เพล้ง!!!
หัวข้อข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์หัวสียักษ์ใหญ่ของประเทศ ทำเอาหญิงสาวที่กำลังนั่งละเลียดอาหารเช้าพลางอ่านหนังสือพิมพ์ไปด้วยถึงกับทำถ้วยกาแฟหลุดจากมือ
...เจ้าของโรงงานเสื้อสำเร็จรูปรถคว่ำดับอนาถ...
ลำพังพาดหัวข่าวแค่นั้นคงจะไม่ทำให้นทีจันทร์รู้สึกอะไรนักหนา หากว่าภาพประกอบข่าวทางด้านล่างจะไม่มีภาพหน้าตรงเล็กๆ ของผู้ประสบเหตุพร้อมคำบรรยายบอกชื่อ-สกุลชัดเจน
นายภุชงค์-นางรัชนี วิริยธำรงค์ คือชื่อที่เธอจำได้ขึ้นใจในฐานะบิดา-มารดาของเพื่อนสนิท และสองสามีภรรยาที่ทำให้พี่ชายเธอหัวใจสลายจนต้องหลบมาทำไร่อยู่กลางป่าเขาลำเนาไพรเช่นนี้
เป็นอะไรน้ำ อ่านข่าวแค่นี้ถึงกับทำถ้วยกาแฟหล่น ไหนเอามาดูหน่อยซิข่าวอะไร? หนึ่งรพีเอ่ยถามน้องสาว พร้อมกับยื่นไปตรงหน้าเพื่อดึงหนังสือพิมพ์จากมือน้องสาวมาอ่านดู ในขณะที่นทีจันทร์ได้สติ...รีบตะครุบเอาหนังสือพิมพ์ในมือพี่ชายกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว
ไม่มีอะไรหรอกพี่หนึ่ง สงสัยจะนอนน้อยไปหน่อยเลยเผลอทำหล่น เกดช่วยเก็บทีนะไม่กงไม่กินมันละ ท้ายประโยคหันไปสั่งเด็กรับใช้ที่รีบเข้ามาดูเหตุการณ์หลังจากได้ยินเสียงถ้วยกาแฟกระทบพื้น จากนั้นหญิงสาวก็ลุกจากที่พลางทำท่าจะเดินจากไปพร้อมหนังสือพิมพ์ในมือ
แล้วนั่นจะไปไหนน่ะ ชายหนุ่มเอ่ยถาม สายตาจับจ้องไปยังหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นเป็นเชิงเตือน
ไปอ่านหนังสือพิมพ์ต่อค่ะ ฉบับนี้น้ำยืมก่อนนะพี่หนึ่ง ไม่ได้อ่านวันนึงคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง นทีจันทร์ลื่นไหลไปได้หน้าตาเฉยทิ้งให้ผู้เป็นพี่ชายนั่งหน้านิ่วอยู่ที่โต๊ะอาหาร
เป็นพี่น้องกันมานานทำไมหนึ่งรพีจะไม่รู้ ...มันต้องมีเรื่องอะไรสักอย่างที่ผู้เป็นน้องสาวต้องการจะปิดบังจากเขา และเรื่องนั้นมันอยู่ในหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นนั่นแหละ...
เกดเก็บโต๊ะเสร็จแล้วไปเรียกเจ้าเก่งมาหน่อยนะ ฉันมีเรื่องจะใช้
...ก็ให้มันรู้ไปสิว่าแม่น้องสาวตัวแสบจะปิดบังอะไรเขาได้...
