดสายตาสำรวจไปที่เบาะหลังรถทุกครั้ง  แต่ก็ไม่เห็นอะไร

    และแล้วสิ่งที่รบกวนประสาท    ที่กำลังหวั่นไหวเพราะความกลัว ก็เกิดขึ้นอีก

    รถขยับและยุบตัวลง เหมือนมีคนขึ้นมาบนรถอีกแล้ว ผมกับอ้ายหน่อยหันไปดูที่เบาะหลังพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ปรากฏ ว่าง เหมือนเดิม

    คิดในทางที่ดี หรือมีตัวอะไรปืนไปที่หลังคารถ แต่ก็ไม่แน่ใจถ้ามีตัวอะไรปีนไปบนตัวรถน่าจะมีเสียงให้รู้สึกได้บ้าง แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรให้ผิดสังเกต

    “กิม ๆๆกิมๆๆๆกิมๆๆๆ”เสียงเบาๆดังอยู่ข้างหู พร้อมกับมีความรู้สึกว่าอ้ายหน่อยเอาเล็บมาจิกที่ข้อมือของผม

    “มีอะไร ?” ผมหันไปมองที่หน้ามัน แต่มันไม่ได้มองมาที่ผม มันมองตรงไปที่ข้างหน้า เหมือนไม่มีจุดหมาย แต่เสียงที่มันพูดออกมาทำเอาผมเย็นสันหลังวาบๆ มีความรู้สึกว่าหนังหัวพองโตเพราะขนหัวลุก

    “มีเสียงหายใจรดที่ต้นคอกู...ๆๆ.”

    กำลังจะหันไปมองเพราะความเคยชิน หูผมได้ยินเสียงเหมือนคนไอ แค๊กๆๆเบาๆอยู่ที่เบาะด้านหลังซึ่งตรงกับที่ผมนั่ง..สิ่งที่ผมสงสัยตอนนี้มันมาอยู่ด้านหลังผมแล้ว  ผมไม่หันกลับไปมองอีก ใจสั่นระรัวมือไม้สั่นจนต้องฝืนเอามือสองข้างมากำกันไว้  ถ้าเป็นตอนกลางวันคงได้เปิดประตูเผ่นออกนอกรถไปแล้ว

    อ้ายหน่อยไม่ต้องพูดถึง มันสั่นเป็นเจ้าเข้าได้ยินเสียง เรียก อากง อาม้า ขอให้ไปสู่ที่ชอบๆๆ มันพูดซ้ำไปมาจนมั่วไปหมด

    ตอนนี้ฝนซาเม็ดไปมากจนกลายเป็นตกปรอยๆๆ

    ผมตัดสินใจ ติดเครื่องรถเพื่อจะออกไปจากจุดนี้    พื้นที่สีดำที่กว้างใหญ่เกิดความสว่างขึ้นจุดหนึ่ง จากไฟหน้ารถ หากมองไกลๆคงเห็นเป็นลำแสงที่ทอดเป็นเส้น ในความมืดดำ

    ตัดสินใจไปตายเอาดาบหน้า ดีกว่าจอดอยู่เฉยๆแบบนี้  แต่ให้ตายเถอะเมื่อขับเคลื่อนตัวรถออกมา มีความรู้สึกว่ารถวิ่งอืดมากเหมือนบรรทุกน้ำหนักเกินกำลังของรถ แต่ตอนนี้ไม่มีเวลามาสงสัยอะไรแล้ว ตัดสินใจขับไปข้างหน้าอย่างเดียวคิดว่าจะไม่เลี้ยวแยกไหนทั้งนั้น จะเป็นอะไรก็เป็นกัน

    เอามือบิดกระจกมองหลังไปทางอื่น  เพราะไม่อยากมองอะไรทางด้านหลัง เสียงแปลกๆที่เบาะหลังยังมีมาให้ขนหัวลุกตลอดเวลา ทั้งเสียงไอ   เสียงขากเสลด เสียงหัวเราะ แต่เป็นเสียงเบาๆเหมือนดังมาจากที่ไกลๆ

    ขับมาได้พักใหญ่..เหมือนผีซ้ำ  จากแสงไฟหน้ารถด้านริมถนนทางซ้ายมือ ผมมองเห็นเงาดำๆของคน 2-3 นั่งอยู่ริมถนนพวกเค้าหันหน้าไปทางอื่น โดยหันหลังให้  ผมรีบเร่งเครื่องเร็วกว่าเดิมทั้งที่รถหนักจนอืด เสียงเครื่องยนต์ดังสนั่นในความมืด

    พอรถเข้าไปใกล้ ซัก 30 เมตรมีคนหนึ่งหันหน้ามามองที่รถ ด้วยความกลัวผมไม่สนใจรีบขับรถเพื่อให้ผ่านไปเร็วๆ เพราะใจเสียหมดแล้ว

    คนที่หันหน้ามา  มันมองมาที่รถเขม็ง สักพักลุกขึ้นยืนอย่างเร็ว พร้อมกับชี้มือมาที่รถ

    “ไปที่ชอบๆๆเถิด อย่ามารบกวนกันเลย กลัวไปหมดแล้ว”ผมพูดดังๆ

    อ้ายหน่อยซึ่งนั่งหลับตามาตลอดทาง ตกใจลืมตาขึ้นมา พอมองเห็นคนที่ยืนชี้มืออยู่ข้างทาง มันกลับไม่กลัว  ชะโงกหน้าจนติดกระจกรถ

    แล้วก็แหกปากเสียงดังลั่น

    “อ้าย น้อยๆๆๆ เพื่อนกู จอดๆๆๆๆ”

    ผมเหยียบเบรกจนรถคะมำ

    “ ฮิๆๆๆๆขอก..จาย  นะ  อา ตี๋  นั่งรถสนุกลี..แฮะๆๆๆ”  เสียงผ่านหู แล้วสรรพเสียงต่างๆที่ดังอยู่เบาะหลัง  ก็จางหายไป...

    แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 52 13:33:20

    แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 52 10:09:01

    แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 52 09:08:13

    จากคุณ : สวนดอก - [ 8 เม.ย. 52 09:05:26 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com