Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    ใต้เงาแห่งปีกสีดำ บทที่ 6 นิมิตที่ลืมเลือน

    บทที่ 1-3
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7650410/W7650410.html

    บทที่ 4
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7674974/W7674974.html

    บทที่ 5
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W7710179/W7710179.html


    บทที่ 6
    นิมิตที่ลืมเลือน

    “มานั่งซึมอะไรตรงนี้ล่ะ”

    เด็กชายตัวเล็กที่ไม่รู้ว่ามายืนอยู่ตรงหน้าตั้งแต่เมื่อไหร่เอ่ยถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง นัยน์ตาสีอำพันใสบริสุทธิ์มองมาด้วยความซื่อตรงอย่างหาได้ยากนักจากคนที่เคยพบพานมาก่อน

    ‘ทำไมกันนะ...รู้สึกว่าระดับสายตาของเราถึงได้ดูต่ำกว่าเด็กคนนี้ แล้วทำไมมือของเราถึงได้ดูเล็กราวกับเด็กตัวน้อยแบบนี้ล่ะ’

    “เสียใจที่พี่ข้าจะพาเจ้าไปฝากเอาไว้กับมนุษย์งั้นหรือ” เด็กชายตรงหน้ายังคงเอ่ยต่อ “มันช่วยไม่ได้นี่นาในเมื่อเจ้าเองก็เป็นมนุษย์ พี่ข้าคงไตร่ตรองดีแล้วว่าให้เจ้าได้ถูกเลี้ยงดูโดยพวกมนุษย์จะดีกว่าปีศาจอย่างพวกเรา ที่สำคัญผู้หญิงคนนั้นเองก็เป็นคนดีนะ ก็เป็นถึงคนที่พี่ข้ารักเลยนี่นา”

    “ไม่นะ! ข้าไม่อยากไป ข้าอยากอยู่ที่นี่” เสียงเด็กหญิงตัวน้อย ๆ ร้องให้อย่างกระจองอแง “ข้าไม่อยากไปจากท่านผู้นั้น”

    ข้า...ไม่อยากจากใครไปอย่างนั้นหรือ?

    “เอาเถอะน่า อีกไม่นานพี่ข้าก็คงจะแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นแล้ว เจ้าก็คงจะได้กลับมาอยู่กับพวกเราอีกครั้งเองนั่นแหละ” เด็กชายตัวน้อยพยายามปลอบก่อนที่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์จะปรากฏบนใบหน้า “แต่ว่า...พอถึงตอนนั้นพี่ข้าคงไม่มีเวลามาดูแลเด็กขี้อ้อนอย่างเจ้าหรอกนะ แต่ข้าน่ะ...ยังว่างเสมอ ข้าจะยอมเสียสละเวลามาคอยดูแลเจ้าให้เอง ถ้าเจ้าเหงาหรือร้องไห้เมื่อไหร่มาซุกอกข้าแทนท่านพี่ก็ได้นะ”

    “ซามูเอลคนบ้า! ข้าไม่ซุกอกเจ้าแน่”

    มือน้อย ๆ ของเด็กหญิงพยายามทุบตีเด็กชายตรงหน้า แต่เจ้าเด็กแก่แดดก็ยังคงหัวเราะร่วนด้วยเสียงที่สดใสดังกังวานพลอยทำให้เด็กหญิงหัวเราะไปด้วย

    ทว่าเสียงหัวเราะของทั้งสองพลันต้องหยุดชะงักลง  

    เมื่อกลางอกของเด็กชายปรากฏว่ามีหัวลูกศรโผล่ทะลุออกมาพร้อมกับเลือดที่ไหลทะลัก เด็กหญิงผงะถอยหลังพลางกรีดร้องอย่างตกใจในขณะที่เด็กชายเริ่มกรีดร้องอย่างโหยหวนด้วยความเจ็บปวด เมื่อเปลวไฟจากลูกศรลุกลามแผดเผาร่างกายของตน แล้วร่างของใครคนหนึ่งก็พลันถลันเข้ามาเพื่อที่จะพยายามดับไฟแม้จะรู้ดีว่าเปลวไฟสีน้ำเงินเข้มอันเกิดจากอาคมแห่งเวทนั้นจะไม่มีวันดับ หากยังไม่อาจแผดเผาเป้าหมายให้กลายเป็นจุลได้

