Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    กลาย

    กลาย

    “...และปีนี้ นักเรียนที่สอบได้ที่หนึ่งของระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ด้วยระดับคะแนน 100 เปอร์เซ็นต์ ติดต่อกันเป็นปีที่สามนับตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่ง ได้แก่ เด็กชาย วิวัฒน์...”

    เด็กชายตัวน้อยผอมแห้งไร้กล้ามเนื้อในชุดนักเรียนเสื้อสีขาวสะอาด กางเกงน้ำเงินเข้ม ก้าวออกมาจากแถวที่ยืนกันเป็นแนวอย่างเรียบร้อย ก่อนจะค่อยๆ เคลื่อนตัวไปที่หน้าเสาธงท่ามกลางเสียงปรบมือและฮือฮาของเหล่านักเรียนทั้งรุ่นพี่ เพื่อนร่วมรุ่น และรุ่นน้อง

    ครูบาอาจารย์ที่ยืนอยู่หน้าเสาธงต่างแสดงสีหน้าพอใจและดีใจไปกับเด็กชายวิวัฒน์ เด็กอัจฉริยะเท่าที่มีตั้งแต่ที่สถาบันนี้ก่อตั้งขึ้นมา

    “ดีใจด้วยนะจ๊ะ รับไปสิ รางวัลสำหรับความมุมานะและความเก่งของเธอ” ครูใหญ่ผู้มีรอยยิ้มแห่งความอารีมอบของขวัญให้แก่เด็กชายพร้อมกับค้อมตัวลงแสดงความยินดีกับเขา

    เด็กชายรับของขวัญไว้ในมือก่อนจะหันหลังกลับไปประจัญหน้ากับแถวนักเรียนซึ่งยังคงยืนเรียงรายดูเหตุการณ์อันหน้าปลาบปลื้มที่ดำเนินอยู่หน้าเสาธง

    “เอ้า...นักเรียนปรบมือแสดงความยินดีให้กับเด็กชายวิวัฒน์กันอีกครั้งนะคะ”

    เสียงปรบมือดังกระหึ่มขึ้นทันทีหลังจบเสียงประกาศของครูใหญ่ เด็กชายมองบรรยากาศอันน่าตื่นเต้นตรงหน้าด้วยความรู้สึกเรียบเฉย ตาหรี่เล็กภายใต้กรอบแว่นหนาไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมา

    “ขอให้พวกเธอทั้งหลายดูและจำเอาไว้เป็นตัวอย่าง หากพวกเธอตั้งใจเรียนหนังสือและมุมานะอย่างเด็กชายวิวัฒน์สักวันพวกเธอก็จะประสบความสำเร็จได้”

    เสียงแสดงความยินดีพร้อมๆ กับอบรมนักเรียนคนอื่นๆ ยังคงถูกเปล่งออกมาจากเครื่องขยายเสียงกำลังสูงอยู่อีกครู่ใหญ่ๆ ก่อนที่ทุกสิ่งทุกอย่างในบรรยากาศโรงเรียนประถมจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

    ตั้งแต่สามปีที่แล้วที่เด็กชายวิวัฒน์เข้าเรียนยังสถานศึกษาแห่งนี้ ก็ดูเหมือนกับว่าห้องเรียนที่เด็กชายเรียนจะกลายเป็นที่จับตาดูจากบรรดานักเรียนและครูห้องอื่นๆ อันเนื่องจากความเป็นอัจฉริยะเกินวัยที่ฉายแววออกมาอย่างชัดเจนจากในตัวของเด็กชาย

    และจากเรื่องนั้นเองทำให้ทั้งครูประจำชั้นและบรรดาเพื่อนร่วมห้องของเด็กชายกลายเป็นที่จับตามองและชื่นชมจากห้องอื่นๆ อย่างช่วยไม่ได้เช่นกัน

    ...ห้องเรียนที่เป็นที่เชิดหน้าชูตาของโรงเรียน...ครูประจำชั้นของเด็กอัจฉริยะ...เพื่อนร่วมห้องที่เรียนด้วยกันกับผู้มีสมองอันปราดเปรื่อง...

