 |
"""อย่าลืมว่าเราเป็นแค่คนธรรมดา น่ะเพื่อนเอ๋ย"""
ตะวันสายคล้อย ปู่นั่งเหลาก้านมะพร้าว และต้นไผ่เพื่อทำไม้กวาด หลานตัวน้อยวิ่งเข้ามาคลอเคลีย ปู่จ๋าๆ ปู่ทำอะไร พลันก็เอื้อมมือไปหยิบไม้ไผ่ที่เหลาไม่เรียบขึ้นมา ปู่ไม่ทันได้ตอบ โอ้ย!! ปู่ เสี้ยนตำมือหนู เด็กน้อยร้องไห้ พยายามเอาไม้ก้านมะพร้าวมาบ่งหนาม หยุดๆ เดี๋ยวก็เป็นหนองหรอก ปู่ว่า ทำไมล่ะจ้ะปู่ ก็ปู่เคยสอนนี่จ้ะว่าหนามยอกต้องเอาหนามบ่ง แล้วนู๋ก็ทำตามไม่ผิดนี่จ๊ะ เจ้าหนูเถียงเสียงแข็ง .. .. .
ปู่หัวเราะ ฮ่ะ ฮ่ะ ไอ้นู๋เอ๋ย เจ้าจะใช้ประสบการณ์แค่ด้านเดียวมาแก้ปัญหาซ้ำๆ ทั้งหมดไม่ได้ดอก จริงอยู่ที่บางครั้งการ บ่งหนามด้วยหนามนั้น มันทำให้หนามออกมา แต่หนามที่ตำลึก ครั้นเอาหนามที่ใหญ่กว่ามาบ่งมันก็จะยิ่งตำลึกลงไป จนสุดท้ายเป็นหนองระบมและต้องตัดมือทิ้งก็มี ปัญหาที่เกิด เราต้องใช้สติที่สงบคิดแก้ไข ไม่บุ่มบ่าม ปู่จะเล่านิทานให้เจ้าฟังน่ะ .. .. .
นิทานมีอยู่ว่า
บ้านท้ายสวนมีลูกชายแสนดื้อทำตัวผิดกฏบ้านและยักยอกเงินของที่บ้านไปจำนวนมาก พ่อ แม่และญาติโมโหสุดขีดจึงพร้อมใจกันขับไล่เขาออกไปหวังว่าจะสั่งสอนให้เขากลับใจ เด็กดื้อจึง ถูกเนรเทศออกไป เด็กดื้อไม่เพียงแต่ไม่กลับใจกลับไม่ชอบใจพ่อ แม่ พี่น้องที่ตัดสินใจร่วมกันขับไล่เขาออกไป จึงพยายามที่จะปลุกระดมเพื่อนบ้านให้เกลียดชัง พ่อ แม่ และญาติ ของตนเอง
.. .. . เพื่อนบ้านซึ่งไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไรต่อการทะเลาะของครอบครัวนั้นเลย แค่ต้องการผลประโยชน์เพื่อแลกกับการ บ่อนทำลายนั้น และกลับรู้สึกชอบใจที่ได้เห็นคนในบ้านอื่นทะเลาะกัน จึงช่วยกันก่อความเดือดร้อนอยู่ เรื่อยๆ เพื่อสนองความแค้นและความต้องการแก้แค้นของชายดื้อแลกกับทรัพย์สินของเขา .. .. . การทะเลาะเริ่มบานปลาย คนในบ้านต่างไม่เป็นสุข และชายดื้อก็ทุกข์ทรมานใจเนื่องจากอยากกลับเขาบ้าน ด้วยความโกรธ เขาไม่ทันคิด ยิ่งเขาดิ้นรน ดื้อดึง และแก้แค้นเท่าไร มันก็ยิ่งส่งผลให้คนในบ้านโกรธแค้นเขาเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
และเขาไม่มีวันได้กลับมา ตลอดชีวิต เขาต้องดิ้นรนเพื่อหลบซ่อนให้มีชีวิตรอด เร่ร่อน ไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีถิ่นฐาน เงินที่มากมายจากการยักยอกมาจากบ้านไม่เพียงพอที่จะนำตัวเขาที่มีชีวิตกลับเข้ามาในบ้าน .. .. . เขามาคิดได้เมื่อลมหายใจเฮือกสุดท้ายจากภาวะหัวใจล้มเหลวว่า ที่จริงแล้วเขาไม่จำเป็นต้องใช้อะไรเลย ไม่ว่าทรัพย์สินเงินทอง แค่เขากลับใจ ขอโทษและยอมรับในความผิดนั้นซ่ะตั้งแต่ทีแรกเขาก็ได้กลับมาใช้ชีวิตในบ้านอย่างสบายใจ
นี่เขากำลังทำอะไร เขาทำเพื่อใคร เขาทำทำไม และเขาไม่เหลืออะไร และไม่เหลือใครเลย .. .. .
เขาได้แต่คิดและหมดลมหายใจสุดท้ายที่หน้าบ้านในคืนที่หนาวเหน็บ มีคนมาพบศพในตอนเช้า ชาวบ้านต่างพากันรุมประนามด้วยความสมเพช เด็กดื้อ โง่ และได้ช่วยกันพาศพไปฝัง และบอกเล่าต่อมาให้คนรุ่นหลังฟัง วีรกรรมอันงี่เง่าที่ทำให้เด็กดื้อไม่เหลืออะไรเลย ไม่มีแม้ความภูมิใจและความเสียใจต่อการจากไป ไม่มีฮีโร่ ไม่มีผู้ร้าย มีแต่ความอัปยศที่เกิดขึ้นในจุดเล็กๆของสังคมที่ไม่มีใครอยากจดจำ เหมือนแค้นล้างด้วยแค้น และหนามยอกก็บ่งด้วยหนาม
. .. . .
โหห
ปู่ คงไม่มีใครโง่ขนาดนั้นม้างงฮ่ะ อิอิ หลานน้อยหัวเราะ 555 .ปู่หัวเราะเสียงดัง .ไม่แน่หรอกลูกเอ้ยย มนุษย์เป็นที่รวมของทุกสิ่งอย่างทั้งดีเลว ซึ่งมักทรนงว่าตนมีบุญบารมีที่ได้เกิดมา ต่างอวดศักดากันตลอดลมหายใจ หลานเอ๋ย จำคำปู่ไว้ ชัยชนะใดยิ่งใหญ่ไม่มี กว่าชนะใจตน สุขทุกข์ อยู่ที่ตน ความแน่นอน อยู่ที่ตน และสุดท้ายก็ไม่มีตน 555555 ปู่และหลานน้อยประสานเสียงหัวเราะแจ่มใส
จากคุณ :
SAYPHON
- [
10 เม.ย. 52 20:16:00
]
|
|
|
|
|