    ร่างในชุดสีดำทมิฬที่เด็กหญิงไม่อาจรู้ได้ว่าเป็นใครเนื่องจากน้ำตาที่เอ่อคลอเบ้าทำให้ทรรศนะในการมองเห็นเลือนรางนั้นกำลังโอบกอดร่างน้อยที่ยังคงดิ้นทุรนทุรายในอ้อมแขนโดยไม่สนว่าเปลวไฟนั้นจะแผดเผามือและแขนของตนด้วยเช่นกัน เขาโอบกอดจนร่างนั้นแน่นิ่งและกลายเป็นเถ้าธุลีไปภายในอ้อมแขนก่อนจะกำเถ้ากระดูกขึ้นมาซบกับใบหน้าตนนิ่งอย่างนั้นอยู่เนิ่นนาน เด็กหญิงรู้สึกสะท้านในอกด้วยความรู้สึกกลัว เศร้า เสียใจปะปนกัน ยิ่งเห็นความเจ็บปวดของคนตรงหน้าที่มีมากเท่าไร ยิ่งเจ็บลึกเข้าไปในใจตนเท่านั้น

    อยากจะเข้าไปโอบกอดปลอบใจ...แต่ท่านคงจะโกรธเกลียดข้าแล้ว

    เพราะข้า...ซามูเอลถึงต้องตาย

    พลันเด็กหญิงตัวน้อยก็สะดุ้งเฮือก เมื่อเห็นนัยน์ตาสีอำพันที่เคยอบอุ่นอ่อนโยนกลับจ้องมองมาทางตนด้วยแววตาที่เกรี้ยวกราดดุร้ายราวปีศาจก็ไม่ปาน มันแสดงถึงความโกรธเกลียดชิงชังอย่างถึงที่สุด

    “พวกแกต้องตาย! ”

    เด็กหญิงก้าวถอยหลังอย่างหวาดกลัว นัยน์ตาสีเขียวคู่เล็กเบิกกว้างก่อนจะกรีดร้องสุดเสียงเมื่อเห็นดาบที่ถูกเงื้อขึ้นกำลังจะฟาดฟันลงมาที่ตน

    “ไม่!! ”

    เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นตามใบหน้าขาวในขณะที่ทั้งร่างยังรู้สึกเกร็งจนสั่นสะท้านกับความฝันเมื่อครู่ ครั้น
    กวาดมองไปรอบ ๆ ก็พบว่าตนยังอยู่ในห้องที่ได้ล้มตัวลงนอนเมื่อคืน มือเรียวยกขึ้นปาดเหงื่อออกในขณะที่ค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง

    ‘ฝันร้ายหรอกเหรอ…’

    พลันหญิงสาวก็ต้องแปลกใจ เมื่อรู้สึกได้ถึงน้ำอุ่น ๆ ที่ไหลรินลงอาบแก้ม

    ‘อีกแล้ว...ที่ข้าหลั่งน้ำตาให้กับความฝันที่ไม่เคยจดจำได้ ทั้งที่ไม่ได้เป็นแบบนี้มานานแล้วแท้ ๆ ’

    ความฝันที่แค่ตื่นก็ลืมเลือน เหลือไว้เพียงคราบน้ำตาและความเจ็บปวดที่บาดลึกอยู่ในใจ…

    มันคืออะไรกันนะความรู้สึกแบบนี้...

    */*/*/*/*

    “ดูเหมือนจะแค่เป็นไข้เท่านั้นเองล่ะนะ”

    “จะไม่เป็นอะไรมากงั้นหรือ เมื่อวานก็เห็นว่าเป็นลมด้วยนี่นา”

    “ถ้าอย่างนั้นข้าจะไปตามนายท่านมาดูอาการให้ดีไหม”

    “อืม...ข้าว่าอย่างนั้นก็ดีนะ”

    “ไม่ต้อง! ข้าไม่ได้เป็นอะไรมากสักหน่อย” หญิงสาวเจ้าของเรือนผมสีแดงเอ่ยขึ้นในที่สุดหลังจากที่นอนฟังสองนางที่ยืนอยู่ข้างเตียงพูดกันอยู่นานเรื่องอาการป่วยของตน และดูเหมือนเรื่องนั้นกำลังจะชักพาคนที่ไม่อยากเห็นหน้าให้มาหาเสียด้วย