    ความคิดเหล่านี้ทำให้ผู้คนรอบข้างเริ่มเข้าห้อมล้อมเด็กชายและทำให้เขากลายเป็นที่รักของคนอื่นๆ อย่างที่เขาเองก็ไม่รู้ตัว

    ...แต่หากจะว่าไปแล้ว...ไม่ใช่เพราะเด็กชายไม่รู้ตัว หากแต่นั้นเป็นเพราะเด็กชายไม่ได้ใส่ใจต่างหาก...ความจริง...นอกจากเรื่องเรียนแล้วเด็กชายดูเหมือนจะไม่สนใจเรื่องอื่นใดรวมถึงไม่เคยแสดงความสามารถอื่นใดให้เห็นเป็นพิเศษเลยแม้แต่น้อย...

    “เฮ้ย วัฒน์ เดี๋ยวเย็นนี้เตะบอลกันนะ” เสียงเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆ ของเด็กชายชวนเสียงแผ่วเบาเนื่องจากกลัวผู้ที่ยืนสอนอยู่หน้ากระดานดำได้ยิน

    “อือ...” เด็กชายทำเสียงในลำคอเป็นการตอบกลับคำเชิญชวน สายตาไม่ละออกจากกระดาน

    ทั้งๆ ที่ใครต่อใครต่างก็ยินดีและสนับสนุนเด็กอัจฉริยะอย่างเด็กชาย แต่ดูเหมือนในการใช้ชีวิตประจำวัน เด็กชายจะขาดอะไรบางอย่างไป

    ...ใบหน้าเรียบเฉย...ไม่เคยยิ้มแย้ม...ไม่เคยร้องไห้...การแสดงออกอื่นๆ แทบจะเป็นศูนย์โดยสิ้นเชิง...

    “เมื่อวานเราดูวิดีโอมา ท่าเตะโอเวอร์เฮดคิก โคตรเท่เลย เย็นนี้เราจะทำให้นายดู” เพื่อนตัวน้อยยังคงพูดต่อถึงความสนุกสนานกับเกมกีฬาที่ได้ดูมาเมื่อคืนวานที่ผ่านมา

    “นี่ นายป๋อง...” เสียงตวาดดังของครูดังขึ้นมาจากหน้าชั้น ทำเอานักเรียนทั้งห้องสะดุ้ง โดยเฉพาะเจ้าของชื่อที่อยู่ในคำพูดนั้นเงียบเสียงและก้มหน้างุดลงกับพื้นโต๊ะแทบจะในทันที

    “ถ้าได้ยินเสียงเธออีกครั้ง ออกไปยืนนอกห้องได้เลยนะ” เสียงลดระดับลงแต่ยังคงความทรงอำนาจในน้ำเสียงนั้น

    ..................................................

    “กรี๊งงงงงงงงงงงงงง......................งงงงงงงงงง”

    “เฮ้...เลิกเรียนแล้ว พวกเราไปสนามบอลกันเลยนะ วันนี้ข้ามีทีเด็ดจะมาอวดเฟ้ย”

    เสียงเฮฮาและความโกลาหลของเหล่าเด็กนักเรียนเกิดขึ้นในทันทีหลังจากเสียงกริ่งดังขึ้น เด็กชายเดินเนิบๆ ตามเพื่อนออกไปยังสนามทรายโล่งๆ หน้าอาคารเรียนซึ่งพวกเขาเหล่านั้นเรียกกันว่าสนามบอล

    “เอ็งห้าคน อยู่ด้วยกัน ส่วนที่เหลืออยู่ข้างข้า”

    หลังจากแบ่งข้างกันเรียบร้อยแล้ว เกมการแข่งขันก็ดำเนินขึ้นพร้อมๆ กับเสียงหัวเราะและตะโกนโหวกเหวกของสมาชิกในสนาม

    ...เด็กชายวิ่งหายใจหอบหนักๆ ไปทางนั้นทีทางนี้ที...มีเพียงสายตาของเขาเท่านั้นที่ตามทันลูกฟุตบอลที่ถูกรุมเตะไปเพื่อให้เข้าช่องว่างระหว่างรองเท้าของคู่แข่งที่ถูกสมมติว่าคือประตูฟุตบอล...