~~~~~~~~~
เกือบเที่ยงแล้ว...เมื่อหนึ่งรพีวางหนังสือพิมพ์ที่เพิ่งรับมาจากเด็กชายลูกแม่บ้านลงบนโต๊ะ พาดหัวข่าวใหญ่นั้นแม้จะไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขาโดยตรงแต่ก็อดรู้สึกใจหายระคนเป็นห่วงไม่ได้ เมื่อบุคคลในภาพข่าวคือบิดา-มารดาของอดีตคนรักที่คบกันมานานเกือบสี่ปี
ภาพหญิงสาวรูปร่างบางระหง เจ้าของใบหน้ารูปไข่อันประกอบไปด้วยดวงตากลมโตสีดำสนิทล้อมกรอบด้วยขนตาเป็นแพหนา จมูกรั้นนิดๆ บอกถึงอุปนิสัยเอาแต่ใจของเจ้าตัว และริมฝีปากบางสวยยังคงกระจ่างชัดอยู่ในความทรงจำ
เพราะบิดามารดาของเสียชีวิตไปตั้งแต่ตอนที่เขายังเรียนมัธยมปลาย หนึ่งรพีจึงต้องรับหน้าที่ผู้ปกครองของนทีจันทร์แทนบุพการีไปโดยปริยาย
เขาพบขวัญเกล้าครั้งแรกตอนไปรับน้องสาวกลับบ้านในเย็นวันหนึ่ง จึงมีโอกาสได้ทำความรู้จักกับหญิงสาวซึ่งพักอยู่ห้องเดียวกัน นอกจากจะเป็นรูมเมทกันแล้วขวัญเกล้ายังเป็นเพื่อนร่วมคณะกับนทีจันทร์อีกด้วย สองสาวสนิทกันอย่างรวดเร็วเพราะต่างฝ่ายต่างถูกอัธยาศัยซึ่งกันและกัน
ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาเริ่มต้นแบบง่ายๆ ด้วยการที่เขามักจะแวะไปหาน้องสาวที่หอพักหลังกิจกรรมห้องเชียร์ เอาขนมหรือผลไม้ไปให้สองสาวรองท้องตอนก่อนนอน จนถึงช่วงก่อนสอบกลางภาคเขาก็รับหน้าที่เป็นติวเตอร์วิชาคณิตศาสตร์ให้ทั้งกับคู่ โดยนทีจันทร์ชวนให้เพื่อนสาวมานอนค้างที่บ้าน
จากพี่ชายของเพื่อนกับเพื่อนน้องสาว เขาและเธอก็เปลี่ยนมาเป็นคู่รักกันเมื่อจบภาคการศึกษาแรกนั้นเอง เขามารู้ทีหลังว่าเธอเป็นลูกสาวคนเดียวของเจ้าของโรงงานเสื้อผ้าสำเร็จรูป แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญสำหรับเขา ชายหนุ่มไม่คิดว่าอะไรจะสำคัญไปกว่าการที่เขาและเธอรักกันไปได้
หลังเรียนจบเขาตัดสินใจรับงานในตำแหน่งนักวิจัยที่คณะ เพราะอยากจะใช้ชีวิตอยู่ในมหาวิทยาลัยใกล้ๆ เธอ ในตอนนั้นเค้าลางแห่งปัญหาเริ่มปรากฏ เพราะบิดามารดาของหญิงสาวดูจะไม่ชอบใจนักที่ลูกสาวคบหาอยู่กับเขาซึ่งฐานะดูจะด้อยกว่า
แน่นอนว่าขวัญเกล้าถูกสั่งห้ามไม่ให้มาพบเขา แต่เธอไม่คิดจะใส่ใจกับคำสั่งของคุณภุชงค์และคุณรัชนี สองสามี-ภรรยาจึงมาหาเขาที่บ้าน
เขาโกรธ...กับกริยาและท่าทีดูหมิ่นดูแคลนของสองสามีภรรยา แต่ก็มั่นใจว่าตัวเขาจะสามารถดูแลขวัญเกล้าได้ดีไม่น้อยหน้าใคร และเพราะเขารักเธอจึงพยายามอดทนต่อการกระทำของทั้งคู่อย่างสุดความสามารถ เขาคิดว่าเวลาอาจจะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้น เขาจะพิสูจน์ความจริงใจของเขาให้ท่านทั้งสองเห็น
แต่แล้ววันหนึ่ง...คุณภุชงค์ก็มาหาเขาตามลำพังพร้อมกับเช็คเงินสดจำนวนห้าแสนบาทเพื่อแลกกับการที่เขาจะต้องไปจากชีวิตขวัญเกล้า
...'ฉันให้...ถือเป็นค่าตัวที่เธอคอยดูแลลูกสาวฉันอยู่หลายปี แต่ต่อไปนี้คงไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว เกล้าจะกลับลำพูนทันทีที่เรียนจบ ฉันหวังว่าเธอคงจะไม่พยายามติดต่อลูกสาวฉันอีก ยังมีผู้ชายดีๆ มั่นคงทั้งฐานะและหน้าที่การงานอีกหลายคนที่เต็มใจจะดูแลลูกสาวฉันให้มีความสุข แต่ต้องไม่ใช่เธอที่มีแต่สองมือเปล่ากับปริญญากระจอกๆ แค่ใบเดียว'...