    “แต่ว่า...ให้ซาการ์ทดูอาการให้สักหน่อยไม่ดีกว่าหรือ “ เลอาเอ่ยด้วยความเป็นห่วง

    “อย่าดีกว่า! ข้าไม่อยากรบกวนเจ้านั่นขนาดนั้น”

    “ถึงไม่อยากรบกวนแต่เจ้าก็ได้รบกวนไปเรียบร้อยแล้วนี่ จำไม่ได้รึไงว่าเมื่อวานต้องให้ใครอุ้มเจ้าที่ไปทะเล่อทะล่าไปเป็นลมอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้มาส่งที่ห้องนี้น่ะ” นางปีศาจเฒ่าเอ่ยขึ้นมาบ้างด้วยความหมั่นไส้

    “เรื่องนั้นมันช่วยไม่ได้ เจ้านั่นอยากทำเอง ข้าไม่ได้ขอร้องสักหน่อย”

    “งั้นก็ดี ข้าจะได้ไม่ต้องเสียเวลา” ปีศาจหนุ่มเอ่ยเสียงเรียบขณะที่วางถ้วยยาอุ่น ๆ ลงบนโต๊ะกลมกลางห้องโดยไม่มีใครได้ทันสังเกตว่าเขาเข้ามาตั้งแต่เมื่อไร ทำให้รีอารู้สึกละอายนิด ๆ ทั้งที่เขาอุตส่าห์ช่วยแต่เธอกลับพูดออกไปอย่างนั้นให้ได้ยิน

    พลันหญิงสาวเจ้าของเรือนผมสีแดงก็ต้องสะดุ้งเฮือกน้อย ๆ เมื่อนัยน์ตาสีอำพันมองตรงมาที่เธอก่อนอาการนั้นจะกลายเป็นสั่นระริกจนแทบจะเต้นผางเมื่อได้ยินประโยคถัดมา

    “ผู้หญิงอึดถึกอย่างเจ้าแค่กินยาสักสองสามถ้วยก็น่าจะหายดีแล้ว”

    ‘อึดถึก!! ’

    ใบหน้าของรีอาแดงก่ำด้วยความโกรธ แต่ดูเหมือนว่าความร้อนจากพิษไข้จะทำให้เธอนึกหาคำอะไรมาตอบโต้ไม่ได้เลย ทำได้แค่นั่งขบเขี้ยวเคี้ยวฟันต่อไปเท่านั่น

    ซาการ์ทส่งสายตาเป็นเชิงสั่งให้ราเซียมายกถ้วยยาไป นางปีศาจเฒ่าจึงประคองถ้วยที่มีน้ำสีเขียวคล้ำอุ่น ๆ ไปยื่นให้หญิงสาวที่นั่งอยู่บนเตียง “เอ้า! ดื่มเสียยายหนูจะได้หายไว ๆ ”

    “ข้าไม่ดื่ม!”  รีอาพูดพลางสะบัดหน้าหนีอย่างไม่ไยดี

    เจ้าของร่างสูงผ่อนลมหายใจแล้วเดินเข้าไปแย่งถ้วยยาจากราเซียมาถือไว้เองก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ

    “อย่าได้ลำพองใจไปว่าข้าจะทำสิ่งใดเพื่อเจ้า ที่นี่มีทั้งคนป่วยและคนชรา หากเจ้ายังเป็นเช่นนี้ต่อไป มันจะทำให้คนอื่นพลอยลำบากไปด้วย”

    หญิงสาวเจ้าของเรือนผมสีแดงยังนั่งนิ่งแม้ในใจจะคิดและเห็นจริงตามที่ชายหนุ่มพูด

    “เจ้าคิดว่าจะดื่มมันเองหรือว่าจะให้ข้าช่วยกรอกให้ดีล่ะ” สิ้นคำพูดของซาการ์ทถ้วยยาอุ่น ๆ ก็ถูกยื่นให้รีอา เธอกลอกตามองมันนิดหนึ่งก่อนจะรับมันเอาไว้อย่างไม่เต็มใจนัก

    หลังจากที่มองดูคนหัวดื้อยอมดื่มยาในถ้วยด้วยท่าทีอิดออด ซาการ์ทก็หมุนกายเดินจากไปโดยไม่ได้สนใจอีกว่ารีอาจะดื่มยานั่นจนหมดหรือไม่ แต่ก่อนที่ร่างสูงนั้นจะเดินผ่านพ้นประตูออกไปเขาเอ่ยประโยคหนึ่งกับเลอา “เจ้าเองก็อย่ารั้งอยู่นานนักล่ะ”