    ...พรสวรรค์ด้านกีฬาเป็นศูนย์...ความสามารถด้านร่างกายเป็นศูนย์...

    เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ใครๆ ในโรงเรียนต่างก็รู้ดี แต่เพราะความหัวดีของเด็กชายทำให้ใครๆ ก็อยากเล่นอยากเข้าใกล้

    เด็กชายหยุดวิ่ง เหม่อมองท้องฟ้าซึ่งเริ่มมืดลงตามลำดับ จิตใจล่องลอยออกนอกสนามไปสู่ห้องสมุดและกองหนังสือที่บ้านเรียบร้อยแล้ว

    “เฮ้ย ไอ้วัฒน์ ระวัง”

    เด็กชายหันกลับไปตามเสียงตะโกนนั้นและรู้สึกเหมือนถูกอะไรกระทบเข้ากับศีรษะจังๆ ก่อนที่ความรู้สึกทุกอย่างจะหมดลงไป

    ..................................................

    ห้องทดลองสีขาวสะอาดพรั่งพร้อมด้วยอุปกรณ์เครื่องมือหน้าตาแปลกประหลาดมากมาย ชายชราและชายหนุ่มในชุดกาวน์ยืนอยู่หน้าเตียงที่ร่างอันสลบไสลของเด็กชายนอนอยู่ ผู้ปฏิบัติงานคนอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่งยังคงประจำอยู่ในตำแหน่งที่ตนเองรับผิดชอบ

    “วิวัฒน์เป็นอย่างไรบ้างครับ ด๊อกเตอร์” ชายหนุ่มถามอาการของเด็กชายบนเตียงด้วยน้ำเสียงที่แสดงความห่วงใยอย่างที่สุด

    ชายชราละสายตาออกจากร่างเล็กไร้สติบนเตียงและหันกลับมาตามเสียงของชายหนุ่ม สีหน้าไม่ได้บ่งบอกถึงความกังวลแต่อย่างใด

    “ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ ลูกของคุณไม่ได้เป็นอะไรหรอก เพียงแต่แรงกระทบกระเทือนของลูกฟุตบอลทำให้ชิพความทรงจำตรงตำแหน่งท้ายทอยขัดข้องนิดหน่อย ก็เลยทำให้การทำงานในส่วนอื่นๆ พลอยสะดุดไปด้วย”

    ชายชราอธิบาย สายตามองหน้าชายหนุ่มซึ่งยังคงแสดงความกังวลอะไรบางอย่างออกมาอย่างไม่ปิดบัง ชายชรามองชายหนุ่มอย่างคาดคะเน

    “ผมเข้าใจดีว่าคุณเป็นห่วงแก” น้ำเสียงราบเรียบแต่หนักแน่นถูกเปล่งออกมา

    “คนที่เลี้ยงดูเด็กคนนี้ตั้งแต่แบเบาะอย่างคุณคงจะเกิดความผูกพันมากกว่าที่ผมคิดล่ะนะ”

    ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นจากร่างเล็กมองชายชราที่กำลังจะสื่ออะไรบางอย่างให้แก่เขา

    “เด็กคนนี้ควรจะไม่ได้มีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้แล้วตั้งแต่ตอนที่แกยังแบเบาะจากอุบัติเหตุครั้งนั้น แต่ด้วยเทคโนโลยีของเรา...ใช่...ของทั้งคุณและผม เราสร้างสมองกลขึ้นใหม่ให้กับแก พร้อมทั้งติดตั้งหน่วยความจำและดาวน์โหลดความรู้ต่างๆให้กับแกผ่านอุปกรณ์ระดับพิโคเทคโนโลยีตรงท้ายทอยของแก”

    ชายชราเดินเข้ามาใกล้ชายหนุ่มพร้อมทั้งตบบ่าเพื่อเป็นการแสดงความเห็นใจและสร้างความมั่นใจไปพร้อมๆ กัน

    “ไม่มีอะไรต้องกังวลหรอก หากโครงการนี้ของเราสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีเหมือนกับที่กำลังเป็นอยู่ ความสำเร็จ ชื่อเสียง ก็อยู่แค่เอื้อมเท่านั้น ความสำเร็จที่ไม่ว่าใครก็ไม่อาจเทียบเท่าได้ และ...”

