พอใกล้ถึงวันหยุดยาวทีไร มีอันต้องสะสางกับทางบ้าน
ในการหาวิธีเดินทางกลับ
สงกรานต์ปีนี้ผมกลับเครื่องบิน สายการบินนกแอร์ ไฟลท์ 6 โมงเช้าครับ
"ทำไมต้อง 6 โมงเช้า จะตื่นทันเหรอ" แม่ผมถามทางโทรศัพท์
"เอานา แม่ กลับไฟลท์นี้แหละ ไม่ต้องนอน ก็ไม่ต้องกลัวตื่นไม่ทันแล้ว"
"อืมมๆๆ ตื่นให้ทันแล้วกัน"
"ครับๆ"
และแล้วพอถึงวันเดินทาง ผมก้ไม่ทำให้แม่ผิดหวัง
ด้วยการเผลอหลับ ฮ่าๆๆ
พี่สาวมาปลุกตอนตี 4.55 แล้ว ถามว่า ไม่ไปเหรอ ?
ผมตื่นขึ้นมาเห็นนาฬิกากำลังหัวเราะเยาะผม 4.55 (55 55 55 แกตื่นสาย)
กำลังจะจับมันเขวี้ยง โชคดีที่มันสำนึกตัวเปลี่ยนเป็น 4.56 ซะก่อน
หลังจากนาฬิกาสำนึกตัวได้ก็เป็นผมที่จะต้องสำนึก
ว่าต้องเช็คอิน ตอน 5.20
และที่สำคัญผมยังไม่ได้เก็บกระป๋า ไม่ได้อาบน้ำ ไม่ได้เตรียมของ
สรุปคือ ยังไม่ได้ทำอะไรเลย !!
ผมรีบล้างหน้า (นาทีนี้ แค่ลูบยังเสียเวลา) จับของยัดใส่กระเป๋า
และหยิบหนังสือที่อยากอ่าน(ยังจะมีเวลาเลือก) ใส่ๆ แล้วออกจากห้อง
โดยไม่ยอมเสียเวลาแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว
ห้องพักผมอยู่แถวเกษตรครับ ขับรถไปดอนเมืองตอนตี 5 คงราวๆ 10 นาที
แต่ตอนเดินมาหน้าถนนผมกังวลว่าจะมีรถรึปล่าว
และผมก้โชคดีครับมีแทกซี่คันนึงขับรถเลยไปแล้ว
คงเหลือบมาเห็นผมจึงถอยมารอ.
"ดอนเมืองด่วนๆเลยพี่ ขอก่อน ตีห้ายี่สิบ" ผมบอกพี่คนขับหลังจากขึ้นรถ
"สบายพี่ เวลาถมเถ" ในที่สุดผมก็โล่งใจได้ซะที
ผมบอกว่าผมกำลังจะกลับบ้านที่ใต้ พี่เค้าดูดีใจ
และบอกว่า พี่เค้าก็จะกลับเหมือนกัน อีก 2-3 วันนี้
"บ้านพี่อยู่ร้อยเอ็ด กลับบ้านมั่ง อยุ่ กรุงเทพแล้วเหนื่อย"
"ทำไมละพี่"
"ก็บ้านมันถิ่นเรา อยุ่บ้านพี่รุ้ว่าไอ้นี่ขี้เหล้า ไอ้นี่นักเลง ไอ้นี้ขี้ขโมย"
"โห ใช่เลยพี่"
"แต่ที่กรุงเทพนี่ ขนาดเจอคนใส่สูทแต่ไม่รู้ว่าจะเป็นโจรรึปล่าว
เดินไปไม่เห็นหน้าคนแล้ว ใส่หน้าขนเข้าหากัน "
ผมตะลึงกับพี่คนขับนักปรัชญาคนนี้ และสงสัยกับคำว่า "หน้าขน"
ผมคิดว่ามันไม่น่าจะใช่คำที่ใช้เรียกคน
"........." ผมนิ่งไป คิดถึงช่วงดันดาราของรายการตีสิบ "รู้หน้า ไม่รุ้ใคร"
อย่างที่พี่เค้าบอกไว้เลยครับ เวลาถมเถ ผมมาถึงตอนตี 5.25
"ขอที่นั่งริมหน้าต่างครับ"
อ้อ ผมยังไม่บอกเหตุผลที่เลือกไฟลท์หกโมงเช้าใช่ไหมครับ
เหตุผลเดียวที่ทำให้ผมเกือบตกเครื่องบินคือ
ผมอยากเห็นพระอาทิตย์ขึ้นตอนอยู่บนเครื่องบิน
จำได้ว่าเมื่อประมาณ 4-5 ปีที่แล้ว
ผมเห็นพระอาทิตย์ขึ้นบนเครื่องิน ภาพนั้นยังติดตาไม่ลืมเลือน
แต่ตอนนั้นผมไม่มีกล้องถ่ายรูป
จึงได้แต่เก็บภาพความประทับใจนี้ไว้ในเมมโมรีส์ส่วนตัว
เมื่อมีโอกาสผมจึงไม่พลาดที่จะได้เห็นมันอีก
เครื่องบินทะยานขึ้นสู้ฟ้าอย่างรวดเร็ว แต่ใจผมทะยานเร็วกว่านั้นนัก
ตอนนี้ใจผมลอยอยุ่เหนือเมฆไปแล้วครับ
และมือเตรียมพร้อมอยู่กับกล้องประจำตัว
พร้อมที่จะกดชัตเตอร์ทันทีในจังหวะที่พระอาทิตย์โผล่พ้นเมฆ
หลังจากนั้นไม่นาน ฟ้าเริ่มสว่าง แสงอุทัยลำแรกสาดส่องเข้ามา
ผมใจเต้น.....ไม่ใช่เพราะได้เห็นภาพประทับใจอีกครั้ง
แต่เพราะแสงอาทิตย์ลำนั้น บอกให้ผมรู้ว่า
"กูนั่งผิดด้าน !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!"
..............................................
ปล. ผมได้ที่นั่งริมหน้าต่างด้านขวาของลำ
เมื่อเครื่องบินหันหัวลงใต้ หน้าต่างด้านผมจะเป็นทิศตะวันตก
แก้ไขเมื่อ 09 เม.ย. 52 15:14:39
จากคุณ :
torprc
- [
9 เม.ย. 52 15:11:08
]