หนึ่งรพีรู้สึกโมโหจนเลือดขึ้นหน้ากับคำพูดนั้น ชายหนุ่มต่อว่าบุพการีของเธอไปด้วยคำพูดเผ็ดร้อนอยู่หลายคำ ก่อนจะฉีกเช็คตรงหน้าออกเป็นชิ้นๆ
คนคิดอะไรต่ำๆ ก็มักจะคิดว่าคนอื่นก็จะคิดแบบเดียวกัน แต่ขอโทษเถอะนะครับ...คุณอาจจะคิดว่าเงินซื้อได้ทุกอย่าง แต่ไม่ใช่กับผม
หลังจากวันนั้นเขาก็โทรศัพท์ไปบอกเลิกหญิงสาว แม้นทีจันทร์จะทัดทานให้เขาคิดดูให้ดีอีกครั้ง แต่ทิฐิมานะที่มีก็ทำให้เขายึดมั่นอยู่กับการตัดสินใจของตัวเอง และเมื่อขวัญเกล้าตามเขามาถึงบ้านสวนที่เขาคิดจะใช้เป็นที่ลงหลักปักฐานกับเธอในตอนแรก เขาก็ตัดรอนเธอด้วยถ้อยคำรุนแรงที่แม้แต่ตัวเขาเองยังรู้สึกเกลียดตัวเองไม่หาย...
...นานเท่าใดแล้วนะที่เขาไม่ได้พบเธอ?...ชายหนุ่มถามตัวเองเป็นคำถามแรก ก่อนที่คำถามถัดไปจะตามมาเป็นลูกโซ่
...ความสูญเสียที่เกิดขึ้นจะส่งผลอะไรต่อเธอบ้าง?...จะมีใครคอยอยู่เคียงข้างเธอไหม?...ผู้หญิงตัวคนเดียวจะดูแลตัวเองได้หรือเปล่า?...
เสียงเคาะประตูห้องทำงานเรียกชายหนุ่มให้รู้สึกตัวจากความคิดคำนึง
นทีจันทร์โผล่เข้ามาเฉพาะศรีษะก่อนจะเปิดประตูพาตัวเองเข้ามายืนหน้าโต๊ะทำงานพี่ชาย หญิงสาวขมวดคิ้วมองหนังสือพิมพ์บนโต๊ะอย่างไม่สบายใจนัก
พี่หนึ่งรู้แล้ว?
ชายหนุ่มพยักหน้าแทนคำตอบ นทีจันทร์ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตรงข้ามกับพี่ชาย หญิงสาวมองคนตรงหน้าอย่างประเมินก่อนจะเอ่ยปากตามที่คิดไว้
น้ำจะไปหาเกล้านะพี่หนึ่ง
...ถึงอย่างไรขวัญเกล้าก็ยังคงเป็นเพื่อนรัก จะให้เธออยู่เฉยคงจะไม่ได้...
หนึ่งรพีนิ่งไปชั่วขณะคล้ายกำลังตรึกตรองอะไรบางอย่าง ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยประโยคที่ทำเอาคนฟังแทบจะอุทานออกมาด้วยความคาดไม่ถึง
เดี๋ยวพี่จะไปส่ง
จากคุณ :
ธาร นาวา
- [
วันเถลิงศก (15) 09:11:47
]