    ชายชราลดเสียงต่ำลงเพื่อกระตุ้นความตั้งใจของผู้ร่วมสนทนา

    “หากโครงการนี้สำเร็จ มันจะพามวลมนุษยชาติไปสู่การต่อยอดความรู้อย่างแท้จริง ชนรุ่นหลังไม่จำเป็นต้องเริ่มเรียนรู้จากศูนย์อีกต่อไป เพียงแค่เราดาวน์โหลดข้อมูลความรู้ทั้งหมดเข้าไปในชิพหน่วยความจำเพื่อให้สมองดึงออกมาใช้เท่านั้น”

    “และต่อจากนี้ ความรู้ใหม่ๆ ก็จะเกิดขึ้นทุกๆ วัน ความสามารถของสมองทั้งหมดจะถูกนำมาใช้เพื่อพัฒนาความรู้ใหม่ๆ เท่านั้น โลกจะเริ่มเข้าสู่ยุคใหม่ ยุคที่ทุกสิ่งทุกอย่างดำเนินไปอย่างก้าวกระโดดกว่าที่ผ่านๆ มา”

    ชายชราเดินผ่านชายหนุ่มที่ยังคงยืนนิ่งอยู่ข้างๆ ร่างของเด็กชาย

    “เพื่อมวลมนุษยชาตินะครับ ขอให้คุณคิดถึงเรื่องนี้ไว้ เอาล่ะ ผมขอตัวไปเตรียมความพร้อมเพื่อรักษาลูกของคุณและดาวน์โหลดข้อมูลชุดใหม่ให้เขาก่อนแล้วกันนะครับ”

    ชายหนุ่มยังคงมองร่างกายผอมแห้งของเด็กชายที่เรียกตัวเขาว่าพ่อ เดิมทีโครงการนี้ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อที่จะเอาไว้สำหรับช่วยชีวิตคนที่สมองได้รับความเสียหายเท่านั้น แต่นึกไม่ถึงเลย ว่ามันจะเลยเถิดมาจนขนาดนี้

    ...เด็กชายที่ใครๆ ต่างก็เรียกว่าเด็กอัจฉริยะ เด็กผู้รู้เรื่องราวทุกสิ่งทุกอย่าง...

    สายตาค่อยๆ เลื่อนจากใบหน้าซีดตอบมายังส่วนลำตัวและแขนขาอันผอมแห้งอันเนื่องจากการขาดการออกกำลังกาย

    ชายหนุ่มหลับตา จิตใจล่องลอยไปไกลถึงโลกในวันข้างหน้า...โลกแห่งอนาคต...

    โลกที่คนทุกคนล้วนเป็นอัจฉริยะ โลกที่เด็กเกิดมาพร้อมๆ กับความรู้ทุกสิ่งของเหล่ามวลมนุษยชาติ

    ...โลกที่ไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ ต้องคิดต้องค้นหาแบบนั้นจะสามารถพัฒนาสิ่งต่างๆ รวมถึงโลกใบนี้ได้จริงๆ อย่างนั้นหรือ...

    ...โลกที่ไร้ความสัมพันธ์ ไร้อารมณ์ มันดีจริงๆ หรือ...

    ...เด็กอัจฉริยะผู้บกพร่องทางพัฒนาการด้านอารมณ์...อาจจะดีกว่านี้ก็ได้หากวันนั้นเขาปล่อยให้ทุกสิ่งเป็นไปอย่างที่มันควรจะเป็น

    ชายหนุ่มนึกไปถึงมนุษย์โลกในวันข้างหน้า...วันที่มนุษย์จะต้องกลายเป็นสิ่งที่ไม่คุ้นเคย...วันที่มนุษย์อาจจะไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป...

    ในวันข้างหน้า หากวันนั้นมาถึง ความผิดบาปทั้งหมดคงจะตราตรึงอยู่ในจิตใจของเขาตราบจนวันสุดท้ายของชีวิตอย่างแน่นอน

    ...โลกในอุดมคติอันวิปริตผิดเพี้ยนนั้น...

    จากคุณ : KTH - [ 10 เม.ย. 52 19:55:13 A:61.91.163.114 X: TicketID:187608 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com