เรื่องสั้น
ความคิดคำนึง
เพทาย
ภาพถ่ายของเธอที่เขาเห็นเมื่อกี้นี้ ไม่ได้ผิดเพี้ยนไปจากภาพที่อยู่ในกระเป๋าสตางค์ของเขาแม้แต่น้อย คิ้วอย่างนั้น ตาอย่างนั้น จมูกอย่างนั้น ปากที่ยิ้มหวานอย่างนั้น ไม่ได้ต่างกันเลย
เธอเป็นลูกพี่ลูกน้องของเพื่อนที่สนิทที่สุดของเขา
เธอเป็นลูกสาวของป้าที่เขาอาศัยกินข้าวเช้าเย็นอยู่ทุกวัน โดยช่วยค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อย
เธอเป็นคนสวยกว่าหญิงสาวในวัยเดียวกันอีกหลายคนในซอยที่เขาอยู่
แต่เธอเป็นหญิงสาวสวยที่สุดสำหรับเขา
......................................เพราะเขารักเธอ
รักมาตั้งแต่เขายังเรียนชั้นมัธยม
และเธออยู่ชั้นประถม
ชีวิตของเธอมีอะไรเหมือนเขาอยู่หลายอย่าง
เธอเรียนหนังสือแค่จบประถมปลาย
เขาก็เรียนไม่จบชั้นมัธยมปลาย
เธอเรียนช่างตัดเสื้อและเสริมสวยที่ร้านมีชื่อเสียงแถวเฉลิมกรุง
เขาไปเรียนกวดวิชาหรือที่สมัยนี้เรียกว่าการศึกษานอกโรงเรียนที่วัดสุทัศน์
เขาไปรอรับเธอทุกเย็น เพื่อกลับบ้านมากินข้าวพร้อมกัน
..................................เพราะเขารักเธอ
และชีวิตของเธอก็ไม่เหมือนชีวิตของเขาอยู่หลายอย่าง
เธอเรียนจบหลักสูตรของสถาบันตัดเสื้อเสริมสวยนั้น
เขาเรียนไปเรื่อยไม่จบหลักสูตรมัธยมปลายสักที
เมื่อเขาไม่ต้องไปคอยรับเธอ เขาก็ได้งานทำ เป็นกรรมกรใช้แรงงาน
ส่วนเธอไปเป็นลูกจ้างร้านตัดเสื้อ คนละทิศกับที่เขาทำงาน
เขายังพยายามที่จะไปรับเธอ
แต่เมื่องานของเขาเลิกเย็น ร้านที่เธอทำงานยังไม่เลิก
เมื่อร้านที่เธอทำงานเลิกเขาก็เมาอยู่ในตลาดแถวนั้นเสียแล้ว
เขากินเหล้าทุกครั้งที่ไม่พบหน้าเธอ
เมื่อไม่ได้กินข้าวพร้อมกับเธอ จึงไม่มีเวลาพบปะพูดคุยกับเธอ
แต่เธอก็ยังทักทายและยิ้มให้เขา ด้วยใบหน้าอ่อนหวานที่ติดตาเขาไปจนยามหลับ
เหมือนในภาพนั้น
แม้เธอจะคอยห้ามไม่ให้เขากินเหล้า เขาก็ไม่เคยโกรธ
.................................เพราะเขารักเธอ
เขาพยายามที่จะสร้างความสัมพันธ์ให้ใกล้ชิดกับเธอมากขึ้น
เพื่อจะได้บอกเธอถึงความรักในใจของเขา
เขาเพียรพยายามอยู่เป็นแรมปี
แล้วเขาก็ได้รับรู้ด้วยความเจ็บปวดว่า
...................................เธอไม่ได้รัก
เขา
เพราะเธอส่งบัตรเชิญแต่งงาน ระหว่างเธอกับชายคนหนึ่งที่เขาไม่เคยเห็นหน้า
เขากินเหล้ามากขึ้นจนกลายเป็นไอ้ขี้เมาหยำเป
และไม่ได้พบหน้าเธออีกเลย เพราะเธอไปอยู่บ้านของสามีที่เป็นเสมียนธนาคาร
แต่เขาก็ติดตามข่าวของเธอกับสามีโดยไม่โกรธแค้น
เขาทราบว่าเธอมีลูกชายคนเดียว
สามีก็มีความก้าวหน้าในชีวิตการงาน เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นในธนาคารของเขา
จนเป็นถึงผู้จัดการสาขาแห่งหนึ่ง
เขาพลอยยินดีด้วย กับข่าวดีของเธอทุกครั้ง แม้เธอจะไม่มีโอกาสได้รู้เลยก็ตาม
................................เพราะเขายังรักเธอไม่เสื่อมคลาย
แม้ภาพถ่ายของเธอที่อยู่ในกระเป๋าสตางค์ของเขา จะเก่าคร่ำคร่าลง
ไม่สวยงามเหมือนภาพที่เขาเห็นเมื่อตอนเข้ามา
เขาคงเก็บความรู้สึกดีดีที่มีต่อเธอไว้อย่างทะนุถนอม
ตลอดเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา
เขายังคงมีชีวิตที่โดดเดี่ยวเดียวดาย
แม้ว่าเขาจะพบผู้หญิงที่ถูกใจอีกหลายคน
แต่ไม่มีคนใดรักเขาเลย
เสียงกริ่งดังกังวานขึ้น...................
เขาจึงสะดุ้งตื่นจากความคิดคำนึง
และลุกขึ้นเดินตามผู้คนชายหญิงที่เดินไปข้างหน้า
................................................................
เขาถอดแว่นตาสีดำเข้มที่สวมใส่มาตั้งแต่หนุ่มออก
เมื่อขึ้นบันไดเมรุไปยืนตรงหน้าหีบลายทองสวยงาม
ใช้สายตาข้างขวาที่ยังดีอยู่เพ่งมองภาพของหญิงสาวที่ตั้งอยู่เคียงข้าง
เธอยังคงยิ้มอย่างอ่อนหวาน ที่ติดตาตรึงใจเขามาชั่วชีวิต
เขาจำได้ ภาพขนาดสามนิ้วที่อยู่ในกระเป๋าของเขา มีลายมือระดับเด็ก ป.๔ ว่า
ฝากไว้ให้ดูยามคิดถึง
แต่ใต้ภาพขนาด ๒๔ นิ้วตรงหน้า มีหนังสือเขียนไว้ด้านล่างว่า
.................ชาตะ ๑ กันยายน ๒๔๗๕....................
.................มรณะ ๑ กันยายน ๒๕๔๗....................
#############
จากคุณ :
เจียวต้าย
- [
12 เม.ย. 52 07:38:15
]