    “ค่ะ แล้วข้าจะรีบตามไป” เลอายิ้มตอบในขณะที่รีอามองตามไหล่กว้างนั้นไปอย่างหมั่นไส้
    ‘ที่จริงคงอยากจะรีบ ๆ ไล่ข้าออกไปสินะ แต่เสียใจด้วย...ตราบเท่าที่ท่านเลอายังอยู่ที่นี่ ข้าก็จะไม่ไปไหนเหมือนกัน’

    “เป็นอย่างไรบ้างล่ะ แม่เด็กดื้อ” เลอาถามหลังจากที่รับถ้วยยาว่างเปล่าคืนจากเด็กที่เคยเกลียดการกินยาที่สุดคนหนึ่งซึ่งนางเลี้ยงมาแต่เยาว์วัย

    “อา...ยาลดไข้ของพวกปีศาจนี่มีรสหวานผิดกับของมนุษย์เลยนะคะ”

    “ไม่หรอก...นั่นเป็นเพราะเจ้าเกลียดยารสขมมิใช่รึ”

    “ท่านพูดอย่างกับเจ้านั่นจะรู้และจะมาเอาใจใส่ข้าอย่างนั้นแหละ” รีอาเปรยอย่างฉงนในขณะที่เลอาได้แต่นึกสังเวชในใจ แต่แล้วนางปีศาจเฒ่าราเซียก็ตัดบทสนทนาของทั้งคู่เสียก่อน

    “เอาเถอะ! กินยาเสร็จแล้วก็นอนซะจะได้รีบ ๆ หาย ส่วนนายหญิง ข้าเกรงว่าท่านอาจจะลืม วันนี้ควรได้เวลาตรวจสุขภาพแล้วนะคะ รีบไปเถอะนายท่านข้าจะรอนาน”

    “จริงสิ! มัวแต่พะวงกับแม่เด็กดื้อคนนี้จนลืมไปเสียได้”

    “ตรวจสุขภาพให้ท่านเลอา! เจ้านั่นน่ะเหรอ?”

    “ก็ใช่น่ะสิ เพราะนางร่างกายอ่อนแอจนจำเป็นต้องมีแพทย์คอยดูแลใกล้ชิด แต่เพราะสถานะที่เสี่ยงต่อการถูกตามล่าอย่างที่เป็นอยู่จะไปให้หมอที่เป็นมนุษย์คอยดูแลก็ไม่ได้ จะให้พานางย้ายไปย้ายมาบ่อย ๆ ก็ไม่ดีต่อร่างกาย หลายปีมานี่ท่านซาการ์ทจึงได้ไปศึกษาวิชาแพทย์ของมนุษย์และค้นคว้าตำรับยาเพื่อนางโดยเฉพาะจนตอนนี้ก็นับว่าเป็นหมอที่มีฝีมือพอดูเชียวล่ะ” นางปีศาจอธิบายยาวเหยียดพลางจัดแจงพาเลอากลับห้องไปด้วยปล่อยให้รีอานอนพักผ่อนไปเพียงผู้เดียว

    ‘แปลว่าท่านเลอาอยู่ที่นี่มาโดยตลอดสินะ ถ้าข้ามาที่นี่ตั้งแต่แรกก็คงได้พบนางไปนานแล้ว งั้นที่ข้าเห็นเจ้านั่นไปตามที่ต่าง ๆ ก็เป็นตอนที่เขาไปศึกษาวิชาแพทย์อย่างนั้นหรือ ยอมลงทุนทำถึงขนาดนั้นเพื่อท่านเลอา...แล้วที่ข้าพยายามทำมาตลอดล่ะมันจะมีความหมายอันใดต่อนางบ้างนะ’

    นัยน์ตาสีเขียวของรีอาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเลื่อนลอยพลางคิดว่ามันเป็นเพราะพิษไข้หรือไรที่ทำให้ตนเองรู้สึกสับสน

    บางทีหากหลับตาลงอีกสักพักอาจทำให้สมองปลอดโปร่งขึ้งบ้าง

    เพียงแต่อย่าได้ฝันถึงความเศร้าที่ไม่เคยจดจำได้ดังเช่นที่เคยเป็นอีกเลย..

    */*/*/*/*

    จากคุณ : จันทราสีน้ำเงิน - [ 10 เม.ย. 52 22:42:24 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com